Skip to content

สู่วิถีอสุรา 1057

ตอนที่ 1057 แสงสว่างของฟ้ากระจ่างดาว

“เจ้า!” ชายชราได้ยินดังนั้นนัยน์ตาก็ฉายแววโกรธทันที เขาเป็นหนึ่งในผู้อาวุโสใหญ่ของโถงผู้อาวุโส เวลาปกติข้างนอก ใครเจอเขาแล้วต่างต้องเกรงใจ เกรงกลัวจนตัวสั่น คำพูดยังระแวดระวังและยำเกรง

ต่อให้เป็นในสำนักดาราสัจธรรม เพราะเขาแซ่เต้า เป็นคนสายตรงของสำนัก ดังนั้นจึงมีการนับรุ่นในวงญาติ น้อยคนนักที่จะกล้าโต้แย้งเขา จึงชินกับคำพูดของคนอื่นที่ปฏิบัติตาม อีกทั้งคนส่วนใหญ่ยังต้องใส่ใจดูสีหน้าเขาด้วย แต่ยามนี้มาเจอซูหมิง คำพูดของอีกฝ่ายที่ว่า ‘อย่างเจ้าจะมีปัญญาอะไร’ ทำให้ความรู้สึกโกรธของเขาเดือดพล่านในใจทันที

“ดี ดี ดี!” ชายชราโกรธอย่างยิ่ง เขาแค่นเสียงเย็นชาพร้อมสะบัดแขนเสื้อ

“ข้าอยากรู้นักว่าเจ้าจะหาญกล้าเพียงใด กล้าสังหารกระทั่งคนร่วมตระกูลสองคนหรือไม่!” ชายชราแค่นเสียงหึพร้อมกับคว้าเต้าเฟยเฟิง หมุนตัวเตรียมจะจากไป

ซูหมิงมีสีหน้าสงบนิ่ง แทบเป็นช่วงที่ชายชราถอยไป เขายกเท้าเดินหน้าหนึ่งก้าว ดวงจันทร์ภัยพิบัติดวงยักษ์ข้างหลังส่องแสงสามสี

ตอนที่แสงสว่างส่องในฟ้ากระจ่างดาว ซูหมิงก้าวเท้าลงมาปรากฏอยู่ข้างชายชราคนนั้น

ชั่วขณะที่ชายชราหมุนตัวกลับ ซูหมิงยื่นมือขวาคว้าไปทางชายชราดั่งสายฟ้า ชายชราตะโกนเสียงดัง ก่อนกัดปลายลิ้นพ่นหมอกโลหิตมาหนึ่งคำ ทว่าแทบทันทีที่หมอกกระจายออก ซูหมิงก็เอ่ยขึ้นเรียบๆ

“สลาย!” สิ้นเสียงซูหมิง แสงสามสีจากดวงจันทร์ภัยพิบัติยักษ์ข้างหลังขยับแสง วิบวับอย่างรวดเร็ว ภายในฟ้ากระจ่างดาวรอบตัวเขาเหมือนมีกฎเกณฑ์หายไปแล้วรวมขึ้นมาใหม่ จากการเปลี่ยนของกฎที่ไร้รูปนั้น หมอกโลหิตพลันหายไป ทุกอย่างเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วในพริบตา ตอนที่หมอกโลหิตสลาย มือขวาซูหมิงมาอยู่ตรงหน้าชายชราแล้วกระชากเต้าเฟยเฟิงไปทางข้างหลัง เพียงเท่านี้ก็กระชากเต้าเฟยเฟิง ผู้หน้าซีดขาวและมีสีหน้าสิ้นหวังมาจากมือชายชราได้ง่ายๆ

“ท่านปู่ช่วยข้าด้วย ช่วยข้าด้วย….” ตอนนี้เต้าเฟยเฟิงสติแตกไปแล้ว ความหวาดกลัวในใจบรรลุถึงขีดสุด เขารู้สึกถึงความเย็นชาไร้อารมณ์จากซูหมิง ขณะกำลังร้องอ้อนวอนเสียงเล็กแหลม ซูหมิงสะบัดมือขวาไปทีหนึ่ง ตอนที่คลายนิ้วมือออก ร่างเต้าเฟยเฟิงถูกพลังมหาศาลเหวี่ยงกลายเป็นสายรุ้งยาวตรงไปหาเรือรบหลาย ร้อยลำ

เสียงโครมดังขึ้น เขาร้องโหยหวนเสียงดังสุดขีด ภายใต้พลังมหาศาล ร่างเขาถูกแทงเข้าไปในทวนสิ้นสูญที่ปักอยู่บนหัวเรือ

