บทที่ 926 ต่างฝ่ายต่างมีความสุข ต่างฝ่ายต่างสงบสุข
ด้านหลงซือเย่ ตั้งแต่เขาทิ้งจดหมายไว้ให้กู่ฉานโม่ว่าจะจากไปก็ไม่กลับมาอีกเลย เล่ากันว่าเขารับศิษย์ใหม่มาคนหนึ่งนามว่าเย่หงเฟิง จึงรั้งอยู่บนเขา ทุ่มเทจิตใจอบรมสั่งสอน ไม่ว่างไปสอนที่สำนักศึกษาชุมนุมสวรรค์อีกต่อไป
ช่วงแรกที่กู้ซีจิ่วได้ยินข่าวนี้ ยังงุนงงอยู่ครู่หนึ่ง เธอไม่ได้ผิดหวัง เธอแค่ถึงไม่ถึงว่าจะเป็นเย่หงเฟิง…
เธอไม่รู้ว่าเย่หงเฟิงคนนี้ใช่เย่หงเฟิงคนนั้นไหม ดังนั้นจึงพยายามสอบถามข่าวอย่างสุดความสามารถ เธอมีลู่ทางข่าวสารของเธอเอง ต่อมาในที่สุดก็ได้ข่าวคราวที่ชัดเจนว่ารูปโฉมของเย่หงเฟิงคนนั้นคล้ายคลึงกับกู้ซีจิ่วในยามนี้ถึงแปดส่วน ซ้ำยังบอกว่าคืนชีพมาจากโลงนํ้าแข็ง…
ด้วยเหตุนี้ท้ายที่สุดกู้ซีจิ่วจึงกระจ่างแจ้ง
สุดท้ายหลงซือเย่ก็คืนชีพให้โฉมงานในโลงนํ้าแข็ง
ไม่จำเป็นต้องมีข้อกังขาเลย คนที่เขาคืนชีพให้คือเย่หงเฟิง วิญญาณที่เรียกกลับมาก็คือเย่หงเฟิง…
เธอรู้สึกว่าการเดินทางทะลุมิติของเธอค่อนข้างแปลกนัก มีคนทะลุมิติมามากถึงขนาดนี้!
ตัวเธอ หลงซี นักวิทยาศาสตร์สติเฟื่อง ตอนนี้เพิ่มเย่หงเฟิงมาอีกคน นี่เป็นทางเชื่อมมิติที่ท่านพญายมเปิดขึ้นหรือไง?
เธอหยิบกระจกขึ้นมาส่องดูเงาตัวเองอย่างอดไม่ได้ รูปโฉมในยามนี้มีความคล้ายคลึงกับตัวเธอในชาติก่อนแปดส่วนจริงๆ โดยเฉพาะความเยือกเย็นเฉียบคมที่แฝงอยู่ในกระดูกภายในยิ่งเหมือนเต็มสิบส่วน ไม่ว่าจะเป็นตัวเธอในชาติก่อน หรือตัวเธอในชาตินี้ล้วนเป็นสาวงามทั้งนั้น ผิวพรรณของตัวเธอในชาตินี้ขาวเนียนยิ่งนัก ดวงตากลมโตขนตายาวเป็นแพ ริมฝีปากก็เนียนนุ่มกว่าเมื่อก่อนมาก
สุภาษิตว่าไว้ จิตก่อนรลักษณ์ อันที่จริงต่อให้เป็นฝาแฝดกัน ทว่านิสัยไม่ได้คล้ายกันไปเสียทั้งหมด รูปโฉมก็จะค่อยๆ เปลี่ยนแปลงไปเช่นกัน และคนที่คุ้นเคยกับพวกเธอจะสามารถแยกออกอย่างง่ายดาย
ยกตัวอย่างเช่นกี้จิ่วในชาติก่อนถึงแม้จะเป็นร่างโคลนนิ่งของเย่หงเฟิง รูปลักษณ์คล้ายกันเป็นที่สุด แต่นิสัยใจคอกลับแตกต่างอย่างสิ้นเชิง
