Skip to content

สู่วิถีอสุรา 1210

ตอนที่ 1210 บุญคุณที่ช่วยเหลือเต็มที่

“เผ่ายมโลกใหญ่มีสามสุดยอดพรสวรรค์ กาลเวลา ยึดร่างและโลกแห่งยมโลก ความคิดแห่งยมโลกคือพื้นฐานในการสร้างโลกแห่งยมโลกหนึ่งในสามยอดพรสวรรค์เผ่ายมโลกใหญ่

เมื่อหลายปีก่อนโลกนี้น่าจะมีใครเคยใช้วิชาแห่งโลกยมโลก ดังนั้นพลังฟ้าดินของโลกนี้ถึงได้เบาบาง และที่มันเบาบางก็เพราะฟ้าดินอื่นค่อยๆ ถูกเปลี่ยนไป ภายใต้การเปลี่ยนแปลงแบบนี้ คนที่ตายในโลกนี้จะกลายเป็นกลิ่นอายยมโลก กลายเป็น ส่วนหนึ่งที่บำรุงโลกนี้” ชายชราตอบกลับเรียบๆ

ซูหมิงได้ฟังดังนั้น ดวงตาหรี่ลงบางจนตรวจไม่พบ

“มีวิธีแก้หรือไม่?” เขามองชายชราวิญญาณสวรรค์

“คนที่ใช้วิชานี้มีพลังธรรมดา ไม่ใช่บรรพชนวิญญาณ แต่ในตัวเขากลับมีความรู้สึกของการสืบทอดดวงชะตา น่าจะเป็นคนที่สำคัญอย่างยิ่งของเผ่ายมโลกใหญ่

แต่ว่าวิชาของเขายังมีความต่างกับของเผ่ายมโลกใหญ่ที่ข้าเคยเห็น ถึงข้าจะไม่เข้าใจอภินิหารของเผ่ายมโลกใหญ่จึงไม่อาจแก้ได้ แต่จะเปลี่ยนมันก็พอทำได้อยู่” ชายชราเผ่าวิญญาณสวรรค์มองไปรอบๆ แล้วยกมือขวาคว้าอากาศ ทันใดนั้นในมือปรากฏควันดำขึ้นเสี้ยวหนึ่ง ควันวนเวียนในมือเขา ภายในมีใบหน้าบิดเบี้ยวหลาย สิบใบหน้ำกำลังร้องคำรามไร้เสียง

“ผู้อาวุโสช่วยลงมือสังหารเขาให้ผู้เยาว์ได้หรือไม่?” ซูหมิงพลันถามขึ้น

“ข้าช่วยเจ้าต่อต้านภัยพิบัติรกร้างได้เท่านั้น เรื่องอื่น ข้าจะเลือกช่วยเจ้าเอง แต่เรื่องสังหารอย่าได้เอ่ยถึงอีก” ชายชราเผ่าวิญญาณสวรรค์มองซูหมิงแวบหนึ่งแล้วตอบกลับราบเรียบ

“หากมีคนอื่นมาสร้างปัญญาให้ผู้เยาว์ก่อน?” ซูหมิงเงียบไปชั่วครู่แล้วถามต่อ

“ก่อนหน้าภัยพิบัติรกร้าง สามรกร้างก็ดี เงามืดรุ่งอรุณหรือสิ่งศักดิ์สิทธิ์หวนคืนก็ดี จะไม่มีใครแตะต้องเจ้าได้แม้แต่น้อย” ชายชราหันหน้าไปมองเส้นสีดำในมือพลางตอบกลับนิ่งๆ แต่กลับแฝงไว้ด้วยพลังอำนาจที่เย่อหยิ่งเหนือฟ้าดิน นั่นคือความมั่นใจใน

