Skip to content

สู่วิถีอสุรา 1025

ตอนที่ 1025 ก่อรูป

เวลาผ่านไป ซูหมิงไม่ได้สนใจ เขาคุกเข่าอยู่ข้างโลงไม้ มองมารดาภายใน มองไปอยู่อย่างนั้น

รอบโลงไม้บนแท่นบวงสรวงมีหินเปล่งแสงสีทองกระจัดกระจายอยู่จำนวนหนึ่ง หินเหล่านี้….ก็คือหินลำดับห้าที่เขาต้องการ

ทว่าตอนนี้ ซูหมิงไม่ได้มองสิ่งเหล่านี้แม้แต่ครั้งเดียว เขาคุกเข่าอยู่ข้างโลงศพ ราวกับนักเดินทางที่จากมารดาไปนานมาก แล้ววันหนึ่งกลับมาบ้านในที่สุด ทว่าสิ่งที่เห็นกลับไม่ใช่มารดาที่รอตนอยู่ แต่เป็นป้ายหลุมศพความเศร้าโศกเช่นนั้น น้ำตาที่หยุดยั้งไว้ไม่อยู่ คือความรักทางสายเลือดที่ต่อให้ ซูหมิงเป็นเด็กกำพร้าตลอดชีวิตก็ยังตัดไม่ขาด

สวี่ฮุ่ยยืนอยู่ข้างๆ นางเดินมาอยู่ข้างซูหมิงเงียบๆ แล้วคุกเข่าลงด้วยกันกับเขา

ผ่านไปพักใหญ่ ซูหมิงเงยหน้าขึ้น มองสตรีในโลงไม้อย่างลึกซึ้งแวบหนึ่ง ก่อนยืนขึ้นช้าๆ

“ในอดีตข้าคิดว่าข้าเป็นเด็กกำพร้าไม่มีบิดามารดา คนที่อยู่กับข้ามีเพียงท่านปู่ มีเพียงเสี่ยวหง มีเพียงสหายที่เติบโตมาพร้อมกับข้าเหล่านั้น” ซูหมิงกล่าวพึมพำ

สวี่ฮุ่ยฟังอยู่ข้างๆ อย่างเงียบๆ นางรู้ว่าตอนนี้ซูหมิงไม่ได้ต้องการคนสนทนาด้วย แต่เขาต้องการเพียงคนรับฟัง

“ข้าคลุ้มคลั่ง กินสมุนไพรเหล่านั้นโดยไม่คิดชีวิตเพื่อชนเผ่าได้ มันทำให้ข้าพุ่งออกจากห้องที่ท่านปู่ผนึกเอาไว้ได้ แล้วไปร่วมรบกับชาวเผ่า…เสียงเพลงสวินในตอนนั้น ข้ายังจำได้ตลอด เด็กหญิงถงถงในปีนั้น นางบอกว่าพอข้ากลับไปแล้วจะบอกความลับให้ฟัง ข้าก็ยังจำได้ตลอด…” นัยน์ตาซูหมิงหวนคะนึงคิด และยังมีความขมขื่นมากกว่า

“แต่จนถึงตอนนี้ ข้าเพิ่งพบว่าทุกอย่างเดิมทีเป็นของปลอม ไม่มีภูเขาทมิฬ ไม่มีชนเผ่า แม้แต่สหายที่เติบโตมาด้วยกันยังเป็นแผนการร้าย!

กระทั่งข้ายังเคยพยายามไม่เชื่อ ว่าเด็กสาวที่ข้าหลงใหลในวัยเยาว์ก็เป็นการแสดงเช่นกัน….” ซูหมิงหัวเราะ หัวเราะไปหัวเราะมาก็หัวเราะเสียงดัง

“ยอดเขาลำดับเก้าคือบ้านที่ข้าหาพบในความสับสน นั่นคือของจริง แต่โชคชะตา เล่นตลก ให้ข้ามาแดนต้นกำเนิดจิต…มาถึงที่นี่ข้าถึงรู้ว่าเดิมทีข้ามีมารดา และก็มี…บิดา” ซูหมิงก้มหน้าลงมองสตรีในโลงไม้ทั้งน้ำตา

‘หากการให้มหาโลกสามรกร้างกลายเป็นของเผ่ายมโลก และให้จักรวาลสลักอักษรยมโลกไว้เป็นความปรารถนาของท่าน…ข้าก็จะใช้ชีวิตของข้าทำมันให้สำเร็จ!’ ซูหมิงยกมือขวาขึ้นคว้าไปข้างโลงไม้ หินลำดับห้าก้อนหนึ่งพลันกลายเป็นสีทองแล้วบินมาอยู่ในมือเขา

