Skip to content

สู่วิถีอสุรา 1162

ตอนที่ 1162 สะเทือนฟ้าเปลี่ยนตะวัน

เวลาผ่านไปช้าๆ ฟ้ากระจ่างดาวนอกระลอกคลื่นสีขาวมีพายุหมุนถาโถมไปมาตลอดปี ประหนึ่งเสียงคำรามของผีร้ายดังก้องไม่หยุด มักจะทำให้คนที่ได้ยินรู้สึกนานและเกิดความรู้สึกว่าไปอยู่กลางภูตผีในยมโลก

ซูหมิงชอบการอยู่อย่างลำพังแล้ว ชินกับการนั่งฌานเงียบๆ คนเดียว ในขณะนั่งฌานก็โคจรพลังในร่างกายไปพลางตระหนักรู้ถึงฤดูหนาว ใบไม้ร่วง ร้อนและใบไม้ผลิของตัวเอง เพียงแต่เพราะเขายังไม่ได้สร้างกายเนื้อขึ้น ดังนั้นความหมายแห่งฤดูใบไม้ผลิจึงขาดอีกเล็กน้อย ไม่อาจสมบูรณ์แบบ

ตอนที่ซูหมิงรวมออกมาเป็นกายเนื้อร่างจริงของเขาอย่างสมบูรณ์ เขาจะก้าวสู่ความหมายแห่งฤดูใบไม้ผลิอย่างแท้จริง อาศัยการฟื้นคืนชีพแห่งใบไม้ผลิทำให้ร่างจริงสมบูรณ์ ก่อนลืมตาขึ้นมองโลกที่ต่างออกไป

ทำตามความปรารถนาตอนอยู่แผ่นดินหมาน นั่นคือลืมตามองโลกที่คนอื่นมองไม่เห็น ตอนนี้ ตัวเขาในอดีตเคยคิดว่าใกล้มากแล้ว ทว่าตอนนี้มองไปจึงรู้ว่าถึงระยะทาง จะใกล้มาก แต่ก็ไม่รู้ว่าเท่าไร จึงต้องเดินไปทีละก้าว

วัฏจักรเก้าครั้ง ท้ายที่สุดก็ผูกชะตาแห่งอดีตระหว่างเขากับไป๋หลิง ถึงในใจจะเหี่ยวแห้งเล็กน้อย แต่อดีตก็คืออดีต การดึงดันมิใช่นิสัยของเขา

ตั้งแต่ตอนนั้นที่รู้ว่าไป๋เฟิ่งเลือกยืนตรงหน้าเขา ตอนจบก็ได้ถูกลิขิตเอาไว้แล้ว สุดท้ายจบลงแบบนี้ก็ถือว่าสมบูรณ์แบบ

วัฏจักรเก้าครั้ง ซูหมิงจบเรื่องกับไป๋หลิง ผูกชะตาหลายต่อหลายครั้งกับสมบัติ ล้ำค่าแหวนสีขาว ขณะเดียวกันในวัฏจักรวิธีการหลอมทุกสรรพสิ่ง เขายังรู้สึกว่าตนมีพลังแห่งชะตาในขั้นกุมชะตาเกิดดับอยู่ด้วย

นี่คือการตระหนักรู้ เพราะไป๋หลิง เพราะแหวน การตระหนักรู้นี้เกี่ยวกับเขา แต่ที่มากกว่าคือต่อคนอื่น หากเปลี่ยนเป็นกฏชะตา ชะตานี้คือชะตาแห่งโลกภายนอก แต่ก็มีส่วนเกี่ยวข้องกับตัวเอง

“ขั้นชะตาดีเยี่ยมจนไม่อาจบรรยาย คำพูดนี้เป็นจริง…บางทีขั้นพลังนี้อาจจะมีความคล้ายกับขั้นไม่อาจกล่าวเล็กน้อย หรือไม่ก็มีจุดที่เหมือนกันอยู่บ้าง

ตอนนี้ข้ารู้สึกถึงการคงอยู่ของชะตาแห่งโลกภายนอก มันอยู่กลางใจข้า แสดงอยู่ในใจข้า…” ซูหมิงพึมพำแล้วก้มหน้าลงมองสองมือตัวเอง จากนั้นยกมือขวาขึ้นคว้าไปยังอากาศเงียบๆ พลันปรากฏแสงดำขึ้นเป็นสายๆ รวมอยู่กลางสองมือ

แสงดำเหล่านี้คือแสงแก่นยมโลก การปรากฏของมันเหมือนกับเชือกปมหญ้า ค่อยๆ ถูกซูหมิงผูกขึ้นทีละปม จนปมเหล่านี้รวมเข้าด้วยกันออกมาเป็นตุ๊กตาที่ถักขึ้นจากแสงแก่นยมโลกในมือ

