บทที่ 708 ต้องการโจมตีเขา
ตอนนี้เธอรับรู้ถึงยามที่นิ้วมือเยียบเย็นนิดๆ ของเขาสัมผัสโดนจุดที่ไวต่อความรู้สึกของเธอ นี่ทำให้เธอลำบากใจยิ่งนัก ทำได้เพียงหลับตาลงแล้ว มองว่าตัวเองเป็นคนไข้ของเขา ควบคุมไม่ให้ตนมีปฏิกิริยาใดๆ
ฝ่ามือเขากดที่บาดแผลของเธอโดยตรง นิ้วมือคร่อมทับเนินอกของเธอกึ่งหนึ่ง เห็นอยู่ชัดๆ ว่าฝ่ามือเขาเย็นเฉียบ ทว่ากระแสอุ่นร้อนค่อยๆ ไหลตรงเข้าสู่บาดแผลเธอ บาดแผลที่เจ็บปวดรุนแรงนั้นคล้ายจะได้รับการบรรเทา ไม่เจ็บจนกล้ามเนื้อหดเกร็งอีก ค่อยๆ ผ่อนคลายแล้วหายไปช้า ๆ…
อันที่จริงกู้ซีจิ่วค่อนข้างสงสัยยิ่งนัก ในเมื่อคนผู้นี้ปิดตาไว้แล้ว เหตุใดถึงจดจำตำแหน่งแผลของเธอได้แม่นยำถึงเพียงนี้?
ไม่มีคลาดเคลื่อนเลยสักนิด นิ้วเขาเคลื่อนไหวแค่ที่บาดแผลเธอ ไม่แตะต้องส่วนอื่นของเธอเลย หรือว่าแพรดำบนตาเขาจะไม่เป็นผลเลย?
แค่ทำเพื่อให้เธอสบายใจหรือเปล่า?
ยามนี้ข้อสงสัยนี้ของกู้ซีจิ่วมีความเป็นไปได้ยิ่งนัก แต่ไม่อาจถามออกมาได้ ถ้าถามออกมาต่อให้เขาตอบแล้วจะอย่างไรเล่า?
เธอไม่ยอมให้เขารักษาบาดแผลให้ตนได้หรือ?
ช่างเถอะ!
คิดซะว่าไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาล คิดซะว่าคนที่อยู่เบื้องหน้าผู้นี้เป็นหมอชายแผนกนรีเวช…
ในที่สุดฝ่ามือเขาก็ผละออกไป เธอรับรู้ได้ว่าเขาป้ายยาสมานแผลอย่างหนึ่งที่เย็นนิดๆ ลงบนแผลเธอ ถึงแม้แผลนั้นจะยังเจ็บอยู่ แต่อยู่ในระดับที่พอทนได้แล้ว เขาและเธออยู่ใกล้ชิดกันยิ่งนัก เธอสามารถสัมผัสถึงทุกการเคลื่อนไหวของเขาที่อยู่ด้านบนได้ ท้องนิ้วของเขาเย็นนิดๆ ทว่านุ่นนวลอ่อนโยน ยามสัมผัสแผ่วเบาปานขนนก ทำให้หัวใจคนเหมือนจะอ่อนโยนขึ้นมาเช่นกัน ของเหลวหยดหนึ่งคล้ายจะหยดลงมาจากด้านบน ร่วงลงบนผิวขาวเนียนของเธอ เธอชะงักไปเล็กน้อย ขณะที่กำลังจะขยับ จู่ๆ เขาก็อุ้มเธอขึ้นมา เธอยังไม่ทันได้ร้องอุทาน เขาก็พลิกตัวเธอเข้ามา ให้เธอ
นอนคว่ำบนขาเขาแล้ว จัดการบาดแผลตรงแผ่นหลังให้เธอ…
เนื่องจากก่อนหน้านี้กู้ซีจิ่วเจ็บปวดอยู่ตลอด เหงื่อเย็นเฉียบไหลโซมทั่วร่าง ยามนี้ตัวคนราวกับถูกแช่ไว้ในนํ้ามาก่อน ยามที่เธอฟุบคว่ำบนขาเขาก็สัมผัสได้รางๆ ว่าอาภรณ์บนร่างเขาก็เปียกชื้นเช่นกัน แต่ก็ไม่มั่นใจเต็มที่ เพราะอย่างไรเสียแม้กระทั่งมือเธอก็ชุ่มเหงื่อไปหมดเช่นกัน…
ภายในห้องเงียบมาก เงียบจนได้ยินเพียงเสียงลมหายใจของกันและกัน
กู้ซีจิ่วพยายามปล่อยให้ความคิดว่างเปล่า ทำให้ตนไม่คิดอะไร
เวลาก็ล่วงเลยไปจนปานนี้แล้ว ระหว่างนี้คนทั้งสองไม่ได้พูดคุยกัน และบางทีอาจไม่จำเป็นต้องพูดคุยด้วย
ในตอนท้ายสุด เธอถูกวางกลับลงไปบนเตียง เธอผ่อนลมหายใจออกมาเบาๆ สัมผัสได้ว่าบาดแผลที่ด้านหน้าและด้านหลังของตนทั้งสองแห่งล้วนได้รับการพันแผลอย่างเหมาะสมแล้ว
“ขอบคุณมาก” เธอกล่าวสามคำนี้ออกมา
แผลนี้ของเธอส่วนใหญ่อาจมีสาเหตุมาจากเขา แต่ถึงอย่างไรเขาก็ช่วยเธอไว้ เธอรับรู้ได้ว่าพลังวิญญาณในร่างตนไม่ได้หายไปมากนัก
ก่อนหน้านี้สัมผัสได้อย่างชัดเจนว่าไหลหายไปอย่างรวดเร็วยิ่ง หรือจะรู้สึกหลอนเพราะกระบี่ที่อยู่บนร่าง?
“ไม่ต้องเกรงใจ” เขานิ่งไปสามวินาทีค่อยตอบ นํ้าเสียงก็เฉยชาเช่นเคย “นี่คือข้อตกลงระหว่างข้ากับหลงซือเย่ ไม่เกี่ยวกับเจ้า”
น่าขันเสียจริง เห็นกันอยู่ชัดๆ ว่าเป็นเรื่องใหญ่ที่เกี่ยวพันถึงชีวิตเธอ ทว่าสองคนนี้กลับโยนเธอทิ้งไว้นอกสายตาโดนสิ้นเชิง กู้ซีจิ่วเม้มริมฝีปากนิดๆ
เสียงเขาดังขึ้นมาอีกครั้ง “เอาล่ะ เจ้าต้องนอนพักบนเตียงสองวัน สองวันให้หลังถึงจะลุกจากเตียงได้ ภายในสิบวันนี้ไม่อนุญาตให้โคจรพลังวิญญาณ พยายามเลี่ยงกิจกรรมที่ต้องเคลื่อนไหวหนักๆ ให้น้อยที่สุด ห้ามกินของเผ็ด ทานอาหารรสอ่อน…”
เขาร่ายข้อควรระวังบางส่วนออกมา กู้ซีจิ่วเงียบอยู่ครู่หนึ่ง ทันใดนั้นก็เปิดปากเอ่ยช้าๆ “ข้าเคยบอกท่านหรือไม่ว่าข้ากับหลง
ซือเย่มาจากยุคเดียวกัน…”
ตี้ฝูอีนิ่งไปแวบหนึ่ง “แล้วอย่างไรเล่า?”