บทที่ 704 สิ้นชีพใต้โบตั๋นบานสะพรั่ง มอดม้วยเป็นผีก็สุขสำราญ
หรือว่าเขาจะต้องการทั้งกุหลาบขาวและกุหลาบแดง?
เมื่อคืนจัดการกับอวิ๋นชิงหลัว วันนี้เลยคิดจะมาจัดการตัวเธอกู้ซีจิ่วสินะ?
จากนั้นก็โอบกอดโฉมงามทั้งสองไว้ใช่หรือไม่?
ขยะ!
เดนมนุษย์!
ตอนนี้กู้ซีจิ่วเจ็บจนไม่มีแรงแล้ว หากว่าเธอยังมีเรี่ยวแรงอยู่บ้างคงอยากยื่นเท้าไปถีบคนผู้นี้ให้กระเด็น ทำให้เขาไสหัวไปไกลๆ ซะ!
คิ้วคมของหลงซือเย่ขมวดแน่น “ตี้ฝูอี ตอนนี้ไม่ใช่เวลามาล้อเล่น!”
รอยยิ้มตรงมุมปากตี้ฝูอีเลือนหายไป กล่าวอย่างเยือกเย็น “ข้าก็ไม่ได้ล้อเจ้าเล่นเหมือนกัน!”
“เหตุใดต้องเป็นนาง? ตี้ฝูอี ด้วยเงื่อนไขของเจ้า สตรีแบบไหนเล่าที่จะต้องการ? เหตุใดต้องบังคับนางในยามนี้? เจ้าก็รู้อยู่ชัดเจนว่านางไม่ได้รักเจ้า และเจ้าก็ไม่ได้รักนาง เหตุใดต้องฝืนใจผู้อื่น?”
หลงซือเย่กำหมัด
“เจ้าสำนักหลง ข้ารักนางหรือไม่ก็ไม่เกี่ยวอะไรกับเจ้า! ส่วนที่ว่าทำไมต้องเป็นนาง…” สายตาตี้ฝูอีหยุดอยู่ที่ใบหน้ากู้ซีจิ่ว ยิ้มบางๆ “บางทีอาจเป็นเพราะข้าชอบนางกระมัง?”
บางที?
กู้ซีจิ่วรู้สึกว่าโทสะพวยพุ่งขึ้นศีรษะ เธอสูดลมหายใจเข้าไปเฮือกหนึ่ง ไม่สนใจความเจ็บปวดที่กระบี่เล่มนั้นเชือดเฉือนทรวงอก กล่าวออกไปทีละคำ “ตี้ฝูอี ข้า-จะ-ไม่-แต่ง-ให้-เจ้า-เด็ด-ขาด! ข้า-ยอม-กลาย-เป็น-สวะ-ไร้-ค่า! ขอ-เป็น-คน-ธรรมดา-ไป-ชั่ว-ชีวิต!”
รอยยิ้มตรงมุมปากตี้ฝูอีคล้ายจะแข็งทื่อไป “ชังข้าถึงเพียงนี้เชียวหรือ?”
“ใช่!” เธอตอบอย่างไม่ลังเล
ชั่วชีวิตนี้ตี้ฝูอีตามหาผู้ที่จะมาสร้างสีสันให้ชีวิตที่น่าเบื่อของตนมาตลอด ทว่าความโหดร้ายเช่นนี้เพิ่งได้พบเป็นครั้งแรก รอยยิ้มที่มุมปากของเขาคลี่แย้มอีกครั้ง ยื่นมือไปเชยคางกู้ซีจิ่ว “ปณิธานช่างเด็ด เดี่ยวนัก…ทำอย่างไรดี? ดูเหมือนข้าจะต้องการเจ้ายิ่งกว่าเดิมแล้ว”
กู้ซีจิ่วรวบรวมกำลังยกมือขึ้นปัดอุ้งเท้าหมาป่าของเขาออกไป “ต้องการข้า? ตี้ฝูอี เจ้าไม่เกรงกลัวว่าวันหน้าข้าจะสังหารเจ้าข้างหมอนหรือ?”
