Skip to content

ลำนำบุปผาพิษ 825

บทที่ 825 หุ่นมนุษย์

อวิ๋นชิงหลัวชอบเขามานานแล้ว ล้วนไม่เคยได้รับการตอบรับจากเขาเลย สุดท้ายแล้วยังคงลงเอยด้วยความตายของนางหรือ นี่นับว่ากฏแห่งกรรมยุติธรรมเสมอกระมัง?

นางก็มาที่ด้านนอกสวนสวรรค์สุคนธาตามคำสั่งของหุ่นเชิด

ต่อมาได้เห็นว่ากลางนภามีคนชุดเขียวนับไม่ถ้วนร่วนลงมาประหนึ่งเกี๊ยว เนืองแน่นถึงหลักพัน!

ท่าทางยามที่คนชุดเขียวเหล่านี้ร่อนสู่พื้นค่อนข้างประหลาด คล้ายว่าเหยียดตรงอยู่ตลอด สองขาโค้งงอไม่ได้

หัวใจอวิ๋นชิงหลัวพลันเต้นแรงคนเหล่านี้คงมิใช่ว่าล้วนเป็น…ล้วนเป็นหุ่นเชิดกระมัง?!

คนชุดเขียวเหล่านั้นแต่งตัวพิกลนัก สวมเสื้อคลุมสีเขียว บนศีรษะยังสวมหมวกคลุมสีเขียว สวมหน้ากากสีเขียวไว้บนหน้าด้วย ทุกคนเขียวขจีดั่งต้น ไผ่ก็มิปาน

คนเหล่านี้ร่อนสู่พื้นอย่างไร้สุ้มเสียง ชัดเจนนักว่าวรยุทธ์ล้วนไม่อ่อนด้อย

ทันใดนั้นอวิ๋นชิงหลัวพลันรู้สึกว่าร่างกายค่อนข้างหนาวเหน็บอยู่บ้าง นางคือปรมาจารย์หุ่นเชิด มีประสาทสัมผัสพิเศษต่อหุ่นเชิด

หุ่นเชิดที่นางสร้างส่วนใหญ่จะเป็นหุ่นไม้หรือ ไม่ก็หุ่นหนัง แต่ร่างของคนชุดเขียวที่อยู่เบื้องหน้าเหล่านี้มีกลิ่นอายเฉพาะของหุ่นเชิด

สมควรเป็นหุ่นเชิด ทว่ามิใช่หุ่นไม้หรือนหุ่นหนัง แต่เป็นหุ่นมนุษย์!

ใช้มนุษย์มาสร้างเป็นหุ่นเชิด!

การใช้มนุษย์สร้างเป็นหุ่นเชิดนั้นซับซ้อนยิ่งนัก และมีเพียงปรมาจารย์หุ่นเชิดระดับสูงเท่านั้นถึงจะทำได้ อย่างเช่นท่านพ่อของนาง แต่ต่อให้เป็นท่านพ่อของนางครั้งหนึ่งก็สร้างหุ่นมนุษย์ได้แค่สองสามตัว แต่ยามนี้จู่ๆ กลับมีหุ่นมนุษย์มากมายถึงเพียงนี้โผล่มา!

แล้วผู้ที่สร้างพวกเขาขึ้นอยู่ที่ไหนกัน?

ปะปนอยู่ในหุ่นมนุษย์เหล่านี้หรือ?

ยังมีอีก หุ่นเชิดมนุษย์ก็แบ่งแยกเป็นหุ่นเป็นและหุ่นตาย หุ่นเป็นคือใช้มนุษย์ที่มีชีวิตมาทำหุ่น ก็คือการควบคุมจิตสำนึกของมนุษย์ จะเชื่อฟังคำสั่ง คนเหมือนหุ่นไม้ ส่วนหุ่นตายก็คือการสังหารมนุษย์แล้วค่อยนำมาทำหุ่น หุ่นมนุษย์ประเภทนี้ร่างกายจะแข็งทื่อยิ่งนัก เดินเหินด้วยการกระโดดเช่น เดียวกับผีดิบ

อวิ๋นชิงหลัวมองหุ่นมนุษย์เหล่านี้อย่างละเอียด คนชุดเขียวเหล่านี้นอกจากการเดินที่ดูขัดตาอยู่บ้าง อย่างอื่นล้วนดูปกติอย่างยิ่ง เช่นนั้นสรุปแล้ว พวกเขาคือหุ่นเป็นหรือว่าหุ่นตาย?

