บทที่ 872 ไหนเรียกปะป๊าสิ
เพียงแต่สาวน้อยผู้นี้เข้าใจความรู้สึกของตนเองผิด อันที่จริงนางรักหลงซือเย่แบบสหาย ชมชอบแบบที่ชอบพี่ชาย…
ที่เขาทำคือช่วยให้นางเข้าใจความรู้สึกของนางเอง มิใช่แสร้งปล่อยเพื่อจับ
สมองเขาเลอะเลือนไปแล้วหรือ ถึงได้เชื่อความคิดเน่าๆ ประเภทนี้ของมู่อวิ๋น!
เขาลุกขึ้นยืน คิดจะไปดูนางสักหน่อย แต่ก็กลํ้ากลืนไว้ นางเหนื่อยล้ามากแล้ว ให้นางพักผ่อนดีๆ สักคืนก่อนแล้วกัน ไม่ว่าเรื่องอะไรก็รอให้ถึงเย็นวันพรุ่งก่อนแล้วค่อยว่ากัน
….
กู้ซีจิ่วเหนื่อยล้ามากจริงๆ หลังจากกลับถึงเรือนตน ก็นอนหลับไปแทบจะทันที
เธอฝันอย่างหนึ่ง เป็นความฝันที่ค่อนข้างพิสดารอย่างยิ่ง
ในฝันเธอกลายเป็นทารกน้อยอายุไม่ถึงสามเดือนคนหนึ่ง นอนอยู่ในโลงแก้วผลึกที่เต็มไปด้วยของเหลวสีชมพูอ่อน เสมือนนักประดานํ้าที่ล่องลอยอยู่ด้านใน และด้านนอกโลงแก้วผลึก มีชายร่างสูงที่หล่อเหลาในชุดกาวน์สีขาวคนหนึ่งยืนอยู่
หลงซี!
ไม่ถูกสิ คนๆ นี้ถึงแม้หน้าตาจะเหมือนหลงซีทุกอย่าง แต่มีสง่าราศีกว่าหลงซีมาก มีรังสีกดดันชนิดหนึ่งอยู่รางๆ คนๆ นี้คือนักวิทยาศาสตร์สติเฟื่องคนนั้น!
คนผู้นี้ยิ้มน้อยๆ มองดูเธอ ทาบมือลงบนโลงแก้วผลึกที่บรรจุเธอไว้ “หนูน้อย เธอสมบูรณ์แบบมาก สมบูรณ์แบบยิ่งกว่าอาซีเสียอีก”
เธอทำได้เพียงเบิกตากว้างมองดูเขา
คนๆ นี้หัวเราะเบาๆ “มีสติปัญญาแล้วสินะ เป็นหนูน้อยที่เฉลียวฉลาดคนหนึ่ง ไหนเรียกปะป๊าสิ”
หัวคิ้วน้อยๆ ของเธอขมวดนิดๆ ยังคงมองเขาเช่นเดิม
“หนูน้อย สามีภรรยาตระกูลเย่แค่อยากหาแหล่งอวัยวะสำรองสักคนให้ลูกสาวของพวกเขา แต่ปะป๊าไม่คิดจะทำแบบนั้นหรอกนะ เธอเป็นสิ่งที่ฉันสร้างขึ้นมา เป็นมนุษย์ที่สมบูรณ์แบบมาก แข็งแกร่งกว่าลูกสาวที่สามีภรรยาตระกูเย่ให้กำเนิดมากนัก”
นักวิทยาศาสตร์สติเฟื่องคนนั้นพูดเองเออเองกับเธอที่อยู่ในโลงแก้วผลึก พูดคุยกับเธออย่างอ่อนโยนอยู่พักหนึ่ง สักพักก็ฉีดของเหลวชนิดใหม่เข้าไปในโลงแก้วผลึกอีกครั้ง
