บทที่ 423
สยบ 2
“ไม่มีทางเด็ดขาด! ในเมื่อข้าคารวะเจ้าเป็นนายแล้ว ย่อมจงรักภักดีต่อเจ้า” เจ้าหอยยักษ์ให้คำสัตย์น่าเชื่อถือ
แต่เห็นได้ชัดว่ากู้ซีจิ่วมิหลงกลง่ายๆ “อาศัยเพียงวาจาไร้สิ่งอ้างอิง”
ปลายดาบเธอกรีดลงไปบนฝาหอยเบาๆ “เจ้าปลิ้นปล้อนเช่นนี้ ข้าไม่ไว้ใจ ข้าคิดว่าเอาเจ้าไปตุ๋นเสียยังจะคุ้มค่ากว่า”
“ข้าจะทำพันธะโลหิตกับเจ้า!” เจ้าหอยตัวนั้นร้อนรนแล้ว กล่าวไม้ตายออกมาด้วยความอับจนหนทาง
กู้ซีจิ่วทราบเรื่องพันธะโลหิต สัตว์วิญญาณจะนำโลหิตจากหัวใจ มาสร้างเป็นพันธสัญญายอมรับมนุษย์เป็นเจ้านาย ผูกชีวิตของตนไว้กับเจ้านาย
เจ้านายมอดสัตว์วิญญาณม้วย เจ้านายบาดเจ็บสัตว์วิญญาณก็บาดเจ็บด้วย แต่หากสัตว์วิญญาณได้รับบาดเจ็บตายตก เจ้านายก็แค่รับรู้ได้เท่านั้น…
พันธะโลหิตนี้ไม่ยุติธรรมต่อสัตว์วิญญาณอย่างยิ่ง เป็นความอัปยศอดสูของเผ่าพันธุ์ ดังนั้นถ้าสัตว์วิญญาณไม่เข้าตาจนจะไม่ทำพันธะสัญญานี้กับมนุษย์…
แน่นอน สัตว์วิญญาณส่วนใหญ่ล้วนอายุขัยยืนยาว มีชีวิตอยู่หลายพันปี แต่ชีวิตมนุษย์ปุถุชนกลับแสนสั้น ร้อยปีก็อยู่ไม่ถึง
ในกรณีเช่นนี้หากพันธะโลหิตยังคงอยู่ สำหรับสัตว์วิญญาณแล้วนับว่าเลวร้ายนัก
ด้วยเหตุนี้จึงมีกฎที่ค่อนข้างมีมนุษยธรรมว่า หากเจ้าของสัตว์วิญญาณตาย ขอเพียงในขณะที่กำลังจะตายเจ้านายยอมยกเลิกพันธะสัญญากับสัตว์วิญญาณ พันธะโลหิตก็จะถูกยกเลิก สัตว์วิญญาณจะมีอิสระอีกครั้ง
เงื่อนไขคือเจ้านายต้องชราจนสิ้นอายุขัย มิใช่การตายโดยอุบัติเหตุหรือฆาตรกรรม ดังนั้นเหล่าสัตว์วิญญาณที่ทำพันธะโลหิตกับเจ้านายจึงปกป้องผู้เป็นนายดุจแม่ไก่ปกป้องไข่ เมื่อเจ้านายเผชิญอันตรายพวกมันจะทุ่มเทสุดชีวิตเพื่อปกป้องกันและกัน…
เจ้าหอยยักษ์ตัวนี้ก็เป็นเพราะถูกบีบคั้นจนร้อนแล้วจริงๆ ถึงได้กล่าวเช่นนี้ออกมา มันรู้สึกว่าภาพลักษณ์สัตว์วิญญาณที่เย่อหยิ่งสูงส่งของมันพังหลายตกต่ำหมดแล้ว!
