Skip to content

ลำนำบุปผาพิษ 849

บทที่ 849 เจ้าเป็นชายชาญทำตัวกระเง้ากระงอดไปเพื่อการใด

เยี่ยนเฉินมองอยู่ครู่หนึ่งก็เอ่ยชม “ยอดเยี่ยม! ซีจิ่ว นึกไม่ถึงว่าเจ้าจะมีพรสวรรค์ด้านนี้ด้วย! ช่างน่าเลื่อมใส!”

เชียนหลิงอวี่ที่อยู่ด้านข้างก็ตาลุกวาว “ข้าจะเอาด้วย! ซีจิ่วเจ้าออกแบบให้ข้าด้วยสิ!”

เยี่ยนเฉินเตะเขาออกไปทันที “รังสุนัขของเจ้าจัดแจงดีแล้วมิใช่หรือ? แสงทองวาววับ เสียดตาคน…”

“ซีจิ่วดูแล้วบอกว่าไม่เหมาะนี่ บอกว่าแบบนี้จะก่อเป็นแสงอะไรสักอย่างเป็นภัย ทำให้ข้าไม่เติบโต ดังนั้นข้าจะออกแบบใหม่! ซีจิ่ว

เจ้าออกแบบให้ข้าใหม่ได้ไหม?” เชียนหลิงอวี่เข้าไปกระตุกแขนเสื้อกู้ซีจิ่วทันที

ใกล้หมึกย่อมเปื้อนหมึก เขาเห็นจิ้งจอกน้อยกระตุกแขนเสื้อกู้ซีจิ่วเช่นนี้ประจำ จากนั้นไม่นานก็ทำให้นางใจอ่อนได้…

ดังนั้นเขาจึงทำหน้าหนาเลียนแบบดู

เยี่ยนเฉินทนมองสิ่งนี้ไม่ได้จริงๆ เอ่ยหยามเขา “เจ้าเป็นชายชาญทำตัวกระเง้ากระงอดไปเพื่อการใด?!”

ทั้งสี่คนเอะอะมะเทิ่งกันอยู่ภายในห้อง แต่เห็นได้ชัดเจนยิ่งนักว่าสี่คนนี้เข้ากันได้ดีเป็นพิเศษ

หลงซือเย่ค่อนข้างนั่งไม่ติดอยู่บ้าง จู่ๆ เขาก็รู้สึกว่าศัตรูความรักของตนดูเหมือนจะมิใช่ตี้ฝูอีเพียงคนเดียว เยี่ยนเฉินกับเชียนหลิงอวี่ที่อยู่ในห้องก็อันตรายมากเช่นกัน โดยเฉพาะเชียนหลิงอวี่ หลายวันมานี้เจ้าเด็กนี่แทบจะวอแวกู้ซีจิ่วอยู่ตลอด แต่ผู้อื่นเป็นเพื่อนร่วมชั้นของเธอ แถมยังเป็นเพื่อนกลุ่มเดียวกันด้วย อยู่ด้วยกันทุกวันก็เป็นเรื่องที่ไม่อาจตำหนิได้

วินาทีนั้นหลงซือเย่รู้สึกว่า ถ้าตนเป็นอาจารย์ของกู้ซีจิ่วย่อมมิอาจเข้าใกล้ได้ดั่งศาลาใกล้สายชลมักได้ชมจันทร์ก่อน สู้เป็นสหายร่วมชั้นของเธอไม่ได้…

เขาอดไม่ได้ที่จะมองตี้ฝูอีแวบหนึ่ง คนผู้นี้ปกติแล้วกระทำการใดล้วนไร้ขีดจำกัดล่าง ทำตามอำเภอใจ แต่ก็เก็บซ่อนความคิดได้มิดชิด เขานั่งดื่มชาอยู่ตรงนั้น สีหน้าเฉื่อยชาอยู่ตลอด มองอะไรไม่ออกเลย

หลงซือเย่ไม่เชื่อว่าคนผู้นี้จะยอมปล่อยมือจากกู้ซีจิ่วจริงๆ น่าจะวางแผนอะไรอยู่…

เมื่อลงมือย่อมออกกระบวนท่าใหญ่เป็นแน่!

