บทที่ 581 เชิญท่านลงโอ่ง[2] 1
เธอลอบสังเกตเขามาห้าวันแล้ว ทราบที่มาที่ไปและการเคลื่อนไหวของเขาอย่างแจ่มแจ้ง
หากกล่าวว่าก่อนหน้านี้เธอแค่สงสัยยิ่งนักทว่าไม่มี หลักฐาน แต่บัดนี้แน่ชัดแล้วว่า อาการป่วยของเชียนหลิงอวี่คือการเล่นเล่ห์ของเชียนหลิงเทียนผู้นี้!
เชียนหลิงอวี่เด็กน้อยผู้นั้นยอดเยี่ยมนัก เขาพยามสงบปากสงบคำมากจริงๆ แต่ถึงอย่างไรเขาก็ยังเด็ก ชอบหรือไม่ชอบแสดงออกทางสีหน้าง่ายดายนัก ยังคงเผยเบาะแสออกมาเล็กน้อย
แต่ในใจเชียนหลิงเทียนมีความผิดซุกซ่อนไว้ ย่อมจับสังเกตท่าทีเล็กๆ น้อยๆ ของเชียนหลิงอวี่ได้แล้วหวาดระแวงกับตนเองมากขึ้นเรื่อยๆ…
จากที่กู้ซีจิ่วสังเกตเขาหลายวันมานี้พบว่าสองวันมานี้อาการร้อนรนของเชียนหลิงเทียนถี่ขึ้นเรื่อยๆ อย่างเห็นได้ชัด อารมณ์ก็ฉุนเฉียวไม่น้อย
เธอหลุบตาครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง รู้สึกว่าตนใกล้จะรวบแหได้แล้ว…
ร่างพลันเปล่งแสงวาบ หายไปจากจุดเดิม
เธอใช้วิชาเคลื่อนย้ายในพริบตา ไปๆ มาๆ เช่นนี้อยู่หลายครั้ง โดยที่เชียนหลิงเทียนไม่รู้ตัวเลยสักนิด
….
ล่วงเข้ายามดึก ภายในคุกใหญ่
กู่ฉานโม่ถูกล่ามโซ่ตรึงไว้บนผนัง คนผู้นี้ก็นับว่าเป็นชายอกสามศอกผู้หนึ่ง
โทษทัณฑ์ที่รับปากไว้เหล่านั้นก็ไม่ผ่อนผันเลยสักนิด หลายวันมานี้ เขาเข้าไปอบอยู่ในแดนเพลิงลับแลก่อนทุกวัน วันละหนึ่งชั่วยาม ทั้งร่างถูกอบจนผิวหนังแทบจะลอกเป็นชั้นเมื่อถูกปล่อยออกมาลมหายใจล้วนร้อนผ่าว จากนั้นเขาก็เข้ามาคุมขังอยู่ในสถานการณ์ที่แห่งนี้โดยไม่ปริปากสักคำ ตรรึงอยู่บนผนัง…
ยามนี้ ร่างเขาห่อเหี่ยวดังมะเขือม่วงฝ่อคอตก ปรับลมหายใจอยู่ตรงนั้น…
ทันใดนั้นเขาคล้ายจะสัมผัสถึงอะไรบางอย่างได้ ลืมตาขึ้นทันที หัวคิ้วขมวดมุ่นโดยไม่รู้ตัว!
เบื้องหน้ามีดรุณีนางหนึ่งยืนอยู่ กำลังมองดูเขาอย่างเฉยเมย
กู้ซีจิ่ว!
มิน่าล่ะผู้คนถึงบอกว่าเด็กสาวผู้นี้มีความสามารถในการไปมาอย่างไร้ร่องรอย เป็นดังที่ว่าจริงๆ นางบุกเข้ามาหาเขาในคุกแห่งนี้ได้โดยไร้สุ้มเสียง!