สาวน้อยที่อยู่เบื้องหน้ามีพลังวิญญาณเพียงขั้นห้าเท่านั้น เปราะบางยิ่งกว่าเปลือกไข่เสียอีก มันนำชีวิตตนไปผูกไว้กับนางก็ เหมือนเหยียบย่างอยู่ริมผา ร่ายรำบนปลายดาบ อันตรายอย่างยิ่ง
มันยังนึกว่าพอกล่าวเช่นนี้ออกไปแล้วกู้ซีจิ่วจะรีบร้อนตอบรับทันที คิดไม่ถึงว่าสาวน้อยกลับใคร่ครวญอยู่พักใหญ่ “สัตว์วิญญาณตัวแรกที่ข้าสยบได้คือหอย? หากจูงออกไปจะมิกลายเป็นที่น่าขบขันของผู้อื่นหรือ?”
เจ้าหอยยักษ์แทบกระอักเลือด!
ซือเฉินที่อยู่ด้านนั้นจึงเอ่ยโน้มน้าว “อาเซิง เจ้าหอยยักษ์ตัวนี้ก็ไม่เลวนะ เจ้ารับไว้ก็มีแต่ได้ไม่มีเสีย”
กู้ซีจิ่วมองร่างกายมโหฬารของหอยยักษ์ตัวนั้นด้วยสีหน้ายุ่งเหยิง “มันตัวใหญ่ขนาดนี้ ตามอยู่เบื้องหลังคงไม่สะดวก”
ภายภาคหน้าเดินไปตามห้องถนน ผู้อื่นจูงสัตว์ ทว่าเธอจูงหอย…
เจ้าหอยยักษ์นึกไม่ถึงว่าจะถูกคนรังเกียจถึงเพียงนี้ โทสะพวยพุ่งสามพันจั้ง มันไม่พูดไม่จาจู่ๆ รอบกายก็สาดแสงวาบ กู้ซีจิ่วตาพร่า เจ้าหอยยักษ์ที่อยู่ตรงนั้นมาตลอดหายไปแล้ว กลายเป็นบุรุษล่ำสันผู้หนึ่งแทน
ร่างกายกำยำด้วยมัดกล้าม ยืนผึ่งผายห้าวหาญอยู่ตรงนั้น แผ่กลิ่นอายชายชาตรีออกมา ที่สำคัญยิ่งกว่านั้นคือเขาเปลือยเปล่า! บนกายไม่มีอาภรณ์เลยสักชิ้น!
กู้ซีจิ่วเบิกตากว้างด้วยความประหลาดใจ เพียงแต่เธอยังไม่ทันได้มองรูปลักษณ์ทั้งหมดของบุรุษผู้นั้นให้ชัด จู่ๆ นัยน์ตาก็พร่าเลือน แถบแพรอ่อนนุ่มเส้นหนึ่งบดบังดวงตาเธอไว้ จากนั้นก็ได้ยินเสียงหอยยักษ์ตัวนั้นกรีดร้องอย่างเจ็บปวด ประหนึ่งแมวถูกเหยียบหาง…
เมื่อกู้ซีจิ่วแกะแถบแพรที่บดบังนัยน์ตาออก บุรุษกำยำผู้นั้นก็หายไปแล้ว…
หอยยักษ์ตัวนั้นคืนสู่ร่างเดิมแล้ว ฝาหอยสั่นสะท้านสุดกำลังอยู่ตรงนั้น “เจ้าๆ เจ้า…”
“ข้าทำไม?” ซือเฉินก้มมองมัน “อุจาดนัก! มองไม่ออกเลยว่าหอยเช่นเจ้าจะเกกมะเหรกเพียงนี้!”
เขากุมกระบี่สีนิลเล่มหนึ่งไว้ ปลายกระบี่ไกลไปบนฝาหอยเบาๆ
กระบี่เล่มนั้นของเขาเห็นได้ชัดว่าเป็นศาตราวุธวิเศษอันใดสักอย่าง เขาออกแรงกรีดเบาๆ ก็กรีดให้เกิดร่องลึกได้…