Skip to content

สู่วิถีอสุรา 1198

ตอนที่ 1198 เปลี่ยนวิญญาณ

“ขอเพียงให้เวลาข้าอีกเล็กน้อย ข้าจะ…” ชายชราส่ายศีรษะ สายตามองสภาพหลังดวงจิตในโลกตรงหน้ากวาดล้างผ่านไปแล้ว ท้องฟ้าเป็นผุยผง แผ่นดินกลายเป็นมวลอากาศ ฟ้ากระจ่างดาวข้างนอกยังแหลกละเอียด ชายชรายกมือขวาตบตัว ชายหนุ่มข้างหลังทีหนึ่ง ชายหนุ่มพลันกระเด็นถอยไป ก่อนถูกน้ำวนยักษ์ที่ปรากฏขึ้นจากอากาศสูบเข้าไป

“อาจารย์!” ชายหนุ่มตะโกนด้วยความเจ็บปวดและเศร้ายิ่ง

“ไป ใช้วิธีที่เตรียมไว้ก่อนหน้านี้ พวกเจ้ามีโอกาสสามส่วนที่จะรอดจากมหันตภัย” น้ำวนข้างหลังชายชราหายไป ดวงตาเขาเป็นประกายวาว ก่อนก้าวเดินไปยังดวงจิตที่ตรงเข้ามา

โครม!

ภาพสิ้นสุดลง ซูหมิงเกิดความเจ็บปวดในความคิด ทว่าขณะเดียวกับที่เจ็บปวด พลังเขายังทะลวงจากขั้นเกิดตอนต้นไปยังขั้นเกิดตอนกลาง ต่อมาแสงทองพลันกระจายออก เคลื่อนจากผิวหนังออกจากในพลังเขา นี่หมายความว่าการยกระดับพลังหลังซูหมิงบรรลุกายหมานระดับสูงจบลงแล้ว

ทั่วร่างซูหมิงอาบชุ่มไปด้วยเหงื่อ เดิมทีการสืบทอดจะไม่เจ็บปวดขนาดนี้ แต่ว่าซูหมิงหมุนทวนพลังทำให้ต้องเจ็บปวดอย่างยิ่ง แต่ทุกอย่างก็คุ้มค่า เขาไม่เพียงแต่ฝืนให้พลังบรรลุถึงขั้นเกิดตอนกลาง แต่ยังได้เห็นมหันตภัยครั้งนั้นในภาพที่เกิดในความคิดด้วย!

ซูหมิงไม่รู้ว่าดวงจิตในมหันตภัยนั้นคืออะไรกันแน่ แต่ความแกร่งของดวงจิตนั้นทำให้เขารู้สึกถึงอันตรายไม่มีที่สิ้นสุดในขณะที่ใจยังสั่นสะท้าน

เขาไม่กล้าคิดว่าดวงจิตในมหันตภัยนั้นจะมาเยือนในสักวันหนึ่งในภายภาคหน้าหรือไม่ ลงมากวาดล้างทุกสิ่งมีชีวิต กระทั่งชั่วขณะเมื่อครู่นี้ เขานึกไปถึงความลับสวรรค์ที่เห็นในวงแหวนอาคมธูปสวรรค์!

นั่นคือความตาย การทำลายล้าง ทั้งมหาโลกสามรกร้างกลายเป็นความว่างเปล่าแห่งมรณะ

เขายังเข้าใจอีกว่าเทพบรรพชนคนนี้ที่ตนหลอมรวมคือ…ชายหนุ่มนามจั่นไป๋ เทพบรรพชนที่ว่า แท้จริงแล้วก็เป็นผู้ฝึกฌานเหมือนกัน เพียงแต่เป็นผู้ฝึกฌานใน สมัยแรกๆ สมัยเขาถูกมหันตภัยทำลายล้าง พวกเขาที่เหลือรอดสร้างสมัยใหม่ขึ้น พวกเขา…จึงกลายเป็นเทพบรรพชน!

ผู้แข็งแกร่งอย่างพวกเขาเป็นเพียงผู้ถูกเลือกเพื่อสืบต่อมรดกจากสมัยที่ถูก มหันตภัยทำลายล้างเท่านั้น ผู้แข็งแกร่งแท้จริงในสมัยนั้นตายไปในกาลเวลานานแล้ว แต่แม้จะบรรลุถึงพลังที่ไม่อาจบรรยายนั่นก็ยังตายตกในมหันตภัย เช่นนั้นพลังของ มหันตภัย…

ซูหมิงไม่กล้าคิด ระหว่างนั้นเขาก็เดินก้าวสุดท้ายในการหลอมรวมเทพบรรพชน เป็นก้าวสำคัญจากวิญญาณชนรุ่นหลังก้าวสู่บรรพชนวิญญาณ นั่นคือการเปลี่ยนวิญญาณ!