เห็นได้ชัดว่าของเหลวนั้นทำให้เธอทรมานมาก เธอดิ้นทุรนทุรายอยู่ในด้านใน สะบัดตัวเหมือนปลา
นักวิทยาศาสตร์สติเฟื่องคนนั้นมองเธออยู่ตลอด รับชมทุกปฏิกิริยาและทุกการกระทำของเธอ
ในที่สุด เธอก็ไม่ดิ้นทุรนทุรายแล้ว ร่างกายที่อยู่ภายในของเหลวเหล่านั้นสงบลงอีกครั้ง ร่างกายของเธอคล้ายจะเติบโตขึ้นนิดหน่อย ดูเหมือนเด็กอายุหนึ่งขวบแล้ว
นักวิทยาศาสตร์สติเฟื่องคนนั้นเหมือนจะศึกษาโลงแก้วผลึกของเธออยู่พักใหญ่ ถึงได้ถอดเสื้อกาวน์ออก ติดหนวดเคราลงบนหน้า จากนั้นก็ออกไป
ภาพในฝันสลับสับเปลี่ยนไปรวดเร็วยิ่ง และตัดสลับกันอย่างวุ่นวายอยู่บ้าง
สักพักนักวิทยาศาสตร์สติเฟื่องคนนั้นก็เข้ามาพูดคุยกับเธอ
สักพักเด็กน้อยหน้าตาอ่อนเยาว์คนหนึ่งก็วิ่งเข้ามาดูเธอเด็กคนนี้น่าจะเป็นหลงซีในวัยเด็ก!
แรกเริ่ม หลงซีน้อยมองเธออย่างอยากรู้อยากเห็น ต่อมาไม่รู้ว่าคนอื่นพูดอะไรกับเขา ยามที่หลงซีน้อยมองเธออีกครั้งนัยน์ตาก็ฉายแววประหลาดออกมา ราวกับมองตัวน่าสงสารตัวหนึ่ง…
หลงซีน้อยก็มาคุยกับเธอบ่อยๆ เหมือนกัน เพียงแต่เธอไม่เคยตอบโต้เขาเลย เพียงใช้นัยน์ตาที่ขาวดำตัดกันชัดเจนมองดูเขา ฟังเขาพูดเจื้อยแจ้ว พูดถึงความกลัดกลุ้มของเขา
เมื่อพูดมาถึงตอนสุดท้าย หลงซีน้อยมักจะกำหมัดน้อยๆ ขึ้นมาแล้วกล่าวออกมาว่า “ข้าเกลียดสามีภรรยาตระกูลเย่! พวกเขาเห็นแก่ตัวเกินไป! เธอกับฉันป็นมนุษย์โคลนนิ่งเหมือนกัน แต่พวกเขาไม่เห็นพวกเราเป็นคนเลยสักนิด เธอน่าสงสารกว่าฉัน พวกเขาแค่อยากใช้เธอต่างแหล่งอวัยวะสำรองเท่านั้น เป็นแหล่งอวัยวะให้ลูกสาวของพวกเขาตลอดไป เธอน่าสงสารกว่าฉัน…”
อาจเป็นเพราะท่าทางที่โบกกำปั้นไปมาของเขาดูน่าสนุก ปากเล็กๆ ของเธอที่อยู่ในโลงแก้วผลึกจึงแย้มยิ้มออกมาเป็นครั้งแรก…
หลงซีน้อยพุ่งเข้ามาดวงตาฉายแววตื่นเต้นยินดี แทบจะนอนแปะอยู่บนโลงแก้วผลึก “เธอยิ้มเป็นแล้ว! ว้าว เธอยิ้มเป็นแล้ว! เธอยิ้มแล้วน่ามองจริงๆ”
เธอที่อยู่ในของเหลวนั้นพลิกตัวคราหนึ่ง มือน้อยๆ แนบลงบนตัวโลงแก้วผลึกโดยมิได้ตั้งใจ