“เจ้ามาทำไม? กลัวว่าอาจารย์ใหญ่เช่นนี้จะปรานีต่อตนหรืออย่างไร? มาตรวจสอบโดยเฉพาะสินะ?” กู่ฉานโม่อารมณ์ไม่ดี
กู้ซีจิ่วยิ้มหวาน “ถึงแม้บางครั้งอาจารย์ใหญ่กู่จะเลอะเลือนไปหน่อย ทำเรื่องเลอะเทอะไปบ้าง แต่ก็เป็นบุคคลที่ชัดเจนซื่อตรง มีหนึ่งพูดหนึ่ง มีสองพูดสอง ข้อนี้ซีจิ่วเชื่อถือและเลื่อมใสยิ่งนัก”
คิ้วที่ขมวดแน่นของกู่ฉานโม่คลายออกเล็กน้อย นับว่าเด็กสาวคนนี้ยังดูคนเป็นอยู่บ้าง
“เช่นนั้นเจ้ามาทำไม? มาหัวเราะเยาะข้ารึ?”
กู้ซีจิ่วถอนหายใจ “อาจารย์ใหญ่กู่ หัวเราะเยาะท่านแล้ว มีข้อดีอันใดต่อซีจิ่วเล่า? และซีจิ่วก็มิใช่คนต่ำช้าเช่นนั้น ซีจิ่วมาที่นี่เพราะอยากถามอาจารย์ใหญ่กู่เรื่องหนึ่ง และขอความกรุณาอาจารย์ใหญ่กู่ตามมาตามจริงด้วย”
“เรื่องใด?”
“อาจารย์ใหญ่กู่ ท่านยังหวังให้พลังยุทธ์ของเชียนหลิงอวี่กลับมาเป็นเหมือนเดิมไหม? ยังหวังว่าจะรักษาอาการป่วยของเขาให้หายดีหรือไม่?”
กู่ฉานโม่ทึ่มทื่อไปครู่หนึ่ง ดวงตาฉายแสงนิดๆ พินิจกู้ซีจิ่วตั้งแต่หัวจรดเท้า แวบหนึ่ง “เจ้ามีวิธีรักษาเขาได้จริงหรือ?”
ต่อให้ร่างเขาถูกจองจำอยู่ในคุก แต่ก็ยังรับรู้ข่าวลือด้านนอกได้ ผู้อาวุโสเหล่านั้นนาเรื่องราวต่างๆ ในสำนักศึกษามารายงานแก่เขาหมดแล้ว
ดังนั้นจึงมิใช่ว่าเขาไม่รู้อะไรเลย เพียงแต่เขานึกว่ากู้ซีจิ่วทำเพื่อตั้งหลักที่นี่ ต้องการฉวยสหายสักคนไว้ข้างกาย จึงกุเรื่องทั้งหมดขึ้น เลยไม่คิดว่าเป็นเรื่องจริง และไม่เก็บมาใส่ใจ
แต่ยามนี้พอได้ยินกู้ซีจิ่วเอ่ยออกมากับ ปากเช่นนี้หัวใจเขาพลันเต้นแรง เชื่อขึ้นมาเล็กน้อย!
กู้ซีจิ่วยิ้มบางๆ “ข้าแค่ถามว่าอาจารย์ใหญ่กู่อยากรักษาเขาให้หายหรือไม่”
“ไร้สาระ! ผู้เฒ่าย่อมหวังจะรักษาเขาให้หายดี ในฝันก็ยังคิด!” กู่ฉานโม่ตอบอย่างไม่ลังเล
หนนี้ เดิมทีเขาคิดจะเชื้อเชิญ หลงซือเย่มาดูอาการของเชียนหลิงอวี่
คิดไม่ถึงว่าหลังจากหลงซือเย่มาจะเกิดเรื่องขึ้นมากมายปานนั้น ทุกคนจึงยุ่งง่วนอยู่ตลอด
———————————————————–
[1] สะเทือนภูผาสั่นคลอนพยัคฆ์ หมายถึง โจมตีศัตรูที่ซ่อนตัวอยู่ให้หวาดกลัว
[2] เชิญท่านลงโอ่ง หมายถึง การใช้วิธีการที่คนผู้หนึ่งคิดค้นขึ้นเพื่อจัดการกับผู้อื่น มาใช้จัดการกับคนผู้นั้นเอง