อันดับแรกคือร่างกาย ต่อมาคือพลัง และสุดท้าย…คือวิญญาณ!

ใช้การเปลี่ยนวิญญาณเปิดระดับชีวิต ปลดวิญญาณชนรุ่นหลังออก กำหนดบรรพชนวิญญาณแทน!

ทันใดนั้นมีแสงสีทองมากกว่าเดิมเปล่งแสงมาจากวิหารเหล่าเทพปกคลุมรอบตัว ซูหมิง ขณะเดียวกันแสงทองเหล่านี้ยังพุ่งเข้ามาที่ร่างเขาพร้อมกัน ชั่ววูบเดียวก็หลอมรวมเข้าไปกลางวิญญาณเขา

แสงทองหมื่นจั้งเปล่งแสงลงมาพร้อมกัน ส่งผลให้ร่างเงาซูหมิงไม่ชัดเจนใน แสงทอง เกิดการเลือนรางขึ้น ชายชราเผ่าวิญญาณสวรรค์ที่อยู่ไกลออกไปตอนนี้เหมือนมีสีหน้าปกติ แต่ในใจสนใจยิ่ง เขารู้ว่าซูหมิงยกระดับวิญญาณสำเร็จไปครึ่งหนึ่งแล้ว แต่ต่อให้เป็นแบบนี้ หากเกิดอะไรขึ้นขณะเปลี่ยนวิญญาณก็ยังล้มเหลวอยู่ดี

ตอนนี้เขามองแสงทองหลอมรวมเข้าสู่ร่างซูหมิง หลังดำเนินขั้นตอนการเปลี่ยนวิญญาณแล้ว ชายชราพลันแผ่ขยายจิตสัมผัสปกคลุมไปรอบๆ เขาจะไม่ยอมให้ เกิดเหตุไม่คาดคิดจากโลกภายนอกมารบกวนเป็นอันขาด ไม่ว่าพลังใดมารบกวน เขาจะลงมืออย่างสุดกำลัง

‘จะต้องสำเร็จแน่ เจ้าผ่านมาครึ่งหนึ่งแล้ว ถึงแม้ว่าการเปลี่ยนวิญญาณในการยกระดับวิญญาณจะยากที่สุดก็ตาม ใน

อดีตมีชาวเผ่าไม่น้อยล้มเหลวขณะเปลี่ยนวิญญาณ ทว่าในเมื่อเจ้าเป็นชาวเผ่า ชนรุ่งหลัง มีพลังแบบนี้ได้ ชีวิตนี้จะต้องลำบากมาเยอะแน่ เจ้าจะต้องมีจิตใจที่ คนธรรมดาไม่อาจจินตนาการ!

อีกอย่าง เจ้าคือผู้ถูกเลือกของเผ่าหมานใหญ่ เป็นความหวังของเผ่าหมานใหญ่ จิตใจเจ้าจะต้องผ่านการทดสอบมานับครั้งไม่ถ้วน เจ้า…จะต้องสำเร็จแน่!’ ชายชรา เผ่าวิญญาณสวรรค์มองซูหมิงด้วยแววตาเฝ้ารอคอย ขณะเดียวกันเขามองไปรอบๆ ท้องฟ้าด้วยดวงจิตเผยจิตสังหาร

‘หากเขาล้มเหลวก็จะไม่มีหลังจากนี้อีก แต่หากสำเร็จจริงๆ สัตว์รกร้างจะปรากฏ ข้าจะสังหารสัตว์รกร้างที่นี่แทนเขาเอง แต่ว่า…หากเกิดภัยพิบัติรกร้าง…ไม่น่าจะเกิด ถึงอย่างไรเด็กคนนี้ก็แค่ยกระดับวิญญาณครั้งแรก น่าจะ…ไม่ดึงดูดความสนใจของภัยพิบัติรกร้าง ไม่น่า…ต่อให้เป็นข้าก็ต้องยกระดับวิญญาณเจ็ดครั้งถึงจะเกิดภัยพิบัติ รกร้างน่ากลัวนั่น…’ ชายชรามีสีหน้าจริงจังพลางพูดพึมพำในใจ

ระหว่างที่ชายชราตึงเครียด วิญญาณซูหมิงถูกแสงทองไม่มีที่สิ้นสุดซึ่งกลายเป็นจุดแสงหลอมรวมแล้ว เขารู้สึกว่าวิญญาณตนกำลังขยายใหญ่ขึ้นด้วยความเร็วจนน่ากลัว

ช่วงเพิ่งเริ่มขยาย เขารู้สึกสบายจากการบำรุงร่างกาย นั่นคือหลังจากวิญญาณขยายใหญ่ขึ้นแล้วเหมือนกับชีวิตเจริญงอกงามและใหญ่ขึ้น ถึงขั้นที่ความเข้าใจ ต่อพลังในอดีตยามนี้ยังถูกขยายใหญ่ขึ้นอย่างไร้ขีดจำกัด ทำให้เขาเกิดการตระหนักรู้ไม่น้อย