ทั่วร่างถูกทวนทะลวงผ่าน ถูกตรึงไว้บนหัวเรือเหมือนกับสัตว์ร้ายหัวสุนัข ร่างกายชักกระตุก มีโลหิตไหลจากมุมปากจำนวนมาก นัยน์ตาค่อยๆ มัวหมอง จนกระทั่ง คอพับสิ้นใจไป

จิตแรกและวิญญาณเขาแหลกสลายไปสิ้นในตอนที่ร่างถูกทวนสิ้นสูญทะลวง

โดยรอบเงียบสงัด ต่อให้เป็นผู้ฝึกฌานของซูหมิงบนเรือรบหลายร้อยลำ ตอนนี้ต่างพากันเงียบนิ่ง สายตามองซูหมิงด้วยความตกใจกลัว พึงรู้ไว้ว่าในสำนักดาราสัจธรรมมีกฎห้ามคนในสำนักสังหารกันเอง แต่ตอนนี้ซูหมิง…ฝ่าฝืนสิ่งต้องห้ามข้อใหญ่นี้ไปแล้ว

ทว่าทางสวี่ฮุ่ยกลับมีสีหน้าปกติ เก้าผู้เฒ่ายมโลกข้างๆ ก็เช่นกัน เหมือนกับไม่ได้กังวลเพราะการตายของเต้าเฟยเฟิงมากมายนัก

เหตุการณ์นี้สร้างความตกใจกับชายชราแห่งโถงผู้อาวุโสเช่นกัน เขาอึ้งงันไปครู่หนึ่ง นัยน์ตาก็มีเส้นเลือดปรากฏ สายตาจ้องซูหมิงเขม็ง ความเหลือเชื่อที่เหลืออยู่

“หนึ่งในหน้าที่รับผิดชอบของห้องโถงผู้อาวุโสคือสังเกตคนในสำนัก หากมีใคร ฝ่าฝืนกฎสำนักจะมีอำนาจสังหาร! เต้าคงเจ้าเป็นคนสายตรง สังหารคนในสำนักเดียวกัน ฝ่าฝืนกฎสำนัก ต้องลงโทษโดยการทำลายขั้นพลัง ใช้โลกกดอัดจนวิญญาณสูญสลายไป ต้องจัดการอย่างหนักเพื่อให้เป็นเยี่ยงอย่าง ข้าในฐานะผู้อาวุโสใหญ่แห่งห้องโถงผู้อาวุโสเป็นพยานได้ว่าเจ้า…มีความผิด!” ชายชราตะโกนเสียงต่ำ ความแค้นในแววตาชัดเจนอย่างยิ่ง ขณะเอ่ยยังยกมือขวาขึ้น ในมือมีตราคำสั่งสีขาวชิ้นหนึ่ง โผล่มา ส่วนมือซ้ายตบตราคำสั่ง ความเหี้ยมโหดทางน้ำเสียงเด่นชัดอย่างยิ่ง

“เต้าเฟยเฟิงยั่วยุก่อนหน้านี้ ใช้คำพูดท้าประลอง หมายจะได้สิทธิ์ใต้เท้า นี่คือ ผู้ท้าประลองคนแรกของใต้เท้าเต้าคง ตามคำสั่งของท่านบรรพบุรุษตอนปิดด่าน นั่งฌานเมื่อหลายปีก่อน ขอเพียงผู้สืบทอดปรากฏตัว คนอื่นที่ท้าประลองจะเป็นตายไม่ต้องพิจารณา!” สวี่ฮุ่ยยิ้มเล็กน้อย นางยกมือขวาขึ้นเช่นกัน ในมือมีตราคำสั่งมี ฟ้าชิ้นหนึ่ง ช่วงที่เอาตรานี้ออกมา ก็มีระลอกคลื่นกระจายมาจากตัวมัน

“สมาคมผู้อาวุโสสำนัก!” ชายชราหน้าเปลี่ยนสีชัดเจน สายตาจ้องตราในมือ สวี่ฮุ่ย เขาโซเซถอยไปหลายก้าว ดูสับสน เขาก็นึกออกแล้วเหมือนกัน เพราะสำนักดาราสัจธรรมไม่ปรากฏผู้สืบทอดมานาน ดังนั้นเขาเลยมองข้ามฐานะของใต้เท้าไป และก็นึกออกแล้วว่าตอนที่บรรพบุรุษปิดด่านนั่งฌานเมื่อหลายปีก่อนเคยสั่งเอาไว้ว่าคนที่ท้าประลองผู้สืบทอดจะเป็นจะตายไม่ต้องพิจารณา

“เจ้าคือปู่ของเต้าเฟยเฟิง เช่นนั้นเจ้า….ก็ท้าประลองข้าด้วยอย่างนั้นรึ?” ซูหมิงพูดเรียบๆ