“สิ้นชีพใต้โบตั๋นบานสะพรั่ง มอดม้วยเป็นผีก็สุขสำราญมิใช่หรือ? นับประสาอะไรกับเจ้าที่ตอนนี้ยังไม่มีฝีมือถึงเพียงนั้น” ตี้ฝูอีคล้ายว่าจะไม่ใส่ใจ ดวงตาคู่นั้นจับจ้องวงหน้าเฉิดฉันของเธอ “กู้ซีจิ่ว ตอนนี้เจ้าไม่มีทางเลือกแล้ว!”
กู้ซีจิ่วโกรธจัดหน้าเธอซีดเผือด กระอักโลหิตออกมาเสียงดังอั่ก…
หลงซือเย่ตื่นตระหนก “ซีจิ่ว!”
กู้ซีจิ่วกระอักครั้งนี้สะเทือนไปถึงบาดแผล เจ็บปวดเจียนตายขึ้นมาในทันใด ร่างกายที่อยู่ในอ้อมแขนหลงซือเย่สั่นสะท้านอย่างควบคุมไม่ได้
ตี้ฝูอีปราดเข้ามามือไม้ว่องไวปานสายฟ้า กดลงบนร่างกู้ซีจิ่วอย่างต่อเนื่อง กดจุดบนร่างเธอเจ็ดแปดจุดในชั่วพริบตา ความเร็วของเขาว่องไวนัก หลงซือเย่ไม่มีทางขวางไว้ทัน จึงขึงตามองเขาอย่างขุ่นเคือง “เจ้าทำอะไร?!”
ตี้ฝูอีถอยหลังไปเล็กน้อย นํ้าเสียงเยียบเย็นนิดๆ “นางกระอักโลหิตคำนี้ออกมาก็ดีขึ้นมาแล้ว ก่อนหน้านี้นางสะกดกลั้นไว้ตลอด ถึงทำให้บาดแผลเจ็บปวดเช่นนี้”
หลงซือเย่ถามอย่างไม่แน่ใจ “…เจ้าพูดจริงหรือหลอก?”
ตี้ฝูอีคร้านจะสนใจเขา สายตาทอดมองใบหน้ากู้ซีจิ่ว “ตอนนี้เจ้ารู้สึกอย่างไร?”
นํ้าเสียงจริงจังขึ้นมาอย่างที่พบเห็นได้ยาก
กู้ซีจิ่วทึ่มทื่ออยู่หลายวินาที สำรวจร่างกายตามสัญชาตญาณ ดูเหมือนความเจ็บตรงทรวงอกนั้นจะทุเลาลงบ้างแล้วจริงๆ การหายใจก็ราบรื่นขึ้น ไม่น้อย
หลงซือเย่มองท่าทีของกู้ซีจิ่ว ก็ทราบเช่นกันว่าเธอดีขึ้นมา จึงถอนหายใจอย่างโล่งอก “เมื่อครู่เจ้าพูดจาน่ารังเกียจเช่นนั้นเพื่อกระตุ้นให้นางกระอักโลหิตหรือ?”
ตี้ฝูอีตอบด้วยนํ้าเสียงเฉยชา “ถ้านางไม่กระอักโลหิตคำนี้ออกมาคาดว่าเทพเซียนก็ช่วยเหลือนางไม่ได้แล้ว”
ที่แท้คำพูดบัดซบพวกนั้นที่เขากล่าวออกมาเมื่อครู่ก็เพื่อกระตุ้นให้เธอกระอักเลือด กู้ซีจิ่วก็ไม่รู้ว่ารู้สึกโล่งใจหรือว่ารู้สึกอย่างไร เธอสูดลมหายใจเข้า ไปนิดๆ มองเขาพลางกล่าว “เช่นนั้นขั้นต่อไปต้องทำอย่างไร?”
ตี้ฝูอีเลิกคิ้ว ราวกับนางเอ่ยคำถามโง่ๆ ออกมา “ขั้นต่อไปย่อมต้องตอบรับเงื่อนไขของข้า จากนั้นข้าถึงจะช่วยเจ้า”