Skip to content

สู่วิถีอสุรา 1016

ตอนที่ 1016 เจ็ดอาคมผนึก

คำพูดซูหมิงคมกริบ เข้าถึงหูวิญญาณร้ายขนสีขาว ทำให้มันหน้าเปลี่ยนสีรวดเร็วหลายครั้ง

เมื่อฝึกถึงขั้นพลังอย่างมันแล้ว สิ่งที่สำคัญคือการฝึกจิตใจ อาศัยจิตใจแน่วแน่ถึงจะเดินไปได้ตลอดทางอย่างไม่ลังเล ทว่าแผนการต่อเนื่องในคำพูดของซูหมิง รวมถึงหนึ่งก้าวที่เดินออกไปเพราะกระหายในอิสระตอนสุดท้าย กลับทำให้ในใจวิญญาณร้ายขนสีขาวเกิดรอยแยกที่ไม่อาจสมานคืน

ด้านหนึ่งเป็นฐานะสูงส่งของเขา ในฟ้าดินแห่งนี้ สิ่งที่เขาต้องการจะไม่มีอะไรมาเปลี่ยนจิตใจได้ จิตใจแน่วแน่นี้จะไม่ถูกกำราบโดยขั้นพลังแก่กล้า เพราะหากเขา ไม่ยอม เขาจะไม่ปฏิบัติตามคำพูดของมู่หยาก็ได้ เพียงแค่ราคาที่ต้องจ่ายไปสูงยิ่ง

ซึ่งความจริงแล้วเขามีสิทธิ์เลือก

ทว่าเมื่อเขาเดินออกไป สิทธิ์ในการเลือกของเขาหายไปอย่างที่ซูหมิงว่าแล้ว แต่เปลี่ยนไปเพราะการเปลี่ยนของคนอื่น ดังนั้นจิตใจเขาจึงเกิดการสั่นสะท้าน

“ข้าทำเพื่ออิสระ ตอนนี้แค่ทำตามชั่วคราวเท่านั้น ข้าไม่ได้สนคำพูดคนอื่น!” วิญญาณร้ายขนขาวจ้องซูหมิงตาเขม็ง มันกล่าวพร้อมกับเดินหน้า ยกมือขวาขึ้นกดไปทางพื้นดิน

เมื่อกดลงไป บนมือขวามันเปล่งแสงโลหิตเข้มข้นขึ้นมาทันที ขณะที่แสงสว่างไปรอบๆ อย่างรวดเร็ว บนผืนดินที่กดมือลงไปยังมีวงแหวนอาคมสีแดงยักษ์ลักษณะกลมขึ้นหนึ่งวง

ตรงขอบวงแหวนนี้ขยับวิบวับด้วยอักขระจำนวนมาก ภายใต้การหมุนโคจรไม่หยุด ทำให้วงแหวนอาคมนี้เปล่งแสงโลหิตสว่างจ้าแสบตา

“กำเนิดมารมนุษย์!”

ระหว่างที่วิญญาณร้ายขนสีขาวร้องตะโกน วงแหวนอาคมบนแผ่นดินที่มือมันกดอยู่พลันเคลื่อนไหว พุ่งเข้าไปหาซูหมิงอย่างรวดเร็ว

ดวงตาซูหมิงขยับประกาย จังหวะเดียวกับที่วงแหวนอาคมสีแดงเข้ามาใกล้ เขาทำสัญลักษณ์มือขวาชี้ไป สมบัติล้ำค่าผีร้ายชั่งช้างก็พุ่งไปหาวงแหวนอาคม แล้วใช้ผีร้ายมาชั่งน้ำหนักวงแหวนอาคมรวมถึงวิญญาณร้ายขนสีขาว

เสียงครึกโครมกังวานไปรอบๆ อีกครั้ง ภายใต้เสียงดังสนั่น วิญญาณร้ายขนสีขาวยกมือขวาขึ้นจากพื้นดิน วงแหวนอาคมสีแดงบนพื้นลอยอยู่กลางอากาศ ก่อนเข้าปะทะกับผีร้ายชั่งช้างในขณะที่มันโอบล้อมซูหมิงอยู่ข้างใน

แรงปะทะรุนแรงแผ่กระจายไปรอบๆ ร่างผีร้ายฉีกขาดทั่วร่าง ช่วงที่กระเด็นถอยก็สลายหายไป ด้ามตาชั่งก็สลายตามไปด้วย เหลือเพียงช้างใหญ่หยกขาว มันปะทะกับวงแหวนอาคมสีแดงคล้ายกับกำราบ ส่งผลให้วงแหวนอาคมสีแดงเกิดรอยร้าวนับไม่ถ้วนทันทีแล้วแตกกระจายออก

ต่างฝ่ายต่างแกร่งพอๆ กัน!

