Skip to content

สู่วิถีอสุรา 1158

ตอนที่ 1158 ผู้เฒ่าเหวิน

“หนี!” ต้องหนี ความแกร่งที่ซูหมิงแสดงออกมา โดยเฉพาะการสังหารแบบสบายๆ ทำให้ทุกคนที่นี่ใจสั่นสะท้านอย่างรุนแรง ตอนนี้ทุกคนห้อเหยียดกระจายออกไปรอบๆ ด้วยหน้าขาวซีดและปะทุพลังออกมาทั้งหมดแล้ว

ชายหนุ่มเสื้อคลุมดารากลายเป็นดาวดวงหนึ่งพุ่งไปยังหนึ่งในหินผุพังสิบสามก้อนรอบๆ

ชายชราแซ่เหมียวก็ขยับวูบไหวไป นอกตัวเขาเกิดมวลอากาศบิดเบี้ยว ขยับวิบวับพุ่งไปด้วยความเร็วยิ่งกว่า

ส่วนสองคนที่เป็นคู่ชีวิตหรี่ตาลงพร้อมกลายเป็นแสงกระบี่สองสายบินไกลออกไป

ผู้ฝึกฌานยี่สิบกว่าคนรอบตัวนั้น ไม่ว่าจะเป็นความเร็วหรือปฏิกิริยาโต้ตอบล้วนไม่อาจเทียบกับยอดฝีมือเหล่านี้ ถึงจะถอยไปอย่างรวดเร็ว แต่กลับช้าไปอย่างชัดเจน

“รบกวนการนั่งฌานของแซ่โม่ ทำให้กระเรียนสหายของข้าตกใจ ข้าคงปล่อยพวกเจ้าจากไปแบบนี้ไม่ได้” ซูหมิงเอ่ยราบเรียบ เขายกเท้าเดินหน้าหนึ่งก้าว ร่างพลันทะลวงผ่านอากาศมาปรากฏข้างหลังชายชราแซ่เหมียว ก่อนยกมือขวาตบไปเบาๆ

เพียงตบไป ชายชราแซ่เหมียวหน้าเปลี่ยนสีอย่างรุนแรง เขารู้ตัวว่ายากจะหนีรอดแล้ว นัยน์ตาจึงฉายแววคลุ้มคลั่งหมายจะสู้สุดชีวิต คนที่รอดมาจากภัยพิบัติครั้งนี้ อีกทั้งยังมีอิสระมากอย่างเขาย่อมมีอาวุธสังหารอื่นๆ อยู่แล้ว

แทบเป็นช่วงที่เขาหมุนตัวกลับมามองซูหมิงและจะสู้สุดชีวิตนั้น เขาคำรามเสียงต่ำ ยกสองมือขึ้นค้ำยันมวลอากาศ จากนั้นกดลงไปทางซูหมิง!

“เป็นตาย!” สิ้นเสียง มือซ้ายชายชราแซ่เหมียวปรากฏคัมภีร์เหล็กม้วนหนึ่ง ขณะเดียวกันมือขวายังมีพู่กันไม้สีดำโผล่มา

ซูหมิงเคยเห็นของวิเศษชุดนี้มาก่อน ช่วงที่ชายชรานำสมบัติชุดนี้ออกมา เขาก็ตะโกนเสียงต่ำอีกครั้ง

“บันทึกเป็นตาย นับจากนี้ชีวิตเจ้าจงถูกลบไป!” เขาสะบัดพู่กันไม้ในมือขวา ผ่านบนคัมภีร์เหล็กแห่งบันทึกเป็นตาย ฉับพลันนั้นพลังมหาศาลแผ่กระจายมาจากคัมภีร์เหล็ก กลายเป็นหัวผีร้ายยักษ์พุ่งเขมือบไปทางซูหมิง

“น่าสนใจ พลังเจ้ายังพอใช้ได้ อภินิหารก็ใช้ได้ ส่งวิญญาณมา ยอมรับข้าเป็นนาย แล้วข้าจะไว้ชีวิตเจ้า” ซูหมิงเอ่ยเรียบๆ ช่วงที่หัวผีร้ายเข้ามาใกล้ เขาไม่ขยับตัว แต่แหวนสีขาวที่ลอยอยู่ข้างหลังกลับส่งเสียงวิ้ง ก่อนแผ่กระจายระลอกคลื่นออก ขณะที่ระลอกคลื่นกระจายออก เพิ่งจะปะทะกับหัวผีร้าย หัวผีร้ายกลับส่งเสียง ร้องโหยหวนและสลายหายไปในบัดดล สิ่งที่สลายไปด้วยยังมีคัมภีร์เหล็กกับพู่กันไม้

