Skip to content

ลำนำบุปผาพิษ 497

บทที่ 497

พบพานสหายเก่า 2

เพียงแต่องค์ชายหรงเช่อผู้นี้ดูสุภาพอ่อนโยน ใบหน้ายิ้มแย้มแจ่มใส ทว่าความจริงแล้วไม่เคยเสียเปรียบผู้ใดมาก่อน พอเขาถูกหาเรื่องจะกล่าววาจานิ่มนวลทว่าเชือดเฉือน เฉียบคมยิ่งนัก

สุดท้ายแล้วเชียนหลงอวี่ก็ยังเป็นแค่เด็กคนหนึ่ง เขาฟังไม่เข้าใจ อดจะถามออกมาไม่ได้ “ไม่เหมือนตรงไหน?”

ทว่าองค์ชายหรงเช่อกลับไม่กล่าวต่อแล้ว เขาคงจะรู้สึกเช่นกันว่า การต่อปากต่อคำกับเด็กคนหนึ่งค่อนข้างจะเป็นการลดฐานะของเขา จึงยื่นสุราจอกหนึ่งไปเบื้องหน้าเซียนหลงอวี่ “ดื่มสักจอกให้แก่การพบหน้ากันครั้งแรกดีไหม?”

กู้ซีจิ่วเอ่ยขึ้น “แล้วไปเถอะ เขายังเด็ก ไม่จำเป็นต้องให้เขาดื่ม อีกอย่างสำนักศึกษาก็มีกฎอยู่ เขาคือศิษย์อย่างเป็นทางการ ละเมิดกฎไม่ได้”

องค์ชายหรงเช่อเป็นคนละเอียดลออ จับประเด็กสำคัญอื่นในคำพูดเธอได้ทันที “ศิษย์ทางการ? ซีจิ่ว เจ้ายังมิใช่ศิษย์อย่างเป็นทางการหรือ?”

“คุณสมบัติของนางไม่เพียงพอ ตาเฒ่ากู่อนุญาตให้นางเป็นเพียงศิษย์สังเกตการณ์ อีกครึ่งปีให้หลังหากว่าไม่ผ่านการทดสอบ จะต้องถูกขับไล่ออกจากสำนักศึกษาชุมนุมสวรรค์” เชียนหลงอวี่ที่อยู่ด้านข้างกล่าวความจริงออกมา เห็นได้ชัดว่าเรื่องราวของกู้ซีจิ่วทราบกันดีทั่วสำนักศึกษาชุมนุมสวรรค์แล้ว

รอยยิ้มบนหน้าองค์ชายหรงเช่อเลือนหายไป “ซีจิ่ว พวกเขาปฏิบัติกับเจ้าเช่นนี้หรือ?”

กู้ซีจิ่วไม่อยากให้เพื่อนเป็นกังวลแทนตน “ก็ไม่มีอะไรหรอก ศิษย์สังเกตการณ์ก็สามารถเข้าชั้นเรียนทางการได้ วางใจเถอะ บางทีอาจใช้เวลาไม่ถึงครึ่งปี ข้าก็คงได้เป็นศิษย์ของสำนักศึกษาชุมนุม สวรรค์แล้ว!”

องค์’ชายหรงเช่อมองดวงตาที่ส่องประกายอยู่ภายใต้แสงจันทร์ของนาง รอยยิ้มผลิบาน กล่าวด้วยนํ้าเสียงอ่อนโยน “ซีจิ่ว ข้าเชื่อในตัวเจ้า! เจ้าต้องกลายเป็นศิษย์ที่ยอดเยี่ยมที่สุดของสำนักศึกษาชุมนุมสวรรค์แน่! มาเถอะ ข้าขอคารวะเจ้าหนึ่งจอก!”

เขาพูดพลางหยิบสุราขึ้นมา

เชียนหลงอวี่ฉวยจอกสุราใบหนึ่งขึ้นมา รินให้ตัวเองหนึ่งจอก “ข้าเอาด้วย!”

