Skip to content

สู่วิถีอสุรา 1242

ตอนที่ 1242 หนึ่งกระบี่ผนึกฟ้า

กลิ่นอายมารสะเทือนฟ้า!

หลังจากสัตว์ทะเลสิบล้านตัวตายลง กลิ่นอายมารจากตัวซูหมิงเข้มข้นขึ้นไม่น้อย ดูมืดทะมึนอย่างยิ่ง ขณะเดียวกันยังทำให้ผู้ฝึกฌานเผ่าหมานหกแสนคนเห็นอีกด้านอันเหี้ยมโหดของซูหมิง

เหมือนกับพวกชายชราอย่างหยาหมานและชื่อเหลยเทียนที่เคยติดตามซูหมิง จู่โจมเผ่าเซียน พวกเขาเคยเห็นด้านเลือดเย็นของซูหมิงมาแล้ว แต่ชาวเผ่าหมานที่มากกว่าที่นี่เพิ่งเคยเห็นความโหดของเทพหมานเป็นครั้งแรก

ขณะมีสีหน้าตกตะลึงยังเกิดการสั่นไหวตรงก้นบึ้งหัวใจ พวกเขาเห็นเทพหมานเลือดเย็นยามประมือกับศัตรูด้วยตาตัวเองแล้ว เหตุการณ์นี้กลายเป็นตราประทับ นิรันดร์ที่ทำให้ทุกคนใจสั่นสะท้าน

ในเวลาเดียวกันหลังสัตว์ทะเลตายไป หลังทะเลมรณะเป็นสีม่วง ฝ่ามือยักษ์นั้นไม่ได้หยุดแม้แต่น้อย แต่ก็ยังกดลงบน

ทะเลมรณะ ระหว่างที่ลดระดับลงมา ทะเลมรณะสั่นสะเทือนและหายไปอย่างต่อเนื่อง

นี่คือการถอนรากถอนโคน ทำลายร่องรอยทุกอย่างของสัตว์ทะเลเหล่านี้ รวมถึงสัตว์ตัวอ่อนในทะเลเหล่านั้น และยังมีสภาพแวดล้อมที่เอื้ออำนวยให้พวกมันอยู่รอด ทุกอย่างระเบิดกระจายออกเป็นชิ้นๆ ด้วยฝ่ามือนี้

น้ำทะเลหายไปจำนวนมาก ไอสีม่วงและสีแดงลอยขึ้นมากมายขณะทะเลหายไป จนกระทั่งผ่านไปหลายลมหายใจ เกิดเสียงดังสนั่นฟ้า ฝ่ามือยักษ์นั้นหายไป

เมื่อมันหายไป ทั้งแผ่นดินหมาน…ไม่มีทะเลอีก!

เผยเป็นแผ่นดินที่ถูกจมบนแผ่นดินหมาน เผยซากวังจักรพรรดิต้าอวี๋รวมถึงหอคอยรกร้างที่สืบทอดมาหลังนั้น!

ตอนนี้เองยังมีเสียงฉีกดังมาจากบนฟ้า ซ้ำยังมีเสียงคำรามแหลมดังก้อง ชั่วพริบตาเดียวปรากฏเงามายาขึ้นบนฟ้าจำนวนมาก ร่างเงาเหล่านั้นคือตัวประหลาดจากโลกอื่นในน้ำวนมรณะหยินที่ถูกเรียกมา

ในนั้นมีสิ่งมีชีวิตสองหัวที่ซูหมิงเคยเห็นก่อนหน้านี้ และยังมีสิ่งมีชีวิตหน้ำตา ต่างๆ นาๆ ทุกคนมาพร้อมกับจิตสังหาร

พวกเขาปรากฏตัวกันอย่างเนืองแน่น ขณะกำลังจะลงมาประหนึ่งสายฝนเทลงมานั้น ซูหมิงแค่นเสียงขึ้นจมูกและสะบัดแขนเสื้อ ฉับพลันนั้นไอสีม่วงและสีโลหิตจำนวนมากที่ลอยขึ้นจากทะเลมรณะหายไปและตอนนี้กำลังอบอวลอยู่ในฟ้าดินเผ่าหมานพุ่ง ขึ้นฟ้าไปพร้อมกับที่ซูหมิงสะบัดแขนเสื้อ