‘ไปโลกแท้จริงลำดับห้า หากก่อนหน้านี้ทำเพื่อตามหาอาจารย์ เช่นนั้นตอนนี้ ข้าจะไปหาบ้านเกิดเผ่ายมโลกด้วย เพราะว่า…ข้าคือชาวเผ่ายมโลก!’ ซูหมิงไม่ได้เอ่ยประโยคนี้ออกไป แต่ร้องเสียงดังสนั่นอยู่ในใจ

ก่อนหน้านี้ถึงเขาจะรู้ว่าตนเป็นชาวเผ่ายมโลก ทว่าส่วนลึกในใจกลับไม่ได้ยอมรับฐานะนี้มากนัก ซ้ำยังไม่ยอมรับเผ่ายมโลก เรื่องราวทุกอย่าง ในมุมมองเขาเป็นเพียงเรื่องเล่าเท่านั้น

เขาไม่ได้รู้สึกเจ็บปวดแทนอะไรมากนัก

ทว่ายามนี้ทุกอย่างต่างออกไป เสียงจากมารดา ภาพจากความคิดซูหมิง ทุกอย่างของทุกอย่างทำให้เขาไม่แปลกตากับคำว่าเผ่ายมโลกอีกต่อไป และไม่ได้เมินเฉยตัวเองอีก ไม่ว่าจะอำนาจคุกคามจากสี่มหาโลกแท้จริงหรือคำพูดของมารดา ทั้งหมดนี้…ทำให้เขา…ยอมรับฐานะเผ่ายมโลกเองเป็นครั้งแรก

ชั่วขณะที่เขายอมรับฐานะตนแล้ว ทันใดนั้นเตาหลอมลำดับห้าพลันสั่นไหว

ดวงจิตหลายสายจากทุกมิติในเตาหลอมลำดับห้าล้วนบินเข้ามาอยู่รอบตัวเขาอย่างรวดเร็ว ดวงจิตเหล่านี้กลายร่างเป็นสิ่งมีชีวิตแก่กล้านับไม่ถ้วน ทันทีที่ร่างสิ่งมีชีวิตเหล่านี้ปรากฏขึ้น พวกมันต่างโค้งคารวะซูหมิงขณะมองเขา!

ในสิ่งมีชีวิตเหล่านี้มีต้นไม้ใหญ่ร้อยจั้ง และยังมีวิญญาณเพลิงแข็งแกร่งเหล่านั้น มีสัตว์ร้ายประหลาดต่างๆ นานา การคารวะของพวกมันทั้งหมดทำให้ทุกมิติใน เตาหลอมลำดับห้าสั่นสะเทือนอย่างรุนแรง

ดวงจิตพวกมันหลอมรวมเข้าด้วยกัน กลายเป็นเตาหลอมมายายักษ์อันหนึ่งในอากาศ โดยมีซูหมิงเป็นใจกลาง!

เตาหลอมนี้เป็นของกึ่งมายา ภายในเปล่งแสงไปรอบๆ โอบล้อมเขาไว้ข้างใน ทำให้เขาเหมือนเป็นใจกลางเตาหลอมมายา ระหว่างที่แสงสว่างขยับวูบวาบ ซูหมิงรู้สึกถึงการยอมรับของเตาหลอมลำดับห้าที่มีต่อเขา ยามนี้เอง ไม่มีเสียงครึกโครมดังสนั่นเกินไปอีก ไม่มีการเปลี่ยนแปลงสะเทือนฟ้าดิน แต่เขารู้ว่าเขา…กลายเป็นเจ้านายรุ่นนี้ของเตาหลอมลำดับห้าแล้ว!

เตาหลอมลำดับห้าสั่นไหว มิติทั้งหมดภายในเกิดเสียงดุจฟ้าถล่มดินทลาย สิ่งมีชีวิตทั้งหมดส่งดวงจิตมาในเวลานี้ ทุกคนในเตาหลอมลำดับห้าต่างพากันรู้สึกถึงการเปลี่ยนแปลงอย่างรุนแรงจากเตาหลอม แต่กลับไม่รู้สาเหตุแน่ชัด

เสวียนซางเกาะพื้นดินเอาไว้แน่น ให้ร่างกายตนยึดติดกับที่นี่เอาไว้ ไม่ให้ถูกน้ำวนยักษ์ที่ปรากฏอย่างกะทันหันบนฟ้าดูดไป

หวาอวี้หน้าซีดขาว เขานอนอยู่กลางทะเลดอกไม้ขณะยิ้มขมขื่น ร่างกายถูกฝังอยู่ในดินไปมากกว่าครึ่งแล้ว และกลายเป็นอาหารบำรุงให้กับทะเลดอกไม้ของที่นี่

บรรพบุรุษหลงไห่ข้างกายยิ้มบางๆ มองหวาอวี้ เดิมทีเขาเป็นร่างจิตแรก แต่ตอนนี้มีดอกไม้ขึ้นเต็มไปหมด ราวกับกำลังรวมขึ้นเป็นร่างใหม่