ส่วนชายชราแซ่เหมียวกระอักเลือดคำใหญ่ สีหน้าดูหวาดกลัวและเหลือเชื่อ ขณะกำลังจะถอยไปนั้น ซูหมิงเดินเข้ามาอย่างเบาๆ ยกมือขวาขึ้นบีบคอชายชรา แซ่เหมียวแบบสบายๆ ห้านิ้วมือจิกลงไปด้วยสีหน้าราบเรียบและมีจิตสังหารโจ่งแจ้งจนทำให้ชายชราคนนี้กลัวจนตัวสั่น

“เจ้าเลือกตายหรือเลือกชีวิต” ซูหมิงถามขึ้นเรียบๆ

ชายชราแซ่เหมียวฝืนยิ้มด้วยความปวดร้าว เดิมทีตั้งใจจะระเบิดตัวเอง แต่เมื่อสบตากับซูหมิงแล้วกลับกลายเป็นใจสั่นไหว เขารู้สึกชัดเหมือนว่าต่อให้ตนระเบิดตัวเองก็ยังทำอันตรายอีกฝ่ายไม่ได้แม้แต่น้อย ความแกร่งระหว่างพลังทำให้เขาทำอะไรอีกฝ่ายไม่ได้เลย

เขาหลับตาลง วิญญาณในร่างหลอมรวมเข้าไปในระหว่างคิ้ว พริบตาเดียวก็กลายเป็นตราประทับ ขยับวูบวาบลอยออกมาก่อนถูกซูหมิงสูบเข้าปากกินไป จากนี้เขาจะเป็นคนกุมความเป็นตายของชายชราแซ่เหมียว

ตอนที่คลายมือขวาออก หินผุพังสิบสามก้อนรอบๆ พลันเกิดเสียงอึกทึกพร้อมกันขณะที่ชายหนุ่มเสื้อคลุมดาราจะเข้าไปในหินผุพังนั้น หินผุพังสิบสามก้อน กลับเคลื่อนไหวพุ่งไปยังสองคนที่เป็นคู่ชีวิตพร้อมกัน วนเวียนรอบตัวพวกเขา จนกลายเป็นหินผุพังหนึ่งก้อนพุ่งไปยังพายุหมุนหมายจะหนีไปก่อนโดยที่ไม่สนใจ ชายหนุ่มเสื้อคลุมดาราแม้แต่น้อย

ชายหนุ่มดวงตาเต็มไปด้วยเส้นเลือดฝอย ชั่วขณะที่เขาเงยหน้าคำรามขึ้นฟ้า ซูหมิงเดินเข้ามาข้างหลังเขาเนิบๆ

แทบเป็นทันทีที่ซูหมิงเดินเข้ามา ชายหนุ่มเสื้อคลุมดารายกสองมือขึ้นประสานมุทราด้วยนัยน์ตาคลุ้มคลั่งแล้วโบกออกไปข้างนอก ฉับพลันนั้นผู้ฝึกฌานยี่สิบกว่าคนที่กำลังกระจายกันหนีตัวสั่นไหวพร้อมกัน ซ้ำยังส่งเสียงร้องแหลม ร่างพวกเขา แห้งเหี่ยวลงและสลายเป็นเถ้าธุลีในทันใดทว่าโลหิตพวกเขากลับรวมกันทั้งหมดจนเป็นทะเลโลหิตพุ่งไปหาซูหมิง

ในเวลาเดียวกัน ชายหนุ่มสวมเสื้อคลุมดาราคำรามเสียงต่ำพร้อมเกิดเสียงระเบิดทั่วร่างเขา โลหิตทั่วร่างม้วนจิตแรกเขาพุ่งตามไปหาซูหมิง มองไกลๆ รอบตัวซูหมิงถูกล้อมด้วยทะเลโลหิต กลิ่นคาวเลือดคละคลุ้ง จิตสังหารคลุ้มคลั่งสะเทือนฟ้าโดยรอบ

“วิชาไม่เลว เจ้าก็จ่ายด้วยตัวเองเหมือนกัน ยอมรับข้าเป็นนาย ข้าจะไว้ชีวิต” ซูหมิงไม่หลบแม้แต่น้อย แต่มองชายหนุ่มกลางทะเลโลหิตด้วยสายตาเย็นชา จิตแรกชายหนุ่มพลันหยุดชะงัก เขาเงียบอยู่หลายลมหายใจแล้วก็เข้าไปรวมกับทะเลโลหิตจนกลายเป็นร่างโลหิต จากนั้นจิตแรกเขารวมเข้ามาในร่างโลหิต

