ตอนที่ 1258 วัวหนึ่วตัวขนกี่เส้น
กระพริบหนึ่งครั้งแสนปี!
นึ่คือภัยพิบัติหกกระพริบหรือภัยพิบัติที่สามในการยกระดับวิญญาณ พลังของ ภัยพิบัตินี้สามารถสั่นคลอนทุกสรรพสัตว์ ทุกสิ่งมีชีวิตมีสิ้นอายุขัย ต่อให้เป็น บรรพชนวิญญาณที่ดูเหมือนจะไม่มีสิ้นสุด ทว่าเว้นแต่จะยกระดับวิญญาณเก้าครั้งเป็นเทพบรรพชนซึ่งจะมีชีวิตค่อนข้างนิรันดร์แล้ว มิเช่นนั้นทุกสิ่งมีช่วงโรยรา
ภัยพิบัตินี้ดูเหมือนไม่ได้แกร่งอะไรมากนัก แต่กลับใช้พลังของเวลาเป็นตัวหลัก เปลี่ยนเวลาให้เป็นฐานนำทุกสิ่งมีชีวิตให้กลายเป็นเถ้าธุลีในกาลเวลา
ภัยพิบัตินี้…ต่อให้เป็นชายชราวิญญาณสวรรค์ ถึงเขาจะรู้ตัวเองว่าผ่านไปได้ แต่ก็ต้องใช้ปราณบริสุทธิ์ไปมาก กระทั่งเขายังไม่กล้าให้ภัยพิบัตินี้กระพริบแสงทั้งหมด หกครั้ง เขาต้องตามหาเส้นทางของภัยพิบัตินี้ให้พบก่อนการกระพริบครั้งที่สาม แล้วใช้พลังทั้งหมดโจมตีใส่ต้นกำเนิดภัยพิบัติไร้รูปนั้น
นี่คือการเลือกใช้พลังจู่โจมภัยพิบัตินี้
แต่วิธีที่เขาเลือกคือรากฐานของการยกระดับวิญญาณแปดครั้ง เขามีคุณสมบัติทำแบบนี้ ทำได้จริงๆ แต่หากเป็นคนอื่น…
มีน้อยคนมากที่จะทำแบบชายชราวิญญาณสวรรค์ได้โดยการใช้พลังโจมตีภัยพิบัติ ดังนั้นจึงทำได้เพียงเผชิญหน้า ทว่าจุดจบของภัยพิบัติหกกระพริบ แทบทุกคนล้วนกลายเป็นเถ้าธุลีหายไปในกาลเวลา
ถึงอย่างไรก็ไม่มีสิ่งมีชีวิตใดมีอายุขัยเท่ากับการกระพริบหกครั้ง เป็นที่รู้ว่าแค่กระพริบครั้งแรกก็เสียอายุขัยไปแสนปีแล้ว ทว่ากระพริบครั้งที่สองก็ล้านปี ครั้งที่สามสิบล้านปี
จำนวนเหล่านี้ดูเป็นแค่จำนวน แต่ไม่มีสิ่งมีชีวิตใดมีชีวิตถึงแสนปีได้ จึงยิ่งไม่ต้องพูดถึงล้านหรือสิบล้านปี กระทั่งหนึ่งร้อยล้านปีในการกระพริบครั้งที่สี่!
กระทั่งกระพริบครั้งที่ห้า ต่อให้เป็นชายชราวิญญาณสวรรค์ก็ยังไม่กล้าเผชิญหน้า นั่นคืออายุหายไปพันล้านปี ทว่าอายุขัยของเขายังขาดไปอีกมาก เกรงว่าแค่กระพริบครั้งที่ห้า เขาก็กลายเป็นเถ้าธุลีหายไปแล้ว
และการกระพริบครั้งที่หกซึ่งเป็นครั้งสุดท้ายคือหมื่นล้านปี!
อายุขัยของหนึ่งโลกแท้จริงเท่าไรไม่มีใครรู้ บางทีผ่านไปหมื่นล้านปีก็อาจจะ… ไม่พอกับหมื่นล้านปี ดังนั้นกระพริบหกครั้ง หรือแม้แต่กระพริบครั้งที่ห้า จึงไม่เคยปรากฏเลยในรอบไม่รู้กี่ปีมานี้ของภัยพิบัติยกระดับวิญญาณ
เพราะคนที่ผ่านภัยพิบัตินี้จะฝืนจู่โจมก่อนการกระพริบครั้งที่สามเหมือนชายชราวิญญาณสวรรค์ แต่คนที่ไม่ผ่าน ตอนที่กระพริบครั้งที่สามหรือส่วนใหญ่ครั้งที่สี่ ก็จะกลายเป็นฝุ่นละอองของเวลาไป
แต่ซูหมิง พอได้เห็นภัยพิบัติหกกะพริบกับได้ยินคำพูดชายชราวิญญาณสวรรค์แล้ว ดวงตาพลันเป็นประกายวาว มุมปากยังยิ้มอย่างมีความหมายลึกซึ้ง
หากเป็นภัยพิบัติอื่น เขาคงรับมือยากขึ้นเรื่อยๆ จินตนาการได้ว่าหากเป็น ภัยพิบัติอื่น ภัยพิบัติที่สามจะต้องมีพลานุภาพยิ่งใหญ่แน่ จนเขาไม่มีความมั่นใจว่าจะผ่านไปได้
แต่ว่า…ภัยพิบัติครั้งที่สามคือการกระพริบหกครั้งที่ใช้กาลเวลาเป็นตัวนำ และยังอยู่ในด้านอายุขัย ไม่ว่าเขาจะเป็นวิญญาณของเผ่าหมานใหญ่หรือสายเลือด เผ่ายมโลกใหญ่ก็ยังผ่านไปไม่ได้ แต่ว่าเขา…มีหนึ่งร่างแยก นั่นคือโลกแท้จริง!