แต่มาถึงช่วงกลาง การขยายใหญ่ไม่มีความสบายอีก แต่เป็นความน่ากลัว วิญญาณขยายใหญ่อย่างต่อเนื่องจนกระทั่งซูหมิงรู้สึกเจ็บปวดรางๆ ความเจ็บปวดมาพร้อมกับความน่ากลัว หากวิญญาณเป็นแบบนี้ต่อไป จะต้องถูกพลังสีทองอัดแน่นจนระเบิดแน่ๆ !

หากระเบิด การดับของวิญญาณจะเท่ากับสิ้นชีพ นี่ทำให้ซูหมิงเริ่มรู้สึกถึงแรงกดดันรุนแรง แต่วิญญาณเขาก็ยังขยายใหญ่ขึ้นไม่หยุด ค่อยๆ ใหญ่ขึ้น ส่งผลให้ แรงกดดันที่เกิดขึ้นในใจภายใต้ความเจ็บปวดที่ค่อยๆ รุนแรงขึ้นนั้นไม่อาจบรรยาย

ภายใต้การหลอมรวมของพลังสีทอง ความเร็วในการขยายวิญญาณมากขึ้น แทบเป็นทันทีที่เขารู้สึกถึงความเจ็บปวดกลางวิญญาณ ก็เกิดเสียงโครมดังขึ้น วิญญาณเขา…แยกออก

นี่ไม่ใช่การระเบิด แต่เป็นการแยกออก วิญญาณแยกออกเป็นสองส่วนใน ความเจ็บปวด ต่างเฉลี่ยแบ่งพลังของแสงทอง ทว่าต่อมาวิญญาณสองส่วนนี้กลับขยายใหญ่ขึ้นและแยกออกอีกครั้ง

การแยกออกครั้งแรก วิญญาณซูหมิงเปลี่ยนเป็นสองส่วน การแยกครั้งที่สอง วิญญาณเขากลายเป็นสี่ส่วน แต่ไม่นานนักก็เกิดการแยกครั้งที่สาม ครั้งที่สี่และครั้งที่ห้า

วิญญาณซูหมิงเปลี่ยนจากสี่เป็นแปด เป็นสิบหก เป็นสามสิบสอง!

ความเจ็บปวดในช่วงที่ส่วนวิญญาณแยกออกไม่เท่าไรสำหรับซูหมิง เพราะสิ่งที่เขาแทบจะทนไม่ไหวคือการแยกของดวงจิต ดวงจิตเขาขยายออกในตอนที่ วิญญาณแยกออก ยามนี้กลายเป็นสามสิบสองส่วน ทุกส่วนคือของเขา

ตัวเองสามสิบสองคน การเปลี่ยนวิญญาณแบบนี้ หากเป็นคนอื่นจะต้องยากจะรับไหวแน่ๆ ดีที่ซูหมิงเป็นชาวเผ่ายมโลก หนึ่งในพรสวรรค์คือยึดร่าง ดังนั้นตอนนี้จึงพอฝืนรับความรู้สึก จิตสำนึกแบ่งเป็นสามสิบสองส่วนได้ และหาวิญญาณแรกสุด ของตนในสามสิบสองส่วนพบ

‘แยกออกห้าครั้ง…น่าจะถึงสุดทางแล้ว แยกห้าครั้ง สิบสามสองวิญญาณ เด็กคนนี้ เป็นเผ่ายมโลกใหญ่ น่าจะไม่มีปัญหาอะไร ไม่น่าจะหลงวิญญาณเดิม และก็ไม่น่า จะถูกลบจิตสำนึกขณะวิญญาณสามสิบสองดวงหลอมรวมและกินกันเอง

เผ่าหมานใหญ่ ตอนนี้ข้าต้องเคารพการเลือกของพวกเจ้าที่เลือกชาวเผ่ายมโลกใหญ่ที่มีความกล้าหาญแบบนี้แล้ว’ ชายชราถอนหายใจเล็กน้อยในใจ ทว่าตอนนี้เอง นัยน์ตาเป็นสมาธิและมีความจริงจัง

‘ไม่อยากเชื่อว่า…จะแยกหกครั้ง! สมควรตาย เหตุใดเป็นเช่นนี้ ตามประสบการณ์และที่เท่าข้าจำได้ ช่วงเปลี่ยนวิญญาณของเผ่าในอดีต มีน้อยคนยิ่งที่จะเกิด การแยกหกครั้ง หรือว่าจะเกี่ยวกับเผ่ายมโลกใหญ่? หกครั้ง เด็กคนนี้น่าจะยัง ฝืนรับไหว หวังว่าเขา…นะ…นี่!’ ชายชราอ้าปากค้างด้วยความตกใจ สีหน้าดูเหลือเชื่อและตะลึงอย่างเด่นชัด

