บทที่ 66
ช่างกบฏเสียจริง!
หากผู้คุ้มกันในจวนกระทำผิดพลาดเพียงเล็กน้อยก็จะโดนเขาลงโทษอย่างรุนแรง ถูกสั่งให้โบยจนตายไปก็มีไม่น้อย ดังนั้นทุกคนในจวนแม่ทัพล้วนแต่หวาดกลัวเขา พบเห็นเขาก็หวาดกลัวดั่งหนูเจอแมว
ยามนี้เขาโกรธมากจริงๆ บรรดาสาวใช้เหล่านี้จึงถูกนำตัวไป สิ่งที่รอคอยพวกนางอยู่ย่อมเป็นบทลงโทษอันแสนทารุณ บางทีชีวิตน้อยๆ อาจต้องจบลงที่ม้านั่งลงทัณฑ์!
ผู้คุ้มกันที่โหดเหี้ยมดุจหมาป่าดุดันดั่งพยัคฆ์เหล่านั้นพากันขานรับและกำลังจะนำตัวคนไป ทันใดนั้นก็มีเสียงใสกังวานที่แสนเย็นชาดังออกจากในห้อง “ช้าก่อน!”
กู้ซีจิ่วก้าวออกมาจากห้อง
มีรังสีบางอย่างแผ่ออกมาจากตัวเธอ เพียงแค่เหลือบมองอย่างเย็นชาแวบหนึ่ง ผู้คุ้มกันเหล่านั้นที่คิดจะจับกุมคนไปต่างก็รู้สึกเหน็บหนาวขึ้นมาในหัวใจ ฝีเท้าหยุดชะงัก
เหล่าสาวใช้เมื่อเห็นเธอออกมาแล้วก็ราวกับเจอแหล่งพึ่งพิง กรูกันไปอยู่ข้างกายเธอแล้วโค้งคำนับ “คุณหนู!”
กู้เซี่ยเทียนคิ้วขมวดมุ่น “ซีจิ่ว ในเมื่อเจ้าอยู่ในห้อง แล้วเหตุใดจึงไม่ออกมาให้เร็วกว่านี้?”
เขากวาดตามองสาวใช้เหล่านั้นอีกครั้ง โทสะมิคลายลงแม้แต่น้อย “พวกบ่าวไพร่ที่เจ้าเลี้ยงไว้ช่างน่าชังนัก! กล้ามาขัดขวางข้าผู้เป็นแม่ทัพ ช่างกบฏเสียจริง! ขาดการสั่งสอนโดยแท้องครักษ์…”
เขากำลังจะเรียกผู้คุ้มกันให้มาจับคนไป กู้ซีจิ่วก็พลันเอ่ยปากขึ้นมา “ท่านแม่ทัพกู้ สาวใช้เหล่านี้มอบให้ข้าแล้วใช่หรือไม่?”
“แน่นอนสิ!” กู้เซี่ยเทียนตอบโดยไม่หยุดคิด
“เช่นนั้นหน้าที่ของสาวใช้เหล่านี้คืออะไร?”
“ย่อมต้องปรนนิบัติรับใช้นาย เชื่อฟังคำสั่งนาย”
“ในเมื่อเป็นแบบนี้ พวกนางเป็นสาวใช้ของช้าแล้ว การเชื่อฟังคำสั่งของข้ามันไม่ถูกตรงไหน? เหตุใดท่านแม่ทัพกู้ถึงจะจับกุม?” กู้ซีจิ่วตอบกลับด้วยนํ้าเสียงเย็นชา
เธอเหลือบมองสาวใช้ที่อยู่ข้างกาย “พวกนางไม่เกรงกลัวอำนาจท่านแม่ทัพ ปฏิบัติตามคำสั่งของลูกจนถึงที่สุด มีความภักดีถึงเพียงนี้ กล่าวได้ว่าเป็นข้ารับใช้ผู้ซื่อสัตย์ท่านแม่ทัพกู้เองก็เคยเป็นผู้นำของเหล่าทหารมาก่อน ท่านจะสั่งลงโทษผู้ที่จงรักภักดีหรือ?”
