บทที่ 463
ร่วมเป็นร่วมตาย 8
จักรพรรดิซวนตกตะลึง รีบร้อนกล่าว “รีบเชิญมา! รีบเชิญ!”
อีกทั้งในใจยังค่อนข้างกระวนกระวาย ดูท่าท่านทูตสวรรค์ฝ่ายซ้ายก็ใส่ใจความเคลื่อนไหวของกู้ซีจิ่วอยู่ตลอดเช่นกัน นางเพิ่งจะออกจากป่าทมิฬเขาก็ส่งคนมาแล้ว! เขาส่งคนมาบีบให้หมั้นหมายอย่างนั้นหรือ?
ถึงทูตสวรรค์ฝ่ายซ้ายจะเคยกล่าวว่าหากกู้ซีจิ่วออกจากป่าทมิฬได้ภายใน 8 วัน สัญญาหมั้นหมายนั้นสามารถหารือกันได้ แต่ก็ทำได้เพียงหารือเท่านั้น มิใช่กล่าวว่าถอดถอนได้แน่นอน…
อีกอย่างด้วยฐานะของทูตสวรรค์ฝ่ายซ้าย เด็กสาวคนใดเล่าจะไม่ยอมแต่งให้เขา?
กู้ซีจิ่วก็ไม่น่าจะต่างกันกระมัง ?
จักรพรรดิซวนอดมองไปทางกู้ซีจิ่วไม่ได้ กู้ซีจิ่วนิ่งสงบยิ่ง ดูจากท่าทางของนางแล้วคาดเดาได้ยากว่าคิดอะไรอยู่ในใจ นางลุกขึ้นมาตามเขามาด้วย
มู่เฟิงสาวเท้ายาวก้าวเข้ามาแล้ว
เมื่อเขาทำความเคารพจักรพรรดิซวนและคนอื่นๆ เสร็จ สายตาก็หยุดที่ร่างกู้ซีจิ่ว “แม่นางกู้ ยินดีด้วยที่ออกจากป่าทมิฬสำเร็จ ท่านทูตสวรรค์ฝ่ายซ้ายสั่งให้ผู้น้อยมาเป็นตัวแทนแสดงความยินดี มีของกำนัลบางอย่างมามอบให้ด้วย”
ดวงตาของฝูงชนฉายแววริษยา ทูตสวรรค์ฝ่ายซ้ายมิใช่ผู้ที่จะมอบของขวัญให้ใครง่ายๆ ตอนจักรพรรดิซวนอภิเษกสมรสเมื่อตอนนั้นก็ไม่อาจทำให้ทูตสวรรค์ฝ่ายซ้ายส่งของอวยพรมา ยามนี้เขากลับส่งผู้ใต้บงคับบัญชามามอบของขวัญให้กู้ซีจิ่ว!
ของขวัญของทูตสวรรค์ฝ่ายซ้ายจะเป็นอะไรกัน?
สายตาของผู้คนมากมายตกลงบนร่างมู่เฟิง มู่เฟิงค่อยๆ ล้วงกล่องไม้จันทร์แดงเล็กๆ ใบหนึ่งออกมาจากถุงเก็บของบนร่าง เมื่อเปิดกล่องใบเล็กออก มีกำไลข้อมือสีดำขลับวงหนึ่งนอนนิ่งอยู่บนกำมะหยี่สีแดง
กำไลหทัยกาฬ!
นี่คือกำไลหทัยกาฬที่เป็นหลักฐานการหมั้นหมายของทูตสวรรค์ฝ่ายซ้ายและกู้ซีจิ่ว!