สายตามองซูหมิงอย่างซับซ้อนแวบหนึ่ง เขาไม่ได้คิดจะสู้สุดชีวิตกับซูหมิงจริงๆ จากการคาดการณ์ ถึงตนจะสู้สุดชีวิตก็ยังไม่ใช่คู่ต่อสู้อีกฝ่าย

ที่เขาระเบิดตัวเองอย่างไม่เสียดาย สังหารยี่สิบกว่าคนรอบตัวอย่างไม่เสียดายก็เพื่อใช้อภินิหารที่แกร่งที่สุด เป้าหมายไม่ใช่เพื่อต่อต้านซูหมิง แต่เป็น…มีชีวิตรอด

ขณะเงียบอยู่นี้ เขากัดฟันยกมือขวาตบตรงระหว่างคิ้ว วิญญาณเขาพลันกลายเป็นตราประทับนูนออกมาตรงระหว่างคิ้ว หลังขยับแสงวิบวับหลายครั้งแล้วก็พุ่งไปหาซูหมิง ซูหมิงใช้มือคว้าเอาไว้และบีบให้หลอมรวมในฝ่ามือ

“นายท่าน ขั้นพลังข้าสองคนยังถือว่าใช้ได้ แต่เฉินเหวินกับซือหม่าอวี้คู่ชีวิต สองคนนั่้นสำคัญกว่า สองคนนี้เชี่ยวชาญการใช้วงแหวนอาคม เป็นคนมองภาพรวมศูนย์กลางวงแหวนอาคมทุกอย่างในพันธมิตรเผ่าเซียนตอนนั้น โดยเฉพาะหินผุพัง สิบสามก้อนนี้ พวกเขาก็เป็นคนสร้างขึ้น เพียงแต่พวกเราเป็นคนเตรียมวัตถุดิบ” ชายหนุ่มเสื้อคลุมดาราประสานมือคารวะพลางพูดขึ้นอย่างทะมึนทึบ

“ไม่ผิด กระทั่งรอยแยกช่องโหว่อ่อนๆ บางส่วนกลางพายุหมุนก็เป็นคู่ชีวิต สองคนนี้ที่พบ หากให้พวกเขาหนีไป เกรงว่าภายภาคหน้าจะมีภัยมาไม่ขาดสาย…” ชายชราแซ่เหมียวดวงตาวาววับ สายตามองคู่ชีวิตสองคนที่กำลังหนีเข้าไปกลางพายุหมุนอยู่ไกลๆ ด้วยความแค้นพลางพูดเสริมด้วยเสียงทุ้มต่ำ

ซูหมิงไม่ตอบ แต่เพียงยกมือขวาชี้ไปยังแหวนสีขาวข้างหลัง แหวนวงนี้พลันส่งเสียงอื้ออึงก่อนขยับวูบ มันไม่ได้พุ่งไปข้างหน้า แต่ขยายใหญ่ขึ้น พริบตาเดียวก็ขยายไปไม่หยุดจนมีขนาดพันจั้ง หมื่นจั้งกระทั่งมากกว่านั้น เกิดเสียงอึกทึกดังขึ้น ตอนนี้มองไม่เห็นสุดขอบของแหวนวงนี้แล้ว มันขยายออกไปในผืนฟ้าโดยมีที่นี่เป็นใจกลางไปอย่างต่อเนื่อง จุดที่ผ่าน แม้แต่พายุหมุนยังสั่นไหวแล้วแตกสลายไป

ภาพนี้สร้างความตกตะลึงกับชายชราแซ่เหมียวกับชายหนุ่มเสื้อคลุมดาราอย่างยิ่ง สองคนนี้หรี่ตาลงดูหวาดกลัวและใจหายอย่างเด่นชัด

เพียงไม่กี่ลมหายใจ ฟ้ากระจ่างดาวเกิดเสียงดังสนั่น เส้นสีขาวสายหนึ่งลากยาวมาจากที่ไกลลิบ ตอนที่เข้ามาใกล้ในเสี้ยวพริบตานั้น ชายชราแซ่เหมียวกับชายหนุ่มชุดคลุมดาราเห็นกับตาว่าเส้นสีขาวนั้นคือแหวนสีขาวที่หดเล็กลงมา

ภายในแหวนสีขาวมีหินผุพังก้อนหนึ่ง นั่นคือ…หินผุพังที่โอบล้อมคู่ชีวิตสองคนนั้นตอนหนีไป ตอนนี้ไม่ว่าหินนั้นจะดิ้นรนอย่างไรก็พุ่งออกจากแหวนวงนี้ไม่ได้ ทำได้เพียงปล่อยให้แหวนหดลงและถูกดึงกลับมาไม่หยุด

