บทที่ 960 หรือเขาจะพลาดท่าติดอยู่ในข้างใน?!
ทั่วโลกาล้วนสะท้านสะเทือนไปตามๆ กัน!
ทุกคนล้วนตกตะลึงพรึงเพริด หลายฝีเท้าหยุดชะงัก หันกลับไปมองทันที
จางฉูฉู่ตะโกนขึ้นว่า “ดูเร็ว! เสาธงต้นนั้นจะถูกฟ้าผ่าแล้ว!”
เสาธงต้นนั้นคือสิ่งที่สูงที่สุดในเมืองนี้ ไม่ว่าจะมองไปทางไหนล้วนมองเห็นมันได้ในแวบเดียว ยามนี้จู่ๆ มันก็ถูกฟ้าผ่า เป็นธรรมดาที่ทุกคนล้วนมองเห็นได้ ทุกคนเบิกตามองอัสนีสีทองเจิดจ้าสายหนึ่งผ่าลงที่เสาธงต้นนั้นอย่างจัง เกิดเสียงเปรี้ยงดังกัมปนาทขึ้น
กู้ซีจิ่วใจหายวาบทันที ตะโกนเสียงดัง “อย่าสนใจเรื่องนั้น! รีบวิ่ง!”
กล่าวยังไม่ทันขาดคำ พสุธาใต้ฝ่าเท้าก็สั่นไหวขึ้นมา คล้ายจะเกิดแผ่นดินไหวระดับแปดขึ้นมาในทันใด!
แผ่นดินเริ่มแยกออก…
ทุกคนไม่ทันระวังตัว ถูกเขย่าจนล้มไปคนละทิศละทาง
เชียนหลิงอวี่ร่างกายอ่อนแอเนื่องจากได้รับบาดเจ็บ จึงกระเด็นออกไปทันที ประจวบเหมาะเคราะห์ร้ายไถลไปทางหลุมลึกแห่งหนึ่งที่เพิ่งแยกออกอย่างรวดเร็ว!
หลุมลึกที่แตกอ้านั้นมืดสนิท เชียนหลิงอวี่เบิกตามองร่างตนหล่นลงไปในรอยแยกที่ลึกจนไม่เห็นก้นแห่งนั้น ตกใจจนหน้าเปลี่ยนสี!
เขายังไม่ทันมีปฏิกิริยาอะไร ทั้งร่างก็แขวนค้างอยู่กลางอากาศแล้ว!
เมื่อเห็นว่าเขากำลังจะหล่นลงไป คนผู้หนึ่งก็พุ่งมาปานฟ้าแลบรั้งตัวเขาไว้ โอบเอวแล้วอุ้มเขาขึ้นมา จากนั้นก็เกิดเสียงลมหวีดหวิวคราหนึ่ง เชียนหลิงอวี่เวียนหัวตาลายอยู่ครู่หนึ่ง ยามที่เขาลืมตาขึ้นมาอีกครั้ง ตัวคนก็ถูกพามาไว้ที่เนินเขาแห่งหนึ่งที่ด้านนอกแล้ว
ทั้งหมดนี้เกิดขึ้นรวดเร็วนัก เร็วจนทำให้คนตอบสนองไม่ทัน หัวใจเชียนหลิงอวี่เต้นแรงจนแทบจะหลุดออกมา ในที่สุดเขาก็เห็นชัดเจนแล้วว่าผู้ที่พาเขาออกมาคือใคร เป็นกู้ซีจิ่ว…
ในสถานการณ์คับขัน เธอใช้วิชาเคลื่อนย้ายช่วยเหลือเขาไว้ ไม่เพียงแต่ช่วยเขาเท่านั้น ในมืออีกข้างของเธอยังพาจางฉูฉู่ที่มัวแต่ชมเรื่องครึกครื้น จนตกตะลึงเสียหลักลื่นล้มออกมาด้วย ส่วนคนที่เหลือ เยี่ยนเฉินอุ้มจิ้งจอกน้อยที่ปฏิกิริยาตอบสนองเชื่องช้าออกมา เล่อชิงซิ่งก็ลากน้องสาวของตนออกมาแล้ว…
กู้ซีจิ่วยังไม่ได้วางคนทั้งสองลง สายตาก็กวาดมองไปทั่วอย่างรวดเร็ว เยี่ยมมาก คนส่วนใหญ่ล้วนออกมาแล้ว ยามนี้กำลังมุ่งหน้ามาทางเนินเขาแห่งนี้ที่เธออยู่ เธอถอนหายใจอย่างโล่งอก เพียงแต่ลมหายใจแห่งความโล่งอกนี้เพิ่งจะพ่นออกมาได้เพียงครึ่งเดียวก็สะกิดใจขึ้นอีกครา!
