Skip to content

ลำนำบุปผาพิษ 801

บทที่ 801 จะเกิดอะไรขึ้น

“ชิงหลัว เจ้าไม่เจ็บตรงนี้บ้างหรือ?”

อวิ๋นชิงหลัวเจ็บจนสั่นสะท้าน หน้าผากมีเหงื่อเย็นเฉียบผุดซึมไม่ขาดสาย “หยุดมือ…หยุดมือ! เจ้าหยุดมือนะ…”

คนผู้นั้นถึงได้หยุดมือลง “รู้จักเจ็บแล้วหรือ?”

“ที่แท้…ที่แท้เจ้าเป็นใครกัน?! เจ้ามิใช่…มิใช่หุ่นเชิดของข้า!”

แววตาอวิ๋นชิงหลัวหวาดผวา เมื่อครู่นางพยายามใช้วิชาหุ่นเชิดควบคุมเขา ผลคือไม่มีปฏิกิริยาตอบรับเลย

“ชิงหลัว ข้าใช่” คนผู้นั้นถอนหายใจเบาๆ “เพียงแต่ข้ามีเจ้านายคนอื่นด้วย ชิงหลัว ข้าอยู่ข้างกายเจ้ามาสองปีแล้ว ซํ้ายังมีความรู้สึกลึกซึ้งต่อเจ้า ด้วย คนผู้นั้้นถูกลิขิตไว้ว่าเจ้าจะมิได้มาครอง ไฉนไม่ทำให้ข้ากลายเป็นเขาจริงๆ เสียเล่า? เจ้าดูสิ ข้าปลอบประโลมเจ้าได้ ทำให้เจ้ามีความสุขได้ ทำให้เจ้าสุขสมได้ รูปลักษณ์ก็คล้ายคลึงเขา ด้อยกว่าเขาตรงไหน?”

อวิ๋นชิงหลัวหลับตาลง “แต่สุดท้ายแล้วเจ้าก็ไม่ใช่เขา! เจ้าเหมือนแค่รูปลักษณ์ภายนอกเท่านั้น อย่างอื่นไม่เหมือนเลยสักนิด! แม้แต่ผมสักเส้นของเขาเจ้าก็เทียบไม่ได้!”

ความขุ่นเคืองพาดผ่านดวงตาของคนผู้นั้้นแวบหนึ่ง นิ้วแทงเข้าที่แผลของนางทันที!

ร่างอวิ๋นชิงหลัวดีดตัวดั่งมัจฉา เกือบจะกรีดร้องออกมา ทว่าถูกคนผู้นั้นอุดปากไว้ทันที นางเจ็บจนร่างสั่นสะท้านปานเป็นไข้จับสั่น ดวงตาทั้งคู่เบิก

กว้าง มองหุ่นเบื้องหน้าที่เสมือนมารร้ายแปลงกายมาอย่างหวาดผวา

คนผู้นั้นมองใบหน้าไร้สีเลือดของนาง ถอนหายใจเบาๆ “อันที่จริงความเจ็บปวดนี้เป็นสิ่งที่เขามอบให้เจ้ามิใช่หรือ?”

มือของเขายังคงวนเวียนอยู่ใกล้ๆ บาดแผลนาง ร่างกายของอวิ๋นชิงหลัวใกล้จะชุ่มโชกไปด้วยเหงื่อแล้ว นางไม่กล้าต่อต้านอีก ได้แต่พยักหน้า

คนผู้นี้ดูเหมือนจะพอใจแล้ว ในที่สุดก็ปล่อยมือจากปากนาง เอ่ยถามอีกประโยค “เช่นนั้นเจ้าเกลียดเขาหรือไม่?”

