Skip to content

สู่วิถีอสุรา 1076

ตอนที่ 1076 แดนเลื่องลือ 2

พลังชีวิตหายไปจนหมดสิ้น ดาวดวงนี้เหมือนกับหินผุพังยักษ์ก้อนหนึ่ง ด้านบนมืดหม่น

ผ่านไปครู่หนึ่งมีผู้ฝึกฌานกลุ่มหนึ่งบินเข้ามาใกล้จากในฟ้ากระจ่างดาวไกลๆ ผู้ฝึกฌานเหล่านี้มีราวๆ แปดคน เหมือนว่าจะผ่านทางมาที่นี่ และตั้งใจจะพักบนดาวนี้ ทว่าทันทีที่พวกเขาขึ้นไปบนดาว ดาวมืดหม่นพลันเปลี่ยนไปเป็นหัวใจยักษ์ดวงหนึ่ง มันเต้นตุบๆ หลายทีแล้ว ผู้ฝึกฌานเจ็ดแปดคนก็กรีดร้องเสียงแหลม ร่างพวกเขาถูกการเต้นของหัวใจบดขยี้ ส่วนวิญญาณถูกหัวใจสูบไปในพริบตา

สุดท้ายหัวใจที่เหมือนอาบชโลมไปด้วยเลือดก็กลับมาเป็นดาวมืดหม่นอีกครั้ง

ซูหมิงมองเหตุการณ์นี้อยู่ไกลๆ มุมปากยิ้มเยาะ ทุกอย่างเป็นมายา ทว่า แดนมายานี้กลับเป็นของเขาซูหมิง ไม่ใช่ของแดนเลื่องลือ

ภาพมายานี้มาจากความทรงจำ ทว่าความทรงจำไม่ใช่ของเขา แต่เป็น… ความทรงจำของพลังประหลาดตรงใจกลางแดนเลื่องลือแห่งนี้ของสำนักดาราสัจธรรม ซึ่งเป็นมันเองที่สร้างแดนมายาขึ้น

ซูหมิงมองไปอย่างเย็นชาพร้อมยกมือขวาสะบัดไปข้างหน้า ทันใดนั้นใน ฟ้ากระจ่างดาวก็มีผู้ฝึกฌานอีกหลายร้อยคนบินเข้ามา พวกเขาต่างมีสีหน้าตื่นกลัว เพราะด้านหลังพวกเขามีคนพันกว่าคนกำลังไล่ตามมาติดๆ

ไม่ว่าจะเป็นลักษณะท่าทางหรือการกระทำ คนเหล่านี้ล้วนสมจริงอย่างยิ่ง มองไม่ออกว่าเป็นของปลอมแม้แต่น้อย ด้วยความเร็วของพวกเขาพริบตาเดียวก็เข้าใกล้ตรงหินผุพังมืดหม่น ผ่านไปครู่หนึ่งเสียงร้องโหยหวนดังกังวาน รวมถึงคนหลายพันคนที่ไล่ตามมาด้วย ทุกคนถูกดาวที่เปลี่ยนเป็นหัวใจสีโลหิตบดขยี้ร่างกายและสูบจิตแรกไป

“ระดับที่สูงสุดของแดนมายาที่ข้าเข้าใจไม่ใช่การใช้มายาปนความจริง….” ซูหมิงพูดเสียงเบา ก่อนยกมือขวาโบกไปอีกครั้ง ครั้งนี้มีพลังแห่งเวลาไหลเวียนจากที่นี่อย่างเงียบเชียบ ราวกับผ่านไปหมื่นปีในพริบตา ตอนนี้เองในผืนฟ้ามีกองทัพ ผู้ฝึกฌานหลายหมื่นคนผ่านทางมา

หลังเกิดเสียงหัวใจเต้นตุบๆ กับเสียงร้องโหยหวนแล้ว ผู้ฝึกฌานหลายหมื่นคน…ตายตกทั้งหมด แต่ดาวมืดหม่นขยายใหญ่ขึ้นหนึ่งเท่า

“และก็ไม่ใช่การเปลี่ยนมายาให้กลายเป็นความจริง…” ซูหมิงส่ายศีรษะ เขายกมือขวาโบกไปอีกครั้ง ภายใต้การไหลเวียนของเวลา มีกลุ่มคนหรือคนเดี่ยวทยอยกันเข้ามา ไม่ว่าผู้ฝึกฌานก็ดี สิ่งมีชีวิตก็ดี ขอเพียงผ่านดาวนี้…ทั้งหมดจะถูกดาวกินไปจนหมดเกลี้ยง

