Skip to content

ลำนำบุปผาพิษ 892

บทที่ 892 เจ้าหนีอะไร?

ประเดี๋ยวก็เหินทะยานขึ้นปีนป่ายอยู่บนเสาเหล็ก กระโปรงยาวพลิ้วไหวปานสายนํ้า ดั่งบุปผาที่ผลิแย้ม ประเดี๋ยวก็ไถลตัวลงมา ทว่ายามที่ใกล้จะร่อนสู่พื้นก็ดีดตัวขึ้นอีกครั้ง สองเท้าป่ายวนไปทั่ว ทั้งร่างโค้งงอจนเกิดรัศมีมอมเมาคนชนิดหนึ่งขึ้น…

ตี้ฝูอีไม่เคยถูกรบกวนยามดีดพิณมาก่อนเลย ยามที่เขาปราบเหล่ามารปีศาจ มารสาวเปี่ยมเสน่ห์บางตนเต้นยั่วยวนอยู่เบื้องหน้าเขา สีหน้าเขาก็ไม่แปรเปลี่ยนหัวใจไม่เต้นแรง ทำนองดนตรีที่ปลายนิ้วกลายเป็นอาวุธสังหาร ฉีกกระชากร่างมารสาวเหล่านั้นทันที…

แต่ยามนี้เขาบรรเลงดนตรีประกอบการเต้นให้กู้ซีจิ่ว จิตใจกลับไม่สงบจนดีดผิดติดๆ กันหลายครั้ง ไม่ตรงทำนองสองหนแล้ว เขาเป็นผู้ที่รักความสมบูรณ์แบบ การเต้นที่ยอดเยี่ยมเช่นนี้ย่อมคู่ควรกับดนตรีที่ยอดเยี่ยมเช่นกัน มิเช่นนั้นเขาคงไม่ยกโทษให้ตัวเองเด็ดขาด ดังนั้นเขาจึงดึงสติกลับ มาอย่างรวดเร็ว มือหนึ่งดีดพิณ มือหนึ่งตีกลอง ดนตรีที่บรรเลงออกมาช่างกระตุ้นอารมณ์คนโดยแท้ ราวกับไหลรินอยู่ระหว่างฟ้าดิน

เมื่อการเต้นสิ้นสุด ดนตรีก็จบลง

กู้ซีจิ่วเหินวนบนเสาเหล็กรอบหนึ่ง หัวเราะเสียงกังวาน “วันนี้จบลงเท่านี้ ข้าไปแล้วนะ”

พลางใช้วิชาเคลื่อนย้ายทันที…

แผนการของเธอคือใช้วิชาเคลื่อนย้ายตรงกลับห้องนอนของตนในเรือนตนทันที

เนื่องจากดึกมากแล้ว และเนื่องจากสายตาของอีกฝ่ายลึกลํ้าขึ้นเรื่อยๆ…

ดังนั้นการหลบหนีจึงเป็นวิธีที่ฉลาดที่สุดของเธอ เพียงแต่แผนการที่เธอวางไว้อย่างงดงามยิ่ง ทว่าความจริงกลับห่างไกลกันยิ่งนัก

‘หวืด!’

เธอชนเข้ากับโดมโปร่งใสอันใดสักอย่าง!

โดมโปร่งใสนั้นอ่อนนุ่มไร้สีสัน ยืดหยุ่นยิ่งนัก เนื่องจากระดับความเร็วของวิชาเคลื่อนย้ายรวดเร็วเกินไป แรงปะทะย่อมไม่น้อยเลย ดังนั้นหลังจากเธอชนเข้า ร่างกายก็ถูดดีดสะท้อนกลับทันที จากนั้นก็ร่วงสู่อ้อมแขนของคนผู้หนึ่งเสียงดัง ‘ปึก!’

อ้อมกอดนั้นอวลด้วยกลิ่นหอมชื่นจางๆ ทำให้หัวใจเธอเต้นถี่รัวขึ้นมาทันที

เสียงของตี้ฝูอีดังขึ้นริมหูเธอ “หนีอะไรหืม? กลัวข้าจับเจ้ากินหรือ?”