เย่หงเฟิงเป็นคุณหนูไฮโซที่ถูกประคบประหงมมาตั้งแต่เด็ก นิสัยจองหองเอาแต่ใจ ใสซื่อ ทุกอากัปกริยาล้วนเป็นสาวน้อยไร้เดียงสา
ส่วนกู้ซีจิ่วเป็นนักฆ่าที่บุกนํ้าลุยฟ้า เยือกเย็นเฉียบคม เด็ดเดี่ยวเฉียบขาด ซื่อตรงเปิดเผย ทุกอากัปกริยาเต็มไปด้วยเสน่ห์ลึกลับ กวาดสายตาเพียงแวบเดียว ก็สามารถทำให้เด็กน้อยตั้งแถวยืนตรงแน่วแบบทหารในกองทัพได้…
ดังนั้นยามที่เปลี่ยนถ่ายหัวใจ ต่อให้ทั้งสองคนยืนด้วยกัน ก็จะถูกคนแยกออกได้ง่ายดายนัก
กู้ซีจิ่วเคยพบเย่หงเฟิงแล้ว แน่นอนช่วงเวลาที่พบพานคุณหนูคนนี้ไม่ถึงหนึ่งนาทีด้วยซํ้า ได้ยินหลงซีบอกว่าเป็นคู่หมั้นอะไรสักอย่าง ความจริงเรื่องร่างโคลนนิ่ง จากนั้นเธอก็สลบไป พอฟื้นขึ้นมาอีกทีก็อยู่บนเตียงผ่าตัดแล้ว…
ดังนั้นความเข้าใจที่เธอมีต่อเย่หงเฟิงจึงไม่ลํ้าลึกนัก ไม่รู้ว่านิสัยใจคอของอีกฝ่ายเป็นอย่างไร
หลังจากเกิดใหม่ในชาตินี้ สิ่งที่เธอเกลียดก็คือความหลอกลวงของหลงซี สำหรับเย่หงเฟิงเธอไม่รู้สึกอะไรเท่าไหร่
ชาตินี้หลงซือเย่เพียงเอ่ยถึงเย่หงเฟิงบ้างเป็นบางครั้ง ไม่ได้พูดถึงมากมายอะไร ดังนั้นเธอจึงไม่รู้จักเย่หงเฟิงสักไหร่ และเธอก็ไม่คิดจะไปรู้จักให้มากมายนักด้วย…
ตอนนี้ได้ยินว่าหลงซือเย่ที่อยู่บนเขา รับเย่หงเฟิงเป็นศิษย์ ทุ่มเทจิตใจอบรมสั่งสอน จิตใจเธอถึงขั้นเป็นสุขอยู่บ้างรางๆ ชาตินี้เธอไม่อาจมอบสิ่งใดให้หลงซือเย่ได้ หากว่าหลงซือเย่สามารถตามหานางในดวงใจคนอื่นได้ สามารถครองคู่โบยบินกับหญิงสาวคนอื่นได้ เธอจะมีความสุขมาก อย่างน้อยๆ ความรู้สึกผิดในใจก็ลดลงไปบ้าง
บางทีเป็นแบบนี้อาจดีที่สุดแล้ว ต่างฝ่ายต่างมีความสุข ต่างฝ่ายต่างสงบสุข
แม้เธอจะไม่รักหลงซือเย่ แต่ยังเห็นเขาเป็นเพื่อนที่ดีที่สุด สามารถพลีชีพเพื่อเขาได้ ดังนั้นเธอจึงหวังว่าหลงซือเย่จะสามารถก้ามข้ามอุปสรรคในใจไปได้สักวัน จะสามารถพบหน้าเธอแล้วยิ้มให้กันอย่างไร้ซึ่งบุญคุณความแค้นได้…
ในระยะหนึ่งปีครึ่งนี้ชั้นเมฆาม่วงระดับต้นของสำนักศึกษาชุมนุมสวรรค์มีศิษย์ใหม่เพิ่มขึ้นสามคน ศิษย์สามคนนี้ทยอยเข้ามาไล่ๆ กัน ศิษย์คนแรกสุดนั้นเข้ามาเมื่อหนึ่งปีก่อน