คำพูดนี้เป็นดั่งฝ่ามือไร้รูปตบเข้าที่หน้าชายชรา ชายชราหน้าเปลี่ยนสีติดกัน ก่อนหมุนตัวกลายเป็นสายรุ้งยาวจากไปอย่างรวดเร็วโดยที่ไม่โต้ตอบใดๆ

ซูหมิงไม่ขวาง เพียงมองอีกฝ่ายบินไปไกลแล้วก็หมุนตัวเดินไปทางเรือรบหลายร้อยลำ ตอนที่เดินผ่านบรรพบุรุษหุ่นเชิดเพลิงยังหยุดชะงักครู่หนึ่ง

บรรพบุรุษหุ่นเชิดเพลิงใจเต้นตุบๆ

“จะไม่มีครั้งต่อไปอีกแล้ว” ซูหมิงเอ่ยราบเรียบ ขณะที่บรรพบุรุษหุ่นเชิดเพลิงรีบขานรับก็ถอนหายใจโล่งอกอยู่ภายใน จากตอนเริ่มรู้จักกับซูหมิงระหว่างเดินทางไปเตาหลอมลำดับห้า จากดูถูกในตอนแรกสุดจนกระทั่งมองอีกฝ่ายอย่างไม่เป็นมิตรแล้วก็ถูกทำลายร่างกายไป หลังจากการดูถูกเปลี่ยนเป็นความกลัวแล้วก็ได้วางแผนร่วมมือกับซูหมิงจัดการลูกหลานแคว้นอู๋โบราณ ผ่านเรื่องราวต่างๆ มา ทำให้เขาหวาดกลัว ซูหมิงอย่างยิ่ง

ทุกอย่างนี้ ตอนที่ออกจากเตาหลอมลำดับห้าไปทะเลลำดับห้า จากความหวาดกลัวต่อซูหมิงเปลี่ยนเป็นเคารพยำเกรงและกลัว กระทั่งมีความคิดแปลกๆ อย่างหนึ่งโดยไม่รู้ตัว ขอเพียงติดตามซูหมิง เช่นนั้นถึงจะเจอกับอันตรายใหญ่หลวงกว่านี้อีกก็จะผ่านไปได้

ความคิดนี้ทำให้ตอนที่ซูหมิงออกจากทะเลลำดับห้าและเอ่ยเพียงประโยคเดียว บรรพบุรุษหุ่นเชิดเพลิงก็ยอมติดตามข้างกาย แต่ว่าความยำเกรงกลับมากขึ้นเรื่อยๆ เมื่อเวลาผ่านไป มันฝังลึกไปในวิญญาณบรรพบุรุษหุ่นเชิดเพลิงแล้ว

ยามนี้เขามองเงาแผ่นหลังซูหมิง ก้มหน้าเอาเสื้อคลุมสีแดงฉานคลุมหัวเอาไว้แล้วกลับขึ้นไปบนเรือพร้อมกับซูหมิง ผ่านไปครู่หนึ่งเรือรบหลายร้อยลำส่งเสียงดังอึกทึก พวกมันต่างห้อเหยียดฉีกมวลอากาศไปทางสำนักดาราสัจธรรมต่อ

เขตใจกลางของเรือรบเหล่านี้ บนหัวเรือลำใหญ่ของซูหมิง ด้านบนทวนสิ้นสูญที่ปักอยู่ มี….สัตว์ร้ายหัวสุนัขกับซากศพของเต้าเฟยเฟิง

เวลาผ่านไปช้าๆ จนครบห้าวัน ในห้าวันนี้ กลุ่มของพวกซูหมิงเดินทางผ่านดาวแต่ละดวง เจอกับทุกกลุ่ม ทุกคนต่างออกมาคารวะ

และยังมีคนสายตรงสำนักดาราสัจธรรม ระหว่างทางก็เจออยู่หลายคน แต่คนเหล่านี้เห็นศพเต้าเฟยเฟิงที่แขวนบนหัวเรือซูหมิงแล้วก็หน้าเปลี่ยนสี แล้วหมุนตัวจากไปอย่างไม่ลังเล

นี่คือการสร้างความหวาดกลัวอย่างเปิดเผย มีศพอยู่ตรงเรือ มันช่วยลดการรบกวนที่ไม่จำเป็นมากนักสำหรับซูหมิงได้ ทำให้การเดินทางของเรือรบหลายร้อยลำเขย่าขวัญไปโดยรอบในจุดที่ผ่าน