ดวงตาซูหมิงฉายประกายเย็นเยียบ เขาในตอนนี้อยู่ในร่างเด็กที่เกิดจากการเปลี่ยนครั้งที่หนึ่งของซู่มิ่ง ตัวเขาขยับไหว ยกมือขวาขึ้นสะบัดไป ทันใดนั้นมวลอากาศรอบตัวพลันบิดเบี้ยว ภายใต้กาลเวลาหมุนย้อนอย่างรวดเร็ว ผีร้ายที่หายไปโผล่ขึ้นมาอีกครั้ง ด้ามตาชั่งที่สลายไปก็รวมขึ้นมาใหม่ด้วยเช่นกัน

“ชั่งอีกครั้ง!” ซูหมิงก้าวเดินขณะผีร้ายข้างกายคำราม ภาพชั่งช้างวนเวียนอยู่รอบๆ ประหนึ่งยึดครองฟ้า จากนั้นพุ่งไปหาวิญญาณร้ายขนสีขาว

“วิชาย้อนเวลา…” วิญญาณร้ายขนสีขาวหรี่ตาลง แต่กลับไม่หยุดเท้า พอก้าวออกมาจากวงแสงแล้ว ก็ยกสองมือขึ้นพร้อมเงยหน้าตะโกนขึ้นฟ้า

“ฝ่ามือแยก!” สิ้นเสียงคำรามจากวิญญาณร้ายขนสีขาว ลายมือกลางสองฝ่ามือที่ชูขึ้นทำท่าเหมือนจะแยกออกจากกัน ต่อมาวิญญาณร้ายขนสีขาวก็เดินหน้าพร้อมคำรามอีกครั้ง

“ลายเส้นแตก!” กลางฝ่ามือวิญญาณร้ายขนสีขาวเกิดโลหิตขึ้นจำนวนมาก ประหนึ่งว่ายามนี้ลายเส้นฝ่ามือมันไม่ใช่ลายมืออีก แต่เป็นเส้นรอยแผล ระหว่างที่โลหิตพุ่งออกมาจากในสองมือ วิญญาณร้ายขนสีขาวก็กดสองมือลงไปยังผืนดิน

แผ่นดินสั่นสะเทือน วงแหวนอาคมสีโลหิตที่ใหญ่กว่าเมื่อครู่หลายเท่าขนาดราวๆ หลายร้อยจั้งปรากฏขึ้น จากนั้นก็เปล่งแสงวิบวับอย่างรวดเร็วบนพื้นดิน โดยมีสองมือของวิญญาณร้ายขนสีขาวเป็นใจกลาง

วงแหวนอาคมนี้ไม่ใช่วงกลมอีก แต่เป็นสี่เหลี่ยม ระหว่างหมุนโคจรตรงมุมเหลี่ยมยังเปล่งแสงสีโลหิตไม่มีสิ้นสุด เสียงอึกทึกดังก้องฟ้าดินตามการหมุนโคจรของอักขระเหลือคณนานับในวงแหวนอาคม วงแหวนอาคมพลันขยายออกไปข้างหน้าอย่างว่องไว พุ่งตรงไปหาซูหมิง

ซูหมิงสะบัดมือขวา ผีร้ายข้างหลังเขาร้องคำรามพร้อมกับพุ่งไปเช่นกัน ทว่าช่วงที่มันทะยานไปนั้น วิญญาณร้ายขนสีขาวกลับยิ้มเยาะมุมปาก สองมือยกขึ้นจากพื้นดิน

“อาคมแรกผนึกข้างหน้า!” ท่ามกลางเสียงดังก้อง วงแหวนอาคมสีโลหิตที่ยืดยาวเข้าไปหาซูหมิงพลันลอยอยู่กลางอากาศ และยังตั้งขึ้นขวางหน้าซูหมิงเอาไว้ จากนั้นก็เข้าปะทะกับผีร้าย

เสียงดังสนั่นหวั่นไหวไปรอบๆ ซูหมิงตัวสั่นสะท้านไปทั่วร่าง เขาพบว่าร่างกายตนถูกหยุดชะงักครู่หนึ่งโดยไม่อาจควบคุมราวกับถูกผนึกตอนที่วงแหวนอาคมลักษณะสี่เหลี่ยมสีแดงมาอยู่ตรงหน้า

คล้ายกับว่าวงแหวนอาคมข้างหน้าดูดร่างเขาเอาไว้ ให้ชั่วเสี้ยวขณะหนึ่งขยับตัวไม่ได้ ตอนนี้เอง เสียงแหลมจากวิญญาณร้ายขนสีขาวกึกก้องขึ้น

“อาคมสองผนึกข้างหลัง!” ฉับพลันนั้นมีวงแหวนอาคมสีโลหิตอีกวงโผล่ขึ้นมา ใต้เท้าวิญญาณร้ายขนขาว เสี้ยวพริบตาเดียวก็มาโผล่อยู่ข้างหลังซูหมิง