ตัวมันก็ใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ ถึงที่สุดมีความใหญ่สิบเท่าจากตอนแรกสุด

จนกระทั่งวันหนึ่ง ในฟ้ามีร่างเงาหนึ่งเข้ามา เขาเป็นชายสวมอาภรณ์ยาวธรรมดา ตรงระหว่างคิ้วมีอักขระซับซ้อนตัวหนึ่ง เส้นผมยาว กำลังเดินเข้ามาจากไกลๆ

“ไม่นึกเลยว่าจะได้เจอดาวผุพังมายาที่นี่ ดูจากลักษณะมันแล้วคงจะมีสติปัญญา ใช้ประโยชน์ฝึกจิตใจแน่วแน่ให้กับศิษย์ในสำนักในภายภาคหน้าของข้าได้” ชายคนนั้นยิ้ม น้ำเสียงนุ่มนวล ทันทีที่เอ่ยออกไป ดาวใหญ่ดวงนี้กลายเป็นหัวใจขึ้นเองและ เต้นตุบๆ

สิ่งเหล่านี้คือความทรงจำของดาวดวงนี้ ทันทีที่มันกลายเป็นหัวใจสีโลหิตเต้นตุบๆ ซูหมิงดวงตาขยับประกายวาว ก่อนยกมือขวาชี้ไปข้างหน้า

ชั่วเสี้ยวพริบตา ฟ้ากระจ่างดาวหยุดนิ่ง หัวใจสีโลหิตไม่เต้นอีก ชายอบอุ่นก็นิ่งไปเหมือนกัน

“ระดับสูงสุดเกี่ยวกับวิชามายาที่ข้าเข้าใจคือ…ปรับเปลี่ยนความทรงจำ!” ซูหมิงเอ่ยอย่างเรียบนิ่ง เขาเดินไปทางฟ้า เดินไปอยู่ตรงหน้าชายอาภรณ์ยาว ก่อนยกมือขวาโบกไปทางชายคนนี้เหมือนกับลบอะไรบางอย่างในความทรงจำเขาไป จากนั้นก็ลบร่างเงาชายผมยาวคนนี้ให้หายไป

ซูหมิงหมุนตัวกลับ ตอนที่มองดาวที่กลายเป็นหัวใจสีโลหิต เงาตะวันจันทราและดาราในดวงตาขยับประกาย โดยรอบที่หยุดนิ่งกลับมาดังเดิม เสียงหัวใจเต้นตุบๆ ดังก้องไปอีกครั้ง

เสียงหัวใจเต้นมาพร้อมกับพลังประหลาดทำให้โลหิตคนย้อนกลับ แต่ซูหมิงกลับมีสีหน้าปกติ เขาเดินไปหาหัวใจสีโลหิตแล้วยกมือขวาขึ้นคว้าไป ก่อนตามมาด้วยเสียงระเบิดดังสนั่นไปทั้งฟ้า

“ในความทรงจำเจ้า สุดท้ายเจ้าจะถูกชายผมยาวก่อนหน้านี้กำราบให้เป็นพลังตรงใจกลางแดนเลื่องลือด่านสองของสำนักดาราสัจธรรม เช่นนั้นตอนนี้ ความทรงจำเจ้าถูกเปลี่ยน คนที่กำราบเจ้าคือข้า!” ซูหมิงทำปางมือซ้ายชี้ไปยังฟ้า ผืนฟ้าพลันสั่นสะเทือน ฝ่ามือยักษ์ข้างหนึ่งโผล่ขึ้นมากลางอากาศแล้วพุ่งไปยังหัวใจสีโลหิต

ซูหมิงไม่หยุดเดิน แต่ขยับวูบไหวพลางใช้มือขวาคว้าอากาศ ทันใดนั้นปรากฏทวนมุ่งสู่ชีวิตขึ้นในมือก่อนขว้างออกไป มันพุ่งดิ่งพร้อมเสียงอื้ออึงเข้าไปปักในหัวใจสีโลหิต

เขาปล่อยให้หัวใจสีโลหิตเต้นตุบๆ สะเทือนฟ้า แต่ตัวเขาไม่ได้หยุดแม้แต่น้อย ยังคงก้าวเดินขึ้นไปบนหัวใจสีโลหิต