“ผนึก!” ซูหมิงเอ่ยเรียบๆ เพียงคำเดียว ไอสีม่วงเหล่านั้นพลันหมุนวนกลายเป็นวงแหวนยักษ์วงหนึ่ง ไอสีแดงก็บิดเบี้ยวเป็นอักขระและเส้นสายซับซ้อนทีละตัว พุ่งขึ้นฟ้าไป ก่อนประทับตราใส่ตัวประหลาดจากนอกโลกที่พุ่งลงมา

ผนึกนี้ใหญ่ยักษ์ยิ่ง มันปกคลุมท้องฟ้าของทั้งโลกหมาน หลังก่อขึ้นเป็นผนึกแล้ว เกิดเสียงครึกโครมดังสนั่น สิ่งมีชีวิตทั้งหมดจากข้างนอกไม่มีโอกาสได้พุ่งทะลวงออกมาเลย ทั้งหมดถูกขวางไว้นอกเผ่าหมาน

กระทั่งทุกตนที่หมายจะฝืนทะลวงผ่าน ตอนที่ปะทะกับผนึกจะร้องโหยหวน ร่างแห้งเหี่ยวลงอย่างรวดเร็ว พริบตาเดียวก็ถูกสูบทุกอย่างจนมลายหายไป

หนึ่งฝ่ามือ หนึ่งผนึก ฟ้ากับดินไม่มีสิ่งใดมีอำนาจคุกคามต่อเผ่าหมานได้ เพียงการกระทำง่ายๆ ทุกอย่างก็จบลง จากนั้นซูหมิงมองร่างเงาหมอกชุดคลุมดำที่กำลังตกใจกับทุกอย่าง

“เป็นแค่จิตแยกเล็กจ้อย ยังไม่ใช่คู่ต่อสู้แซ่ซู” ซูหมิงมองร่างเงาหมอกชุดคลุมดำเรียบๆ แวบหนึ่ง ก่อนเดินหน้าไป ทันใดนั้นร่างเงาชุดคลุมดำถอยไป สติปัญญาที่มีไม่มากทำให้รู้สึกได้ถึงอันตรายเด่นชัดจากซูหมิง นั่นคือความน่ากลัวที่สามารถลบเขาได้

ทว่าตอนที่เขาถอยไป ร่างเงาซูหมิงไปโผล่อยู่ข้างกายร่างเงาชุดคลุมดำโดยไม่เกิดคลื่นใดๆ มวลอากาศไม่บิดเบี้ยว รวมถึงร่างเงาชุดคลุมดำไม่สังเกตเห็นแม้แต่น้อยด้วย จากนั้นเขายกมือขวาขึ้นกดฝ่ามือลงไป

โครม!

ร่างเงาหมอกชุดคลุมดำแตกออกเป็นเสี่ยงๆ กลายเป็นหมอกจำนวนมากม้วนถอยไป หลังรวมอย่างรวดเร็วห่างไปพันจั้งแล้วก็ก่อรูปอีกครั้ง ดวงตาสีแดงจ้องซูหมิงตาเขม็ง ดูตื่นกลัวอย่างชัดเจน

“คิดจะลบข้า เว้นแต่จะมีดวงจิตที่เหนือกว่าจิตเดิมของข้า มิเช่นนั้นแล้ว เจ้าไม่มีทางทำอะไรข้าได้ ซูหมิง…เจ้าแกร่งมากจริงๆ แต่ว่า…หากจะสังหารข้า มันยังไม่พอ!” แม้เสียงร่างเงาชุดคลุมดำจะแหบแห้ง แต่กลับปราดเปรียวกว่าเมื่อครู่เล็กน้อย เห็นได้ชัดว่าการตื่นของสามดวงจิตใกล้จะมาถึงช่วงท้ายแล้ว

ซูหมิงไม่รู้สิ่งเหล่านี้ ต่อให้รู้ก็ไม่สนใจ เขากลับมาเผ่าหมาน เดิมทีคิดจะก่อการใหญ่เพื่อรู้ความลับมากมายอยู่แล้ว

ตอนนี้ยิ้มเยาะพร้อมเดินหน้าไปอีกครั้ง

ตอนนี้เอง ร่างเงาหมอกชุดคลุมดำยกสองมือขึ้นประสานมุทราผลักไปข้างหน้า ขณะที่ผลักไป เสียงเขาดังก้องตามมา

“สายน้ำแห่งตะวันออก!”

