Skip to content

สู่วิถีอสุรา 1139

ตอนที่ 1139 ช่องโหว่ของสามรกร้าง

ความมุ่งมั่นในการต่อสู้นี้ทำให้ผู้แข็งแกร่งรอบๆ ต่างหวาดกลัว นัยน์ตายังฉายแววเคารพโดยไม่รู้ตัว

“หมิงเอ๋อร์ เจ้าโชคดี เพราะข้าคือบิดาเจ้า ข้าเป็นเพียงชาวเผ่ายมโลกธรรมดาคนหนึ่ง แต่มีข้าอยู่ แม้แต่ราชวงศ์พวกนั้นก็ต้องยำเกรง! อีกทั้งเจ้า หากไม่มีสงครามนี้ เจ้าจะถูกลิขิตไว้ว่าข้าเป็นคนชุบเลี้ยง เจ้าจะเหนือกว่าข้า เหนือกว่าองค์ชายพวกนั้น เป็นบุตรของข้าซูจ้านที่บรรพบุรุษยมโลกต้องให้ความสำคัญ!

แต่เจ้าโชคไม่ดี เพราะเจ้าคือบุตรของข้าซูจ้าน เพราะเจ้าจะตายในสงครามพร้อมกับข้า เจ้ากลัวหรือไม่!” ชายวัยกลางคนเงยหน้าหัวเราะเสียงดัง กวัดแกว่งดาบยาว ในมือ พลังบ้าอำนาจยากจะบรรยายพลันปะทุขึ้นแล้วฟันหัวยอดฝีมือขั้นเกิดคนหนึ่งจนขาดสะบั้น ทำลายจิตแรก โลหิตสาดกระจายและยังตกบนใบหน้าทารกคนนี้

ทารกคนนี้แลบลิ้นออกมากินโลลิตราวกับกินน้ำนม มิหนำซ้ำยังแสยะปากยิ้มอย่างเบิกบานใจ

“นี่ต่างหากคือบุตรของข้าซูจ้าน สมกับที่ข้าแฝงตัวเข้าไปในฝ่ายเงามืดรุ่งอรุณ ไปชิงตัวมารดาเจ้าแห่งสายเลือดเผ่าศักดิ์สิทธิ์ต้นกำเนิดเงามืดรุ่งอรุณ ไม่ว่านางจะยอมหรือไม่ แต่ก็ให้กำเนิดเจ้าแล้ว!

ทว่าเจ้า…..โชคไม่ดีจริงๆ ….” ชายวัยกลางคนก้มหน้าลงมองทารกในอ้อมกอด ในจิตสัมผัสมีความเมตตาในความบ้าอำนาจ และความเศร้า

เสียงครึกโครมดังสนั่น การสังหารก็เริ่มตรงนี้ ซูหมิงมองทุกอย่างในภาพ มอง ชายวัยกลางคนร่างสูงใหญ่ นั่นไม่ใช่…..ซูเซวียนอี แต่เป็นคนแปลกหน้าที่เขาไม่เคยพบมาก่อน

ทว่าคนแปลกหน้าคนนี้ พอซูหมิงเห็นแล้วกลับมีความรู้สึกวิญญาณสั่นไหว มีความรู้สึกว่าตน….เป็นเด็กทารกคนนั้น คนที่เลียปากกินโลหิตศัตรูและยิ้ม

เมื่อเกิดเสียงดังครึกโครม ภาพเปลี่ยนไปไม่หยุด จนกระทั่งทุกอย่างที่ซูหมิงเห็นในภาพนั้นกลายเป็นควันไฟสว่างกลางฟ้ากระจ่างดาว ควันไฟนั้นใช้ชีวิตจุดไฟ ปล่อยทุกอย่างและกลบทุกอย่าง….

