Skip to content

ลำนำบุปผาพิษ 903

บทที่ 903 หาหนทางไม่พบอีกต่อไป…

เขาย่างเท้าเข้าสู่ด้านใน จากนั้นใต้เท้าเหมือนสะดุดอะไรบางอย่าง สายตามองตรงไปที่โลงนํ้าแข็งใบนั้น ภายในโลงว่างเปล่า ร่างโคลนนิ่งแช่แข็งที่อยู่ด้านในหายไปแล้ว!

เขาวนไปรอบตำหนักอย่างรวดเร็วด้วยความไม่อยากจะเชื่อ นอกจากร่างแช่แข็งที่หายไป ที่เหลือไม่มีอะไรผิดปกติเลย ภายในตำหนักก็มีกลไกเหมือนกัน โดยเฉพาะรอบๆ โลงนํ้าแข็ง ถ้าไม่ใช่ผู้ที่เชี่ยวชาญจริงๆ ย่อมเปิดไม่ออก ยามนี้โลงนํ้าแข็งใบนั้นกลับถูกเปิดอย่างสมบูรณ์ มิใช่การใช้กำลังเปิดออก เห็นได้ชัดว่าผู้ที่มาขโมยร่างแช่แข็งที่นี่คือผู้เชี่ยวชาญอย่างแท้จริง และเป็นคนที่รู้จักเขา…

คนๆ นี้คือใคร?

ขโมยร่างแช่แข็งไปใช้ประโยชน์อะไร?

หลายปีที่ผ่านมา คนที่เคยมาที่นี่มีเพียงสามคนเท่านั้น ตัวเขา กู้ซีจิ่ว ตี้ฝูอี!

กู้ซีจิ่วนั้นเป็นไปไม่ได้ เธออยู่ที่สำนักศึกษาชุมนุมสวรรค์ตลอด หรือจะเป็นตี้ฝูอี?!

ดูเหมือนเป็นไปไม่ได้เช่นกันที่จะเป็นเขา ระยะนี้เขาซุกอยู่ที่สำนักศึกษาชุมนุมสวรรค์ราวกับแม่ไก่กกรังตลอดเช่นกัน ประสบพบเจอเขาได้บ่อยๆ…

ช่วงนี้หลงซือเย่กับตี้ฝูอีพบหน้ากันบ่อยเสียจนทำให้คนเดือดดาล พบกันบ่อยกว่าที่พวกเขาเคยพบหน้ากันในหลายสิบปีมานี้เสียอีก!

จากสำนักศึกษาชุมนุมสวรรค์มาที่นี่ต้องใช้เวลาอย่างน้อยสองวัน ต่อให้ตี้ฝูอีขี่สัตว์พาหนะที่รวดเร็วยิ่งนักตัวนั้นมา คิดจะมาที่นี่ก็ต้องใช้เวลาหนึ่งวันเช่นกัน ไปกลับรวมสองวัน และดูเหมือนตี้ฝูอีไม่เคยหายไปเป็นเวลาสองวัน…

หรือเขาจะส่งลูกน้องมา?

เพียงแต่เขาจะขโมยร่างแช่แข็งนั้นไปทำอะไร?

เพื่อโอ๋ให้ซีจิ่วดีใจหรือ?

กู้ซีจิ่วไม่พอใจร่างแช่แข็งร่างนี้หลงซือเย่ทราบดี แต่ร่างแช่แข็งร่างนี้เขาเพาะเลี้ยงมานานหลายปี เขาหักใจทำลายทิ้งทันทีไม่ลง หากว่าวันใดได้ใช้ การขึ้นมาเล่า?

นึกไม่ถึงว่าวันนี้ร่างแช่แข็งกลับหายไปเสียแล้ว!

เขายืนอยู่หน้าโลงนํ้าแข็งอย่างไร้วิญญาณ ราวกับยังมองเห็นวงพักตร์อันงดงามเงียบสงบราวกับมีชีวิตของร่างแช่แข็งร่างนั้นได้

ร่างแช่แข็งนี้เคยเป็นความหวังที่หล่อเลี้ยงเขาให้มีชีวิตต่อเป็นเวลาเนิ่นนานปี เขามานั่งแช่อยู่ที่นี่เป็นครึ่งค่อนวัน แทบจะทุกสองสามวัน พูดคุยกับ มัน บอกเล่าความคิดตน เขาหมายมุ่งมาตลอดว่าอยากทำให้กู้ซีจิ่วฟื้นคืนชีพขึ้นมาในร่างแช่แข็งนี้ จากนั้นก็ครองคู่ชูชื่นกับเขา เป็นคู่กิ่งทองใบหยก คาดไม่ถึงว่ากู้ซีจิ่วจะฟื้นคืนชีพได้สำเร็จ ทว่าหัวใจกลับแปรเปลี่ยนแล้ว…

และร่างแช่แข็งก็หายไปด้วย!

ความรู้สึกของเขาเสมือนเท้าข้างหนึ่งเหยียบย่างลงบนความว่างเปล่าบนหน้าผาสูงพันจั้ง หาหนทางไม่พบอีกต่อไป…

เท้าเขาพลันจมลึก จึงย่างเท้าออกมา เรียกศิษย์คนโตของตนมาสอบถามสถานการณ์ และคำตอบของศิษย์คนโตก็ทำให้หลงซือเย่สงสัยตี้ฝูอีมาก

ยิ่งขึ้น!

เมื่อวานซืนศิษย์คนโตผู้นี้เห็นเงาร่างหนึ่งที่คล้ายคลึงกับตี้ฝูอีแวบผ่านยอดเขาไผ่เซียนนี้โดยบังเอิญเพียงแต่พอยามที่เขาเข้ามาดูก็ไม่พบตัวคนแล้ว เห็นเพียงประตูตำหนักนํ้าแข็งหลังนี้เปิดอยู่…

เนื่องจากศิษย์คนโตผู้นี้เข้าใกล้ตำหนักนํ้าแข็งไม่ได้ ไม่อาจเข้าไปตรวจสอบสถานการณ์ด้านในได้ ดังนั้นจึงส่งนกสืบรอยไปแจ้งข่าวแก่อาจารย์เป็นการด่วน…

หลงซือเย่กำมือแน่น ศิษย์คนโตของเขาเชื่อถือได้ยิ่งนัก ไม่พูดโป้ปด อีกทั้งสายตาก็เฉียบคมยิ่งนัก ไม่ว่าผู้ใดเดินผ่านหน้าเขาเพียงรอบเดียวเขาก็สามารถจดจำรูปพรรณสันฐานของคนผู้นั้นได้และไม่มีทางจำผิด ศิษย์คนโตของเขาเคยพบตี้ฝูอีแล้ว เขาบอกว่าดูเหมือน เช่นนั้นก็มีความเป็นไปได้แปดเก้า ส่วนว่าผู้ที่มาขโมยร่างแช่แข็งก็คือตี้ฝูอี เขาคงจะเร่งร้อนอยากครองใจกู้ซีจิ่ว ด้วยเหตุนี้จึงนำร่างแช่แข็งนี้ไปกำนัลให้เธอ…

เพลิงโทสะในใจลุกโหมขึ้นมา เขาไม่พูดอะไรอีก เรียกกระเรียนมงกุฎแดงมา ทะยานขึ้นสู่ฟ้า

เดินทางได้ครึ่งวัน มาถึงเหนือหุบเขาลึกแห่งหนึ่ง ทันใดนั้นรถม้าคันหนึ่งพลันปรากฏขึ้นเบื้องหน้า

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version