บทที่ 896 เป็นซีจิ่วที่ติดค้างคุณ…
หลงซือเย่หน้าซีดกว่าเดิมแล้ว!
เขาหมดทางปฏิเสธแล้ว!
โลงที่กู้ซีจิ่ววาดออกมาเป็นบ่อเพาะเลี้ยงพิเศษเมื่อตอนนั้นจริงๆ เขานอนควํ่าลงบนนั้นมองดูเธอไม่ใช่แค่ครั้งเดียว
กู้ซีจิ่วเอ่ยอีกว่า “สิ่งที่คุณพูดกับฉันบ่อยๆ ตอนนอนคว่ำอยู่บนบ่อเพาะเลี้ยงก็คือ ฉันเกลียดสามีภรรยาตระกูเย่! พวกเขาเห็นแก่ตัวเกินไป! เธอกับ ฉันเป็นมนุษย์โคลนนิ่งเหมือนกัน แต่พวกเขาไม่เคยเห็นพวกเราเป็นมนุษย์ เลย เธอน่าสงสารกว่าฉัน พวกเขาแค่อยากใช้เธอต่างแหล่งอวัยวะสำรอง เป็นแหล่งอวัยวะที่มีชีวิตให้ลูกสาวของพวกเขาได้ตลอดเวลา เธอน่าสงสารกว่าฉัน…”
หลงซือเย่จากไปอย่างไรจิตวิญญาณฝีเท้าค่อนข้างซวนเซ
กู้ซีจิ่วหลุบตาลงนิดๆ เธอรู้ว่าความจริงนี้ส่งผลกระทบต่อหลงซือเย่มากมายนัก แต่ถ้าเธอไม่พูดออกมา จิตใจที่รู้ดีรู้ชั่วก็จะไม่สงบ…
ครูฝึกหลง ขอโทษด้วย!
ไม่ว่ายังไงก็ตาม เป็นซีจิ่วที่ติดค้างคุณ…
เธอเดินไปโรงอาหารช้าๆ จู่ๆ ก็ มีมือข้างหนึ่งวางลงมาบนไหล่!
“เจ้าทำถูกแล้ว!”
เธอสะดุ้งโหยง หันหน้าไป มองเห็นดวงตาที่ไหวระริกดั่งกระแสนํ้าคู่นั้นของตี้ฝูอี เห็นได้ชัดเจนเลยว่าเขาได้ยินบทสนทนาระหว่างเธอกับหลงซือเย่
ริมฝีปากจิ้มลิ้มของเธอเม้มนิดๆ “ท่านแอบสะกดรอยตามข้าหรือ?”
ตี้ฝูอีเลิกคิ้วขึ้น “ข้าตามมาอย่างเปิดเผยชัดๆ ถ้าแอบสะกดรอยตามข้าจะปรากฏตัวทำไม?”
ไม่พูดพร่ำทำเพลงอะไรก็ดึงมือเธอออกเดิน “ไปเถอะ ไปกินข้าวกับข้า”
กู้ซีจิ่วไม่อยากลากๆ จูงๆ กับเขาต่อหน้าสาธารณะชน รีบชักมือตัวเองกลับมา “ท่านก็จะไปกินที่โรงอาหารหรือ?”
ตี้ฝูอีเอ่ยว่า “แปลกตรงไหนล่ะ? ไปกันเถอะ!”
….
