บทที่ 935 อย่าคิดสังหารเพื่อปิดปากข้าเลย
แน่นอน ด้วยข้อจำกัดทางเงื่อนไข ผลการตรวจเลือดของเธอจึงไม่สมบูรณ์แบบมากขนาดนั้น ไม่สามารถตรวจค่าพื้นฐานมากมายในชีวิตประจำวัน ได้ แต่สามารถตรวจสอบว่าในเลือดของเขามีตัวยาพิเศษหรือไม่
ขณะที่เธอยุ่งง่วนอยู่ อิงเหยียนนั่วก็แวบเข้ามาอย่างไร้สุ้มเสียง มองขวดมองกระปุกต่างๆ รวมถึงอุปกรณ์ที่เรียกชื่อไม่ถูกของเธอ มองการทำงานของเธอ ดูอยู่เงียบๆ ที่ด้านข้าง
ผ่านไปครู่หนึ่ง ในที่สุดกู้ซีจิ่วก็หยุดมือ แล้วมองตัวอย่างเลือดในจานทดลองแล้วขมวดคิ้วนิดๆ
อิงเหยียนนั่วจึงมองแวบหนึ่งเช่นกัน “พบอะไรหรือไม่?”
กู้ซีจิ่วพรูลมหายใจออกมาเบาๆ “ในเลือดของเขามีตัวอย่างตกค้างอยู่เล็กน้อยจริงๆ”
“ตัวยาอันใดที่ตกค้างอยู่?” อิงเหยียนนั่วถาม เขามองอะไรไม่ออกเลย
กู้ซีจิ่วนวดคลึงหว่างคิ้ว “เป็นสารเคมีชนิดหนึ่ง…ช่างเถอะ พูดไปเจ้าก็ไม่เข้าใจ จะทำให้ประสาทเขาตื่นตัว เส้นประสาทบางเส้นในสมองสับสนวุ่นวาย เมื่อได้รับสารตัวนี้อย่างต่อเนื่องจะทำให้เส้นประสาทเขาถูกทำลาย…”
เห็นได้ชัดว่าอิงเหยียนนั่วไม่เข้าใจคำนามบางอย่างที่ผุดออกมาจากเธอ เพียงแต่เขาจับใจความได้ “มียาถอนหรือไม่?”
กู้ซีจิ่วส่ายหน้านิดๆ “ยาถอนประเภทนี้ไม่อาจผลิตได้ในทันที”
เธอตรวจสอบพบว่าพิษในตัวจักรพรรดิซวนเป็นสารเคมีขั้นสูงชนิดหนึ่งของยุคปัจจุบัน สูงเกินไปด้วย!
ต่อให้อยู่ในยุคปัจจุบัน ยาถอนตัวนี้ก็ไม่อาจผลิตได้ในระยะเวลาชั่วข้ามคืน!
นับประสาอะไรกับยุคนนี้เล่า?
“เจ้าไม่อาจผลิตได้ในยามนี้หรือ? ผลิตไม่ได้ในสองสามวันใช่ไหม?”
กู้ซีจิ่วไม่เงยหน้าขึ้นมาเลย “สองสามวันรึ? สองสามเดือนก็ยังไม่แน่ว่าจะผลิตออกมาได้! นี่เป็นสารเคมีพิเศษขั้นสูง…”
“ไม่ใช่ของในยุคนี้ใช่ไหม?” จู่ๆ อิงเหยียนนั่วก็ถามออกมาประโยคหนึ่ง
“แน่นอนสิ…” กู้ซีจิ่วตอบออกไปโดยไม่ยั้งคิด ทันใดนั้นคล้ายว่าเธอจะสังเกตอะไรได้ เงยหน้ามองเขา “เจ้ารู้ได้ยังไงว่าไม่ใช่ของในยุคนี้?”
ที่มาของเธอมีเพียงท่านเทพศักดิ์สิทธิ์และตี้ฝูอีที่ทราบ แม้แต่จิ้งจอกกับเชียนหลิงอวี่ก็ยังไม่ทราบเลย ทำไมจู่ๆ อิงเหยียนนั่วผู้นี้ถึงเอ่ยเช่นนี้ออกมาได้?
อิงเหยียนนั่วชะงักไปครู่หนึ่ง กะพริบตาปริบๆ “ตอนเจ้าเมาเคยบอกว่าเจ้าไม่ใช่คนยุคนี้…”
ในสมองกู้ซีจิ่วเกิดเสียงดังหึ่งๆ ทันที เธอรู้ว่าตอนตัวเองเมาไว้ใจไม่ได้ยิ่งนัก!
นึกไม่ถึงว่าแม้แต่เรื่องที่เป็นความลับเช่นนี้ก็ยังพูดออกมา!
สีหน้าเธอเดี๋ยวมืดเดี๋ยวครึ้มสลับไปมา อิงเหยียนนั่วรีบกล่าวขึ้นว่า “วางใจเถอะ ข้าจะเก็บความลับของเจ้าไว้ อย่าคิดสังหารเพื่อปิดปากข้าเลย”
กู้ซีจิ่วเงียบไป
เธอหัวเราะเหอะๆ คราหนึ่ง ฝ่ามือตบไหล่อิงเหยียนนั่วทีหนึ่ง แย้มยิ้ม และเอ่ยอย่างน่าพรั่นพรึง “จำคำเจ้าไว้!”
การทำภารกิจครั้งนี้แบ่งออกเป็นหลายกลุ่ม และคนที่ออกมาก็มีมากมายยิ่งนัก มากอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน พื้นที่ที่ทุกคนไปแตกต่างกัน รับผิดชอบภารกิจที่ต่างกัน การจับกลุ่มก็แตกต่างกันไป และไม่ได้ยึดตามการจับกลุ่มต่อสู้ก่อนหน้านี้ไปเสียทั้งหมด
กลุ่มของกู้ซีจิ่วต้องการเพียงสองคน เดิมทีจิ้งจอกน้อยต้องการมากับเธอ แต่อิงเหยียนนั่วกลับยืนกรานว่าเป็นตายร้ายดีอย่างไรก็จะอยู่กลุ่มเดียวกับ เธอ โยนหลานไว่หูไปอยู่กลุ่มเดียวกับเยี่ยนเฉินทันที ด้านเยี่ยนเฉินก็เป็นห่วงจิ้งจอกน้อย จึงหลอกล่อแกมหว่านล้อมให้จิ้งจอกน้อยรั้งอยู่ ด้วยเหตุนี้กู้ซีจิ่วจึงพาอิงเหยียนนั่วมาด้วย…
ถึงแม้สำนักศึกษาชุมนมสวรรค์จะไม่เข้าร่วมข้อพิพาทระหว่างอาณาจักร แต่กลับไม่ยินยอมให้ปรากฏเหตุร้ายขึ้นในทวีปนี้ เมื่อมีเหตุร้ายปรากฏขึ้น สำนักศึกษาชุมนุมสวรรค์ย่อมต้องส่งคนไปตรวจสอบปราบปราม คนของสำนักอื่นก็ส่งคนลงเขาเช่นเดียวกัน…
หนนี้จู่ๆ จักรพรรดิซวนก็เป็นบ้า ปลุกปั่นให้เกิดสงครามครั้งนี้ขึ้น อันที่จริงไม่ว่าสำนักศึกษาชุมนุมสวรรค์หรือว่าที่อื่นๆ ต่างเคยส่งคนมาลอบตรวจสอบ แต่ล้วนตรวจสอบไม่พบอะไรทั้งสิ้น