ตัวเองอย่างยิ่ง พูดได้ว่าเขาที่ยกระดับวิญญาณสำเร็จแปดครั้งเป็นผู้แข็งแกร่งหมายเลขหนึ่งในผู้ฝึกฌานของมหาโลกสามรกร้าง ต่อให้เป็นฝ่ายเงามืดรุ่งอรุณหรือ สิ่งศักดิ์สิทธิ์หวนคืน บางทีอาจมีคนที่มีพลังแบบเดียวกับเขา แต่ว่าต่อให้มีคนแบบนี้อยู่ ก็ไม่มีทางล่วงเกินชายชราเผ่าวิญญาณสวรรค์ง่ายๆ

“ขอบคุณผู้อาวุโสมาก แล้วผู้อาวุโสจะเปลี่ยนความคิดแห่งยมโลกของโลกนี้อย่างไร?” ซูหมิงยืนขึ้นประสานมือคารวะชายชราลงลึก

“เจ้าอยากเปลี่ยนอย่างไร?” ชายชราเผ่าวิญญาณสวรรค์มองซูหมิงแวบหนึ่งแล้วถามกลับช้าๆ

“ผู้อาวุโสเปลี่ยนความคิดแห่งยมโลกนี้ให้ย้ายมาที่ตัวข้าได้หรือไม่ เพื่อเสริมประตูยมโลกของผู้เยาว์!” นัยน์ตาซูหมิงฉายแววทะเยอทะยานแล้วพูดขึ้นนิ่งๆ

“เป็นการยึดร่างในอีกความหมายหนึ่ง สมกับเป็นเผ่ายมโลกใหญ่จริงๆ แม้เจ้าจะเติบโตในเผ่าหมาน แต่นิสัยชอบแย่งชิงก็ยังไม่หายไป ช่างเถอะ ในเมื่อเจ้าออกปากแล้ว ข้าจะสนับสนุนเจ้าอย่างเต็มที่” ชายชรายืนขึ้น จากนั้นยกมือขวาโบกไปข้างหน้า

พลันเกิดเสียงดังกึกก้องฟ้า พายุหมุนรอบๆ พังลงพร้อมกัน จนกลับมารวมใหม่อีกครั้งก็กลายเป็นพายุหมุนถาโถม ประหนึ่งว่าเปลี่ยนฟ้ากระจ่างดาวเป็นทะเล เกิดคลื่นสูงเทียมฟ้า

มวลอากาศของทั้งโลกแท้จริงดาราสัจธรรมปรากฏกลิ่นอายพลังสีดำไม่มีสิ้นสุดรอบตัวซูหมิงและชายชรา กลิ่นอายพลังนี้อันธพาลและคลุ้มคลั่ง ขณะที่พายุหมุน ถาโถมไปโดยรอบไม่หยุด ภายในเส้นสีดำเหล่านั้นมีใบหน้าบิดเบี้ยวขึ้นเหลือคณานับ

ใบหน้าเหล่านั้นดุจดั่งวิญญาณร้าย เป็นวิญญาณของคนที่ตายไปในโลกแท้จริงดาราสัจธรรมในหลายหมื่นปีมานี้ วิญญาณเหล่านี้ร้องคำรามไร้เสียง ช่วงที่พวกมันวนเวียนไปทั้งโลกดาราสัจธรรม ชายชราข้างๆ ยกมือซ้ายชี้ไปทางซูหมิง

“ด้วยดวงจิตของข้า ขอชี้นำให้บริวารของโลกนี้เป็นของเด็กคนนี้!” สิ้นเสียงชายชรา ทุกแห่งหนในโลกดาราสัจธรรมเกิดระลอกคลื่นไร้รูป ระลอกคลื่นไม่ได้แผ่ขยายมา จากพลัง แต่ปกคลุมดวงจิตแห่งบรรพชนวิญญาณของชายชรา

ชั่วพริบตาเดียว เขา…มาแทนที่ดวงจิตของโลกแท้จริงดาราสัจธรรม เปลี่ยนโลกดาราสัจธรรมให้เป็นของเจตนารมณ์

