Skip to content

ลำนำบุปผาพิษ 795

บทที่ 795 กิ่งหลิวที่ดัดจนกลายเลขแปด

เมื่อคิดถึงชื่อเสียงของตน สุดท้ายแล้วกู้ซีจิ่วยังคงต้องทำตามที่เขาข่มขู่อยู่ดี แค่ครึ่งเดือนเท่านั้น เธออดทนไว้เดี๋ยวก็ผ่าน

ไปแล้ว

เธอยืนรออยู่ใต้ต้นไม้ใหญ่ต้นหนึ่ง เนื่องจากค่อนข้างเบื่อ เธอเลยหักกิ่งหลิวก้านหนึ่งมาดัดเล่น

สายลมพัดโชยมาวูบหนึ่ง หลงซือเย่ปรากฏตัวขึ้นไม่ไกลจากข้างกายเธอ

กู้ซีจิ่วแข็งทื่อเล็กน้อย โยนกิ่งหลิวในมือก้านนั้นทิ้งไป

หลงซือเย่มองกิ่งหลิวบนพื้นที่ถูกเธอดัดจนกลายเลขแปด แล้วก็มองดูเธอ นัยน์ตาคล้ายมีประกายแสงวาบผ่าน

ทว่ากู้ซีจิ่วกลับใจหายแวบ การเคลื่อนไหวเล็กๆ น้อยๆ ตามความเคยชินของตนสำคัญมากจริงๆ!

คนอื่นอาจไม่ใส่ใจ แต่หลงซือเย่คุ้นเคยกับเธอมาก ไม่แน่ เขาอาจมองพิรุธออกจากการเคลื่อนไหวเล็กๆ น้อยๆ บางอย่างของเธอ!

เธอตีหน้านิ่ง แล้วยื่นมือไปหักกิ่งหลิวมาอีกก้าน ดัดเป็นวงหลายวง แล้วยิ้มแวบหนึ่ง “การละเล่นของสาวน้อย ไม่รู้จริงๆ ว่าสิ่งนี้สนุกอย่างไร แต่นางก็ติดการเล่นเช่นนี้ยิ่งนัก”

จากนั้นก็โยนทิ้ง ปัดมือเล็กน้อย เอนกายพิงต้นไม้อย่างเกียจคร้าน จากนั้นก็เอ่ยทักทายหลงซือเย่อย่างเอื่อยเฉื่อย “เจ้าสำนักหลง สบายดีกระมัง?”

พูดถึงเธอก็ไม่ได้เจอเขามาสามวันแล้ว ระยะเวลาสามวันไม่สั้นไม่ยาว ทว่าร่างของหลงซือเย่กลับผอมลงหนึ่งรอบตัว

กู้ซีจิ่ว รู้สึกผิดต่อเขาอยู่ในใจ แต่ไม่กล้าเผยสีหน้าอะไรออกมา หลังจากส่งเสียงทักทาย เธอก็หันหลังคิดจะจากไป

“ตี้ฝูอี ข้าอยากคุยกับเจ้า ” หลงซือเย่ขวางทางเธอไว้อย่างมีเจตนาและ ไร้เจตนา

กู้ซีจิ่วเลิกคิ้วขึ้น ดูเหมือนค่อนข้างไม่สบอารมณ์ “ข้าไม่มีหน้าที่ต้องคุยเป็นเพื่อนเจ้า”

ตอนนี้เธอไม่อยากสนทนาลงลึกกับเขา ด้วยเกรงว่าจะเผยพิรุธออกมา

“ขอเวลาให้ข้าห้านาทีได้หรือไม่?” หลงซือเย่มองเธอ

กู้ซีจิ่วสะบัดหน้าจากไป

“นาทีเดียว! นาทีเดียวก็ไม่ได้หรือ?” หลงซือเย่ที่อยู่ด้านหลัง ไม่ยอมถอดใจ

กู้ซีจิ่วไม่สนใจ

“ซีจิ่ว! ฉันรู้นะว่าเป็นเธอ!” หลงซือเย่ปาระเบิดออกมาทันที

ฝีเท้ากู้ซีจิ่วชะงักเล็กน้อย เขาดูออกแล้วหรือ?!

ไม่สิ เขาอาจแสร้งหยั่งเชิงเธอเท่านั้น…

ขณะที่กู้ซีจิ่วกำลังจะก้าวต่อไป นํ้าเสียงของหลงซือเย่ก็แว่วเข้ามาอีก ‘พวกเธอสลับร่างกันใช่ไหม? ซีจิ่ว ตี้ฝูอีกลัวว่าฉันจะทำร้ายเขา เลยไม่ยอมบอกความจริง เธอก็กลัวเหมือนกันเหรอ? เธอคิดว่าฉันจะทำร้ายเธอเหรอ?’

เขาใช้วิธีส่งกระแสเสียง เห็นได้ชัดว่าเขาทราบถึงอันตราย จึงไม่เปิดโปงออกมาต่อหน้าผู้อื่น

ตบตาครูฝึกหลงไม่ใช่เรื่องง่ายจริงๆ ด้วย!

กู้ซีจิ่วได้แต่ยืนนิ่ง ยังคงใช้โทนเสียงของตี้ฝูอีเหมือนเดิม “เจ้าจะคุยอะไรกับข้า?”

หลงซือเย่ถอนหายใจอย่างโล่งอก เผยท่าทีเป็นการเป็นงานออกมา “ตี้ฝูอี ในเรือนข้าเตรียมสุรารสบางเอาไว้ มิสู้พวกเราไปดื่มกันสักจอก?”

“นับข้าไปด้วยสิ” เสียงหนึ่งแว่วมาไม่ไกล

กู้ซีจิ่วหันไปมอง เห็นตี้ฝูอียืนอยู่ตรงนั้น กำลังมองเธอกับหลงซือเย่ด้วยรอยยิ้ม

….

สุดท้ายแล้วทั้งสามคนก็ไม่ได้ไปดื่มสุราที่เรือนของหลงซือเย่ แต่ไปที่เรือนของตี้ฝูอีแทน เนื่องจากเรือนของตี้ฝุอมี สุราดีมากมาย

ณ สวนด้านหลังเรือน

ในสวนด้านหลังมีทะเลสาบเล็กๆ แห่งหนึ่ง กลางทะเลสาบมีศาลา ในศาลามีโต๊ะ มีม้านั่ง มีสุราและอาหาร

ทั้งสามคนนั่งล้อมวงอยู่ในศาลาหลังน้อย

“เจ้าสำนักหลงช่างเฉลียวฉลาดนัก” นี่คือประโยคแรกที่ตี้ฝูอีเอ่ยออกมา ยามที่กล่าวประโยคนี้ ถึงแม้เขาจะยังอยู่ในร่างของกู้ซีจิ่ว ทว่าสำเนียงท่าทางเป็นตัวเขาเองแล้ว

หลงซือเย่เม้มริมฝีปากบางนิดๆ เผชิญหน้ากับใบหน้านั้นของกู้ซีจิ่ว เขาเอ่ยถ้อยคำระคายหูอันใดไม่ออกจริงๆ ได้แต่เอ่ยเรียบๆ ว่า “พูดได้ดี! พูดได้ดี! สิ่งสำคัญคือข้าคุ้นเคยกับซีจิ่วเกินไป และท่านก็เผยพิรุธออกมามากเกินไปจริงๆ!”

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version