จนกระทั่งผ่านไปห้าวัน ซูหมิงมองฟ้าไกลๆ ดวงตาหรี่ลงเล็กน้อย

เขายืนอยู่บนเรือรบ เห็นรางๆ ว่ากลางฟ้าไกลๆ มีแสงสีแดงฉานอยู่ ถึงมันจะอ่อนและมีระยะห่าง ทว่าตอนที่เห็นสีแดงฉาน กลับอดรู้สึกจากในส่วนลึกจิตใจถึง การสังหารและกลิ่นคาวเลือดมหาศาลมิได้

เห็นได้ชัดว่าตรงจุดที่แสงสีแดงฉานส่องมา ตอนนี้กำลังเกิดการสังหารและสงครามครั้งใหญ่

“อย่างน้อยสุดก็ผู้ฝึกฌานแสนคนฆ่ากัน” บรรพบุรุษหุ่นเชิดเพลิงอยู่ข้างซูหมิง ดวงตาสองข้างวาววับ ซ้ำยังเลียริมฝีปาก

“หินผลึก ย่ากระเรียนมันเถอะ นี่จะมีหินผลึกเท่าไร!” กระเรียนขนร่วงตาเปล่งประกาย

“ด้วยความเร็วของเรือรบ น่าจะราวๆ หนึ่งวันก็จะถึงสนามรบตรงนั้น แต่ว่าดูจากทิศทางแล้ว…น่าจะเป็นจุดเคลื่อนย้ายที่พวกเราต้องไป” หนึ่งในเก้าผู้เฒ่ายมโลกกล่าวเสียงต่ำขึ้น

“ยังไม่ได้รับการแจ้งเตือนมาเลย น่าจะเพิ่งเกิดสงครามไม่นาน…แต่ดูจากตำแหน่งแล้ว เป็นจุดที่พวกเราต้องไปจริงๆ” สวี่ฮุ่ยยกมือขวาขึ้นพลิกมือ มีตราคำสั่ง ผู้อาวุโสโผล่ขึ้นมา นางมองแวบหนึ่งแล้วก็ส่ายศีรษะพลางพูดขึ้น

“หนึ่งในจุดเคลื่อนย้ายหนึ่งร้อยแปดแห่งในฟ้ากระจ่างดาวของสำนักดารา สัจธรรม ถึงที่นั่นแล้วก็จะใช้พลังจากอาคมเคลื่อนย้ายกลับสำนักดาราสัจธรรมได้” สวี่ฮุ่ยกล่าวเสียงเบาอยู่ข้างซูหมิง

“หากจะเข้าสำนักดาราสัจธรรมจากข้างนอกก็ไม่มีทางอื่นอีก มีแต่จุดเคลื่อนย้ายหนึ่งร้อยแปดแห่งเท่านั้น อีกทั้งต้องให้ทางสำนักดาราสัจธรรมเปิดให้สัมพันธ์กันด้วย มิเช่นนั้นแล้ว ต่อให้คนอื่นควบคุมจุดเคลื่อนย้ายได้ก็เข้าไปข้างในไม่ได้

ส่วนจะออกจากสำนักก็ง่ายมาก เพียงเดินทางไปยังทิศใดทิศหนึ่งให้ไกลที่สุดก็จะข้ามผ่านอากาศมาโผล่ในฟ้าของโลกแท้จริงดาราสัจธรรม

จุดเคลื่อนย้ายตรงหน้าคือจุดที่ใกล้ที่สุด แต่ว่าตำแหน่งค่อนข้างใกล้กับพันธมิตรเผ่าเซียน ทว่าหากจะอ้อมไปก็ต้องใช้เวลาอีกหนึ่งเดือนกว่า” สวี่ฮุ่ยมองซูหมิง

ความใหญ่ของโลกแท้จริงดาราสัจธรรมนี้ ต่อให้เป็นซูหมิงที่อยู่แดนรกร้าง ต้นกำเนิดจิตมานานก็ยังรู้สึกได้ว่าทั้งโลกแท้จริงนี้ใหญ่กว่าแดนต้นกำเนิดจิตมาก

ความจริงหากเป็นซูหมิงคนเดียวก็จะใช้วิชาเคลื่อนย้ายย่นระยะทางได้เร็วที่สุด แต่นี่มีเรือรบหลายร้อยลำ ดังนั้นแล้วความเร็วจึงช้าลงมาก

ทว่าซูหมิงก็ไม่รีบร้อน เขาอยากดูโลกแท้จริงดาราสัจธรรมให้มากกว่านี้อีกหน่อย ประกอบกับสงครามตรงหน้าเกิดขึ้นเพราะพันธมิตรเผ่าเซียน พอได้ยินคำพูดสวี่ฮุ่ยแล้วก็พยักหน้า เขาอยากไปดูว่าในสงครามนั้นมีคนรู้จักหรือไม่

“เดินทางไปจุดเคลื่อนย้ายตรงหน้า!” ซูหมิงเอ่ยราบเรียบ

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version