สวรรค์ของเขา ยามนี้สิ่งมีชีวิตของโลกนี้ เพลิงชีวิตพวกเขามอดดับลงพร้อมกัน…

พอชายชรายกมือขวาชี้ซูหมิง ภายใต้ดวงจิตแห่งบรรพชนวิญญาณของเขา ความคิดแห่งยมโลกของโลกดาราสัจธรรมพลันถูกลบดวงจิตทั้งหมดที่มีอยู่ในตัวมันไป ก่อนถูกฝืนประทับตราด้วยดวงจิตของซูหมิง

เรื่องการเปลี่ยนขอบเขตฟ้าแบบนี้ นอกจากชายชราคนนี้แล้ว ทั้งมหาโลกสามรกร้างไม่มีผู้ฝึกฌานคนใดทำได้

ตอนนี้เกิดเสียงดังโครมไม่มีจบสิ้นในจิตซูหมิง ขณะเดียวกันเขารู้สึกชัดเหมือนว่าโลกแท้จริงดาราสัจธรรมอยู่ในความคิดตน เขารู้สึกถึงกลิ่นอายยมโลกไม่มีสิ้นสุดในโลกนี้ กลิ่นอายยมโลกนี้ผลุบๆ โผล่ๆ แต่มีอยู่ทุกที่ กระทั่งเขารู้สึกชัดว่าขอเพียงตนคิดผ่านจิตใจ ก็จะสูบกลิ่นอายยมโลกเหล่านี้ให้เข้าไปในประตูยมโลกในร่างกายตนได้

เขาเห็นยอดเขาลำดับเก้าที่พวกศิษย์พี่ใหญ่อยู่ เห็นผู้ฝึกฌานแทบทุกคนในยอดเขาลำดับเก้า ทั้งยังเห็นสำนักดาราสัจธรรมใหม่ที่ไกลออกไปและเพิ่งถูกลบหายไป

ถึงขนาดที่ว่าเขายังเห็นจุดเคลื่อนย้ายร้อยกว่าจุดในโลกแท้จริงดาราสัจธรรม ในทุกจุดเคลื่อนย้ายมีร่องรอยอยู่ นั่นคือร่องรอยการเข้าสำนักดาราสัจธรรม

เขาเห็นบรรพบุรุษหุ่นเชิดเพลิงกับจูโหย่วไฉบนดาวดวงหนึ่ง และยังมีสหายเก่าจากห้องโถงสงคราม และยังเห็นว่าในโลกแท้จริงดาราสัจธรรมมีผู้ฝึกฌาณเหลืออยู่ตามมุมต่างๆ อีกเล็กน้อย

อีกทั้งในพายุหมุนนอกช่องโหว่สามรกร้าง ซูหมิงเห็นกองทัพใหญ่เกือบห้าแสนคนกำลังนั่งอยู่บนซุงยักษ์ ใช้ซุงยักษ์ทะลวงผ่านพายุหมุนเข้ามา

ซูหมิงกวาดจิตสัมผัสไปในผู้ฝึกฌานเหล่านี้ ขณะกำลังจะกวาดผ่านนั้นจิตสัมผัสพลันเป็นสมาธิ เขาจับจ้องไปยังสตรีคนหนึ่งที่ยืนอยู่ตรงหัวซุงยักษ์ท่อนหนึ่ง กลางกองทัพใหญ่ห้าแสนคน

นางสวมอาภรณ์สีม่วง ตรงระหว่างคิ้วมีสัญลักษณ์แมงป่อง ตอนนี้กำลังมองไปข้างหน้าด้วยแววตายั่วยุ ตรงบ่ามีแมงป่องสีม่วงตัวหนึ่งกำลังยกหางลูบไล้ใบหน้านาง ข้างหลังมีชายหนุ่มคน

