Skip to content

ลำนำบุปผาพิษ 827

บทที่ 827 เล่นละครต้องเล่นให้เหมือนหน่อย

กู้ซีจิ่วชื่นชมเขาจริงๆ คนผู้นี้เชี่ยวชาญสารพัดโดยแท้ ดูเหมือนจะไม่มีสิ่งใดที่เขาทำไม่ได้ คนผู้หนึ่งต่อให้มีชีวิตยืนยาว แต่บางเรื่องก็ต้องใช้พรสวรรค์จริงๆ มิใช่มุมานะก็สามารถบรรลุได้ หากไร้พรสวรรค์ ต่อให้มุมานะมากเพียงใดก็บรรลุระดับช่างผู้ชำนาญเท่านั้น มิอาจกลายเป็นปรมาจารย์ได้ แต่คนผู้นี้ไม่ว่าจะเป็นอุบาย พิณหมาก ตำราภาพ เคล็ดวิชา การจัดสวน วิชาแพทย์…ดูเหมือนจะกระจ่างแจ้งทุกสิ่ง ดั่งมิใช่มนุษย์…

บุคคลมีความสามารถเช่นนี้คืออัจฉริยะตัวจริง ปราดเปรื่องที่สุดในหมู่อัจฉริยะที่เธอเคยพบเห็นมา ในอดีตเธอรู้สึกว่าหลงซีเป็นอัจฉริยะที่น่าสะพรึงคนหนึ่ง แต่เมื่อเทียบกับทูตสวรรค์ฝ่ายซ้ายผู้นี้ นับว่าห่างชั้นกันยิ่ง!

เหนือฟ้ายังมีฟ้า เหนือคนยังมีคน โดยแท้ ช่างสมกับที่เป็นผู้นำของสานุศิษย์สวรรค์ทั้งห้า มีความสามารถถึงเพียงนี้

มิน่าเล่าเขาถึงได้บ้าระห่ำถึงเพียงนี้ จองหองถึงเพียงนี้ เป็นประสาทถึงเพียงนี้

เธอค่อนข้างเหม่อลอยไปชั่วขณะ ตี้ฝูอียื่นมือไปโบกอยู่ตรงหน้าเธอ “นี่ ดึงสติกลับมาได้แล้ว”

ในที่สุดสติกู้ซีจิ่วก็ได้สติ มองเขาอย่างประหลาดใจ “มีอะไร?”

ตี้ฝูอียิ้มมิเชิงยิ้ม “เจ้าจ้องข้าเขม็งเป็นเวลาหนึ่งถ้วยชาแล้ว ข้ารู้ว่าตัวเองรูปงามยิ่ง ทำให้คนมองตาค้างได้ง่ายๆ แต่ตอนนี้ข้าสวมหน้ากากอยู่ หน้ากากอันเดียวเจ้าก็สามารถมองอย่างเพลิดเพลินได้…ข้าถูกเจ้ามองจนขวยอายแล้ว…”

กู้ซีจิ่วนิ่งงัน เธอเอ่ยแก้ตัว “ข้าก็แค่…ก็แค่คิดจนเหม่อลอยไปหน่อยเท่านั้น…”

“โอ้ มองข้าแล้วคิดเรื่องอันใดงั้นหรือ? คงเกี่ยวข้องกับข้ากระมัง? รู้สึกว่าข้าเชี่ยวชาญรอบด้าน ความสามารถมากมาย ทำให้เจ้าเลื่อมใสมากใช่หรือไม่?”

กู้ซีจิ่วเบิกตากว้างด้วยความตะลึง “ทำไมท่านถึง …”

เจ้าคนผูนี้เป็นวิชาอ่านใจหรือ?

ตี้ฝูอียื่นผลไม้เชื่อมให้เธออันหนึ่ง “จริงๆ แล้วเรื่องนี้เดาได้ไม่ยาก เจ้ามองข้าอยู่ตลอด สีหน้าทั้งชื่นชมและตื่นตะลึง…”

เธอไม่ได้ทำสักหน่อย!

กู้ซีจิ่วลูบหน้าตามสัญชาตญาณ ตนเปิดเผยความรู้สึกออกมาถึงเพียงนี้ตั้งแต่ยามไหนกัน?!

เธอเก็บซ่อนความรู้สึกเอาไว้มาโดยตลอด มีน้อยคนนักที่สามารถเดาความรู้สึกนึกคิดของเธอจากสีหน้าเธอได้

ไม่นึกเลยว่าแค่สลับร่างกันหนเดียว ก็เปิดเผยอารมณ์ออกมาง่ายๆ เลยหรือ?

หรือว่ากล้ามเนื้อบนใบหน้านี้อยู่เหนือการควบคุมของเธอไปแล้ว?

กู้ซีจิ่วแทบจะหยิบกระจกขึ้นมาส่องดูแล้ว

มองเห็นนางทำตาโต หัวใจตี้ฝูอีพลันสั่นไหว ยกมือโอบเอวนาง จุมพิตหน้าผากนางทีหนึ่ง “ซีจิ่ว ไม่ต้องอายหรอก เจ้าเลื่อมใสข้า ข้ามีความสุขมาก”

กู้ซีจิ่วยกมือผลักเขา “ท่านคิดมากไปแล้วจริงๆ!”

เมื่อแขนของเขาโอบรอบเอวเธอ เห็นกันอยู่ชัดๆ ว่าเป็นอุณหภูมิที่ปกติมาก แต่กู้ซีจิ่วกลับมีความรู้สึกเหมือนถูกลวก จุดที่ถูกเขาโอบไว้ไวต่อสัมผัสเป็นพิเศษ ทำให้หัวใจเธอเต้นรัว

หากว่าเป็นยามที่ตี้ฝูอีไม่ต้องการให้ผู้อื่นผลักออกเช่นนั้นไม่ว่าจะทำอย่างไรก็ผลักไม่ออกแล้ว กู้ซีจิ่วไม่ได้ดิ้นรนให้หลุดพ้นจากแขนเขา ซ้ำยังถูกเขาดึงให้ขยับเข้าไปใกล้อ้อมอกเขาด้วย กลิ่นหอมอ่อนจางอบอวล ทำให้สดชื่นผ่อนคลาย กู้ซีจิ่วรู้สึกว่าตนคล้ายถูกคนย่างไว้บนไฟอ่อนๆ ทั้งร้อนทั้งแห้งและตื่นตระหนก

เธอไม่เคยมีความรู้สึกเช่นนี้มาก่อน แม้กระทั่งเมื่อก่อนตอนที่ตี้ฝูอีกอดเธอไว้ก็ไม่เคยมีเลย จุดบกพร่องที่พอเข้าใกล้เขาแล้วจะใจสั่นเช่นนี้เหมือนเพิ่งเพิ่มเข้ามาในระยะนี้…

เธอไม่อาจดิ้นรนอย่างรุนแรงได้ จึงอดไม่ได้ที่จะส่งกระเสียงหาเขา ‘ตี้ฝูอี ท่านอย่าได้เลยเถิดไป พวกเราแค่เล่นละครให้คนอื่นดูเท่านั้น’

แววตาตี้ฝูอีหม่นหมองลงเล็กน้อย ส่งกระแสเสียงตอบนางอย่างเคร่งขรึมจริงจัง ‘เล่นละครก็ต้องเล่นให้เหมือนหน่อย ระหว่างคู่รักเดิมทีก็ควรโอบกอดกันอยู่แล้ว’

กู้ซีจิ่วหน้าอึมครึม คำพูดของเขาดูเหมือนจะน่าขนลุกขึ้นเรื่อยๆ แล้ว

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version