เด็กทั้งสี่ในห้องนั้นคึกครื้นนัก ยามนี้เหมือนจะเริ่มเล่นทายนิ้ว[1]นแล้ว

ในเมื่อกู้ซีจิ่วเคยเป็นนักฆ่ามาก่อนเธอย่อมคุ้นเคยกับเกมกรอกสุราเช่นนี้ยิ่งนัก แถมยังคอแข็งมากด้วย ยามเล่นทายนิ้ว มักจะเล่นจนคนอื่นลงไปกองอยู่ใต้โต๊ะประจำ

ดังนั้นเมื่อเธอเล่นเล่นทายนิ้วกับเด็กน้อยสามคนนี้จึงชนะมากกว่าแพ้

ล้วนเป็นเป็นเด็กน้อยเยาว์วัยด้วยกันทั้งสิ้น พอเล่นขึ้นมาก็บ้าดีเดือดยิ่งนัก แม้แต่หลานไว่หูเผยออกมาเช่นกัน

ในบรรดาคนที่อยู่ที่นี่หลานไว่หูแพ้บ่อยที่สุด และคนแพ้ก็ต้องดื่มสุราบ้าง ทำการแสดงบ้าง จิ้งจอกน้อยค่อนข้างไม่ได้เรื่อง ดื่มสุราไม่กี่จอกก็เมาได้ง่ายๆ แถมนางยังแสดงไม่เป็นอีก ด้วยเหตุนี้เยี่ยนเฉินจึงทำได้เพียงดื่มแทนนาง ความสามารถในการดื่มของเยี่ยนเฉินก็ธรรมดาทั่วไป ผนวกกับ บทลงโทษของตัวเขาเองด้วย หลังจากดื่มไปสิบกว่าจอกใบหน้าหล่อเหลาของเขาก็แดงก่ำแล้ว

จิ้งจอกน้อยปวดใจอยู่บ้าง หักใจให้เขาดื่มแทนตนไม่ได้อีกต่อไป ด้วยเหตุนี้จึงขอร้องกู้ซีจิ่ว เดิมทีกู้ซีจิ่วก็คิดจะดื่มแทนนางอยู่หลายจอก ทว่าจู่ๆ เชียนหลิงอวี่กลับเสนอความเห็นขึ้นมา “ซีจิ่ว เจ้าร้องเพลงได้ไม่เลวยิ่งนัก มิสู้เจ้าร้องออกมาสักเพลง?”

กู้ซีจิ่วก็เมานิดๆ แล้วเหมือนกัน อีกทั้งการร้องเพลงก็เป็นจุดแข็งของเธอ ดังนั้นจึงไม่ปฏิเสธ อ้าปากขับขานบทเพลง เธอพยายามเลือกบทเพลงแนวโบราณ ด้วยเกรงว่าถ้าเลือกเพลงสมัยใหม่เกินไปพวกเขาจะเกิดความสงสัย นํ้าเสียงเธอใสกระจ่างกังวาน ขับขานอย่างชำนิชำนาญ อบอุ่นปานสายลมฤดูใบไม้ผลิ ทว่าแฝงความเยือกเย็นดั่งหิมะแรกฤดูใบไม้ผลิไว้รางๆ ด้วย

ฮวาอู๋เหยียนมองสามคนที่เหลือบนโต๊ะของตน พวกเขาล้วนเงียบงัน ไม่มีใครพูดอะไร ตี้ฝูอีมิใช่คนพูดมากอยู่แล้ว แต่นิ้วมือข้างหนึ่งกลับเคาะหน้า โต๊ะ เข้าจังหวะเบาๆ

หลงซือเย่แววตาวูบไหว หยิบขลุ่ยเลาหนึ่งขึ้นมาบรรเลงตามจังหวะนางอย่างสบายๆ

เสียงเพลงในห้องหยุดครู่หนึ่งแล้วขับขานต่อ

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version