แม้แต่ชายคนนั้นกับเด็กทารกในอ้อมกอดยังหายไปกลางควันไฟส่องแสง มีเพียงประโยคหนึ่งที่เหมือนดังก้องในฟ้าเงียบๆ

“หมิงเอ๋อร์ หากมีภพหน้า พ่อก็ยังเป็นบิดาเจ้า หากมีภพหน้า ข้าจะสอนเต๋าให้กับเจ้า ข้าจะ…..พาเจ้าท่องไปทั่วจักรวาล ข้าจะ…..รักเจ้าไปชั่วชีวิต เพราะเจ้าคือบุตรของข้าซูจ้าน ถึงข้าจะตาย แต่เจ้าจงจำเอาไว้ บิดาเจ้ามีนามว่าซูจ้าน!

ส่วนมารดาเจ้าที่ข้าเอาเปรียบ…..หากนางรู้ว่าข้าตายอาจจะร้องไห้ หรืออาจจะไม่…..แต่ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม ชีวิตนี้ข้าซูจ้าน ไม่เสียใจต่อฟ้า ไม่เสียใจต่อดิน ไม่เสียใจต่อเผ่าพันธุ์ ไม่เสียใจต่อสหายของข้า!”

ภาพนี้จบลงทำให้วิญญาณซูหมิงฉีกขาด ความรู้สึกเจ็บปวดลามไปทั้งกายและใจ ทว่าเขาไม่สนใจความเจ็บปวดแล้ว เพราะเขาเห็นว่าเมื่อภาพนี้จบลง ก็ปรากฏอีกภาพที่ถูกผนึกในความทรงจำ ภายในฟ้ากระจ่างดาวที่เต็มไปด้วยศพ ไม่รู้ว่าผ่านไปนานเท่าไรแล้ว มีคนเดินมาคนหนึ่ง…..

นั่นคือซูเซวียนอี!

ซูเซวียนอีเดินอยู่กลางฟ้าที่เต็มไปด้วยความตายช้าๆ เขายืนอยู่ที่นี่พักใหญ่ นัยน์ตาฉายแววเศร้าโศก จนกระทั่งเขาหมุนตัวเตรียมจะจากไป เขาพลันอุทานเบาๆ ก่อนยกมือขวาขึ้นคว้าเป็นวิญญาณอ่อนแอเสี้ยวหนึ่ง

นั่นคือวิญญาณทารกอ่อนแอ นั่นคือวิญญาณที่บิดาเขาปกป้องก่อนตาย บนสนามรบกว้างใหญ่นี้ เพราะวิญญาณนี้แฝงไว้ด้วยความมหัศจรรย์ของเผ่าพันธุ์มารดา จึงทำให้เขาดิ้นรนรอดเป็นเสี้ยววิญญาณได้!

ซูหมิงเห็นแล้ว ซูเซวียนอีมองวิญญาณนั้นอยู่นานมาก ก่อนพูดเบาๆ

“ซูจ้าน เจ้าล่อศัตรูที่ล่าสังหารข้าเพื่อให้ข้าพาภรรยาหนีไปได้อย่างราบรื่น….. เจ้ารู้ว่าวันหนึ่งข้าจะกลับมาที่นี่ ดังนั้นเจ้าจึงระเบิดตัวเองเพื่อปกป้องบุตรของเจ้าเอาไว้ เช่นนั้นจากนี้ เด็กคนนี้จะเป็นบุตรของข้าซูเซวียนอี”

ซูเซวียนอีกล่าวเสียงเบา ก่อนหมุนตัวกลับนำศพทั้งหมดของที่นี่รวมถึงของศัตรูกับทั้งโลกแท้จริงที่ห้าจากไป รวมถึง…..โลหิตหยดหนึ่งที่ถูกกดตรงระหว่างคิ้วเด็กทารกคนนั้น

“บิดาเจ้าเสียสละตัวเองเพื่อปกป้องเผ่าพันธุ์ เจ้า…..จงสานต่อความมุ่งมั่นที่บิดาเจ้ายังทำไม่สำเร็จเสีย เสียสละตัวเองเพื่อให้เผ่าเราผงาดขึ้น เจ้ายอมหรือไม่?” ซูเซวียนอีมองวิญญาณอ่อนแอในมือพลางพูดเบาๆ เพียงแต่ในคำพูดมีความบ้าคลั่งและเย็นชาเสี้ยวหนึ่ง ทำให้วิญญาณทารกรู้สึกกลัวจนตัวสั่นเหมือนจะสลายไป