ประโยคนี้ทำให้กู้เซี่ยเทียนได้แต่อึกอักอยู่ตรงนั้น “นี่…”
เขาย่นคิ้วดกดำ “พวกนางภักดีต่อเจ้าย่อมเป็นเรื่องถูกต้อง แต่ก็ไม่ควรขัดขวางแม้กระทั้งข้าผู้เป็นแม่ทัพ…”
กู้ซีจิ่วจึงเอ่ยตัดบทเขา “ถ้าเช่นนั้นผู้ที่ผิดก็คือซีจิ่วเอง เป็นซีจิ่วที่สั่งพวกนางว่าใครหน้าไหนมาก็ไม่พบทั้งนั้น แม้แต่ท่านแม่ทัพกู้ก็ไม่ได้รับการยกเว้น หากท่านแม่ทัพกู้ต้องการจะลงโทษพวกนางให้จงได้งั้นก็ลงโทษข้าเถิด! ส่วนพวกนางนั้น ข้าไม่ยินยอมให้ใครได้สัมผัสแม้กระทั่งปลายนิ้ว!”
เธอยืนอยู่ตรงนั้นภายใต้แสงอาทิตย์อัสดง ประโยคที่กล่าวทรงพลังและมีจังหวะจะโคน ถึงแม้รูปร่างจะยังแคระแกร็นแบบเดิม ทว่าอารมณ์ที่ส่งออกมาจากร่างนั้น ทำให้คนรู้สึกว่าเธอยิ่งใหญ่ขึ้นมาอย่างไม่มีสาเหตุ!
เหล่าสาวใช้ต่างรู้สึกอุ่นวาบอยู่ในทรวงอก เลือดลมสูบฉีดเร่าร้อน พากันคุกเข่าลง “คุณหนู พวกบ่าวขอสาบานว่าจะภักดีกับคุณหนูไปจนตาย!”
แล้วหันไปกล่าวกับกู้เซี่ยเทียนอย่างสง่าผ่าเผย “หากท่านแม่ทัพต้องการจะลงโทษโปรดลงโทษพวกบ่าวเถิดเจ้าค่ะ อย่าลงโทษคุณหนูเลย!”
กู้เซี่ยเทียนถึงกับตะลึงงัน เขาเพ่งพินิจดูบุตรสาวของตนตั้งแต่หัวจรดเท้า คล้ายกับเพิ่งได้รู้จักนางจริงๆ ก็วันนี้
จากที่ตอนแรกคิดตรวจสอบให้ถี่ถ้วนด้วยความระแวงสงสัย กลับกลายเป็นความชื่นชม เขาจึงหัวเราะเสียงดังขึ้นมาในทันใด “ดี! ดี! บิดาเป็นพยัคฆ์บุตรสาวย่อมไม่ใช่สุนัข สมกับเป็นบุตรีของข้าผู้แซ่กู้! มีความเด็ดเดี่ยวกล้าหาญ มีความรับผิดชอบ!”
เขามีความสุขยิ่งนัก เปลี่ยนจากความโกรธเกรี้ยวเป็นความเปรมปรีดิ์ สายตาเต็มไปด้วยความปลาบปลื้มอย่างแท้จริง
เขามีบุตรสาวอยู่มากมาย ทว่าไม่มีเลยสักคนที่จะมีบุคลิกห้าวหาญเช่นนี้เยี่ยงกู้ซีจิ่ว แม้กระทั่งบุตรชายที่เขาภาคภูมิใจที่สุดคนนั้นก็ยังไม่มีบุคลิกเช่นนี้!
ยิ่งเป็นทหารก็ยิ่งชื่นชอบผู้ที่เด็ดเดี่ยวและมีความรับผิดชอบ กู้เซี่ยเทียนเองก็เช่นกัน พอเห็นบุตรสาวเป็นเช่นนี้ ก็โยนเรื่องที่โดนล่วงเกินก่อนหน้านี้ออกจากสมองไปหมดแล้ว