เมื่อกู้ซีจิ่วเห็นกำไลวงนั้นก็ตะลึงไปเล็กน้อย คล้ายว่ารับรู้อะไรได้ ริมฝีเล็กจึงเม้มนิดๆ
จักรพรรดิซวนและเหล่าขุนนางมองหน้ากัน พวกเขาย่อมรู้จักกำไลหทัยกาฬเช่นกัน เพียงแต่ไม่ใคร่กระจ่างแจ้งนักว่าทูตสวรรค์ฝ่ายซ้ายส่งสิ่งนี้มาหมายความว่าอย่างไร
สายตามู่เฟิงยังคงอยู่ที่ใบหน้ากู้ซีจิ่ว “ท่านทูตสวรรค์สั่งให้มู่เฟิงมาถามแม่นางกู้หนึ่งประโยค ขอให้แม่นางกู้โปรดตอบด้วย”
“เจ้าว่ามาสิ” กู้ซีจิ่วเลิกคิ้ว
“ท่านทูตสวรรค์ฝ่ายซ้ายเคยรับปากกับแม่นางกู้ไว้ ขอเพียงแม่นางกู้ออกจากป่าทมิฬได้ภายใน 8 วัน ก็สามารถหารือได้ว่าต้องการล้มเลิกการหมั้นหมายครั้งนี้หรือไม่ ยามนี้แม่นางกู้ออกมาได้ตาม
กำหนด ท่านทูตสวรรค์ฝ่ายซ้ายย่อมรักษาคำพูด ไม่บังคับฝืนใจแม่นางกู้ หากแม่นางกู้ยังคิดจะถอนหมั้น ให้รับกำไลหทัยกาฬวงนี้ไปได้ หากแม่นางกู้ไม่คิดจะถอนหมั้น ก็ไม่ต้องรับกำไลหทัยกาฬวงนี้ วันหน้าจะส่งของขวัญชิ้นอื่นมามอบเป็นของกำนัลแก่แม่นาง”
มู่เฟิงกล่าวประโยคนี้จบ ก็คุกเข่าลงข้างหนึ่งแล้วยื่นกำไลวงนั้นไปเบื้องหน้ากู้ซีจิ่ว “แม่นาง กำไลวงนี้ท่านจะรับไว้หรือไม่?”
เมื่อมู่เฟิงเอ่ยประโยคนี้ออกมา ภายในห้องโถงก็เงียบสนิทจนสามารถได้ยินเสียงเข็มหล่นลงพื้น
สายตามากมายทอดลงบนร่างกู้ซีจิ่ว รอให้เธอเลือก
แสงอาทิตย์ลอดเข้ามา สาดลงบนใบหน้ากู้ซีจิ่ว ส่องผิวของเธอให้ขาวกระจ่างรางๆ เธอหลุบตามองกำไลวงนั้น
กำไลสีดำเป็นมันดูค่อนข้างเยือกเย็น ราวกับหัวใจคนที่ไม่ว่าจะทำเช่นไรก็ไม่มีทางอบอุ่น
กู้ซีจิ่วนิ่งไปครู่หนึ่ง แล้วยื่นมือออกไป หยิบกำไลวงนั้นขึ้นมา
แววตามู่เฟิงดิ่งลึกแวบหนึ่ง ถือกล่องเปล่าใบนั้นก้าวไปด้านหลัง พลางกล่าว “ดูเหมือนแม่นางยังคงเลือกถอนหมั้น”
กู้ซีจิ่วช้อนตามองเขา เขายิ้มอย่างสุขุม แล้วหยิบหนังสือ 2 ฉบับออกมาจากร่างอีกครั้ง “ในเมื่อเป็นเช่นนี้ มู่เฟิงก็ไม่มีอันใดจะกล่าว นี่คือหนังสือถอนหมั้นที่ท่านทูตสวรรค์ฝ่ายซ้ายร่างขึ้นด้วยตัวเอง เมื่อแม่นางกู้ลงนาม นับตั้งแต่นี้ไประหว่างแม่นางกู้และท่านทูตสวรรค์ฝ่ายซ้ายจะไม่มีสัญญาหมั้นหมายกันอีกต่อไป ภายภาคหน้าบุรุษแต่งงานสตรีออกเรือน ไม่มีความเกี่ยวข้องกันอีก”