อวิ๋นชิงหลัวพยักหน้าอีกครั้ง

“เช่นนี้ก็ดีแล้ว ชิงหลัว คนผู้นั้นถูกกำหนดไว้ว่ามิใช่ของเจ้า ปฏิบัติต่อเจ้าอย่างโหดเหี้ยมเช่นนี้ ทำให้จิตใจที่ภักดีของเจ้าต้องผิดหวังอย่างสิ้นเชิง เหตุเจ้ายังอยากปล่อยให้คนเช่นนี้มีชีวิตอยู่บนโลกอีกเล่า? ในเมื่อเจ้า ครอบครองเขาไม่ได้มิสู้ทำลายเขาไปเสีย! เจ้าว่าใช่หรือไม่? อย่างน้อยก่อนที่จะทำลายเขาก็ยังไม่ได้ตกเป็นของผู้ใด เช่นนั้นเจ้ามีข้าก็เท่ากับมีเขาด้วย…”

อวิ๋นชิงหลัวหน้าซีดเผือด “เจ้า…เจ้าคิดจะให้ข้าสังหารเขาหรือ?”

นิ้วมือคนผู้นั้้นปัดผ่านริมฝีปากจิ้มลิ้มของนาง “เจ้าไหนเลยจะมีความสามารถปานนั้น อีกทั้งเจ้าเข้าใกล้เขาไม่ได้แล้ว ต่อให้เจ้าเข้าใกล้เขาได้เจ้าก็มิใช่คู่ต่อสู้ของเขา เขาสังหารเจ้าได้เร็วกว่า”

“เช่นนั้น…เช่นนั้นที่เจ้าบอกให้ข้าทำลายเขา…ข้า…”

“เจ้าไม่จำเป็นต้องลงมือด้วยตัวเองเจ้า แค่ไปจัดการตามที่ข้าบอกก็พอแล้ว…” คนผู้นั้นเริ่มมอบหมายภารกิจให้นาง

ภารกิจนั้นไม่ซับซ้อน แค่แพร่กระจายคำวิจารณ์บางอย่างไปในหมู่ศิษย์เท่านั้น จากนั้นก็จับตามองบางคนไว้…

หัวใจอวิ๋นชิงหลัวสับสนว้าวุ่น ทวาบว่าหากตนก้าวไปตามเส้นทางนี้แล้ว ก็ยืนอยู่ฝั่งตรงข้ามกับคนผู้นั้นอย่างสมบูรณ์ ยากนักที่จะหันกลับไปได้อีก

ดูเหมือนคนผู้นั้นจะมองความลังเลของนางออก พลันหัวเราะเบาๆ เอ่ยข่มขู่ประโยคหนึ่ง “อวิ๋นชิงหลัว เจ้าจะไม่ทำเรื่องนี้ก็ได้ แต่ข้าจะออกไปด้านนอก ทำให้ผู้อื่นพบเห็นการมีอยู่ของข้า จะป่าวประกาศเรื่องของเจ้ากับข้าในสองปีนี้…เจ้าว่าหากปล่อยให้ตี้ฝูอีทราบเรื่องเหล่านี้เข้า จะเกิดอะไรขึ้นกับเจ้ากัน?”

อวิ๋นชิงหลัวหน้าซีด นางหลับตาลง เรื่องมาถึงขั้นนี้แล้ว นางไม่มีหนทางล่าถอยใดๆ แล้ว มีแต่ต้องปฏิบัติตามคำสั่งของคนผู้นั้น…

….

จันทร์แขวนลอยกลางนภา ดวงจันทร์ที่อยู่ตรงนั้นกลมมนดั่งแผ่นจาน เดือนเด่นดาวหมอง มีดวงดาวเพียงไม่กี่ดวงที่เจิดจรัสอยู่บนฟ้า

เสียงขลุ่ยดังขึ้นอย่างเอ้อระเหย ทำให้ใบเฟิงสีแดงสดโบกพลิ้วไปพร้อมกับเสียงขลุ่ย

หลงซือเย่สวมชุดขาวยืนอยู่ใต้ต้นไม้ เสียงขลุ่ยยังคงลื่นไหลออกมาจากปลายนิ้วของเขาไม่ขาดสาย ราวกับกำลังหวนคำนึงถึงอดีต อีกทั้งคล้ายรำพึงรำพันถึงช่วงเวลาอันงดงามที่เคยมี

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version