“ทองคำแห่งตะวันตก!”

“เพลิงแห่งทางเหนือ!”

“ไม้แห่งทางใต้!”

“ดินแห่งการรวมเป็นหนึ่ง!” ร่างเงาหมอกชุดคลุมดำกล่าวอย่างเร่งรีบ ช่วงที่เอ่ยห้าประโยคนี้ พลันเกิดหมอกห้าสายตรงหน้าเขา ระหว่างที่หมอกห้าสายบิดเบี้ยวยังแยกออกเป็นกระบี่ล้ำค่า ขวดน้ำ เขี้ยวไม้ เมล็ดเพลิงและดินดำ พวกมันหมุนวนอย่างรวดเร็วและเหมือนหลอมรวมกันกลายเป็นม่านแสงประหนึ่งวงแหวนอาคมพุ่งตรงไปหาซูหมิง

ขณะพุ่งเข้าไปม่านแสงยังขยายใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ วูบเดียวก็พันจั้ง เหมือนจะกำราบซูหมิง

ซูหมิงมีสีหน้าปกติ ไม่ได้เปลี่ยนไปแม้แต่น้อย จังหวะที่วงแหวนอาคมห้าธาตุเข้ามา เขาอ้าปากพ่นออกไป พลันมีแสงสีม่วงบินออกมากลายเป็นกระบี่ไม้สีม่วงตรงหน้า

ช่วงที่กระบี่ไม้ปรากฏก็เกิดเสียงวิ้งวนรอบตัวซูหมิง เสียงกระบี่พลันดังขึ้น ชั่ววูบเดียวก็ฟันลงไปทางวงแหวนอาคมห้าธาตุนั้น

ชั่วพริบตาที่แสงม่วงสายหนึ่งโค้งเป็นจันทร์เสี้ยวเข้าปะทะกับวงแหวนอาคมห้าธาตุ วงแหวนอาคมพลันหลอมละลายอย่างรวดเร็ว ชั่ววูบเดียวก็หายไปใต้แสงกระบี่

ภาพนี้ทำให้ร่างเงาหมอกดำสูดลมหายใจเข้าด้วยความตกใจ ดวงตาขยับประกายวาว กลายเป็นสายรุ้งยาวถอยไปอย่างไม่ลังเล

‘นี่มันกระบี่อะไร! ดูคุ้นๆ อยู่เล็กน้อย…จำไม่ได้แล้ว หากจิตเดิมตื่นก็คงจำได้ ความทรงจำข้ายังไม่พอ…’ ชั่วขณะที่ร่างเงาหมอกชุดคลุมดำถอยไป ซูหมิงยกมือขวาชี้ไปยังร่างเงาชุดคลุมดำ

กระบี่ไม้สีม่วงเกิดเสียงวิ้ง มันหายวับไป มาโผล่อีกทีรอบตัวร่างเงาชุดคลุมดำนั้นก่อนถาโถมเข้าไป ร่างเงานั้นจึงร้องตะโกนด้วยความสิ้นหวัง

“นี่เป็นเพียงจิตแยกของข้า ข้าจะตื่นแล้ว ซูหมิง…ตอนที่ข้าตื่นขึ้นจะเป็นตอนที่เจ้าต้องเสียใจภายหลัง!”

“ข้ากำลังรออยู่” ตอนที่ซูหมิงพูดขึ้นเรียบๆ เสียงตะโกนแหลมเงียบลง กระบี่สีม่วงนั้นวนรอบหนึ่งแล้ว ร่างเงาสีดำนั้นก็มลายหายไป

กระบี่ตัดดวงจิต หนึ่งในเก้ากระบี่อาวุธศักดิ์สิทธิ์ของเผ่ายมโลกใหญ่ ทั้งยังอยู่ในสภาพสมบูรณ์ยิ่ง พลานุภาพของมัน…ก่อนหน้านี้ซูหมิงใช้ไปแค่สามส่วนเท่านั้น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version