ซูหมิงมองตุ๊กตาในมือ เขาไม่รู้ว่าตุ๊กตานี้คือใคร มันเหมือนตัวเอง แต่กลับมีความแปลกตามากกว่า ประหนึ่งแฝงไว้ด้วยทุกสิ่งมีชีวิต แฝงไว้ด้วยทุกคนที่เขาเคยเห็นมาในชีวิตนี้

ซูหมิงสะบัดมือ ปมตุ๊กตาถูกคลายออก จนเมื่อกลับมาเป็นแสงแก่นยมโลก สองเส้นแล้ว เขาก็ผูกในมืออีกครั้ง ครั้งนี้เขาจะผูกเป็นตัวเอง ทว่าเมื่อเวลาผ่านไป เขากลับพบว่าผูกเป็นตัวเองมิได้ ราวกับมักจะขาดอะไรไปเล็กน้อยทำให้สมบูรณ์ไม่ได้

จนกระทั่งเขาถอนหายใจเบา ล้มเลิกการผูกไป

‘ชะตาแห่งโลกภายนอกกลายเป็นตุ๊กตาในมือ สิ่งนี้คือชะตานอก…หากวันหนึ่งข้าผูกตุ๊กตาตัวเองออกมาได้ ก็จะเท่ากับว่าควบคุมชะตาตัวเองได้ ข้าจะบรรลุขั้นชะตาระดับสูง…

ขณะเดียวกันข้าใช้แสงแก่นยมโลกผูกปม หากใช้เส้นแห่งกฏที่มีอยู่ในฟ้าผูกปมเป็นตุ๊กตาได้ มันก็คือพลังแห่งกฏชะตา จะบรรลุถึงระดับที่แข็งแกร่งยิ่ง!’ ซูหมิงคลายมือขวา ตุ๊กตาสลายออก

‘สิ่งใดมาก่อนคือการตระหนักรู้ สิ่งใดมาทีหลังคืออภินิหาร เมื่อรวมเข้าด้วยกันถึงจะเป็นขั้นชะตาอย่างสมบูรณ์แบบ ทว่า…ขั้นชะตานี้คือขั้นชะตาของมหาโลกสามรกร้าง เทียบกับผู้แข็งแกร่งฝ่ายสิ่งศักดิ์สิทธิ์หวนคืนแล้วยังมีความต่างกันมาก

แต่หากใช้กฏผูกเป็นตุ๊กตาแล้วยกระดับไปอีกขั้นโดยการใช้แสงแก่นยมโลกของข้ามาแทนเส้นแห่งกฏในผืนฟ้า นี่จะเท่ากับว่ากฏถูกสร้างและเปลี่ยนโดยข้า ดังนั้นแล้วจะเหนือกว่าขั้นชะตาทั่วไปมาก สู้กับผู้แข็งแกร่งในระดับเดียวกันของฝ่าย สิ่งศักดิ์สิทธิ์หวนคืนได้’ ซูหมิงตรึกตรองอยู่ครู่หนึ่ง ดวงตาขยับประกายวาว

‘เคลื่อนย้ายภูผาพลิกทะเลคืออภินิหารที่แกร่งที่สุดของข้านอกจากพรสวรรค์ เผ่ายมโลก เช่นนั้นต่อไป บางทีอาจมี…อภินิหารสะเทือนฟ้าเปลี่ยนตะวันเพิ่มมา!

สะเทือนฟ้าคือขั้นชะตาระดับสูง ตัวเองคือฟ้า ตัวเองคือชะตา ส่วนเปลี่ยนตะวันคือนำชะตาของตัวเองมาแทนที่กฏเดิมไปชั่วนิรันดร์ ไม่ใช่เปลี่ยนในเวลาสั้นๆ แต่เปลี่ยนตลอดกาล!

และสิ่งที่แกร่งที่สุดในขั้นพลังนี้ เท่าที่ข้าจินตนาการได้ในตอนนี้คือนำดวงจิตของข้าที่รวมขึ้นมาใหม่อีกครั้งไปแทนที่กฏของทั้งโลกแท้จริงดาราสัจธรรม เมื่อเป็นเช่นนั้นแล้ว…ข้าจะแทนที่ดวงจิตของโลกแท้จริงดาราสัจธรรม ข้าจะกลายเป็น… โลกแท้จริงดาราสัจธรรม!’ ดวงตาซูหมิงขยับเป็นประกายวาวเด่นชัด

‘ถึงตอนนั้น ต่อให้คนฝ่ายสิ่งศักดิ์สิทธิ์หวนคืนมาเยือน พวกเขาก็ต้องหวาดกลัวข้า ถึงจะมีขั้นพลังสูงกว่าข้า ขอเพียงไม่ได้สูงกว่ามากเกินไปก็จะสูสีกับข้า ถึงอย่างไรข้าก็เปลี่ยนโลกแท้จริงดาราสัจธรรมเป็นตัวข้าแล้ว…ข้าคือโลกแท้จริงดาราสัจธรรม โลกแท้จริงดาราสัจธรรมก็คือข้า!

