Skip to content

ลำนำบุปผาพิษ 909

บทที่ 909 เช่นนั้นยามนี้ข้าคือแฟนหนุ่มของเจ้าใช่หรือไม่?

“ผู้น้อยทราบว่าท่านอยากเลียนอย่างท่านทูตสวรรค์ฝ่ายซ้าย อืม รูปโฉมของพี่ชายน้อยก็พอเทียบเคียงกับท่านทูตสวรรค์ฝ่ายซ้ายได้นิดหน่อย แต่ท่านไม่มีทางเทียบกับเขาได้หรอก จะใต้หล้าเหนือปฐพีรูปโฉมของท่านยังห่างไกลจากเขานัก เหล่าบุรุษในเมืองนี้ของพวกเราล้วนอยากเลียนอย่างเขา แต่ก็ไม่กล้าสวมแถบแพรคาดหน้าผากแบบเดียวกับเขา อย่างมากก็แค่สวมหยกประดับ หรือพู่ห้อยเอวที่ค่อนข้างคล้ายคลึงกันเท่านั้น ทุกคนทำตามได้ แต่ไม่อาจเลียนแบบท่านทูตสวรรค์ฝ่ายอย่างจริงจังได้! ใช่แล้ว แถบแพรคาดหน้าผากเส้นนี้ของท่านเป็นไอ้ตาไม่มีแววคนไหนที่ขายให้

ท่านกัน? นี่คิดจะทำให้ท่านต้องโทษประหารหรือไง?”

พ่อค้าหาบเร่คนนั้นพูดเป็นเดือดเป็นร้อนด้วยความหวังดีอยู่ตรงนั้น ปรารถนาจะยื่นมือไปปลดแถบแพรคาดหน้าผากของเขาลงมาใจจะขาด

กู้ซีจิ่วย่อมทราบว่าจะเกิดอะไรขึ้น อดขำอยู่ในใจไม่ได้ กระแอมไอคราหนึ่ง จูงตี้ฝูอีออกเดิน “เอาล่ะ พวกเราไปกันเถอะ”

พ่อค้าคนนั้นไม่ยอมแพ้ คิดจะหาบแผงไล่ตามมา กู้ซีจิ่วดีดนิ้วทีหนึ่ง หยกประดับชิ้นหนึ่งบนแผงเขาหล่นลงพื้นเสียงดังแกรก…

พ่อค้าคนนั้นตกใจ ไม่สนใจไล่ตามคนแล้ว รีบก้มลงไปดู พบว่าหยกประดับชิ้นนั้นนอนอยู่ดีบนพื้นไม่ได้บุบสลาย เขารีบเก็บขึ้นมา พอเงยหน้าขึ้น อีกที ร่องรอยของสองคนนั้นก็หายไปแล้ว….

ตี้ฝูอีเป็นคนฉลาดมากคนหนึ่ง ผ่านไปสักครู่เขาก็ดูเหมือนจะเข้าใจอะไรได้แล้ว ยามที่เดินไปตามถนนก็กวาดตามองบุรุษคนอื่นที่เดินผ่านมาแวบหนึ่ง เห็นว่าบางครั้งหว่างเอวหรือสาบเสื้อของพวกเขาจะห้อยพู่หยกทรงนัยน์ตาจิ้งจอกหรือไม่ก็เข็มกลัดหยกนัยน์ตาจิ้งจอกไว้

กู้ซีจิ่วเห็นดวงตาเขาโชนแสงเล็กน้อย เกรงว่าเขาก่อการร้ายอันใดขึ้นมา จึงเอ่ยยิ้มๆ อยู่ด้านข้าง “ดูเหมือนประชาชนที่นี่จะเป็นแฟนคลับท่านนะล้วนเคารพนับถือท่านยิ่งนัก ด้วยเหตุนี้จึงเลียนแบบท่าน…”

ตี้ฝูอีมองเธอแวบหนึ่ง ไม่พูดอะไร

กู้ซีจิ่วจับแขนข้างหนึ่งของเขาไว้ “ท่านคงไม่ลงโทษคนที่นี่ด้วยเรื่องนี้กระมัง? อันที่จริงเรื่องเช่นนี้ในยุคนั้นของพวกเราพบเห็นได้ทั่วไปยิ่ง นาฬิกาเอย กระเป๋าเอย แหวนเอย เครื่องหัวเอย เสื้อผ้าเอย ของที่ไอดอลใส่พวกนี้ ทุกคนล้วนพากันเอาอย่างทั้งนั้น อยากซื้อข้าวของที่เป็นแบบเดียวกัน มีเพียงคนที่ได้รับความนิยมบูชาจริงๆ เท่านั้นถึงจะมีคนเลียนอย่างเขา โดยเฉพาะพวกผู้หญิงในยุคนั้นของพวกเรา ปรารถนาจะให้แฟนหนุ่มของตัวเองมี

ลักษณะแบบเดียวกับไอดอลที่ตัวเองชื่นชมบูชา คิดสารพัดวิธีเพื่อแต่งตัวแฟนหนุ่มให้เหมือนกับไอดอล…”

ตี้ฝูอีฟังอยู่เงียบๆ จู่ๆ ก็ถามออกมาประโยคหนึ่ง “แฟนหนุ่มคือบุรุษของตนใช่ไหม?”

“ไม่ ไม่ใช่ หมายถึงคนรักนั้นแหละ เป็นทำนองเดียวกับคู่หมั้นของยุคนี้ แต่ว่ายังไม่ได้หมั้นหมายกัน…” กู้ซีจิ่วพยายามอธิบายให้เขาเข้าใจชัดเจนที่สุดเท่าที่จะทำได้

“เช่นนั้นยามนี้ข้าคือแฟนหนุ่มของเจ้าใช่หรือไม่?”

กู้ซีจิ่วแทบจะไม่หยุดคิดเลย “ใช่สิ”

ดวงตาตี้ฝูอีหยีโค้งนิดๆ “ถ้างั้น ไอดอลของเจ้าคือผู้ใด?”

กู้ซีจิ่ว เงียบงัน เธอนึกถึงโปสเตอร์ไอดอลที่แปะอยู่บนผนังบ้านในยุคปัจจุบันของเธอ…

เธอกระแอมคราหนึ่ง ตัดสินใจทำให้เขาดีใจสักหน่อย “ไอดอลของข้า คือท่านไง”

ตี้ฝูอีเขกศีรษะเธอ “โกหก!”

ถึงแม้นางพูดเช่นนี้แล้วเขาจะมีความสุขมาก แต่เขาก็เคยได้ยินนางพูดเรื่องยุคปัจจุบัน ดูเหมือนในยุคนั้นนางจะมีใครสักคนเป็นไอดอล แถมยังคลั่งไคล้ยิ่งนักด้วย…

แรงที่เขาใช้เขกศีรษะนางย่อมเบายิ่งนัก กู้ซีจิ่วกุมมือที่ก่อเหตุของเขาไว้ “มา บอกข้าบ้าง ใครคือไอดอลของท่าน?”

ตี้ฝูอีตอบอย่างไม่ลังเลเลย “ตัวข้าเอง”

กู้ซีจิ่วพูดไม่ออก เขาหลงตัวเองเหลือเกิน!

ตี้ฝูอีหัวเราะเบาๆ “ข้าคือบุรุษที่ดีที่สุดในโลกใบนี้ ไม่มีผู้ใดเทียบเทียมได้… ”

กู้ซีจิ่วจงใจเอ่ยดักเขา “แล้วท่านเทพศักดิ์สิทธิ์เล่า?”

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version