“เจ้าน่าจะยินยอม” ซูเซวียนอียกมือซ้ายขึ้นปาดโลหิตกลางวิญญาณนั้นออกด้วยความโหดร้ายเล็กน้อย จากนั้นหมุนตัวกลับแล้วจากไปไกล

จนปรากฏอีกภาพหนึ่ง ซูหมิงเห็นสตรีคนหนึ่ง นางอ่อนโยนและงดงาม กำลังเหม่อมองซูหมิงด้วยสีหน้าขมขื่น

“ข้าไม่ยอม ซูจ้านรบจนตายเพื่อพวกเรา พวกเราจะไม่……”

“ข้าเลือกแล้ว ซูจ้านตายเพื่อเผ่าพันธุ์ เขาตายอย่างมีคุณค่าแล้ว!” เสียงเย็นชาดังเข้ามาขัดคำพูดนาง

“เขาไม่ได้ตายเพื่อเผ่าพันธุ์ แต่เขาทำเพื่อให้พวกเราหนีไป ด้วยขั้นพลังเขา เดิมทีเขาพาบุตรเขาหนีไปได้สบายอยู่แล้ว พวกเราไม่ควรทำกับบุตรเขาแบบนี้ ก่อนหน้านี้เขาคือบุตรของซูจ้าน แต่จากนี้ไปเขาคือบุตรของข้า!”

“ถ้าไม่อย่างนั้นบุตรของเราจะต้องตาย! เทียบกับสายเลือดข้าซูเซวียนอีแล้ว เสี้ยววิญญาณนี้ได้มีสิทธิ์ช่วยนั่นถือเป็นเกียรติสูงส่งของเขาแล้ว ต่อให้ซูจ้านยังมีชีวิตรอดก็ต้องเห็นด้วย!”

“เจ้าบ้าไปแล้ว ซูเซวียนอี เจ้าบ้าไปแล้ว!”

ภาพหายไปอีกครั้ง ตอนที่ปรากฏอีกครั้ง ซูหมิงถูกหญิงคนนั้นกอดเอาไว้ ลอยอยู่กลางฟ้ากระจ่างดาว กลิ่นอายพลังนางอ่อนแอ ใกล้จะหมดลมหายใจแล้ว ตรงดวงตามีน้ำตา นางก้มหน้ามองซูหมิง

“ขอโทษ….ขอโทษ….หากวันหนึ่งเจ้ารู้ทุกอย่าง จะโทษข้าก็ได้ แต่ได้โปรดปล่อยบุตรของข้าไป ขอโทษ….จริงๆ ….ครอบครัวพวกเราขอโทษบิดาเจ้าด้วย และต้องขอโทษเจ้า….ซูหมิง บุตรของข้า…..”

ภาพมาถึงตรงนี้ก็จบลงในความคิดซูหมิง วิญญาณเขาไม่เจ็บปวดแล้วและก็ไม่มีความสับสน ความบ้าคลั่งติดต่อกันทำให้เขาไม่สนใจความเจ็บปวด ไม่สนใจความสับสนอีก

มีเพียงรอยยิ้ม นั่นคือรอยยิ้มคลุ้มคลั่ง เป็นรอยยิ้มที่แฝงไว้ด้วยการทำลายล้าง ทุกอย่าง รอยยิ้มนั้นไม่ใช่เยาะเย้ยตัวเองอีก แต่เป็นเสียงหัวเราะที่เย็นชาจนน่ากลัวและดังกึกก้องในจิตแรกเขา

เสียงหัวเราะมีความแหลมเล็ก แฝงไว้ด้วยความแค้นเหลือล้นจากซูหมิง!