“ตามกฎแล้วเจ้าดื่มไม่ได้มิใช่หรือ?” กู้ซีจิ่วถามเขา

“ช่างหัวกฎสิ! แต่ไหนแต่ไรมาคุณชายเช่นข้าก็เห็นกฎของที่นี่เป็นเพียงเมฆหมอก มา พวกเราดื่ม!”

คนทั้งสามดื่มสุราแกล้มเนื้อ ดื่มกันเต็มที่

เจ้าหอยยักษ์ก็ย่องเข้ามาเงียบๆ ไม่รู้ว่าหยิบชามหินใบหนึ่งออกมาจากที่ใด ร้องขอสุราดื่ม

เมื่อองค์ชายหรงเช่อเทให้มัน มันก็ดื่มรวดเดียวหมด ผ่านไปครู่หนึ่งมันก็เมาแอ๋ กลายเป็นหอยเมาตัวหนึ่ง

ส่วนเจ้าลู่อู๋ก็ถูกมันกรอกไปหลายอึก ขนสีม่วงทั่วร่างกลายเป็นสีแดงดอกท้อ ฟุบหลับอยู่ตรงนั้น ยังคงเป็นเพรียกวายุที่เป็นห่วงเป็นใยมัน เข้าไปคาบมันมาใส่ไว้ในกระเป๋าหน้าท้องตน…

ไม่รู้ว่าสายลมพัดโชยมายามใด สายลมนั้นพัดมาหอบแล้วหอบเล่า หนาวเย็นขึ้นเรื่อยๆ

องค์ชายหรงเช่อลุกขึ้นยืน “ซีจิ่ว เจ้าพักอยู่ที่ไหน? ข้าจะไปส่งเจ้ากลับ”

กู้ซีจิ่วชี้ไปยังกระท่อมศิลาเขียวที่อยู่ไม่ไกล “ข้าพักอยู่ที่นั้น ไม่ต้องไปส่งหรอก ใกล้แค่นี้เอง”

ถึงแม้จะเป็นยามราตรีที่มืดสลัว แต่ประสิทธิภาพสายตาขององค์ชายหรงเช่อน่าตกตะลึงนัก กวาดตามองแวบเดียวก็มองความโกโรโกโสของกระท่อมหินหลังนี้ออก จึงขมวดคิ้วน้อยๆ “พวกเขาให้เจ้าอาศัยในกระท่อมเช่นนี้หรือ? โกโรโกโสปานนี้…”

เชียนหลงอวี่ขำคิกคัก “กระท่อมหลังนี้เป็นข้ากับนางช่วยกันสร้าง เมื่อก่อนตรงนั้นเป็นเพียงเนินหินขรุขระผืนหนึ่งเท่านั้น”

องค์ชายหรงเช่อตะลึง

เขาไม่พูดไม่จา ดึงมือกู้ซีจิ่วไปทันที “ไป พาข้าไปดูหน่อย!”

“นี่ ชายหญิงมิควรแตะเนื้อต้องตัวกันนะ!” เชียนหลงอวี่มองพวกเขาจับจูงกันอย่างไม่สบอารมณ์ อดจะเอ่ยออกมาไม่ได้

แต่องค์ชายหรงเช่อไม่สนใจเขาเลย เพียงพริบตาเดียวก็ลากกู้ซีจิ่วกลับไปถึงกระท่อมหินหลังนั้นแล้ว

เชียนหลงอวี่ยืนโง่งมอยู่ที่เดิมครู่หนึ่ง สุดท้ายก็ไม่วางใจ อีกอย่าง เขาก็ยังต้องมอบของให้กู้ซีจิ่ว ต้องเอาไปจัดวางภายในกระท่อมนาง จึงตามหลังไป

เมื่อเขาเข้าไปในกระท่อมนางก็ต้องตกตะลึง องค์ชายแปดหรงเช่อที่แสนสุภาพอ่อนโยนผู้นั้นกำลังจัดวางข้าวของเสมือนเล่นกลอยู่

เตียงนอนไม้ประดู่หนึ่งหลัง ม่านมุ่งบนเตียงเป็นสีครามนภา ด้านบนวาดลายเขาเขียวธารใสสระบัวแห่งหนึ่งซึ่งอุดมด้วยกอบัว

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version