หนึ่งติดตาม ชายหนุ่มคนนั้นมีสีหน้าลำพองใจ แต่ยามที่มองนางจะเปลี่ยนเป็นระมัดระวัง คอยพูดประจบอยู่ข้างกายตลอด

ตอนที่เห็นนางกับชายหนุ่มคนนั้น ซูหมิงใจสั่นไหว นางก็คือ สวี่ฮุ่ย และชายคนนั้น เขาจำได้ว่าคือ เต๋อซุ่นคนที่ขายสินค้าบนแท่นดอกบัวของตนในการทดสอบองค์ชายภายในสำนักดาราสัจธรรม

ดูจากทิศทางเดินหน้าของผู้ฝึกฌานแล้ว เกรงว่าอีกไม่ถึงครึ่งเดือนก็จะทะลวงออกจากพายุหมุนพื้นที่ช่องโหว่สามรกร้างมาปรากฏตรงหน้าซูหมิง

ซูหมิงเงียบ จากนั้นกวาดจิตสัมผัสต่อ ครั้งนี้เขามองไปยังพื้นที่พันธมิตรใต้นอกพายุหมุนช่องโหว่สามรกร้าง เพียงกวาดมองไปก็เห็น…แดนมรณะหยินอยู่ตรงนั้น!

เพียงแต่ว่าจิตสัมผัสเขาเพิ่งเข้าไปใกล้แดนมรณะหยินก็รู้สึกถึงแรงขับไล่รุนแรงจากแดนมรณะหยิน ความแกร่งของพลังนี้ทำให้แดนมรณะหยินเหมือนกลายเป็นทั้งมวลเดียวกัน ต่างกับโลกแท้จริงดาราสัจธรรมอย่างชัดเจน ซ้ำยังเหมือนว่าไม่ใช่ของโลกดาราสัจธรรม

ภายใต้แรงขับไล่ ซูหมิงรวมจิตสัมผัสทั้งหมดไว้ที่เดียวกันก่อนพุ่งทะลวงเข้าไป มีชายชราเผ่าวิญญาณสวรรค์อยู่ เขาต้องคว้าโอกาสนี้เอาไว้ มิเช่นนั้นหากชายชรา เผ่าวิญญาณสวรรค์ได้แก้แค้นภัยพิบัติรกร้างแล้ว ไม่ว่าจะเป็นหรือตายก็ต้องตีตัวออกจากเขา หากไม่คว้าโอกาสนี้ไว้ หากไม่ใช้มันอย่างเต็มที่ เขาจะไม่ยอมอย่างเด็ดขาด

ทันทีที่ซูหมิงทะลวงเข้าไปยังแดนมรณะหยินพลันเกิดเสียงดังสนั่นขึ้น ท่ามกลางเสียงดังกึกก้อง เขาให้ดวงจิตแห่งบรรพชนวิญญาณของชายชราเผ่าวิญญาณสวรรค์หลอมรวมกับดวงจิตแห่งบรรพชนวิญญาณของตัวเอง จากนั้นก็พุ่งเข้าไปในน้ำวนมรณะหยินภายใต้แรงต่อต้าน

ช่วงที่ทะลวงเข้าไป เขาแผ่ขยายจิตสัมผัสออกหมายจะรวมเข้าไปในทุกมิติในนั้น แต่หลอมรวมได้เพียงสองส่วน ในใจพลันสั่นสะท้าน เขารู้สึกว่าน้ำวนมรณะหยินไม่ได้เกิดขึ้นเอง แต่เกิดขึ้นเพราะสาเหตุบางอย่าง สาเหตุนี้อยู่ตรงส่วนลึกของน้ำวน แต่จิตสัมผัสเขาไม่อาจตรวจสอบได้ลึกมากนัก จนเมื่อหลอมรวมเข้าไปได้สองส่วนแล้วก็เห็นภาพน่ำตกตะลึงภายในโลกสีแดงฉานในนั้น จิตสัมผัสกับดวงจิตแห่งบรรพชนวิญญาณของเขาถูก