“ขอโทษอย่างนั้นรึ…..” จิตสัมผัสซูหมิงพลันเคลื่อนไหว ม้วนกระเรียนขนร่วงออกไปในจังหวะเดียวกับที่ตี้เทียนยึดกายเนื้อที่สร้างขึ้นจากศพพันล้านคนสำเร็จ เขากลับเข้าไปอยู่กลางแหวนสีขาว ก่อนกลับเข้าไปในร่างชายชราชุดคลุมดำ

ช่วงที่จิตสัมผัสเขาออกจากกายเนื้อ เส้นเลือดลมทั้งหมดในกายเนื้อพลันเปล่ง แสงสว่างจ้า จากนั้นเขาลืมตาขึ้น มีประกายวาววูบผ่านดวงตา เขา…..กลายเป็น ตี้เทียนแล้ว

ตี้เทียนยิ้มอย่างมีความสุขและตื่นเต้น เขาลุกขึ้นนั่งช้าๆ แล้วเงยหน้าหัวเราะเสียงดัง พร้อมกันนั้นชายชราชุดคลุมดำกับซิงจี๋เต้าเผยรอยยิ้ม

ไป๋เฟิ่งนอกลำแสงมองภาพนี้ด้วยแววตาเฝ้ารอคอย

ทว่าทันใดนั้นเอง

แหวนสีขาวพลันเปล่งแสงสว่างจ้า ภายใต้แสงสว่างวูบวาบ ภยันตรายร้ายแรงถูกส่งเข้าไปในจิตใจซิงจี๋เต้ากับชายชราชุดคลุมดำ

ขณะเดียวกันเสียงหัวเราะตี้เทียนหยุดลง เขาก้มหน้ามองร่างกายตัวเองด้วยแววตาเหลือเชื่อและหวาดกลัว ร่างกายเขาตอนนี้เหมือนหลอมละลาย บนตัวปรากฏใบหน้านับไม่ถ้วนแน่นขนัด ไม่รู้ว่ามีเท่าไร

กลิ่นอายพลังที่มากพอจะทำลายล้างหนึ่งโลกปะทุมาจากในตัวร่างกายนี้ ความแกร่งของมันทำให้ตี้เทียนหน้าเปลี่ยนสีอย่างรุนแรง ส่วนซิงจี๋เต้าหรี่ตาลง

“ศพนี้มีบางอย่างไม่ถูกต้อง นะ….นี่มัน….”

“นี่มันวิชาต้องห้ามพันล้านวิญญาณ เป็นวิชาต้องห้ามของห้องโถงมืดฝ่ายเงามืด รุ่งอรุณ!” ชายชราชุดคลุมดำตะโกนเสียงดัง ใบหน้าเหยเกย นัยน์ตาฉายแววเหลือเชื่อและตกใจกลัว แม้แต่เสียงยังสั่น

“นี่คือวิชาต้องห้ามพันล้านวิญญาณ!” ตอนที่ชายชราชุดคลุมดำพูดซ้ำอีกรอบโดยจิตใต้สำนึก เขาก็ร้องเสียงแหลมเล็ก ก่อนห้อเหยียดถอยไป ความหวาดกลัวทางสีหน้ามีความตื่นกลัวอย่างที่ไม่เคยเห็นมาก่อน

ซิงจี๋เต้าตัวสั่น เขาร้องคำรามด้วยความสิ้นหวัง ก่อนขยับวูบไหวตัวเลือกออกจากลำแสงนี้เช่นกัน

แต่ทันใดนั้นเอง กายเนื้อที่ตี้เทียนเพิ่งจะยึดร่างไปพลันแผ่ขยายพลังทำลายล้าง แล้วตามด้วยเสียงระเบิดดังสะเทือนฟ้าทั่วโลกแท้จริงดาราสัจธรรม

ทันทีที่เกิดเสียงระเบิดดังสนั่น ตี้เทียนร้องโหยหวน เขาพยายามจะหนีจากร่างกายนี้โดยไม่สนสิ่งใด แต่กลับทำไม่ได้ ในเสียงร้องโหยหวนยังมีความแค้นไม่อาจบรรยาย!