“ในความทรงจำเจ้ากำหนดไว้ว่าต้องพ่ายแพ้ ดังนั้นนี่จึงเป็นเคราะห์ภัยที่เจ้าหนีไม่พ้น…” ซูหมิงพูดเรียบๆ ก่อนยกมือขวาขึ้นใช้ห้านิ้วมือทะลวงเข้าไปในหัวใจสีโลหิตองค์ชายอย่างรุนแรง ในเวลาเดียวกันภายในห้านิ้วมือมีกิ่งไม้จำนวนมากมุดออกมาแล้วทะลวงเข้าไปในหัวใจสีโลหิต

“เพียงแต่ว่าคนที่กำราบเจ้าเปลี่ยนเป็นข้า จากนี้ไป ข้าคือเจ้านายของเจ้า” สิ้นเสียงซูหมิง หัวใจสีโลหิตพลันเกิดเส้นเลือดดำขึ้นจำนวนมาก มันขยับยึกยืออยู่ภายใน นั่นคือกิ่งไม้ที่ยึดยาวจากในตัวซูหมิงกำลังอัดแน่นอยู่ในทุกส่วนของหัวใจ สีโลหิต

เกิดเสียงโครมที่ทำให้ฟ้าพังทยายลงดังกึกก้อง ฟ้ากระจ่างดาวที่นี่กลายเป็นเศษหายไป รวมถึงหัวใจสีโลหิต รวมถึงซูหมิงก็หายไปด้วย

ซูหมิงนั่งฌานอยู่บนแท่นวงกลม ตั้งแต่เริ่มจนถึงตอนนี้เขาไม่ได้ขยับตัวแม้แต่น้อย ทุกอย่างก่อนหน้านี้เป็นเพียงวิชามายา เป็นวิชามายาของที่นี่แต่ เขากลับเป็น ฝ่ายกระทำ

ตอนที่เขาลืมตาขึ้น เสาแสงตรงหน้าเขาขยับวูบวาบเด่นชัด นามของคนที่เคยผ่านที่นี่หลายร้อยคนด้านบนลำแสงค่อยๆ เลือนราง

“คารวะ…นายท่าน” เสียงเย็นชาไร้คลื่นอารมณ์ก่อนหน้านี้ดังกึกก้องอยู่ข้างหูซูหมิง

ซูหมิงยิ้ม หลังยืนขึ้นแล้วก็หมุนตัวเดินออกไปข้างนอกหนึ่งก้าว ตัวเขาพลันเดินออกจากแท่นราบที่นี่ จนกระทั่งมาอยู่กลางอากาศ ตรงจุดสูงสุดในรายชื่อหลายร้อยคนบนลำแสงตรงแท่นราบข้างหลังปรากฏนามเต้าคงขึ้น

สีของมันต่างกับนามมืดหม่นของคนอื่นๆ มันเป็นสีแดงโลหิตสด!

นามสีโลหิตไม่เพียงหมายถึงว่าซูหมิงเป็นผู้ผ่านด่านที่เร็วที่สุดในหลายร้อยคนนี้ แต่ยังหมายถึงว่าเขาเป็นเจ้านายของแดนเลื่องลือด่านสอง

เพียงแต่คนนอกไม่รู้ก็เท่านั้น แต่เขาเข้าใจว่าหากต้องการ ถึงขั้นที่จะให้ศิษย์ที่ทดสอบด่านสองแดนเลื่องลือจากสำนักดาราสัจธรรมต้องระเบิดตายข้างในก็ยังทำได้

กล่าวจริงๆ คือเขาไม่ได้ผ่านด่าน เพราะเขาไม่ได้เดินไปทีละก้าวตามกฏ แต่ใช้ กลอุบายร้ายกาจเป็นเจ้านายกฏเสียเอง ดังนั้นแล้วย่อมอยู่เหนือกว่าทุกคน ตอนนี้ขณะเดินออกมา ผู้ฝึกฌานหลายร้อยคนต่างตกตะลึงค้างอ้าปากเหม่อลอย

เพราะว่าตอนซูหมิงอยู่ข้างใน ในความรู้สึกเขาเหมือนนาน แต่ความจริงเวลาในด่านสองแดนเลื่องลือน้อยกว่าด่านแรกไปไม่น้อย….ใช้ไปเพียงสามสิบห้าลมหายใจ!