เพียงไม่กี่ลมหายใจ ซูหมิงแค่ยืนอยู่ตรงนั้น หินผุพังก็มาปรากฏอยู่ตรงหน้าเขาแล้ว ไม่มีการต่อต้าน ไม่มีการดิ้นรนอย่างห้าวหาญ หินผุพังแตกออก เผยเป็นคู่ชีวิตสองคนในนั้น พวกเขาหน้าขาวซีดสายตาที่มองซูหมิงมีความตื่นกลัว

ซูหมิงมองสองคนแวบหนึ่งแล้วกล่าวเรียบๆ

“หนึ่ง สอง…” เขาไม่ได้กล่าวแบบมีความหมายใดๆ เลย แต่เพียงแค่ตัวเลขกลับทำให้คู่ชีวิตสองคนนี้หน้าเปลี่ยนสี พวกเขามองหน้ากันและกันก่อนพลันกัดฟันยกมือขึ้นตบระหว่างคิ้ว พริบตาเดียววิญญาณพวกเขาสองคนก็รวมเป็นตราประทับบินออกจากหน้าผากไปทางซูหมิง

เห็นได้ชัดว่าพวกเขาเห็นชายชราแซ่เหมียวกับชายหนุ่มเสื้อคลุมดาราส่งวิญญาณออกไปแล้วถึงรอดตาย

ซูหมิงยกมือขวาโบกไปเก็บตราประทับวิญญาณของคู่ชีวิตสองคนนี้แล้วเงยหน้ามองมวลอากาศข้างบนด้วยสีหน้าเรียบนิ่งดังเดิม

“ไม่ทราบว่าสหายท่านนี้จะมองไปจนถึงเมื่อไร หรือว่าต้องให้แซ่โม่เชิญเจ้าลงมาจริงๆ”

สิ้นเสียง สี่คนนั้นพลันใจสั่นสะท้านแล้วเงยหน้าขึ้นมองพร้อมกัน ก่อนหน้านี้พวกเขาไม่สังเกตเห็นความผิดปกติบนฟ้าข้างบนแม้แต่น้อย

ทว่าเมื่อคำพูดซูหมิงดังก้อง ก็มีเสียงกระแอมไอดังแว่วมาจากในอากาศ จากนั้นสิ่งที่สี่คนนี้เห็นคือมวลอากาศตรงนั้นบิดเบี้ยว มีชายชราผมขาวคนหนึ่งเผยตัวออกมาด้วยสีหน้าเก้อเขิน แววตาตื่นตัว ซ้ำยังปิดซ่อนความตื่นกลัวจากสิ่งที่ซูหมิงทำก่อนหน้านี้

“ผู้เฒ่าเหวิน!” ชายชราแซ่เหมียวรู้ฐานะอีกฝ่ายได้เป็นคนแรก ขณะกล่าวยังแทบจะกัดฟันด้วยความโกรธ

“นายท่าน นี่คือคนที่พวกเราซื้อข่าวมาว่าที่นี่มีผู้ฝึกฌานกำลังรักษาตัวอยู่ ทำให้พวกเราต้องล่วนเกินท่าน” ชายหนึ่งในคู่ชีวิตสองคนจ้องชายชราผมขาวตาเขม็ง ก่อนพูดขึ้นทันที

“เข้าใจผิด เรื่องนี้เข้าใจผิดกันแล้ว สหายฟังข้าอธิบายก่อน ความจริงเรื่องนี้…” ชายชราผมขาวที่ถูกเรียกว่าผู้เฒ่าเหวินหน้าเปลี่ยนสีในฉับพลัน ขณะกำลังพูดอย่างเร่งรีบดวงตาพลันขยับประกายวาว ก่อนอาศัยจังหวะที่ซูหมิงยังไม่ลงมือชิงลงมือก่อน

เขาสะบัดแขนเสื้อ แรงกดดันมหาศาลลอยออกมาจากในแขนเสื้อทันที ขณะเดียวกันมีแสงหม่นขยับวิบวับสายหนึ่ง มันไม่ได้โจมตีใส่ซูหมิง แต่ม้วนตัวเขาพาหนีไปอย่างเร็วรี่

เห็นได้ชัดว่าเขาตกตะลึงกับความแกร่งของซูหมิงจึงต้องเปลี่ยนแผนไม่กล้าต่อรอง คิดเพียงแต่หนีไปจากที่นี่ให้เร็วที่สุดเท่านั้น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version