Skip to content

ลำนำบุปผาพิษ 494

บทที่ 494

โอหังและอคติ 6

อวิ๋นซิงหลัวเม้มปากนิดๆ “คนเช่นข้ามิชมชอบพูดอ้อมค้อมกับผู้อื่น ข้ามาเพื่อบอกเจ้าว่า ข้าชอบท่านทูตสวรรค์ฝ่ายซ้าย ภายภาคหน้าข้าจะสละทุกสิ่งเพื่อติดตามเขา…” จากนั้นก็มองกู้ซีจิ่วแวบหนึ่ง “อย่าว่าแต่เจ้าถอนหมั้นกับเขาแล้วเลย ต่อให้ตอนนี้เจ้าออกเรือนกับเขาแล้ว ข้าก็ยังชอบเขา ยังอยากออกเรือนกับเขาอยู่”

กู้ซีจิ่วกลับด้านละมั่ง ตอบนางเพียงหนึ่งประโยค “ตามสบาย”

อวิ๋นซิงหลัวรู้สึกเหมือนต่อยลงบนปุยนุ่น “เจ้า…”

จู่ๆ กู้ซีจิ่วก็เงยหน้ามองไปทางด้านหลังนาง หัวคิ้วพลันขมวดมุ่น!

อวิ๋นซิงหลัวหันหลังกลับไปมองทันทีตามสัญชาตญาณ

เห็นสหายร่วมชั้นของตนยังคงยืนโง่งมอยู่ตรงนั้น แสดงท่าทางแปลกใหม่ นัยน์ตาทั้งคู่เปล่งประกาย สีหน้าเพ้อฝ่น “เยี่ยนเฉิง ในที่สุดเจ้าก็เชื่อข้าแล้วหรือ? ในที่สุดก็มองเห็นข้าแล้วใช่ไหม”

นางราวกับจะร้องไห้ นํ้าตาพลันเอ่อคลอขึ้นมาในดวงตา “ข้ารู้ว่าตาเจ้ายังพอมีแววอยู่” ทั้งยังยื่นมือน้อยๆ ที่สั่นเทาออกไป

เจ้าหอยยักษ์อ้าฝา หนูน้อยที่อยู่ภายในยิ้มเจ้าเล่ห์พลางยื่นมือเล็กๆ ออกมา “แน่นอนว่าข้าเชื่อเจ้า ข้าเชื่อเจ้ามาโดยตลอด ไปกับข้าเถอะ”

เด็กสาวนางนั้นวางมือลงบนฝ่ามือของหนูน้อยที่อยู่ในหอยยักษ์อย่างไว้เนื้อเชื่อใจ ถูกหนูน้อยกุมไว้ทันที!

“เจ้าหอยยักษ์” กู้ซีจิ่วตะโกนเสียงกึกก้องทันที

เด็กน้อยในหอยยักษ์สั่นสะท้าน หันไปมองกู้ซีจิ่ว

ดวงตาที่เดิมทีใสกระจ่างกลายเป็นสีแดงเพลิง ยามมองผู้คนเสมือนมีเปลวไฟลุกโชนอยู่ด้านใน

“ปล่อยนางซะ” กู้ซีจิ่วกล่าวสามคำ

ถ้าเธอไม่ห้ามปราม เจ้าหอยยักษ์ต้องกินเด็กสาวนางนี้แน่!

ถึงอย่างไรเด็กสาวผู้นี้ก็เป็นศิษย์ของสำนักศึกษาชุมนุมสวรรค์ ศิษย์ทะเลาะเบาะแว้งกันเอง ต่อให้ต่อยตีกันกันจนฟกช้ำดำเขียวก็ไม่เป็นไร แต่จะเอาชีวิตผู้อื่นไม่ได้

มิเช่นนั้นนอกจากกู้ซีจิ่วจะถูกขับไล่จนสูญเสียคุณสมบัติของศิษย์สังเกตการณ์ไป เกรงว่ากระทั่งชีวิตของเจ้าหอยยักษ์ก็คงรักษาไว้ไม่ได้ คงถูกฆ่าเอาไปตุ๋นน้ำแกงเข้าจริงๆ!

