บทที่ 43
วันนี้ไม่ว่าอย่างไรก็ไม่ต้องการหรือ?
“แน่นอน!”
คุณชายน้อยผู้นั้นทำหน้าม่อยพลางถอนหายใจ “ได้ เช่นนั้นมันเป็นของข้าแล้ว”
หลังจากที่ตัวแทนการซื้อขายทำการเคาะประมูลแล้ว คุณชายน้อยผู้นั้นจึงล้วงตั๋วเงินปึกหนึ่งจากอกเสื้อส่งให้ ทั้งยังวางเงินอีกหนึ่งตำลึงไว้บนตั๋วเงินปึกนั้นด้วยท่าทางเป็นการเป็นงาน
ผู้คนมองเขาเหมือนมองเรื่องตลกอยู่ เห็นทีว่านอกจากเขาจะขโมยไก่ไม่ได้แล้วยังเสียข้าวสารไปอีกหนึ่งกำมือ[1] เสียเงิน 800,000 ตำลึงเพื่อซื้อสมุนไพรราคา 50,000 ตำลึงต้นหนึ่ง…
คุณชายน้อยถือกล่องแก้วผลึกที่บรรจุสมุนไพรต้นนั้นเอาไว้ มองแล้วก็ถอนหายใจออกมา มองอีกแล้วก็ถอนหายใจออกมาอีก
องค์ชายหรงฉู่เห็นเขาแสดงท่าทีว่าปวดใจก็รู้สึกเบิกบานเป็นพิเศษจึงจงใจเอ่ยถาม “สหายท่านนี้ในเมื่อได้รับสมุนไพรที่ต้องการแล้ว เหตุใดยังถอนหายใจอยู่อีกเล่า?” คุณชายน้อยผู้นั้นเงยหน้ามององค์ชายหรงฉู่ที่อยู่บนชั้นสอง ดูเหมือนยังไม่ล้มเลิกความตั้งใจ “องค์ชายสี่ ท่านไม่ต้องการสมุนไพรนี้แล้วจริงๆ หรือ?”
องค์ชายหรงฉู่ตอบอย่างรื่นรมย์ “ไม่ต้องการ!”
“วันนี้ไม่ว่าอย่างไรก็ไม่ต้องการหรือ?”
“ไม่ผิด วันนี้ไม่ว่าอย่างไรก็ไม่ต้องการแล้ว” องค์ชายหรงฉู่ตอบอย่างหนักแน่น “อย่างนั้น…ก็ได้” ในที่สุดคุณชายน้อยผู้นั้นก็ยอมล้มเลิกความตั้งใจ ค่อยๆ เปิดกล่องออก แล้วจ้องมองอย่าง ละเอียด จู่ๆ ก็ยิ้มออกมา “หญ้าวิเศษชั้นยอดอายุ 3,000 ปีต้นหนึ่ง ไม่คิดเลยว่าจะซื้อมาได้ในราคาแค่ 800,000 ตำลึง กำไรแล้ว!”
เมื่อกล่าวประโยคนี้ออกไป ฝูงชนล้วนตกตะลึงกันถ้วนหน้า!
ถ้วยชาที่องศ์ชายหรงฉู่กุมไว้พลันร่วงหล่นลงพื้ “อะไร หญ้าวิเศษนั้นหายาก ต้นที่มีอายุ 10 ปีจะมีราคาประมาณ 50,000 ตำลึง และที่ถูกนำมาประมูลบนเวทีอยู่บ่อยครั้งก็คือชนิดนี้
ส่วนชนิดที่เติบโตจนมีอายุถึง 3,000 ปีนั้น มีอยู่แค่ในตำนานเท่านั้น! กล่าวได้ว่ามีค่าควรเมือง อย่าว่าแต่ 800,000 ตำลึงเลย ต่อให้เป็นแปดล้านก็ยังไม่แน่ว่าจะซื้อได้!
เกิดเสียงฮือฮาไปทั่วทั้งห้องโถง
องค์ชายหรงฉู่อึ้งอยู่ครู่หนึ่ง จู่ๆ ก็หัวเราะด้วยน้ำเสียงเย็นเยียบ “โกหก! ข้าไม่เชื่อ! บนโลกนี้มีหญ้าวิเศษชั้นยอดอายุ 3,000 ปีเสียที่ไหน?! เห็นกันอยู่ชัดๆ ว่านี่คือหญ้าวิเศษที่มีอายุสิบปี!”
