ตอนที่ 1086 เรื่องราว

เหตุการณ์ที่นี่ กระทั่งองค์ชายเก้าคนบนแท่นดอกบัวซูหมิงยังพากันถอยไป สายตามองคนที่กลับมาจากแดนต้นกำเนิดจิต หากคำพูดจากคนนี้สร้างคลื่นลูกใหญ่ลึกล้ำ เช่นนั้นมันจะดีกับพวกเขาเก้าคนมากที่สุด

ดังนั้นแล้ว บางทีอาจจะถอดฐานะองค์ชายของเต้าคงได้ จากนี้ในการแก่งแย่งกันในภายภาคหน้า อำนาจคุกคามในฐานะเดียวกันจะหายไปหนึ่งคน อำนาจคุกคามนี้หายไปมากเท่าไรยิ่งดี

ถึงอย่างไรเส้นทางจากองค์ชายเป็นเจ้าปกครองดาราสัจธรรมก็เต็มไปด้วยความคดเคี้ยว ถึงพวกเขาเก้าคนจะเป็นองค์ชาย ทว่าความจริงเบื้องหลังสิบคนนี้ยังมี องค์ชายลับอีกสาม

องค์ชายลับสามคนนี้มีขั้นพลังไม่อาจคาดเดา เล่าลือว่าทุกคนเป็นผู้กุมชะตาเกิดดับสูญ น่าเสียดายไม่มีใครรู้ว่าเป็นใคร แต่ตามกฎสำนักดาราสัจธรรมแล้ว ตอนที่ องค์ชายสิบคนปรากฏตัวจะต้องมีคนยอมรับชะตาชีวิตองค์ชายลับสามคน

ทว่าองค์ชายลับก็มีขีดจำกัดเหมือนกัน พวกเขาเปิดตำหนักรับกำลังพลไม่ได้ ดังนั้นจึงเกิดเป็นความเสมอภาคขึ้นมา ตอนนี้ที่องค์ชายเก้าคนมองซูหมิงเป็นอำนาจคุกคามรุนแรงก็เป็นเพราะว่าซูหมิงมีฐานะองค์ชาย แต่กลับมีขั้นพลังแบบองค์ชายลับ มันจึงสร้างอำนาจคุกคามต่อพวกเขาอย่างยิ่ง

ฉะนั้นพวกเขาจึงคิดว่าหากถอดฐานะองค์ชายของซูหมิงออก เช่นนั้นต่อให้ซูหมิงมีขั้นพลังสูงกว่านี้อีกก็ไม่มีประโยชน์ การเป็นองค์ชายเดิมทีไม่ต้องการขั้นพลังมากอยู่แล้ว สิ่งที่ต้องการคือกำลังพลผู้แข็งแกร่งติดตาม ต้องการคนจำนวนที่มากกว่า โอบล้อมข้างกายและรวมเป็นขุมอำนาจ!

ขอเพียงขุมอำนาจผงาดขึ้น เช่นนั้นผู้แข็งแกร่งที่แกร่งกว่าจะต้องยอมศิโรราบอยู่ใต้ขุมอำนาจนี้ ในจุดนี้พวกเขาเก้าคนต่างเชื่อมั่นกันอย่างมาก

ท่ามกลางสายตาเฝ้ารอคอยของพวกเขา ผู้ฝึกฌานสิบล้านคนรอบๆ รวมจิตสัมผัสเข้ามาพร้อมกัน ชายชราเป้ยปังเกิดความสนใจอย่างมาก ส่วนชายชราหน้าดำเกิดความลังเลในใจเล็กน้อย แต่ที่มากกว่าคือสีหน้าเชื่อมั่นในการตัดสินใจของตัวเอง คนที่กลับมาจากแดนต้นกำเนิดจิตหน้าเปลี่ยนสีติดกันทันที เกิดความรู้สึกเหมือนขี่อยู่บนหลังเสือยากจะลงมา จากนั้นเขาไม่มองชายชราหน้าดำโดยจิตใต้สำนึก ไม่มอง ชายชราเป้ยปังที่มีขั้นพลังสูงสุดที่นี่ แต่…มองซูหมิง

ในสายตาที่มองซูหมิงมีความยำเกรงและกังวลอย่างมาก โดยเฉพาะใบหน้า ไร้อารมณ์ของซูหมิง มันทำให้เขาใจสั่นไหว ก่อนกัดฟันแน่น เขามีความรู้สึกชัดว่ายอมล่วงเกินชายชราหน้าดำดีกว่าล่วงเกินซูหมิง