แรงขับไล่มหึมาแทบจะเรียกได้ว่าน่าสะพรึงชนเข้าใส่จนถูกบีบออกจาก แดนมรณะหยิน

‘กลิ่นอายพลังนั้น…ตี้เทียน!’ ซูหมิงใจสั่นสะท้าน เมื่อจิตสัมผัสออกมาจากน้ำวนมรณะหยินแล้วก็ถอยกลับมาอย่างไม่ลังเล แต่ตอนที่ผ่านช่องโหว่สามรกร้างจิตสัมผัสเขาหยุดชะงักครู่หนึ่ง ก่อนตรงไปยังช่องโหว่สามรกร้างอีกครั้ง จนกระทั่งเขาเห็นว่าตรงสุดขอบฟ้ามีช่องโหว่ถูกฉีกยักษ์สายหนึ่ง อีกทั้งยังเห็นว่านอกช่องโหว่นั้นมี มหาสงครามของคนหลายร้อยล้านคน!

นั่นคือสงครามระหว่างสิ่งศักดิ์สิทธิ์หวนคืนกับเงามืดรุ่งอรุณ ตอนนี้สงครามเหมือนจะมาถึงปลายทางแล้ว…

ซูหมิงดึงจิตสัมผัสกลับมาจากขอบเขตช่องโหว่สามรกร้าง ทว่าระหว่างที่จิตสัมผัสลากผ่านจุดเคลื่อนย้ายจุดหนึ่งในร้อยกว่าจุดนอกสำนักดาราสัจธรรมนั้น เขาได้ยินเสียงเบาและอ่อนแรงดังแว่วมาข้างหู

“เป็นสหายเก่าท่านใด…” เสียงนี้คือ บรรพชนแห่งทะเลเต๋า!

ซูหมิงไม่ได้ส่งจิตสัมผัสไป แต่เก็บกลับมาในร่างกายแล้วถึงลืมตาขึ้น

“ขอบคุณบุญคุณที่ผู้อาวุโสช่วยเหลืออย่างเต็มที่!” ซูหมิงมองชายชรา เผ่าวิญญาณสวรรค์ตรงหน้าก่อนประสานมือคารวะลงลึก ในความจริงใจอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อนของเขาแฝงไว้ด้วยความตื่นเต้นชัดเจน เพราะเขาเข้าใจว่าการย้ายความคิดแห่งยมโลกของโลกนี้มาไว้ที่ตัวเขาไม่ได้ง่ายขนาดนั้น เพราะต้องย้ายดวงจิตของ โลกดาราสัจธรรมมาไว้ที่ตัวเขา แม้นี่จะเป็นเป้าหมายในใจเขา แต่หากจะทำจริงๆ นั่นไม่ใช่แค่ยากมาก แต่ยังต้องใช้เวลายาวนานยิ่ง

แต่ยามนี้…ชายชราเผ่าวิญญาณสวรรค์กับดวงจิตแห่งบรรพชนวิญญาณตนถูกย้ายมาและปรับเปลี่ยน ซูหมิงมาแทนที่โลกดาราสัจธรรมอย่างไม่ต้องสงสัยและ เกิดการส่งเสริมอย่างรุนแรงขึ้น ช่วยเขาย่นระยะเวลา ส่งผลให้โอกาสประสบความสำเร็จจากหลายส่วนก่อนหน้านี้กลายเป็นมีความมั่นใจเต็มสิบ

สิ่งที่เขาต้องการก็เพียงแค่ชะตาภายนอกที่มากพอ หลังรวมชะตาภายนอกเหล่านี้ไว้ที่กฏชะตาตัวเองแล้วก็จะใช้ดวงจิตแห่งบรรพชนวิญญาณตน…ยึดครองโลก ดาราสัจธรรม!

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version