อีกทั้งมีฐานะของจ่างจี๋เต้าคอยช่วยอยู่ภายในด้วย เช่นนั้นก็จะพูดได้ว่าโลกแท้จริงดาราสัจธรรมเป็นของข้าทั้งหมด ข้าจะต้องทำแบบนี้ให้ได้ก่อนที่พายุหมุนจะหายไป มีแต่แบบนี้เท่านั้นข้าถึงจะมีคุณสมบัติเข้าร่วมในภัยพิบัติต่อจากนี้ได้ มิหนำซ้ำยังได้รับโชควาสนาด้วย!’ นัยน์ตาซูหมิงเปล่งประกายสว่างขึ้นเรื่อยๆ เขาหาทิศทางของตัวเองพบแล้ว

‘ก้าวแรกเสริมชะตาแห่งโลกภายนอกให้แกร่ง ก้าวที่สองตามหาชะตาของตัวเองแล้วรวมเข้าด้วยกัน จนกระทั่งในด้านการตระหนักรู้บรรลุถึงขั้นสูง ก้าวที่สามคือ ใช้แสงแก่นยมโลกมาแทนที่กฏในพื้นที่เล็กๆ ก้าวที่สี่ก็คือก้าวสุดท้าย แทนที่ดวงจิตของโลกแท้จริงดาราสัจธรรม เปลี่ยนโลกแท้จริงดาราสัจธรรมให้กลายเป็นโลก แสงแก่นยมโลก นำกฏเหล่านี้เปลี่ยนเป็นดวงจิตของข้าอย่างสมบูรณ์’

‘ก้าวแรกง่าย ตอนนี้ข้าก็ทำสำเร็จแล้ว เพียงแต่ต้องใช้เวลาอีกเล็กน้อยเท่านั้น ทว่าก้าวที่สอง…จะควบคุมชะตาของตัวเองให้เร็วที่สุดได้อย่างไร เรื่องนี้…’ ซูหมิงขมวดคิ้วเล็กน้อย ก่อนตกอยู่ในห้วงความคิด

เวลาผ่านไป หลายวันต่อมาซูหมิงดวงตาแวววาว นัยน์ตาฉายประกาย เขายกมือขวาขึ้นวาดวงกลมหนึ่งกลางอากาศตรงหน้า

วงกลมค่อยๆ ขยายใหญ่ขึ้นจนมีขนาดหลายสิบจั้งแล้ว เขาก็มีสีหน้าเข้าใจ

‘ชะตาแห่งโลกภายนอกสามารถรวมขึ้นเป็นวงกลมนี้ แต่ชะตาของตัวเองจะทำให้วงกลมขยายใหญ่ขึ้นไม่หยุด เมื่อมันใหญ่ขึ้นจนถึงระดับที่มั่นคงจนรวมชะตาแห่งโลกภายนอกจำนวนมากแล้ว มันก็จะเติบโตขึ้นเองจนกระทั่งควบคุมตัวเองได้อย่างสมบูรณ์แบบ

การควบคุมแบบนี้คือค่อยๆ ควบคุมไปจากเล็กจนเติบใหญ่ เมื่อวงกลมใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ เช่นนั้นทุกอย่างในวงกลมจะอยู่ในการควบคุม เริ่มมีความรู้สึกว่าควบคุมชะตาตัวเองได้ ความรู้สึกนี้จะเด่นชัดขึ้นเรื่อยๆ จนกลายเป็นความคิด นั่นเท่ากับบรรลุถึงระดับสูง!

ทว่าข้าเดินเส้นทางนี้ไม่ได้ เพราะมันใช้เวลานานเกินไป หากอยู่ในช่วงปกติคงไม่เป็นไร แต่ตอนนี้ภัยพิบัติใกล้จะมาถึงแล้ว สิ่งที่ข้าขาดมากที่สุดคือเวลา

ดังนั้น บางทีอาจมีอีกวิธีมาทำให้ข้าก้าวสู่ขอบเขตที่ควบคุมชะตาตัวเองได้ วิธีนี้น่าจะไม่เคยมีใครทำมาก่อน แต่ก็มีผลสำเร็จเหมือนกัน!’ นัยน์ตาซูหมิงฉายแววเชื่อมั่น วิธีนี้ไม่ใช่ว่าเขาคิดขึ้นเอง แต่ได้เข้าใจมาจากในวัฏจักรตอนใช้วิธีแห่งการหลอมทุกสรรพสิ่ง