บางทีคนสิบล้านคนรอบๆ อาจไม่เห็นสายตานี้มากนัก แต่องค์ชายเก้าคนบนแท่นดอกบัวกลับเห็นอย่างชัดเจน เป้ยปังเห็น คนที่เห็นชัดที่สุดคือชายชราหน้าดำ ชั่วพริบตาที่เขาเห็นความยำเกรงและกังวลในแววตาอีกฝ่าย ในใจเขาก็เต้นดังตึกๆ ความรู้สึกไม่ดีพลันรุนแรงขึ้นอย่างไร้ที่เปรียบ

“ช้าก่อน…..” ครั้งนี้เขาพูดออกไปอย่างไม่ลังเล

ทว่าเพิ่งจะเอ่ยออกไป คนที่กลับมาจากแดนรกร้างต้นกำเนิดจิตก็มีสีหน้าเด็ดขาด เขาเข้าใจแล้ว ในเมื่อผู้อาวุโสสำนักหน้าดำให้ตนพูด ตนก็จะพูดออกไปเลย

“เมื่อหลายวันก่อนผู้อาวุโสสำนักส่งข้าไปแดนรกร้างต้นกำเนิดจิต…..” เขาไม่สนใจคำพูดชายชราหน้าดำแม้แต่น้อย เมื่อเอ่ยออกไปก็ดึงดูดความสนใจของ ผู้ฝึกฌานทั้งหมดในทันควัน

“เพื่อตรวจสอบทุกอย่างที่องค์ชายเต้าคงประสบมา หาสาเหตุที่ขั้นพลังองค์ชายพุ่งพรวดขึ้น นี่คือหน้าที่ที่ข้าได้รับคำสั่งมา ข้าไม่มีอำนาจปฏิเสธ ทำได้เพียงฟังคำสั่ง หวังว่าองค์ชายจะไม่ลงโทษ” เขาพูดพลางประสานมือคารวะลึกๆ ไปทางซูหมิง สีหน้าเต็มไปด้วยความเคารพ ถึงขั้นมีความยำเกรง

ภาพนี้ก่อให้เกิดเสียงดังเกรียวกราวในใจคนรอบๆ อีกทั้งยังตั้งใจฟังมากกว่าเดิม ในใจพวกเขาถูกกระตุ้นจนเกิดความอยากรู้อยากเห็นอย่างรุนแรง

“หลังจากข้าไปถึงแดนรกร้างต้นกำเนิดจิตก็ไม่ได้เดินทางไปตรวจสอบที่ ขุมอำนาจรักษาการณ์โลกแท้จริงดาราสัจธรรมก่อน แต่ใช้ฐานะตอนข้าเป็นผู้รักษาการณ์ในตอนนั้นไปหาสหายโลกแท้จริงอื่นๆ ที่เคยคบหากันเพื่อหาข้อมูล จนได้เจอกับสหายที่เคยผูกมิตรบนดาวทมิฬอีกหลายคนโดยบังเอิญ

จากการตรวจสอบหลายมุม ถึงจะยังไม่พบสิ่งที่องค์ชายเต้าคงประสบมาทั้งหมดในแดนรกร้างต้นกำเนิดจิต แต่ก็หาอยู่เจอสามสี่ส่วนในสิบ

ตอนองค์ชายเต้าคงเข้าแดนรกร้างต้นกำเนิดจิตในช่วงแรก เขาปฏิบัติงานแบบเงียบๆ ไม่มีจุดน่าสนใจมากนัก แต่เรื่องราวของเขาเริ่มต้นที่งานประมูลครั้งใหญ่บนดาวทมิฬ

ในงานประมูล องค์ชายเต้าคงประมูลเสื้อคลุมศักดิ์สิทธิ์ดาราไปตัวหนึ่ง จากนั้นเรื่องราวของเขาก็เริ่มต้นขึ้นอย่างยิ่งใหญ่จนข้าตกตะลึงจนถึงตอนนี้!

องค์ชายเต้าคงไปทะเลดาราต้นกำเนิดจิต ผ่านการฝึกฝนอันตรายหลายต่อหลายครั้งที่นั่น ทุกคนอาจจะไม่เข้าใจทะเลดาราต้นกำเนิดจิตมากนัก ข้าจะบอกทุกท่านให้ว่าทะเลดาราต้นกำเนิดจิตเป็นสถานที่ที่เต็มไปด้วยโชควาสนา ในนั้นมีแดนหลับใหลของเทพบรรพชนโบราณ กระทั่งมีเทพบรรพชนที่ยังมีชีวิตอยู่ บรรพชนวิญญาณ ไปจนถึงชนเผ่าที่อยู่มาแต่โบราณมากมาย

ในทะเลดาราต้นกำเนิดจิตที่เต็มไปด้วยตำนานนี้ มีความเป็นไปได้ทุกอย่าง อย่าว่าแต่ขั้นพลังองค์ชายเต้าคงพุ่งพรวดเลย ต่อให้ก้าวเดียวเหยียบสวรรค์ก็ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้

มีแต่ต้องอยู่ภายใต้สภาพแวดล้อมแบบนั้นเท่านั้นถึงจะทำให้คนคนหนึ่งเติบใหญ่ขึ้นอย่างแท้จริง ถึงจะทำให้เหล็กธรรมดาเปลี่ยนเป็นกระบี่คมกริบ!