อิงเหยียนนั่วล่ะ?!
เนื่องจากอิงเหยียนนั่วผู้นี้ขอเพียงโผล่ออกมาก็จะชอบติดสอยห้อยตามอยู่ข้างกายเธอ แทบจะตามติดทุกฝีก้าวเว้นเพียงเวลานอนเท่านั้น และไม่ว่าจะตกอยู่ในสถานการณ์อันตรายเช่นใดเขาล้วนมีความสามารถพอที่จะเอาตัวรอดได้ ดังนั้นในยามที่ต้องหนีเอาชีวิตรอดจากภยันอันตรายกู้ซีจิ่วจึงติดนิสัยไม่มองหาเขา เนื่องจากเธอรู้ว่าเขาสามารถตามตนออกมาได้ ถึงขั้นที่หนีได้ว่องไวกว่าเธอด้วยซ้ำ!
แต่ตอนนี้เธอกลับไม่เห็นเขา!
หรือเขาจะพลาดท่าติดอยู่ข้างใน?!
ขณะนี้เห็นได้ชัดว่าค่ายกลนั้นกำลังถล่มลงมา เสียงโครมครามกึกก้องปานภูผาคลอนปฐพีโยก ม่านหมอกหิมะมหาศาลฟุ้งอยู่ในอากาศ แทบจะบดบังฟ้าดิน หากอิงเหยียนนั่วพลาดท่าติดอยู่ด้านใน เกรงว่าคงไม่รอดแน่!
ร่างกายกู้ซีจิ่วพุ่งขึ้นมา คิดจะกระโจนกลับเข้าประตูค่ายกลไปตามหาคนอีกครั้ง…
เงาร่างเธอว่องไวยิ่ง พวกเยี่ยนเฉินไม่มีทางสกัดไว้ทัน เมื่อเห็นว่าเธอกำลังพุ่งเข้าไปในประตูค่ายกล คนผู้หนึ่งก็โผล่พรวดออกมาจากประตูค่ายกล กู้ซีจิ่วยั้งเท้าไม่อยู่ เกือบจะโผใส่อ้อมแขนคนผู้นั้น!
คนผู้นั้นรวดเร็วปานฟ้าแลบ ดึงเธอไว้แล้วเหินทะยานขึ้น…
หัวใจกู้ซีจิ่วสงบลงทันที คนผู้นี้คือ อิงเหยียนนั่ว ขอบคุณฟ้าดิน เขาหนีออกมาได้ในวินาทีสุดท้าย!
เงาร่างของเขาและเธอเพิ่งจะพ้นจากประตูค่ายกลนั้น ประตูค่ายกลก็ถล่มลงมาทันที และสามารถกล่าวได้ว่าเขตแดนทั้งหมดถล่มลงมาแล้ว …
….
เสียงที่แว่วอยู่ด้านหลัง ดังสะเทือนเลือนลั่น ทุกคนไม่มีเวลาหันกลับไปมอง โคจรพลัง ใช้วิชาเหินหาว หลบหนีออกไปประหนึ่งควันสายหนึ่ง ได้ระยะทางเจ็ดแปดลี้ถึงหยุดฝีเท้าลง