Skip to content

ลำนำบุปผาพิษ 690

บทที่ 690 เจ้าพยายามสุดความสามารถแล้ว ไม่จำเป็นต้องขอโทษ

ในที่สุดรอบแรกก็เริ่มขึ้นแล้ว

กลุ่มของอวิ๋นชิงหลัวช่างสมกับที่เป็นการรวมตัวกันของยอดหัวกะทิในชั้นเรียนเมฆาม่วงห้องหนึ่ง ออกกระบวนท่าแรกมาก็ประสานกันอย่างยอดเยี่ยมแล้ว

เล่อชิงซิ่งจับตามองกู้ซีจิ่วผู้ชำนาญการใช้พลังวิญญาณธาตุลม ขอเพียงเธอสำแดงวิชาธาตุลมออกมาก็จะถูกวิชาธาตุดินของเล่อชิงซิ่งโต้กลับไป

เห็นได้ชัดว่ากลุ่มอวิ๋นชิงหลัวศึกษากลยุทธ์และวิธีโจมตีของพวกกู้ซีจิ่วทั้งสามมาแล้ว ทุ่มเทสติปัญญาวางแผนยุทธศาสตร์ไว้นานแล้ว ดังนั้นเปิดฉากได้ไม่นาน กลุ่มของกู้ซีจิ่วก็ถูกฝ่ายอวิ๋นชิงหลัวสะกดไว้…

ประกอบกับหลังจากถูกสะกดไว้หลานไว่หูก็ตื่นตระหนกลนลาน ทั้งหกคนต่อสู้กันปานกระต่ายโดดเหยี่ยวโผโฉบประมาณครึ่งชั่วยาม หลานไว่หูก็พลาดท่า ถูกแสงทองสายหนึ่งของอวิ๋นชิงหลัวซัดกระเด็นไป!

แทบกระอักโลหิต…

ยังคงเป็นกู้ซีจิ่วที่เห็นท่าว่าไม่ดีแล้ว จึงใช้วิชาแยกวายุขวางไว้ทันที มิเช่นนั้นหนนี้จิ้งจอกน้อยต้องปางตายเป็นแน่!

ในการประลองแข่งขันเช่นนี้ ขอเพียงมีคนหล่นจากเวทีก็ถือว่าแพ้แล้ว ดังนั้นกลุ่มของอวิ๋นชิงหลัวจึงเป็นฝ่ายมีชัยในรอบแรก!

อวิ๋นชิงหลัวเบิกบานนัก นางมองกู้ซีจิ่วแวบหนึ่ง ถอนหายใจเบาๆ “อันที่จริง พวกเจ้าก็ทำได้ดีมากแล้ว นับว่าฝีมือไม่ธรรมดา

ถ้าจะโทษก็ต้องโทษที่เจ้าได้พบกับพวกเรา…อย่าได้ท้อแท้พวกเจ้าทำดีมากแล้ว”

กู้ซีจิ่วไม่สนใจนาง รีบทะยานลงไปดูจิ้งจอกน้อยทันที

เชียนหลิงอวี่กำหมัดแน่น ถลึงตาใส่อวิ๋นชิงหลัวแวบหนึ่ง “อย่าได้ลำพองไป ยังมีอีกสองรอบ!”

อวิ๋นชิงหลัวยิ้มบางๆ ไม่พูดอะไร กลับเป็นเล่อจื่อซิ่งที่เอ่ยเย็นชา “ไม่ต้องถึงสองรอบหรอก อีกรอบเดียวก็ตัดสินได้แล้ว!”

ต้องชนะสองในสามรอบ หากว่าพวกเขาเอาชนะได้ในรอบที่สอง รอบที่สามก็ไม่จำเป็นแล้ว!

เชียนหลิงอวี่ย่อมทราบความหมายของพวกเขา นิ้วมือที่กำแน่นอยู่แล้ว ยิ่งแน่นขึ้นไปอีก!

