บทที่ 996 และอาจกล่าวได้ว่าเขาก็คือตี้ฝูอี!
“แล้วทหารที่เคยใช้ยาพวกนั้นล่ะ? พวกเขาเป็นยังไงบ้าง?” กู้ซีจิ่วถามอีก
หรงเช่อตอบอย่างหม่นหมอง “ทหารกองนั้นมีอยู่ห้าพันนาย คนเหล่านั้นใช้ยามาครึ่งปี เสพติดกันไปแล้ว ถ้าไม่ได้ใช้สองวัน ก็จะหงุดหงิดงุ่นง่าน เดือดดาลสังหารคนได้ง่ายๆ ทูตเฉิงเอ้อสั่งคนให้นำพวกเขาทั้งหมดไปกักตัวไว้แล้วให้ยอดฝีมือจากสามสำนักหลักคอยเฝ้าไว้…ข้ามาที่นี่หนึ่งคือรักษาเสด็จพี่รัชทายาท สองก็คืออยากเชิญเจ้าสำนักหลงออกจากเขา ขอให้เขาไปรักษาทหารเหล่านั้น ดูว่าพอจะสร้างยาถอนได้หรือไม่…ทหารเหล่านั้นล้วนเป็นอัจฉริยะผู้มีพรสวรรค์ของอาณาจักรข้า หลายคนถึงขั้นเป็นลูกหลานขุนนางในราชสำนัก ไม่อาจปล่อยให้พินาศลงเช่นนี้ได้…”
กู้ซีจิ่วนวดคลึงหว่างคิ้ว หากไม่มีอะไรเหนือความคาดหมาย ยาที่ทหารเหล่านั้นใช้น่าจะคล้ายกับยาเสพติดจำพวกแอมเฟตามีน และแน่นอนว่าซับซ้อนกว่าแอมเฟตามีนมาก ต่อให้เป็นยุคปัจจุบันก็ยังถือว่าเป็นยาชีวเคมีต้องห้าม…
ดูเหมือนนักวิทยาศาสตร์สติเฟื่องคนนั้นจะฟั่นเฟือนไปแล้วจริงๆ ไม่ว่าจะไปไหนล้วนบ้าคลั่งขึ้นมาได้ อยู่ในยุคนี้ก็ยังสร้างวิกฤตการณ์ชีวเคมีขนานใหญ่ถึงเพียงนี้ขึ้นมาได้ เห็นทีว่าสี่ทูตผู้ช่วยของท่านเทพศักดิ์สิทธิ์จะมีความสามารถรอบด้านยิ่ง แม้แต่ตัวยาที่ซับซ้อนเช่นนี้ก็ยังตรวจสอบพบ หากพวกเขาลงมือเร็วกว่านี้ก็คงดี สงครามจะได้ไม่ยืดเยื้อเนิ่นนานถึงเพียงนี้
เหตุที่ก่อนหน้านี้พวกเขาไม่ลงมือ อาจเกี่ยวข้องที่ว่าสาวกของท่านเทพศักดิ์สิทธิ์ไม่อาจเข้าร่วมสงครามระหว่างอาณาจักร ไม่เข้าร่วมสงครามตามปกติ ต้องปล่อยให้เรื่องนี้ดำเนินไป มีเพียงเกิดเรื่องชั่วร้ายขึ้นเท่านั้นถึงจะดึงดูดความสนใจของพวกเขาได้…
‘ซีจิ่ว เรื่องนี้เจ้ามีความดีความชอบมากที่สุด’ อิงเหยียนนั่วที่นั่งดื่มบ้างกินบ้างอยู่ตรงนั้นมาโดยตลอดเสมือนมนุษย์ล่องหน จู่ๆ ก็ส่งกระแสเสียงมา
‘หือ?’ กู้ซีจิ่ว เลิกคิ้ว
‘เป็นเจ้าที่ตรวจพบก่อนว่าจักรพรรดิซวนถูกคนวางยา พูดความพิเศษของยาจำพวกนี้ออกมา ถึงทำให้สี่ทูตมีหนทางตรวจสอบ เภทภัยครั้งนี้ถึงได้ยุติลงอย่างรวดเร็วเช่นนี้’ อิงเหยียนนั่วยังคงส่งกระแสเสียงมาอย่างเป็นขั้นเป็นตอน
กู้ซีจิ่วตะลึงไปครู่หนึ่ง คล้ายจะทราบอะไรแล้ว ‘เรื่องจักรพรรดิซวนถูกวางยามีแต่ข้ากับเจ้าที่รู้ แล้วแพร่ไปถึงสี่ทูตได้อย่างไร? เจ้าเป็นคนของสี่ทูตหรือ?!’
