บทที่ 910 ข้าพาเจ้าลงไปดีไหม?
ตี้ฝูอีกระอักกระอ่วน ยิ้มแวบหนึ่ง ส่ายหน้าไปมา “เทพศักดิ์สิทธิ์…อันที่จริงโดดเดี่ยวมาก เป็นเทพของทวีปนี้ จะต้องสูงส่งอยู่ตรงนั้น ข้าไม่ริษยาเขา แน่นอนว่าไม่ชื่นชมบูชาเขาด้วย…”
กู้ซีจิ่วมองเขาแวบหนึ่ง เอ่ยด้วยนํ้าเสียงอ่อนหวาน “ความจริงแล้วท่านเทพศักดิ์สิทธิ์เป็นไอดอลของข้า…”
ตี้ฝูอีกอดอกมองเธอ “งั้นหรือ?”
ดวงตากู้ซีจิ่วหยีโค้ง “ข้าอยากจับท่านแต่งตัวแบบท่านเทพศักดิ์สิทธิ์นะ อันที่จริงบุคลิกของท่านกับเขาคล้ายคลึงกันยิ่งนัก หากท่านปลอมเป็นเขาเกรงว่ายากนักที่ผู้อื่นจะแยกออก ท่านว่าหากข้าจับท่านแต่งเป็นเขา จะสามารถตบตาพวกอาจารย์ใหญ่กู่ได้หรือไม่?”
นี่นางหยั่งเชิงเขาอยู่กระมัง?
ตี้ฝูอีพาดแขนไว้บนไหล่เธอ “อาจเป็นไปได้ จิตนาการของเด็กน้อยเลิศล้ำนัก ไปเถอะ ข้าจะพาเจ้าไปที่แห่งหนึ่ง”
พลางโอบเอวเธอออกเดิน
กู้ซีจิ่วหลุบตาลงนิดๆ เขายังระแวงเธออยู่จริงๆ สินะ?
ทว่าไม่ได้อยู่เหนือความคาดหมายเลย เรื่องบางอย่างต่อให้เป็นสามีภรรยากันก็ไม่อาจเปิดเผยได้ อย่างเช่นงานสายลับ อย่างเช่นบุคลากรที่ทำงานในองค์กรพิเศษของประเทศ ชั่วชีวิตของพวกเขาทำเพื่อประเทศชาติ แต่ลูกเมียพ่อแม่ของพวกเขาไม่มีใครรู้เลยสักคน และบอกไม่ได้เด็ดขาด
กู้ซีจิ่วเคยเป็นนักฆ่า ย่อมทราบเหตุผลเหล่านี้ดี ดังนั้นเธอจึงไม่เก็บมาใส่ใจนัก
มีเพียงเด็กสาวอ่อนต่อโลกเท่านั้นถึง จะเรียกร้องให้แฟนหนุ่มบอกทุกเรื่องกับตนอย่างไม่ปิดบัง มิเช่นนั้นจะรู้สึกว่าอีกฝ่ายไม่จริงใจ กลับไม่ทราบเลยว่ากฏเกณฑ์บางอย่างฝ่าฝืนไม่ได้เด็ดขาด…
บางทีตี้ฝูอีคงมีความจำเป็นบางอย่างเหมือนกันล่ะมั้ง?
ดังนั้นถ้าเขาไม่พูดเธอก็ฉลาดพอที่จะไม่ถาม ขอเพียงเขาดีต่อเธอด้วยใจจริง เรื่องอื่นล้วนไม่สำคัญ
….
ฟองคลื่นสาดกระเซ็น เกลียวคลื่นถาโถม จันทร์กลมมนบนท้องนภาดวงนั้นลอยอยู่เหนือผืนสมุทร เสมือนเศษทองดาษดื่นทั่วท้องสมุทร…
กู้ซีจิ่วนั่งอยู่บนหลังอาชาเวหา ก้มมองมหาสมุทรเบื้องล่าง แล้วหันกลับไปมองเขาที่อยู่ด้านหลัง “สถานที่ที่ท่านอยากพาข้ามาคือที่นี่หรือ? ชมจันทร์เหนือท้องสมุทรเป็นความคิดที่ไม่เลวเลยจริงๆ…”
“เด็กน้อย ทักษะทางนํ้าของเจ้าเป็นยังไง?” ตี้ฝูอีถามเธอ
กู้ซีจิ่วมองลงไปด้านล่างแวบหนึ่ง ที่นี่คือมหาสมุทรลึก นํ้าทะเลสีนํ้าเงินเข้ม ระลอกคลื่นก็ไม่เล็กเลย ขนาดไม่มีลมก็ยังสูงถึงสามฉื่อ
“ทักษะทางนํ้าพอใช้ได้ เพียงแต่ที่นี่คือมหาสมุทรลึก อีกทั้งอากาศหนาวเย็น พวกเราไม่จำเป็นต้องลงไปแช่น้ำทะเลชมจันทร์กระมัง? จู่ๆ ข้าพลันรู้สึกว่าชมจันทร์เช่นนี้ก็ไม่เลวนะ” กู้ซีจิ่วยึดมุมชุดเขาเอาไว้ทันที หวั่นว่าเขาจะจับเธอโยนลงไปอย่างฉับพลัน
“ข้าพาเจ้าลงไปดีไหม? ด้านล่างมีสิ่งงดงามน่าสนุกอยู่นะ” ตี้ฝูอี โอบเอวเธอไว้เอ่ยขึ้นริมหูเธอ
“ไม่เอา! หนาวเกินไป”
“ไม่หนาวหรอก ข้างล่างอบอุ่นมาก” ตี้ฝูอีเกลี้ยกล่อมต่อ
เขาโกหกผีอยู่หรือไง?
ใช่ว่าเธอจะไม่เคยลงไปในทะเลลึก…
กู้ซีจิ่วส่ายศีรษะต่อไป ตี้ฝูอีแย้มยิ้ม “เด็กน้อย บางครั้งเจ้าต้องใจกล้าให้มากหน่อย”
พลางโอบเธอไว้แล้วกระโจนลงทะเลเสียงดังซ่า…
บัดซบ เธอรู้อยู่แล้วว่าเขามันคนหลอกลวง!
กู้ซีจิ่วมีท่าทางยอมรับชะตากรรมที่ ต้องร่วงลงไปในนํ้าอยู่กลางอากาศ จากนั้น…เธอพบว่าตัวเองกับตี้ฝูอีตกลงไปในฟองอากาศลูกหนึ่ง ไม่สิ
เป็นเขตแดนที่คล้ายฟองอากาศต่างหาก
ฟองอากาศนั้นไม่ได้ลอยอยู่บนผิวทะเล แต่พาเธอกับเขาดิ่งลงสู่มหาสมุทรลึกประหนึ่งกระสุนปืนใหญ่…
ในฟองอากาศอบอุ่นดั่งฤดูใบผลิ โดยเฉพาะอ้อมกอดที่อยู่ด้านหลังอบอุ่นราวกับดวงตะวัน กู้ซีจิ่วเงยหน้ามองนํ้าทะเลที่ไหลรายล้อมอยู่รอบฟองอากาศ มองฟองอากาศที่ดำดิ่งลงไปเหมือนเรือดำนํ้าลำเล็กๆ…
กลางทะเลลึกมืดสนิท แต่ภายในฟองอากาศกับเรืองแสงเล็กน้อย