เจ้าหอยยักษ์เคยชินกับการจับคนที่เข้าสู่ภาพมายาของมันเกินไปแล้ว เดิมทีคราวนี้มันก็คิดจะให้บทเรียนอีกฝ่ายเท่านั้น แต่ไม่นึกเลยว่าจะสะกดสัญชาตญาณดิบไม่ได้ชั่วขณะ เกือบจะลงมือจริงๆ เสียแล้ว!

เนื้อวางอยู่ข้างปาก แต่กลับกินไม่ได้ เจ้าหอยยักษ์เป็นทุกข์ยิ่ง…

มันลังเลอยู่ที่เดิมครู่หนึ่ง ก่อนต่อรองกับกู้ซีจิ่ว “นางน่าชังถึงเพียงนี้ ข้าขอกินขากับแขนนางอย่างละข้างได้หรือไม่?”

กู้ซีจิ่วดึงขาละมั่งข้างหนึ่งที่ย่างจนเป็นสีเหลืองทองออกมา ถือแกว่ง ไปมา “ถ้าเจ้ากินขากับแขนนาง ขาข้างนี้ก็ไม่ต้องกินแล้ว”

กลิ่นหอมเตะจมูก เจ้าหอยยักษ์กลืนนํ้าลายที่สอออกมาเต็มปาก ปล่อยมือเด็กสาวนางนั้นอย่างไม่ลังเล กลิ้งไปหากู้ซีจิ่วทันที แล้วอ้าฝางับขาละมั่งข้างนั้นเข้าไป…

นับว่าเด็กสาวนางนั้นเก็บชีวิตกลับไปได้แล้ว นางตื่นขึ้นมาจากห้วงมายา ยังไม่กระจ่างว่าเกิดสิ่งใดขึ้นไปชั่วขณะ มองไปทางนั้นทีทางนี้ทีอย่างงงงัน “พวกเจ้า…”

ความคิดของนางยังจมอยู่ในห้วงฝันนั้น ด้วยตื่นขึ้นมากะทันหันจึงแยกไม่ออกว่าเป็นภาพมายาหรือว่าเป็นความจริง นางโพล่งออกมาประโยคหนึ่ง “เยี่ยนเฉิงล่ะ?”

อวิ๋นซิงหลัวเหลือบมองนางแวบหนึ่ง กล่าวอย่างเฉยชา “เยี่ยนเฉิงไม่ได้อยู่ที่นี่”

ชะงักไปครู่หนึ่งแล้วค่อยกล่าวต่อ “หูชิงชิง ที่แท้เจ้าอยู่กับข้าเพียงเพราะต้องการดึงดูดความสนใจจากเยี่ยนเฉิง อีกทั้งยังไม่พอใจในตัวข้ามากมายหลายข้อ ในเมื่อเป็นเช่นนี้ ความเป็นสหายของพวกเราก็สิ้นสุดลงตรงนี้เถิด”

อวิ๋นซิงหลัวหมุนกายจากไป ไม่หันกลับมามองอีก

หูชิงชิงหน้าดำหน้าแดง ตะลึงงันอยู่ตรงนั้นไปชั่วขณะ

“หูชิงชิง ที่แท้เจ้าก็ชอบเยี่ยนเฉิงนี่เอง” เด็กหนุ่มที่อยู่ด้านข้างขำคิกคักขึ้นมา

ใบหน้าหูชิงชิงเดี๋ยวเขียวเดี๋ยวซีด เหลือบมองเด็กหนุ่มผู้นั้นแวบหนึ่ง “คุณหนูเช่นข้าจะชอบใครก็ได้ที่อยากจะชอบ ต้องให้คนโง่งมเช่นเจ้ามายุ่งด้วยหรือ?”

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version