ทางด้านบรรพบุรุษหุ่นเชิดเพลิง ตอนนี้กำลังห้อเหยียดอยู่ในมิติแห่งหนึ่ง เขาเงยหน้ามองฟ้าอย่างหวาดกลัว มองเห็นฟ้าที่กำลังสั่นไหวอย่างรุนแรง

จื่อหลงเจินเหรินมีสีหน้าย่ำแย่ยิ่ง สายตาจ้องเกาะกลางทะเลที่ห่างจากตนไปแค่หลายร้อยจั้ง บนเกาะมีต้นไม้ต้นหนึ่ง บนต้นไม้มีผลสีแดงฉานหนึ่งลูก

แต่ตอนนี้ เมื่อมิติเกิดการสั่นสะเทือน พื้นดินตรงต้นไม้นั้นจึงถล่มลงมา

ในบรรดาทุกคน หากจะบอกว่ามีใครมองเงื่อนงำออกบ้าง ก็มีเพียงคนเดียว… จูโหย่วไฉ

ตอนนี้จูโหย่วไฉยืนอยู่บนยอดเขาลูกหนึ่ง ขณะที่ยอดเขานี้สั่นสะเทือนท่ามกลางเสียงอึกทึก ชั้นเมฆบนฟ้าหมุนตลบ ทั้งฟ้าดินเปลี่ยนแปลง ในเวลาเดียวกันจูโหย่วไฉหน้าเปลี่ยนสีอย่างรวดเร็ว

‘นี่คือ…เตาหลอมลำดับห้ายอมรับเจ้านาย! หรือว่าในกลุ่มคนที่นี่จะมีเผ่ายมโลกด้วย!’

ขณะเดียวกัน นอกเตาหลอมลำดับห้า บนแผ่นดินใหญ่ของเผ่าธุลีแผดเผา ตอนนี้ฟื้นกลับมาเป็นปกตินานแล้ว ทว่า…ในชั่วขณะนี้ชาวเผ่าธุลีแผดเผาทั้งหมดต่างเงยหน้าคำรามขึ้นฟ้า ร่างกายเปลี่ยนแปลงเอง กลายเป็นร่างวิญญาณเพลิง

นี่ไม่เกี่ยวกับขั้นพลัง แม้แต่จ้าวเผ่าธุลีแผดเผาจนกระทั่งบรรพบุรุษยังกลายร่างเป็นวิญญาณเพลิงโดยไร้การควบคุม ขณะร้องคำราม ในความคิดชาวเผ่าธุลีแผดเผาทั้งหมดมีเสียงดังมาจากวิญญาณพวกเขา

“เตาหลอมลำดับห้า ยอมรับเจ้านายแล้ว!” หลังจากบรรพบุรุษธุลีแผดเผากลายเป็นวิญญาณเพลิง นัยน์ตาเขาแวววาว

ใจกลางเตาหลอมลำดับห้า กลางมวลอากาศ ยามนี้ซูหมิงรู้สึกว่าเตาหลอมลำดับห้ายอมรับเขาเป็นเจ้านายแล้ว เมื่อเกิดความคิดนี้ขึ้น เขาเงียบไปพักหนึ่ง ก่อนจะยก มือขวาสะบัด เงามายาของเตาหลอมที่วนเวียนรอบตัวหายไปโดยพลัน สิ่งมีชีวิตในมิตินับไม่ถ้วนจากรอบด้านก็ทยอยหายไปเช่นกัน เมื่อโดยรอบกลับมาเป็นปกติอีกครั้ง เขาหมุนตัวกลับเดินไปทางความว่างเปล่าหนึ่งก้าว

โลงไม้ยังอยู่บนแท่นบวงสรวง ในเวลาหลังจากนี้จะยังคงมีพลังแห่งกาลเวลามากมายถูกสูบเข้าโลง มาบำรุงสตรีคนนั้นเหมือนเดิม จนกระทั่งวันหนึ่งนางตื่นขึ้นภายใต้ผลของวงแหวนอาคม

เตาหลอมลำดับห้า หากซูหมิงต้องการ เขาจะเอาไปก็ได้ แต่เขาไม่ทำแบบนั้น

ให้มันอยู่ที่นี่ คอยสูบเวลาจากผู้แข็งแกร่งที่เข้ามาจำนวนมากท่ามกลางวันเวลาต่อไป มีแต่แบบนี้เท่านั้นถึงจะทำให้วงแหวนอาคมดำเนินต่อไปได้ มีแต่แบบนี้เท่านั้นถึงจะทำให้มารดาของเขา…มีวันนั้นที่จะตื่นขึ้นมา