คุณชายน้อยเอ่ยอย่างสบายอกสบายใจ “ข้าน้อยก็ไม่ได้ขอร้องให้องค์ชายเชื่อเลยนี่นา”
แล้วก็นำกล่องที่บรรจุ สมุนไพรนั้นใส่เข้าไปในแขนเสื้ออย่างเชื่องช้า…
“น้องชาย ช้าก่อน! ให้ข้าดูหน่อยได้หรือไม่?” สตรีศักดิ์สิทธิ์แห่งสำนักถามสวรรค์พลิ้วกายลงมาจากชั้นสอง แล้วยืนอยู่เบื้องหน้าของคุณชายน้อย
สตรีศักดิ์สิทธิ์แห่งสำนักถามสวรรค์มีชื่อเสียงว่าเป็นผู้หลุดพ้นจากโลกีย์ทั้งปวง แทบจะไม่เห็นผู้ใดอยู่ในสายตา ต่อให้เป็นองค์ชายสี่หรงฉู่เองก็ยังต้องให้ความเคารพนางถึงสามส่วน ทั้งยังต้องแอบเอาใจนางเล็กน้อยด้วย สำหรับคนส่วนใหญ่แล้ว หากได้สนทนากับนางเพียงไม่กี่ประโยคก็นับว่าเป็นเกียรติอย่างสูงแล้ว
สตรีศักดิ์สิทธิ์ผู้สูงส่งพลิ้วกายลงมาแล้วยืนอยู่ตรงนั้น ใบหน้าสะสวยอมยิ้มนิดๆ ถึงแม้จะกล่าวด้วยนํ้าเสียงเชิงขอเจรจาพาที แต่คงทนไม่ได้หากถูกคนปฏิเสธ และนางก็ไม่คิดว่าคุณชายน้อยผู้นี้จะกล้าปฏิเสธ
คุณชายน้อยเองก็ไม่ปฏิเสธจริงๆ แต่เขาเสนอราคาออกมาตรงๆ “ได้สิ 100,000 ตำลึง!”
สตรีศักดิ์สิทธิ์ผู้สูงส่งอึ้งไปเล็กน้อย “อะไรนะ?”
“ถ้าจ่าย 100,000 ตำลึงก็จะให้ท่านดูแวบหนึ่ง” คุณชายน้อยกล่าวได้ชัดถ้อยชัดคำยิ่งนัก
สตรีศักดิ์สิทธิ์ผู้สูงส่งเป็นบื้อใบ้โดยพลัน
“หรือว่าคุณชายจะไม่รู้จักข้า? ข้าเป็นสตรีศักดิ์สิทธิ์แห่งสำนักถามสวรรค์นามว่ากู่ซีซี…” สตรีศักดิ์สิทธิ์แนะนำตัวออกมาตรงๆ
“200,000 ตำลึง…” คุณชายน้อยไม่ฟังอะไรทั้งนั้น แถมยังเพิ่มราคาขึ้นไปอีก
ใบหน้างดงามของสตรีศักดิ์สิทธิ์แดงขึ้นเล็กน้อย “เจ้า…”
“300,000 ตำลึง”
“เจ้า…เจ้าเพิ่มราคาสูงถึงเพียงนี้ได้อย่างไร?!”
“400,000 ตำลึง” คุณชายน้อยกล่าวด้วยนํ้าเสียงสบายอกสบายใจ “ท่านสตรีศักดิ์สิทธิ์ ข้าน้อยอยากจะเพิ่มราคาสูงๆ และไม่อนุญาตให้ท่านต่อรองด้วย หากว่าท่านไม่เต็มใจจ่ายก็ไม่ต้องมาดูสิ ข้าน้อยไม่ได้บังคับท่านเสียหน่อย อ้อ ท่านให้ร้ายข้าทั้งยังพูดจาโอ้อวดตั้งมากมาย ตอนนี้ราคาคือ 800,000 ตำลึงแล้ว ขืนท่านยังพูดมากอยู่ อีกก็จะกลายเป็น 900,000 ตำลึง สรุปแล้วท่านจะดูหรือไม่ดู?”