วงแหวนอาคมนี้ทำให้ร่างกายซูหมิงที่คลายออกเล็กน้อยพลันหยุดชะงักอีกครั้ง หลังเกิดการเปลี่ยนแปลง กระทั่งซูหมิงยังพบว่าขณะอยู่กลางวงแหวนอาคมหน้าหลังสองวงนี้ พลังเขาถูกกดข่มไว้อย่างแน่นหนา ร่างถูกผนึกไว้อีกครั้ง

ไม่ใช่เพียงแค่เขา ผีร้ายก็ด้วย กระทั่งด้ามตาชั่งรวมถึงช้างหยกขาวยังหยุดชะงักกลางอากาศ

‘นี่มันวิชาอะไร!’ ซูหมิงหรี่ตาลง

“อาคมสามผนึกแผ่นดิน!”

“อาคมสี่ผนึกฟ้า!”

“อาคมห้าผนึกตาย!” ระหว่างที่วิญญาณร้ายขนสีขาวกล่าวขึ้นอย่างรวดเร็ว ก็มีวงแหวนอาคมสีโลหิตโผล่ขึ้นมา พวกมันไปปรากฏอยู่รอบตัวซูหมิงพร้อมกันทั้งหมดห้าวง ทว่าวงแหวนอาคมห้าวงนี้กลับเชื่อมเข้าด้วยกัน ล้อมเขาเป็นผนึกยักษ์อันหนึ่ง!

“อาคมหกผนึกจิตใจ!”

เสียงโครมดังขึ้น วงแหวนอาคมหกวงปรากฏขึ้นใต้เท้าซูหมิง ดังนั้นแล้วจึงเกิดเป็นการผนึกอย่างสมบูรณ์แบบยิ่ง ผนึกเขาเอาไว้ภายในอย่างถึงที่สุด

ในเวลาเดียวกัน วิญญาณร้ายขนสีขาวพุ่งมาข้างหน้า ทั้งตัวกลายเป็นสายรุ้งยาวพุ่งเข้าไปในวงแหวนอาคม พร้อมกันนั้นยังกางสองแขนออก

“ยมโลกเงามืดเป็นฝ่ามือ อาคมเจ็ดผนึกวิญญาณ!” เมื่อสิ้นเสียงพลันเกิดเสียงระเบิดในตัววิญญาณร้ายขนสีขาว ร่างกายเขาบิดเบี้ยวก่อนหายไปกลางอากาศ แต่ก็มาอยู่ข้างซูหมิงในผนึกวงแหวนอาคมสีแดงในเสี้ยวขณะ เพียงแต่ตอนที่ปรากฏตัว เขาไม่ใช่ร่างคนอีก

แต่เป็น…มือกระดูกสีดำที่ยื่นมาจากในผืนดินข้างหนึ่ง!

มือกระดูกเหมือนยื่นมาจากพื้น แต่หากมองดีๆ จะเห็นว่ามืองอกมาจากในวงแหวนอาคม นี่คืออาวุธสังหารของวิญญาณร้ายขนสีขาว ใช้ร่างกายหลอมรวมเข้าสู่วงแหวนอาคมแล้วกลายเป็นมือกระดูกสีดำข้างนี้ มือมีขนาดหลายจั้ง ช่วงที่คว้าซูหมิงเอาไว้ ข้างหูซูหมิงยังมีเสียงคำรามด้วยความบ้าคลั่งของวิญญาณร้ายขนสีขาวดังก้องอยู่

“ใช้ร่างกายข้าเปิดเจ็ดอาคมผนึก ผนึก ผนึก ผนึก…”

ช่วงที่วิญญาณร้ายขนสีขาวกล่าวคำว่าผนึกคำแรกออกไป ก็เกิดพายุหมุนรุนแรงขึ้นจากมือกระดูกนั้น มันหมุนตลบอย่างรุนแรงโดยมีมือกระดูกเป็นใจกลาง หรือพูดได้อีกอย่างว่ามีซูหมิงเป็นใจกลาง จึงส่งความเจ็บปวดรุนแรงไปทั่วร่างซูหมิง

เลือดเนื้อเขาฉีกขาดอย่างรวดเร็ว ขั้นพลังหายไปไม่หยุดหย่อน วิญญาณยังเกิดความเจ็บปวดจากการแตกเป็นเสี่ยงๆ

ตอนที่กล่าวคำว่าผนึกคำที่สอง เกิดเสียงโครมดังสนั่นขึ้นตาม ทั่วร่างซูหมิงคล้ายจะแหลกสลายไป พลังจากผนึกรอบวงแหวนอาคมกลายเป็นแรงปะทะเทียบเท่า การระเบิดตัวเอง พุ่งเข้าไปทำลายร่างกายเขาไม่หยุด