ตั้งแต่ที่คนรอบๆ เห็นซูหมิงเข้าไปในด่านสองแดนเลื่องลือก็คำนวณเวลาเอาไว้แล้ว กระทั่งเต๋อซุ่นรับลงเดิมพันไปไม่เท่าไรทุกอย่างก็จบลงแล้ว

ซูหมิงมองผู้ฝึกฌานหลายล้านคนรอบๆ อย่างเย็นชา ก่อนขยับวูบไหวพุ่งไปยังแดนเลื่องลือด่านสาม

คล้อยหลังเขา ทุกคนที่นี่ต่างได้สติกลับมา เสียงดังเกรียวกราวที่ดังสนั่นกว่าก่อนหน้านี้หลายเท่าดังสนั่นขึ้นราวกับเกิดพายุคลั่งกลางกลุ่มคน

“สามสิบห้าลมหายใจ? เป็นสามสิบห้าลมหายใจจริงๆ ยอดเยี่ยมมาก ไม่นึกเลยว่าองค์ชายเต้าคงจะยอดเยี่ยมถึงเพียงนี้!”

“ข้านึกออกแล้ว ตอนนั้นองค์ชายเต้าคงถูกขนานนามว่าเป็นคนที่มีพรสวรค์สูงที่สุดในรอบหลายปีมานี้ของสำนักดาราสัจธรรม คนแบบนี้ต่อให้อยู่เงียบๆ พันกว่าปี แต่หากปรากฏตัวจะสร้างความตื่นตกใจต่อผู้คน!”

“เขามีขั้นพลังใดกันแน่ เหตุใดถึงเป็นเช่นนี้ นี่เพิ่งผ่านไปนานเท่าไรเอง ขะ…เขาผ่านแดนเลื่องลือด่านสองแล้ว นั่นคือแดนมายาเชียว คนที่ผ่านที่นี่มีแค่หลายร้อยคนเท่านั้น…”

“พวกเจ้าดู ขะ….เขาจะไปแดนเลื่องลือด่านสาม ข้ากล้าเดิมพันว่าเขาจะบุก เก้าแดนเลื่องลือทั้งหมด!”

ท่ามกลางเสียงดังอึกทึกและเหลือเชื่อ ผู้ฝึกฌานหลายล้านคนที่นี่ต่างใช้ความเร็วสูงสุดตามซูหมิงไปพร้อมกัน มุ่งหน้าไปสู่แดนเลื่องลือด่านสามบนแผ่นดินที่สาม

ในกลุ่มคน หม่าเฟยหายใจกระชั้น เหม่อมองร่างเงาซูหมิงไกลๆ ความตื่นตะลึงทางสีหน้าเป็นลูกคลื่นที่นางไม่มีวันลืมไปชั่วชีวิต

และยังมีเต๋อซุ่น ถึงจะตื่นตกใจยิ่ง แต่ในใจกลับเจ็ดปวดนัก แอบคิดในใจว่าตน คำนาณพลาด ไม่นึกเลยว่าอีกฝ่ายจะน่ากลัวขนาดนี้และผ่านด่านได้เร็วขนาดนั้น จนตัวเขาไม่ได้สร้างกำไรมากนัก แต่เขาก็ใคร่ครวญและตัดสินใจทันทีว่าจะเปิดการเดิมพันต่อ แต่จะต้องทำล่วงหน้าเล็กน้อย

“เปิดเดิมพันแล้ว พวกเรามาเดิมพันกันต่อเถอะ ครั้งนี้เป็นแดนเลื่องลือด่านสาม ทุกคนจะรีบต้องทำเวลา”

แทบเป็นทันทีที่ซูหมิงผ่านแดนเลื่องลือด่านสอง บนแดนแต่งตั้งยศ ผู้ฝึกฌานหลายล้านคนที่ไม่ได้ตามซูหมิงไปก่อนหน้านี้ ตอนนี้นิ่งไม่ไหวแล้ว พวกเขาต่างมีสีหน้าเหลือเชื่อและกำลังบินไปยังแผ่นดินที่สามอย่างรวดเร็วและไม่ลังเล

แม้แต่องค์ชายหลายคนยังอยู่ที่นี่ไม่ได้อีก ต่างกลายเป็นสายรุ้งบินไปด้วยสีหน้าอึมครึมพร้อมกันโดยไม่ต้องนัดหมาย ขนาดเต้าหลินกับเต้าฝ่าสองคนยังมีสีหน้าจริงจังอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน อีกทั้งยังมุ่งหน้าไปด้วยความเร็วทั้งหมด

แดนแต่งตั้งยศที่เดิมทีครึกครื้นตอนนี้เหลือเพียงสี่คน นอกจากเป้ยปังชายชราขั้นเกิดแล้วก็มีผู้อาวุโสสำนักอีกสามท่านข้างหลังเขา

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version