‘เจ็ดครั้ง!’ เขาเห็นว่าภายในร่างกายที่เต็มไปด้วยแสงทองของซูหมิงตอนนี้ เกิดการแยกครั้งที่เจ็ดขึ้น! นี่เป็นสิ่งที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในความทรงจำเขา ถึงเป็นตอนสมัยนั้นของเขา ชาวเผ่าทุกคนก็ไม่เคยเกิดการแยกเจ็ดครั้งในการเปลี่ยน วิญญาณมาก่อน!

‘แยกเจ็ดครั้ง เหตุใดถึงเป็นอย่างนี้ สมควรตาย เด็กคนนี้…กลิ่นอายพลังเผ่านอกเสี้ยวนั้นในวิญญาณเด็กคนนี้ จะต้องเป็นเพราะแบบนั้นแน่!’ ชายชรามีสีหน้าไม่มั่นคง แต่สุดท้ายกลับกลายเป็นขมขื่น เขารู้ว่าครั้งนี้โอกาสที่ซูหมิงจะสำเร็จการยกระดับวิญญาณลดลงมาถึงระดับที่ต่ำมาก

‘จะสำเร็จหรือไม่ก็ต้องดูที่วาสนาเจ้าแล้ว เฮ้อ’ ชายชราถอนหายใจเบาเงียบๆ

ซูหมิงในยามนี้กำลังรับความเจ็บปวดยากจะบรรยาย นั่นคือวิญญาณ ถูกแยกออกเป็นหนึ่งร้อยสิบยี่สิบแปดส่วน จิตสำนึกเขาถูกกระจายออกเป็น หนึ่งร้อยยี่สิบแปดส่วนเช่นกัน ทุกส่วนคือตัวเขา และเพราะแบบนี้เองจึงทำให้คนหลงได้ง่ายมาก ลืมไปว่าส่วนใดคือวิญญาณแรกสุด

และนี่คือช่วงสำคัญก้าวแรกในการเปลี่ยนวิญญาณ หรือเรียกกันว่าหลงทาง

หากหาวิญญาณส่วนแรกของตนไม่พบ หลงทางอยู่กลางส่วนวิญญาณ และจิตสำนึกหนึ่งร้อยกว่าส่วน สิ่งที่รอซูหมิงอยู่คือการทำลายล้างอันน่ากลัว เขาจะหลงทางอยู่กลางวิญญาณไปชั่วนิรันดร์ ไม่มีตัวเองอีก ต่อให้สุดท้ายสำเร็จ คนที่ลืมตาเป็นซูหมิง แต่ขณะเดียวกันอาจจะไม่ใช่ตัวเขาอีก

ตอนนี้เขาเหมือนกับเรือโดดเดี่ยวกลางคลื่นรุนแรง เขาไม่ยอมให้จิตใจว้าวุ่นเพราะจิตสำนึกแยกออก แต่กำหนดวิญญาณแรกสุดเอาไว้โดยจิตใต้สำนึก ทว่าขณะกำหนดอย่างยากลำบากนี้กลับเกิดเสียงโครมดังในความคิด วิญญาณหนึ่งร้อยยี่สิบแปดดวงเกิดการแยกครั้งที่แปดภายใต้การหลอมรวมด้วย แสงทองอย่างต่อเนื่อง

วิญญาณสองร้อยห้าสิบหกดวงอัดแน่นอยู่ในความคิดเขา ทำให้การกำหนดเป้าเกิดการสั่นคลอน เริ่มไม่มั่นใจว่าวิญญาณใดคือวิญญาณหลักของเขา!

แต่เวลานี้ ซูหมิงที่อยู่ในโลกของวิหารเหล่าเทพไม่มีทางรู้เลยว่าไกลจากที่นี่ไปไกลมาก ไกลกว่ามหาโลกสามรกร้าง ภายในฝ่ายเงามืดรุ่งอรุณนอกผืนฟ้า ภายในโลกที่เก้ากลางหนึ่งร้อยแปดสิบโลก กลางฟ้าสีดำมีแท่นบวงสรวงที่ถูกผนึกด้วยน้ำแข็งอยู่ แห่งหนึ่ง

บนแท่นบวงสรวงนั้นมีหญิงผมยาวนั่งขัดสมาธิอยู่คนหนึ่ง นางเป็นวัยกลางคน ในตัวมีกลิ่นอายความมืดที่ศักดิ์สิทธิ์และบริสุทธิ์ เดิมทีนางหลับตาอยู่ แต่เวลานี้ กลับลืมตาขึ้นในฉับพลัน

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version