“ซูเซวียนอี!” นี่คือเสียงสุดท้ายของตี้เทียน คนผู้น่ำกลัวในยุคสมัยนี้หรือผู้ยิ่งใหญ่ในตอนนั้นที่มีขั้นพลังน่าสะพรึงและสู้กับซูเซวียนอีมาหลายหมื่นปี

เสียงนี้ถูกเสียงระเบิดกลบไปจนหมด ท่ามกลางเสียงระเบิด ร่างกายที่เขาเพิ่ง ยึดมาระเบิดออกเอง การระเบิดจากร่างพันล้านคน การระเบิดจากวิชาต้องห้าม เงามืดรุ่งอรุณส่งผลให้ร่างนี้ระเบิดการโจมตีอย่างสมบูรณ์ที่เหนือกว่าผู้ยิ่งใหญ่ กระทั่ง….ใกล้เคียงกับขั้นไม่อาจกล่าว หรืออาจจะเหนือกว่าก็ไม่มีใครรู้ นี่คือแผนการแรกของซูเซวียนอีที่เตรียมมานานไม่รู้กี่ปีแล้ว!

นี่คือการระเบิดตัวเองที่ทำลายหนึ่งโลกแท้จริงได้ ซึ่งจุดชนวนโดยตี้เทียน หลอมรวมมันด้วยตัวเอง และยังมีโลกแท้จริงสิ่งศักดิ์สิทธิ์หวนคืนช่วย การระเบิดของมันทำลายล้างทุกสิ่งมีชีวิต

ในโลกแท้จริงดาราสัจธรรม แม้แต่ดวงดาวหรือฟ้ากระจ่างดาวทั้งหมด ทำให้จากนี้ไป สี่มหาโลกแท้จริงไม่มีโลกแท้จริงดาราสัจธรรม เหลือเพียงสามโลกเท่านั้น!

มิหนำซ้ำพลังที่สามารถทำลายล้างหนึ่งโลกแท้จริงยังไปรวมอยู่ในลำแสงนี้ทั้งหมด ส่งผลให้ลำแสงถูกฉีกออกภายใต้พลังสูงสุดนี้ ทำให้ลำแสงไม่ใช่ลำแสงอีกต่อไป แต่กลายเป็นช่องโหว่ไปสู่ข้างนอกเพียงหนึ่งเดียวและไม่เคยมีมาก่อนในมหาโลก สามรกร้าง

การปรากฏของช่องโหว่จะทำให้ผู้ฝึกฌานสิ่งศักดิ์สิทธิ์หวนคืนลงมาเยือนเป็นกลุ่มใหญ่ กระทั่งขั้นพลังพวกเขาจะไม่ถูกจำกัดด้วย ไม่ต้องสร้างร่างขึ้นมาใหม่ ถึงขั้นที่ว่านอกจากขั้นไม่อาจกล่าวแล้ว ผู้แข็งแกร่งล้วนไม่รับผลกระทบใดๆ อีก สามารถลงมาเยือนได้อย่างสมบูรณ์แบบในจำนวนมาก

ประหนึ่งเปิดประตูแห่งยมโลก นี่…..คือแผนการของซูเซวียนอี เพราะหากปรากฏช่องโหว่นี้ ฝ่ายเงามืดรุ่งอรุณที่ซูเซวียนอีเคยให้ซูหมิงไปทำลายลำแสงแบบเดียวกันของพวกเขาและกำลังสร้างเส้นทางเคลื่อนย้ายมาใหม่จะต้องถูกกดดัน จึงต้องละทิ้งการเตรียมตัวก่อนหน้านี้ และต้อง…..โจมตีฝ่ายสิ่งศักดิ์สิทธิ์หวนคืนอย่างสุดกำลัง ใช้เวลาที่สั้นที่สุดชิงช่องโหว่เพียงหนึ่งเดียวนี้มา

เพราะพวกเขายอมให้ฝ่ายสิ่งศักดิ์สิทธิ์หวนคืนได้เสพสุขฝ่ายเดียวไม่ได้ เพราะหากฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งยึดครองมหาโลกสามรกร้าง เช่นนั้นจะเป็นการทำลายล้างอีกฝ่ายจนหมดสิ้น

แผนการในขั้นตอนแรกของซูเซวียนอีคือให้สงครามระหว่างเงามืดรุ่งอรุณกับ สิ่งศักดิ์สิทธิ์หวนคืนพุ่งถึงจุดเดือดในพริบตา ถึงระดับควาคลั่งที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version