อวิ๋นชิงหลัวอดไม่ได้ที่จะขยับเข้าไปใกล้อีกนิด คนชุดเขียวผู้หนึ่งหันมาทันที กรงเล็บตะปบมาทางนาง!

สายลมเหม็นคาวตีใส่หน้า อานุภาพดั่งใบดาบ!

อวิ๋นชิงหลัวตกตะลึง คนผู้นั้นว่องไวเกินไป โจมตีอย่างดุดันยิ่งนัก นางไม่ทันตั้งตัวจึงหลบไม่พ้นไปชั่วขณะ!

กรงเล็บเบื้องหน้ากำลังจะทะลวงกะโหลกนาง ทันใดนั้นมีมือข้างหนึ่งยื่นเข้ามาจากด้านข้าง ฉุดตัวนางออกไป!

อวิ๋นชิงหลัวขวัญกระเจิง หันกลับไปมองทันที ผู้ที่ช่วยชีวิตนางคือหุ่นชุดม่วงตัวนั้นของนาง ด้วยการแต่งตัวของเขาในยามนี้รวมถึงบุคลิกท่าทางล้วนเหมือนตี้ฝูอียิ่งนัก ทำให้อวิ๋นชิงหลัวเกือบเข้าใจผิด!

นางเอ่ยด้วยนํ้าเสียงสั่นๆ “เจ้า…”

คนผู้นั้นกดริมฝีปากนางไว้ด้วยนิ้วเดียว “ชู่ว หุบปากซะ!”

เขาส่งสัญญาณให้กลุ่มคนชุดเขียว คนชุดเขียวผู้หนึ่งหยิบขลุ่ยเลาหนึ่งออกมา เริ่มเป่าขลุ่ย

เห็นชัดเจนว่าดูเหมือนจะบรรเลงท่วงทำนองอันใดอยู่ แต่อวิ๋นชิงหลัวกลับไม่ได้ยินเสียง ส่วนกลุ่มคนชุดเขียวเหล่านั้นราวกับได้ยินและฟังรู้เรื่อง มีคนชุดเขียวสิบหกคนดีดกายขึ้นมาทันที พุ่งเข้าไปในสวนดั่งควันสายหนึ่ง!

พริบตาเดียวก็เข้าไปในสวนแล้ว

ไม่รู้ว่าหลงซือเย่โผล่มาจากไหน ร่อนลงข้างกายหุ่นชุดม่วง สีหน้าเขายังคงเย็นชาเหมือนเดิม “นี่ก็คือกองหนุนของเจ้าหรือ? หุ่นเชิด?”

หุ่นชุดม่วงตัวนั้นหัวเราะเบาๆ “ต่อให้เป็นหุ่นเชิดก็สามารถกระทำการใหญ่ได้! พวกเขามิใช่หุ่นเชิดธรรมดา!”

หลงซือเย่หรี่ตานิดๆ มองคนขุดเขียวเหล่านั้น เขาเป็นผู้เชี่ยวชาญ อีกทั้งเป็นยอดฝีมือ มองผ่านๆ ก็ดูออกแล้วว่าคนชุดเขียวเหล่านี้คล้ายกับหรงเหยียนและกู้เทียนฉิงที่โจมตีเขากับกู้ซีจิ่วในป่าทมิฬหนนั้นมาก!

เหมือนเหลือเกิน!

หรงเหยียนกับกู้เทียนฉิงในยามนั้นตอนที่ยังมีชีวิตอยู่ล้วนมีพลังวิญญาณขั้นสี่ขั้นห้า พอกลายเป็นผีดิบเช่นนั้นพละกำลังก็ยังคงมหาศาลท่วมท้น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version