‘แท้จริงแล้ววัฏจักรแห่งการหลอมทุกสรรพสิ่งคือจุดนับไม่ถ้วนในหนึ่งวัฏจักร พูดได้ว่าในช่วงเวลาเดียวกันข้าผ่านชีวิตคนต่างกันเก้าคน พวกเขาตัดสลับกันไปมา เชื่อมกันไปมาดุจตาข่าย

สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นชะตาภายนอก แต่หากข้าประสบผ่านมามากกว่านี้ก็จะมีชีวิตมากกว่าเดิม เช่นนั้นตาข่ายจะใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ อีกทั้งหากทุกการตัดสลับคือดวงจิต ของข้า เช่นนั้นเมื่อถึงระดับที่มั่นคงแล้ว ข้าจะใช้ชะตาแห่งโลกภายนอกบรรลุเป้าหมายควบคุมกฏชะตาของตัวเองได้อย่างสมบูรณ์

เหมือนกับว่าดวงจิตข้าคือศูนย์กลางให้กำเนิดชีวิตคนออกมานับไม่ถ้วน คนเหล่านี้จะขยายออกไปอีกครั้งจนเป็นตาข่าย จนข้าควบคุมตัวเองผ่านชีวิตคนอื่นๆ เหล่านี้ได้

นี่คือทฤษฎีซึ่งน่าจะไม่เกิดข้อผิดพลาด แต่หากใช้งานจริงก็คงต้องเปลี่ยนเล็กน้อย ถึงอย่างไรข้าก็ไม่อาจวนเวียนเป็นวัฏจักรในชีวิตคนได้นับไม่ถ้วน แต่ว่า…ข้าอาศัยผ่านชีวิตคนอื่นมาทำการตระหนักรู้ได้ เงื่อนไขคือในใจพวกเขาต้องมีข้า และในใจต้องเคารพข้ายิ่งกว่า

เช่นนั้นแล้วความคิดของพวกเขาที่เกิดขึ้นมาจะเชื่อมเข้าหากันกลายเป็นตาข่ายใหญ่วัฏจักรที่ข้าต้องการ!’ ซูหมิงตกอยู่ในห้วงความคิด หลักการนี้ดูซับซ้อน หากจะอธิบายง่ายๆ คือการควบคุมกฏชะตาตัวเองเปรียบกับความมั่นใจในตัวเอง ส่วนการควบคุมกฏชะตาภายนอกเปรียบกับมีคนรู้จักเจ้ากี่คน

มีสิบคนรู้จักเจ้าก็ไม่ถือว่าเท่าไร ถึงจะมีเป็นร้อยเป็นพันก็ยังไม่เท่าไร ทว่าหากมีเป็นหมื่นไปจนถึงหลายแสนกระทั่งล้านสิบล้านคนรู้จักเจ้า เช่นนั้นก็เท่ากับว่าเจ้าควบคุมชะตาแห่งภายนอกได้

ชะตานี้จะมากขึ้นเรื่อยๆ จนเมื่อถึงจำนวนที่น่าสะพรึงกลัวแล้วจะทำให้ตัวเราเต็มไปด้วยความมั่นใจในตัวเอง ซึ่งความมั่นใจนี้ก็คือพลังแห่งกฏชะตาที่ควบคุมชะตาตัวเองได้

ความจริงแล้วการมีชื่อเสียงโด่งดังก็ใช้หลักการนี้ ผู้มีชื่อเสียงคือผู้มีพลังแห่งชะตา!

‘อย่างเช่นคนที่ข้าช่วยในโลกเก้าหยิน พวกเขารวมเป็นหนึ่งเผ่า คารวะข้า ในใจจดจำรูปลักษณ์ข้า พลังแห่งดวงจิตที่ส่งออกมาจะกลายเป็นกฏชะตาของข้าโดยธรรมชาติ…

ฉะนั้นแล้ว หากข้าให้คนมากกว่านี้คารวะข้า เคารพข้า ถ้าอย่างนั้นดวงจิตพวกเขาจะกลายเป็นตาข่ายแห่งวัฏจักร ส่วนข้าอยู่ในตาข่าย จะแกร่งขึ้นในทุกๆ วันและ…ได้รับชะตาของตัวเองผ่านพวกเขา

ถึงขั้นข้ายังใช้พวกเขาไปถึงจุดสะเทือนฟ้าเปลี่ยนตะวันโลกแท้จริงดาราสัจธรรมได้ง่ายกว่าเดิม ใช้ดวงจิตข้ามาแทนที่กฏ!’ นัยน์ตาซูหมิงเด็ดขาด เขาตรึกตรองอย่างถี่ถ้วนอีกครู่หนึ่ง จนมั่นใจว่าความคิดนี้ถูกต้องแล้วถึงหลับตาลง ตกอยู่ในห้วงสมาธิ ความคิดที่จะรวมโลกแท้จริงดาราสัจธรรมเป็นหนึ่งเดียวมั่นคงยิ่งกว่าเดิม

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version