ข้าไม่รู้ว่าองค์ชายเต้าคงเจออะไรมาบ้างในทะเลดาราต้นกำเนิดจิต ทุกอย่างมีเพียงองค์ชายเท่านั้นที่รู้ แต่ข้ามั่นใจว่าคนธรรมดาไม่มีทางผ่านไปได้แน่ ต่อให้เป็น ผู้อาวุโสสำนักก็มีโอกาสสิ้นชีพ!

ข้ายังรู้มาอีกว่าองค์ชายเต้าคงเข้าร่วม…..การเปิดเตาหลอมลำดับห้า ซึ่งมันเป็นหนึ่งในแดนลับที่สุดของทะเลดาราต้นกำเนิดจิต การเปิดเตาหลอมทุกครั้งจะก่อให้เกิดทะเลเพลิงลุกลามไปทั้งทะเลดาราต้นกำเนิดจิต! บางทีอาจมีหลายคนไม่รู้จักความแกร่งของเตาหลอมลำดับห้ามากนัก แต่ข้าจะบอกให้ เพลิงจากเตาหลอมลำดับห้าแผดเผาผู้ฝึกฌานที่ต่ำกว่าขั้นกุมได้ทั้งหมด!

ขนาดขั้นกุมเอง หากไม่มีของวิเศษเลี่ยงเพลิงที่มากพอก็ยากจะยืนหยัดอยู่กลางทะเลเพลิงได้นานนักด้วย!” คำพูดชายชราแฝงไว้ด้วยความยำเกรง ช่วงที่เสียงดังก้องไปรอบๆ คำพูดเขาพลันก่อให้เกิดคลื่นลูกใหญ่ที่นี่

ผู้ฝึกฌานสิบล้านคนส่งเสียงดังอึกทึก แต่ละคนต่างมีสีหน้าตื่นตะลึงกับคำพูด ชายชราอย่างเด่นชัด พวกเขาบางคนเคยได้ยินคำว่าทะเลดาราต้นกำเนิดจิต แน่นอนว่าย่อมรู้ถึงความน่ากลัวของมัน และยังเคยได้ยินเตาหลอมลำดับห้าจึงเข้าใจความ น่ากลัวของมันทั้งหมด

กระทั่งบางคนเคยเป็นผู้รักษาการณ์มาก่อน คำพูดชายชราทำให้พวกเขาเงียบ พวกเขาเข้าใจมากกว่า แต่ยิ่งเข้าใจมากเท่าไรก็ยิ่งเกิดความยำเกรงต่อซูหมิงในระดับที่ไม่เคยถึงมาก่อน

คนส่วนมากเพิ่งเคยได้ยินเรื่องนี้เป็นครั้งแรก แต่พวกเขารู้จักชายชรา รู้ว่าอีกฝ่ายไม่พูดโกหก อีกทั้งคนที่นี่มีคนเขลาน้อย ย่อมตัดสินความจริงจากคำพูดชายชราได้อยู่แล้ว

“องค์ชายเต้าคงเข้าไปในเตาหลอมลำดับห้าด้วย คนที่ร่วมไปด้วยขั้นพลังอย่างต่ำคือขั้นกุม ในกลุ่มคนนี้ ท่ามกลางอันตรายมากมายในเตาหลอมลำดับห้า องค์ชายเต้าคงได้รับโชควาสนาครั้งใหญ่ที่ไม่เคยมีมาก่อน ผู้ติดตามเขาก็ยอมศิโรราบให้ที่นั่น……”

คำพูดเขายังคงดังกังวาน เสียงเกรียวกราวจากรอบๆ พลันดังสนั่นกว่าเดิม ภายในเสียงร้องด้วยคามตกใจเหลือเชื่อเหล่านี้มีความตกตะลึงที่ไม่ว่าอย่างไรก็รู้สึกว่ามันน่าเหลือเชื่ออยู่

เป้ยปังหรี่ตาแคบลง เขามองซูหมิง สิ่งที่เห็นคือสีหน้าเฉยชา

ชายชราหน้าดำมีสีหน้าไร้อารมณ์ไปแล้ว เขายืนอยู่ตรงนั้น จ้องชายชราที่กลับมาจากแดนต้นกำเนิดจิตตาเขม็ง ในใจเกิดจิตสังหารรุนแรงขึ้น

และยังมีองค์ชายเก้าคนบนแท่นดอกบัวของซูหมิง ตอนนี้ต่างหน้าเปลี่ยนสีพลางถอยไปพร้อมกัน