โดยเฉพาะเมื่อกล่าวคำว่าผนึกคำที่สาม ซูหมิงขยับตัวไม่ได้ ถูกมือกระดูกจับเอาไว้ ถูกพายุหมุนฉีกร่าง มีโลหิตไหลออกจากทวารทั้งเจ็ด ภยันตรายเป็นตายร้ายแรงพลันเกิดขึ้นในก้นบึ้งหัวใจอย่างรวดเร็ว

“นี่คืออภินิหารที่แกร่งที่สุดของข้า จะสังหารเจ้าไม่ได้อย่างนั้นรึ? ผนึก!” วิญญาณร้ายขนสีขาวกล่าวขึ้นอีกครั้ง พลันเกิดเสียงโครมครามในตัวซูหมิง มีโลหิตพุ่งทะลักมาจากตัวเขาจำนวนมาก ภายใต้แรงปะทะทำลายล้างจากพลังผนึกรวมถึง การฉีกขาดจากพายุหมุน มีผลให้ร่างกายเขาเกิดการแตกหักทันที!

สองแขนแยกออกจากร่างกาย ขาสองข้างถูกฉีกขาด ร่างกายก็ถูกฉีกเช่นกัน แตกเป็นเสี่ยงๆ ราวกับกระดาษถูกฉีก!

ทว่า…กลับไม่แยกออก ขณะเดียวกับที่ร่างแตกหักนั้น ระหว่างแขนขาของซูหมิง มีกิ่งไม้เล็กจำนวนมากอยู่ กิ่งไม้เหล่านี้เป็นเหมือนเส้นเลือด พยายามเชื่อมร่างกายเขาเอาไว้ ทำให้ร่างกายไม่แยกออกอย่างสมบูรณ์ แต่ยิ่งเป็นแบบนี้มากเท่าไร เขาก็ต้องเจ็บปวดมากเท่านั้น

ท่ามกลางความเจ็บปวดรุนแรง เขากัดฟันไม่ร้องคำรามออกไป แต่นัยน์ตาเผยจิตสังหารบ้าคลั่ง

ยิ่งเจ็บ จิตสังหารยิ่งเหลือล้น!

ยิ่งเจ็บ การดิ้นรนเอาชีวิตรอดก็ยิ่งมากขึ้นเท่านั้น!

“ตายซะ! ผนึก!” ตอนที่วิญญาณร้ายขนสีขาวกล่าวคำว่าผนึกคำที่ห้า ระหว่าง กิ่งไม้ที่เชื่อมระหว่างแขนขาซูหมิงแยกออกจำนวนมาก ความเจ็บปวดที่ไม่อาจบรรยายทำให้เขากัดฟัน และเปลี่ยนมันกลายเป็นการปะทุของชีวิตในร่างกาย

ท่ามกลางความเจ็บปวดและการปะทุ ซูหมิงเงยหน้าคำรามขึ้นฟ้า เสียงคำรามเหมือนความเจ็บปวดทุกอย่างได้ระบายออกตามเสียงนี้ ในเวลาเดียวกัน ขณะที่ความเจ็บปวดระบายออกจากร่างกาย มันก็ยังฟื้นพลังกลับมาเล็กน้อยด้วย

“เจ้าต่างหากที่ตาย!” พริบตาที่ขั้นพลังฟื้นกลับมา ซูหมิงพลันหันหน้ากลับแล้วกล่าวอย่างเหี้ยมโหด ดวงตาฉายประกายพิลึก

“ยึดร่าง!” สิ้นเสียงซูหมิง ขณะดวงตาที่ขยับแสงหม่นมอดดับไป ในขณะเดียวกันวิญญาณเขาแผ่กระจาย พุ่งออกจากระหว่างคิ้วตรงไปยังมือกระดูกร่างแปลงวิญญาณร้ายขนสีขาว!

ทันทีที่วิญญาณเขาสัมผัสกับมือกระดูก เขาก็ได้ยินคำว่าผนึกคำที่หกดังมาจากวิญญาณร้ายขนสีขาว!

เสียงโครมครามดังสนั่นมาจากทางซูหมิง ร่างกายเขากลายเป็นหมอกโลหิต ตอนที่ ร่างระเบิดแตกเป็นเสี่ยงๆ ก็หลอมรวมเข้าไปกลางวงแหวนอาคม เสียงครึกโครม ดังก้องไม่หยุด ซ้ำยังเกิดแรงปะทะรุนแรงบนพื้นดิน ทำให้มวลอากาศบิดเบี้ยว และยังทำให้ชายชรามู่หยาบนหมอกหรี่ม่านตา มองไม่เห็นรายละเอียด

แต่เขารู้สึกได้ว่า…ซูหมิงยังไม่ตาย!

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version