ซูหมิงเหยียบอากาศหายไป เขาพาสวี่ฮุ่ยเดินออกจากความว่างเปล่าแห่งนี้ ออกจากเตาหลอมลำดับห้าไปอยู่กลางฟ้ากระจ่างดาวโดยตรง

เขาหันกลับไปมอง เตาหลอมลำดับห้ายังคงอยู่กลางฟ้ากระจ่างดาว ประสบการณ์ทุกอย่างในนั้นเหมือนความฝันฉากหนึ่ง

เขาถอนหายใจเบาๆ แต่เสียงถอนหายใจเพิ่งดังออกไป ก็มีแสงสีทองเปล่งลอดมาจากในถุงเก็บวัตถุทันที ส่งผลให้รอบตัวเขากลายเป็นสีทอง

สีทองนี้ต่างกับตอนซูหมิงกลายเป็นร่างสีทอง ภายในประกายแสงมีพลังมหาศาล เหมือนมีความรู้สึกว่าสูบรวมพลังฟ้าดินอยู่รางๆ มิหนำซ้ำยังมีกลิ่นอายพลังบางอย่างที่คล้ายจะต่างกับทะเลดาราต้นกำเนิดจิตอย่างสิ้นเชิง ประหนึ่งว่าการปรากฏตัวของมันจะเป็นที่สังเกตของผืนฟ้าทะเลดาราต้นกำเนิดจิต จากนั้นถูกผืนฟ้าขับไล่!

ซูหมิงอึ้งงัน ขณะที่ก้มหน้ามองถุงเก็บวัตถุ เขารู้สึกว่าหินลำดับห้าที่เขาใส่ไว้ใน ถุงเก็บวัตถุกำลังเปล่งแสงทองหมื่นจั้ง เสียงโครมดังขึ้น มันฝืนบินออกมาจากใน ถุงเก็บวัตถุทันที เหมือนกับว่าหากของสิ่งนี้ออกจากเตาหลอมลำดับห้าก็จะอยู่ใน ถุงเก็บวัตถุไม่ได้ เมื่อบินออกมาแล้วก็ไม่ได้ไปไกลนัก แต่ลอยอยู่รอบตัวเขาวนเวียน ไม่หยุด

เมื่อหินลำดับห้าออกมา ฟ้ากระจ่างดาวสั่นสะเทือน แสงสว่างสีทองนั้นเปล่งวาบไปรอบๆ ไม่หยุดหย่อน จนกระทั่งสว่างไปไกลไม่มีสิ้นสุด มหันตภัยที่มากพอจะสั่นคลอนทะเลดาราต้นกำเนิดจิต…ก็จะเกิดขึ้นเพราะมัน!

ณ เผ่าธุลีแผดเผา ชาวเผ่าที่กลายเป็นวิญญาณเพลิงเหล่านั้นเพิ่งจะได้สติกลับมา บรรพบุรุษธุลีแผดเผาใจสั่นสะท้าน เขารู้สึกชัดว่าทะเลดาราต้นกำเนิดจิตต่างออกไปอย่างสิ้นเชิง กระทั่งมีพลังที่เกือบจะไม่สอดรับกันส่งมาจากในเตาหลอมลำดับห้าอย่างรวดเร็วยิ่ง

“หินลำดับห้า!” บรรพบุรุษธุลีแผดเผาพลันเงยหน้าขึ้น

ในเวลาเดียวกัน เขตใจกลางของทะเลดาราต้นกำเนิดจิต ภายในเขตเผ่าเหริงอู ที่นี่เดิมทีมืดมิด ทว่าชั่วขณะที่กลิ่นอายของหินลำดับห้าแผ่เข้ามา พลันมีดวงตาโผล่ขึ้นนับไม่ถ้วนกลางความมืด ความบ้าคลั่งในดวงตาเหล่านั้นดุจสัตว์ป่าก็ไม่ปาน

“หินลำดับห้า…มีหินลำดับห้าปรากฏอีกแล้ว ต้องชิงมันมา ต้องชิงมันมาให้ได้!” เสียงอู้อี้ไม่ชัดเจนดังก้องในความมืด ความบ้าคลั่งในดวงตาเหล่านั้นพลันทะยานถึงขีดสุด

ณ เผ่ารวมธรรม ชาวเผ่าที่มีร่างเป็นงูหัวเป็นคนเหล่านั้น ตอนนี้อยู่ในถ้ำภายในดวงดาวของพวกมัน ชั่วเวลานี้ต่างลืมตาพร้อมกัน ท่ามกลางเสียงคำรามดังก้อง มีดวงจิตมหึมาดวงหนึ่งปกคลุมไปทั้งดาวทันใด

“ตามกลิ่นอายพลังที่ไม่สอดคล้องกับทะเลดาราต้นกำเนิดจิตไป ไปหาหินลำห้ามา เอาหินนี้…มาให้ข้า!”

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version