“นี่ยังไม่เท่าไร ในแดนรกร้างต้นกำเนิดจิต ตอนนี้มีข่าวลือกระจายไปอย่างดุเดือด ไม่ใช่ของโลกแท้จริงใด แต่เป็นแขกสังกัดขุมอำนาจรักษาการณ์สี่มหาโลกแท้จริง ในแดนต้นกำเนิดจิต…..ท่านชายเทียนอู๋ เขามีขั้นพลังกุมและก็ร่วมเข้าไปในเตาหลอมลำดับห้าเหมือนกัน แต่ข่าวลือเล่าว่าที่เขาไม่กลับมาก็เพราะแย่งสมบัติกับองค์ชาย เต้าคง จนถูกองค์ชายสังหารด้วยมือตัวเอง กายเนื้อก็เป็นร่างของบรรพบุรุษ หุ่นเชิดเพลิงที่ติดตามเขาอยู่ตอนนี้!” ช่วงที่ชายชรากล่าวประโยคนี้ออกไป เสียงเกรียวกราวจากรอบๆ กลายเป็นเสียงดังสนั่น

เป้ยปังดวงตาวาววับ เขาไม่ได้พูดอะไร ทว่าชายชราหน้าดำข้างหลังแค่นเสียงหึเย็นชา แล้วเอ่ยด้วยเสียงราวฟ้าผ่ากลบคลื่นเสียงจากรอบๆ

“พูดจาเหลวใหล ข้าเคยได้ยินมาว่าท่านชายเทียนอู๋มีสายเลือดประหลาด หากเปลี่ยนร่างจะแกร่งยิ่ง จะไปถูกสังหารแบบนี้ได้อย่างไร เจ้าไปฟังใครมา ข่าวลือแบบนี้จะเป็นจริงไปได้อย่างไร!

หากยังเอาข่าวลือมาพูดอีก อย่าหาว่าข้าลงโทษเจ้า!” ชายชราหน้าดำกล่าวด้วยเสียงอึมครึม น้ำเสียงแฝงไว้ด้วยความโกรธ

“หากคำพูดนี้เป็นบรรพบุรุษหลงไห่บอกกับข้าเองล่ะ!” ชายชราที่กลับมาจากแดนต้นกำเนิดจิตได้ยินดังนั้นก็ตอบกลับอย่างไม่ลังเล เขาไม่สนใจอะไรแล้ว

สิ้นเสียง เสียงเกรียวกราวที่ถูกกลบไปพลันดังสนั่นอย่างไม่มีที่สิ้นสุด ชายชราหน้าดำหน้าเปลี่ยนสีและเงียบไป

“บรรพบุรุษหลงไห่ นั่นคือยอดฝีมือสำนักดาราสัจธรรมของเราที่หายตัวไปหลายปีก่อน!”

“ข้าเคยได้ยินมาว่าบรรพบุรุษท่านนี้ก้าวสู่ระดับยอดฝีมือนานแล้ว มีชื่อเสียงโด่งดังในโลกแท้จริงดาราสัจธรรม ไม่นึกเลยว่าเขาจะอยู่ในแดนรกร้างต้นกำเนิดจิต”

“บรรพบุรุษหลงไห่…..หากเป็นเขาบอกเองจริงๆ มันก็น่าเชื่อถือ!”

ท่ามกลางคลื่นเสียงจากรอบๆ ชายชราคนที่กลับจากแดนต้นกำเนิดจิตพูดต่ออีกครั้ง ครั้งนี้บอกในสิ่งที่น่าตกตะลึงที่สุด

“หลังจากองค์ชายเต้าคงออกจากเตาหลอมลำดับห้าก็ไปทะเลลำดับห้า ที่นั่น…..องค์ชายเต้าคงถูกชนเผ่ากับสัตว์ร้ายจากทะเลดาราต้นกำเนิดจิตปิดล้อม” ชายชรา ตัวสั่น ขณะเดียวกันนัยน์ตาเขามีความหวาดกลัว

“ในนั้น ผู้ติดตามขององค์ชายคนหนึ่งใช้เพียงอภินิหารรูปแบบเดียวก็สังหารผู้ฝึกฌานไปหลายหมื่น ในนั้นมียอดฝีมือขั้นกุมอยู่ด้วย…..

เล่าลือว่าผู้ติดตามท่านนั้นขององค์ชายเป็น…..ยอดฝีมือขั้นเกิดที่ใกล้จะบรรลุถึงขั้นดับ!” ช่วงที่เสียงชายชราดังก้อง รอบๆ พลันเงียบสงัด แต่ไม่นานก็เกิดเสียงโครมดังสนั่นรุนแรงขึ้น นั่นคือคลื่นเสียงที่รวมขึ้นจากเสียงร้องด้วยความตกใจของคน เหลือคณานับรวมเข้าด้วย