หลานไว่หูบาดเจ็บภายใน เคราะห์ดีที่ไม่นับว่าหนักหนา หลังจากนางร่วงลงพื้นก็ตะเกียกตะกายลุกขึ้นมา มองกู้ซีจิ่วที่ทะยานลงมา ใบหน้าเล็กๆ ของนางแดงกํ่า “ซีจิ่ว ข้า…ขอโทษ…”

“เจ้าพยายามสุดความสามารถแล้ว ไม่จำเป็นต้องขอโทษ” กู้ซีจิ่วห้ามไม่ให้นางพูดอีก รีบจับชีพจรให้นางอย่างรวดเร็ว โชคดีที่นางไม่บาดเจ็บหนัก กู้ซีจิ่วมียาดีไม่น้อย รีบส่งให้นางกินเม็ดหนึ่งทันที

ในยามนี้เองเชียนหลิงอวี่ก็เหินลงมาจากเวทีเหมือนกัน เขาจ้องมองจิ้งจอกน้อยอยู่ด้านข้างตลอด ถูไม้ถูมืออย่างร้อนใจ เกรงว่าจิ้งจอกน้อยจะฉวยโอกาสเลี่ยงงาน

จิ้งจอกน้อยคงจะถูกทุบตีอยู่บ่อยๆ จนเคยชินแล้ว ทนไม้ทนมืออย่างยิ่ง ผนวกกับยาประสิทธิภาพดีของกู้ซีจิ่ว ผ่านไปหนึ่งเค่ออาการบาดเจ็บภายในของนางก็หายดีเกือบหมดแล้ว

กู้ซีจิ่วเอ่ยถามนาง “เจ้ายังสู้ไหวไหม?”

หลานไว่หูเชิดหน้าขึ้น “ไหว!”

นางไม่อาจเป็นตัวถ่วงของกลุ่มได้!

ดวงตาเชียนหลิงอวี่ส่องแสงแวบหนึ่ง ตบไหล่หลานไว่หูดังปุๆ “ต้องแบบนี้สิ! พวกเราจะแพ้โดยไม่สู้ไม่ได้!”

ต่อให้รู้ว่าต้องแพ้ก็ขอแพ้บนสนามประลองอย่างผ่าเผยภาคภูมิ!

มิใช่ยอมแพ้ดื้อๆ!

กู้ซีจิ่วสูดหายใจเบาๆ เอ่ยกระซิบ “รอบแรกเป็นการซ้อมมือของพวกเรา รอบที่สองยังไม่แน่ว่าพวกเราจะแพ้ พวกเจ้าฟังข้านะ…”

เห็นกันอยู่ชัดๆ ว่าแพ้ไปแล้วหนึ่งรอบ ทว่าใบหน้ากูซีจิ่วกลับไม่เผยความสิ้นหวังสักเท่าใด กลับกันนัยน์ตาเธอกลับเปล่งประกายแวววาว

อันที่จริง ไม่ว่าจะต่อสู้กับยอดฝีมือคนใด ยามที่คุณไม่เข้าใจเขา เมื่อต่อสู้กันก็เป็นธรรมดาที่จะแพ้มากกว่าชนะ แต่หลังจากที่คุณเคยลงมือสู้เองไปแล้วรอบหนึ่ง ก็จับลู่ทางของอีกฝ่ายได้เกือบทั้งหมด

หากว่าเป็นคนอื่นถึงยามนี้คงไม่มีวิธีแล้วจริงๆ แต่ไม่ใช่กับกู้ซีจิ่ว เธอเก่งด้านการสรุปบทเรียนจากความล้มเหลว นับประสาอะไรกับรอบแรกนี้ที่ความจริงเธอก็ไม่ได้คิดจะเอาชนะอยู่แล้ว จุดประสงค์คือหาจุดอ่อนของคู่ต่อสู้…

และสามคนนั้นไม่ได้ไร้จุดอ่อนจริงๆ เสียหน่อย

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version