นํ้าเสียงแหบพร่า ดึงดูงแฝงแววยั่วเย้า

กู้ซีจิ่วแทบจะแข็งทื่ออยู่ในอ้อมแขนเขา กัดฟันกรอดๆ มองดูเขา “ท่านติดตั้งเขตแดนตอนไหนกัน?”

ดูท่าเจ้าคนผู้นี้คงเดาได้ก่อนแล้วว่าพอเต้นเสร็จเธอก็จะหนี จึงติดตั้งเขตไว้ล่วงหน้าเพื่อขัดขวางเธอ

แปลกนัก เมื่อก่อนวิชาเคลื่อนย้ายของเธอไม่ว่าสิ่งใดล้วนขวางไว้ไม่ได้ ทำไมถึงถูกเขตแดนที่น่ารำคาญนี้ดีดกลับมาได้?

ปลายนิ้วตี้ฝูอีปัดผ่านริมฝีปากสีชมพูของเธอ ตอบคำถามของเธอ “ตอนที่เจ้าไปเปลี่ยนชุด”

ที่นี่คือหุบเขาลึก รอบด้านไร้ผู้คน แต่ตี้ฝูอีป้องกันไว้ก่อน จึงลอบติดตั้งเขตแดนไว้ที่นี่ กันไม่ให้เธอถูกคนนอกมาเห็นยามสวมชุดนั้น

อ้อมกอดเขาร้อนผ่าว สายตาที่มองเธอลุ่มลึกยิ่ง ลมหายใจเขาก็หอบเล็กน้อย…

“ซีจิ่ว การเต้นนี้ของเจ้า…เคยเต้นให้ผู้อื่นชมมากน้อยเพียงใด?” เขากอดเธอไว้แล้วนั่งลง ถามด้วยเสียงแหบพร่า

เคยเต้นให้คนอื่นดูกี่คนแล้วน่ะหรือ?

เธอนับให้ถ้วนไม่ได้จริงๆ

เนื่องจากชาติที่แล้วเธอเคยเต้นไปสามครั้ง ทุกครั้งล้วนมีคนเนืองแน่น ศีรษะเรียงกันเป็นพรืด ไม่รู้ว่ามีคนอยู่มากน้อยเพียงใด

กู้ซีจิ่วหลุบตาลงไม่เอ่ยตอบ

“ทำไมเงียบเล่า? ตอบไม่ได้หรือ? หืม?” เมื่อหางเสียงคำสุดท้ายสูงขึ้น สูงจนกู้ซีจิ่วอกสั่นขวัญแขวน เธอหลุดปากเอ่ยออกไปว่า “ท่านรีบร้อนอันใด? ข้ากำลังนับอยู่…”

ใบหน้าหล่อเหลาของตี้ฝูอีเขียวครึ้มทันที มุมปากหยักขึ้นนิดๆ มองดูเธอ “ต้องนับเชียวหรือ?”

อันที่จริงหลังจากตอบไปแล้วกู้ซีจิ่วก็เสียใจภายหลัง เวลาที่ตนถูกเขากอดสมองจะรวนเสมอ ถ้อยคำที่หลุดปากออกไปทำให้เธอพูดจบก็อยากกลืนมันกลับไปยิ่งนัก เธอยิ้มแห้งๆ แวบหนึ่ง “อันที่จริง อันที่จริง ก็เท่าไหร่หรอก ไม่เท่าไหร่จริงๆ…”

ก็แค่เจ็ดแปดร้อยคนเท่านั้น

ตี้ฝูอีกอดเธอไว้ แขนข้างหนึ่งโอบศีรษะเธอ ฝ่ามือวางลงบนกระดูกไหปลาร้าเธอ แขนอีกข้างโอบขาเธอ ข้อศอกอยู่บนหน้าขาเธอ ข้อมืออยู่ตรงบั้นเอวเธอ

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version