บทที่ 886 เขาไม่อยากหยุด…
หัวใจเธอเต้นผิดจังหวะทันที หมายจะรีบหลบ ดวงตาเขาฉายแววลุ่มลึกแวบหนึ่ง ริมฝีปากทาบทับลงมาทันที
สมองกู้ซีจิ่วเกิดเสียงดังตูม เรียวปากถูกเขายึดไว้แล้ว ริมฝีปากถูกเขาใช้ปลายลิ้นง้างเปิดอย่างง่ายดาย ลิ้นของเขารุกล้ำเข้ามากวาดต้อนอยู่ในปากเธออย่างกำเริบเสิบสาน
จูบของเขาก็เป็นเช่นเดียวกับตัวเขา ดูเหมือนจะสงบเยือกเย็น ทว่าดุดันทรงพลังยิ่ง เสมือนคลื่นที่ซัดสาดอยู่ในมหาสมุทร สามารถฉุดผู้คนให้จมลึกลงไปได้
จูบของเขาราวกับดอกฝิ่น ทำให้ที่สมองที่กระจ่างแจ้งแจ่มชัดอยู่เสมอของเธอเหลวเป็นแป้งเปียกได้ภายในชั่วพริบตา หัวใจเต้นกระหน่ำดั่งมิใช่ของตน
เห็นได้ชัดว่าตี้ฝูอีก็สะกดกลั้นไว้นานยิ่งนักแล้วเช่นกัน หลายวันมานี้เขาจงใจหมางเมินเย็นชากับนาง ทว่ากลับสนใจนางอยู่ตลอดเวลา ฝืนควบคุมตัวเองไม่ให้เข้าใกล้นาง เห็นนางอยู่กับหลงซือเย่เขาก็ฝืนข่มกลั้นไว้ไม่จับตัวหลงซือเย่ไปโยนทิ้งนอกอวกาศ!
เขาหยิ่งทะนงมาโดยตลอด เขาเห็นหลงซือเย่ขวางหูขวางตา แต่ก็ไม่คิดจะใช้อำนาจของเทพศักดิ์สิทธิ์กีดกันหลงซือเย่ออกไปโดยตรง เขาอยากพึ่งพาความสามารถของตนแข่งขันกับหลงซือเย่อย่างยุติธรรม ไม่อยากใช้อุบายชั่วช้าเพื่อครอบครองกู้ซีจิ่ว…
ยามนี้ในที่สุดก็ได้โอบกอดนางอันเป็นที่รักไว้ในอ้อมแขน เขาอยากจูบนางมานานแล้ว เพียงไม่อยากทำให้นางโมโหจึงห้ามตัวเองมาตลอด
ยามนี้นางนำปากน้อยๆ ของตนมาส่งให้ถึงปากแล้ว เขาย่อมไม่เกรงอีกต่อไป สิ่งเหนี่ยวรั้งที่เรียกว่าสติสัมปชัญญะขาดสะบั้นทันที ป้อนจูบให้นางอย่างดูดดื่ม!
นางคือสิ่งเสพติดของเขา จุมพิตนางเพียงหนเดียวก็ติดใจอยากลิ้มรสอีก ทำให้จูบแล้วยังคงอยากจูบอีก…
แต่จุมพิตนี้กินเวลาไม่นานนัก เนื่องจากกู้ซีจิ่วดึงสติกลับมาได้ทันกาล พลันเบี่ยงศีรษะหลบหลีกเขาในระหว่างที่หอบหายใจ จากนั้นก็ยื่นมือดันปากเขา “หยุด!”
ตี้ฝูอีหลุบตามองนาง เขาไม่อยากหยุด…
ร่างกายของกู้ซีจิ่วดิ้นรนออกจากอ้อมแขนเขาแล้วใช้วิชาเคลื่อนย้ายทันที เคลื่อนย้ายไปโผล่ใกล้ๆ ปากถํ้า
ด้านนอกสายฝนยังคงตกหนัก โปรยปรายไปทั่ว
กู้ซีจิ่วไม่คิดจะฝ่าฝนหลบหนีออกไป แน่นอนว่าการหลบหนีออกไปในเวลาแบบนี้ก็ไม่ใช่นิสัยของเธอด้วย
เธอแค่ถูกตี้ฝูอีจูบจนรู้สึกมึนงงอยู่บ้าง อยากสงบใจสักหน่อย และตรงนี้ก็มีสายลมพัดโชยเข้ามาทำให้เธอมีสติยิ่งขึ้น สิ่งที่เธอคาดไม่ถึงคือ เธอเพิ่งจะยืนอยู่ที่ปากถํ้า สายฟ้าเส้นหนึ่งที่อยู่ด้านนอกก็พุ่งตรงเข้ามาทันที…
“ระวัง!” ความเร็วของตี้ฝูอีว่องไวยิ่งกว่าความเร็วในการเคลื่อนย้ายของเธอ เขากอดเธอไว้แล้วเคลื่อนกายวูบ!
หนนี้ลูกสายฟ้านั้นดั่งมีดวงตาก็มิปาน ไล่ตามมาทันที!
นัยน์ตาตี้ฝูอีทอประกายเฉียบคมแวบหนึ่ง แขนเสื้อพลันม้วนสะบัด ลำแสงสีรุ้งหมุนติ้วปานพายุหมุน ห่อหุ้มลูกสายฟ้านั้นอีกครั้ง ลอยออกไปนอกถํ้า…
ครั้งนี้กู้ซีจิ่วมองเห็นชัดเจน เบิกตากว้างอย่างไม่คิดไม่ฝันมาก่อน…
หนนี้ลูกสายฟ้านั้นไม่ได้ระเบิดใส่หน้าผาอันใด แต่หมุนติ้วๆ ลอยขึ้นไปบนฟ้า เข้าสู่ชั้นเมฆา จากนั้นก็ระเบิดตูมกลางหมู่เมฆ!
สายฟ้าที่ระเบิดออกมานั้นแทบจะฉีกกระชากทั้งผืนฟ้า ทำให้มวลเมฆหนาทึบที่รวมตัวกันอยู่ราวกับถูกมือยักษ์ที่ล่องหนคู่หนึ่งกระชากออกจากกัน ฉีกจนกระจาย..
ฝนซาฟ้าใส สายฝนหยุดโปรยปราย ดวงดาวบนนภาที่ถูกเมฆาครึ้มบดบังปรากฏออกมาอีกครั้ง
เป็นครั้งแรกที่กู้ซีจิ่วได้เห็นวิชายุทธ์ที่ทรงอิทธิฤทธิ์เช่นนี้ ราวกับทวยเทพที่สามารถพลิกฟ้าดินได้ในชั่วพริบตา ทำให้เธอเหม่อมองด้านนอกพูดอะไรไม่ออกไปชั่วขณะ
“เจ้าไม่เป็นอะไรกระมัง?” มือของตี้ฝูอีโบกอยู่เบื้องหน้าเธอถามไถ่เธออย่างค่อนข้างเป็นกังวล
ในที่สุดสายตาของกู้ซีจิ่วก็หันเห มาจับจ้องอยู่ที่ร่างเขา “ไม่นึกเลยว่า…ท่านจะมีความสามารถถึงเพียงนี้…”
นี่ราวกับมิใช่กำลังของมนุษย์แล้ว
หัวใจตี้ฝูอีดิ่งวาบ เมื่อครู่เขาใช้วิชายุทธ์ที่เป็นความสามารถของเทพศักดิ์สิทธิ์ออกมาด้วยความเดือดดาล