อิงเหยียนนั่วยิ้มนิดๆ คีบกุ้งตัวหนึ่งมาให้เธอ แต่ไม่พูดอะไร
กู้ซีจิ่วก็ถือว่าความเงียบของเขาคือการยอมรับ
ในที่สุดก็กระจ่างแจ้งเรื่องความผิดปกติบางอย่างบนตัวเขาแล้ว อย่างเช่น รอบรู้เป็นพิเศษ อย่างเช่นมีพลังวิญญาณขั้นหกแต่ผลลัพธ์ที่แสดงออกมาเป็นของขั้นแปด…
ฐานะของท่านเทพศักดิ์สิทธิ์น่าเคารพบูชาเช่นนี้ ปกครองทวีปนี้มาเนิ่นนานปานนี้ ย่อมมิได้มีแค่สี่ทูตเท่านั้นที่คอยติดตาม จะต้องมีบริวารสายสืบอยู่ทั่วแผ่นดินเป็นแน่ ดูเหมือนอิงเหยียนนั่วผู้นี้ก็เป็นหนึ่งในนั้นเช่นกัน
หัวใจเธอพลันเต้นแรงขึ้นมา หรือเขาจะเป็นคนที่ท่านเทพศักดิ์สิทธิ์ส่งมาคุ้มกันเธออย่างลับๆ?
เพียงแต่ ถ้าหากเขาเป็นคนที่ท่านเทพศักดิ์สิทธิ์ส่งมา ไหนเลยจะมาสนิทชิดเชื้อกับเธอเช่นนี้ ซํ้ายังบอกอะไรทำนองว่าจะแต่งเธอเป็นภรรยาอีก…
หรือเขาเป็นคนของสี่ทูต?
แต่ในเมื่อส่งมาคุ้มกันเธอ ก็จำเป็นต้องได้รับความเห็นชอบจากท่านเทพศักดิ์สิทธิ์ด้วย เช่นนั้นสี่ทูตก็ต้องกำชับอะไรเขาบ้างสิ มากสุดเขาก็แค่คุ้ม กันอยู่ข้างกายเธอ ไม่กล้าใกล้ชิดสนิทสนมกับเธอ นอกเสียจากท่านเทพศักดิ์สิทธิ์จะจงใจส่งคนมาทดสอบเธอ หรือบางที…
ตัวเขาก็คือท่านเทพศักดิ์สิทธิ์!
และอาจกล่าวได้ว่าเขาก็คือตี้ฝูอี!
หัวใจของกู้ซีจิ่วเต้นรัวขึ้นมา เหลือบมองข้อมืออีกครั้งอย่างห้ามตัวเองไว้ไม่อยู่ ข้อมือนั้นยังคงสวมสนับข้อมือหนังสัตว์อันเล็กไว้ไม่ต่างจากก่อนหน้านี้
ไม่ถูกสิ!
สนับข้อมืออันนี้เขาสวมไว้ก่อนที่จะหดเล็กลง ตอนนี้ตัวคนหดเล็กลงแล้ว ข้อมือย่อมบางลงตามธรรมชาติ แต่สนับข้อมือนั้นยังคงดูพอดิบพอดีไม่หลวมไม่แน่นเช่นเดิม
ชัดเจนยิ่งนัก สนับข้อมืออันนี้ก็สามารถยืดหดได้ตามต้องการเช่นกัน บนโลกนี้จะมีสนับข้อมือที่ดีเลิศถึงเพียงนี้เชียวหรือ?
หรือสิ่งนี้ก็คือกำไลคู่บุพเพวงนั้น?
เพียงแต่ถูกเขาใช้คาถาพรางตาอำพรางไว้?