กู้ซีจิ่วรู้สึกว่า ในสายตาเหล่าศิษย์ร่วมสำนักตนต้องกลายเป็นคนต่ำช้าโลเลหลายใจไปแล้วแน่ๆ หลายวันก่อนเป็นคู่ชูชื่นอยู่กับทูตสรรค์ฝ่ายซ้าย ภายหลังเปิดเผยว่าเป็นการเล่นละคร อีกทั้งมีสถานะคลุมเครืออยู่กับหลงซือเย่เที่ยวเล่นกิน ข้าวด้วยกัน ยามนี้เดินเคียงไหล่ทูตสวรรค์ฝ่ายซ้ายมากินข้าวที่โรงอาหารอีกแล้ว …
ในโรงอาหารมีคนมากมาย คนที่มองมาทางพวกเขาก็มีอยู่ไม่น้อย ดวงตาทุกคู่ล้วนทอแววลุ่มลึกยิ่งนัก
ถึงแม้กู้ซีจิ่วจะไม่แยแสสายตาคนอื่นเสมอมา แต่พอตกอยู่ภายตาสายตามีเลศนัยของฝูงชนมากมาย ใบหน้าเธอก็รู้สึกร้อนผ่าวอยู่บ้าง แทบจะจินตนาการถึงวาจาจิกกัดในใจของฝูงชนออก
ตี้ฝูอีกลับไม่สนใจเรื่องพวกนี้ จูงเธอไปนั่งหน้าโต๊ะตัวหนึ่ง “นั่งอยู่ตรงนี้นะ ข้าจะไปสั่งอาหารให้เจ้า”
กู้ซีจิ่วไหนเลยจะกล้าให้เขาไปสั่งอาหาร รีบลุกขึ้นมาเอ่ยว่า “ท่านนั่งเถอะ ข้าจะไปสั่งเอง”
ตี้ฝูอีวางมือข้างหนึ่งบนไหล่เธอ “เป็นเด็กดีนั่งรอตรงนี้เถอะ”
พลางหันหลังก้าวไปสั่งอาหารที่ช่องหน้าต่าง
ฝูงชนตกตะลึง
ในสมองของทุกคนมีความคิดหนึ่งเช่นเดียวกันแล่นผ่าน ‘พ่อแม่พี่น้องรีบมาดูเรื่องบันเทิงเร็ว! ท่านทูตสวรรค์ฝ่ายซ้ายไปสั่งอาหารให้เด็กสาวนางหนึ่งด้วยตัวเองแล้ว!’
สมองของคนที่ค่อนข้างคิดมากยังมีความคิดอีกอย่างผุดขึ้นมา ‘ครั้งนี้จะทำอะไรกันอีก ? เล่นละครอีกแล้วหรือ?’
ผ่านไปครู่หนึ่งหลานไว่หูกับเชียนหลิงอวี่ก็เข้ามา สิ่งแรกที่พวกเขาเห็นคือกู้ซีจิ่วที่นั่งอยู่หน้าโต๊ะ จึงรีบวิ่งมาหา
“ซีจิ่ว!”
“ซีจิ่ว…”
เชียนหลิงอวี่วางก้นนั่งลงข้างกายกู้ซีจิ่วทันที ฝ่ามือตบไหล่เธอเบาๆ “ซีจิ่ว เจ้าอยากกินอะไร? ข้าจะเลี้ยง!”
พ้นวันนี้ไปซีจิ่วก็ต้องย้ายไปอยู่ห้องอื่นแล้ว ในใจเขาเต็มไปด้วยความระทมทุกข์ ที่ต้องพรากจากและหักใจไม่ลง จึงใจกว้างเป็นพิเศษ “เจ้าสั่งได้ตามสบายเลย!”
เพิ่งจะพูดจาวางโตจบ จู่ๆ ก็รู้สึกได้ว่ารอบข้างเงียบสงัดลง
จิ้งจอกน้อยที่อยู่ฝั่งตรงข้ามกระเด้งตัวขึ้นมา เบิกตามมองด้านหลังเขา สายตาของฝูงชนที่อยู่รอบข้างก็มองไปทางด้านหลังเขา…
เส้นขนบนร่างเชียนหลิงอวี่ลุกชันทันที หันหลังไปตามสัญชาตญาณ มองเห็นจานขบวนหนึ่งลอยเข้ามา…
เฮือก! เขารีบร้อนหลบอย่างหวาดหวั่นกังวล