นั่นคือส่วนหนึ่งของมหาโลกสามรกร้าง แต่เขาเองก็ไม่รู้ว่าโลกแท้จริงมีอายุขัยเท่าไร ทว่าเขารู้ว่าหากบอกว่าในฟ้าดินมีใครปล่อยให้ภัยพิบัติหกกระพริบมาเยือนได้ เช่นนั้น…เขาจะต้องเป็นหนึ่งในนั้น
เว้นแต่ ภัยพิบัตินี้จะทำลายอายุขัยของหนึ่งโลกแท้จริงได้ มิเช่นนั้นแล้วเขาจะ ไม่มีทางเป็นเถ้าธุลีด้วยมหันตภัยนี้
หลังเข้าใจภัยพิบัติหกกระพริบแล้ว เขาก็ปลดอภินิหารเปลี่ยนเทพหมานออกทันที ร่างกายกลับคืนสภาพเดิม อีกทั้งยังเก็บเวลาของเปลี่ยนเทพหมานเอาไว้อีกเล็กน้อย ตอนนี้ยืนอยู่กลางน้ำวนมรณะหยิน เงยหน้าขึ้นมองข้างบนอย่างเย็นชา
ในสายตาเขา ข้างบนน้ำวนมรณะหยินขยับแสงวูบวาบ เหมือนแฝงไว้ด้วย สัตว์ร้ายยุคโบราณกำลังลงมาอย่างรวดเร็ว เพียงไม่กี่ลมหายใจ แสงวูบวาบนั้นก็ เข้ามาใกล้
ขณะเดียวกับที่เข้ามาใกล้ การกระพริบครั้งแรกในภัยพิบัติหกกระพริบพลันมาถึง!
ทั้งน้ำวนมรณะหยินสว่างวูบขึ้นมาในพริบตา แสงสว่างจ้าแสบตาปกคลุมแทบทั้งน้ำวนมรณะหยิน มีเพียงส่วนลึกข้างล่างสุดเท่านั้นที่เหมือนเป็นเหวลึกที่แสงสว่างไปไม่ถึง
แต่ทางด้านซูหมิง รอบตัวเขาโอบล้อมไปด้วยแสงสว่างจ้า แสงนี้คงอยู่ราวหลายลมหายใจเท่านั้นก็เกิดเสียงพึมพำ เสียงนี้มาพร้อมการผ่านโลกมานานราวกับว่ากาลเวลาหมุนวนไปทั้งโลก ทั้งมหาโลกสามรกร้าง ทั้งน้ำวนมรณะหยินพลันมืดมิด!
ระหว่างที่ความมืดและสว่างตัดสลับกัน ซูหมิงพลันรู้สึกเหมือนว่าในร่างกายมีบางอย่างหายไป สิ่งที่หายไปคือพลังชีวิต คืออายุขัย เป็นปราณบริสุทธิ์ของคน การกระพริบครั้งแรกที่ทำให้คนธรรมดาต้องตายไม่รู้กี่ครั้งนี้สามารถสังหารผู้ฝึกฌานส่วนใหญ่ได้
แต่ตอนนี้ ในความรู้สึกซูหมิง พลังชีวิตที่เสียไปเหล่านี้เมื่อเทียบกับพลังชีวิตมหาศาลยิ่งกว่าในร่างแยกโลกแท้จริงแล้ว…เป็นแค่ขนหนึ่งเส้นของวัวเก้าตัว!
“แค่นี้เองรึ” ซูหมิงยิ้มเยาะมุมปาก เขามองภัยพิบัติหกกระพริบที่ตัดสลับระหว่างมืดกับสว่างโดยไม่ต่อต้าน เพราะอายุขัยเขาไร้จำกัด นั่นคือการต่อต้านที่ดีที่สุด
“อายุขัยข้ามีมาก หากเจ้ามีความสามารถก็สูบเอาไปให้หมด ลงมากันให้หมดเลย แต่หากเล็กจ้อยแค่นี้ จากนี้ไปอย่ามาให้ข้าเห็นเป็นครั้งที่สอง!” ซูหมิงสะบัดแขนเสื้อ พลังดุจดั่งสายรุ้ง ขณะเส้นผมยาวแกว่งไกวยังมีสีหน้าเหมือนชำเลืองตามอง
โครม! มหาโลกสามรกร้างสั่นสะเทือน ภายในน้ำวนมรณะหยินที่มีความมืดและสว่างตัดสลับกันพลันเกิดแสงสว่างขึ้น เหมือนว่าการยั่วยุของซูหมิงไปทำให้ดวงจิตดวงหนึ่งโกรธ แทบเป็นทันทีที่ซูหมิงพูดจบ การกระพริบครั้งที่สองในหกกระพริบก็เข้ามา!
ทั้งโลกอยู่ระหว่างความมืดและสว่างชั่วครู่หนึ่ง จนตอนที่เป็นสีดำอีกครั้ง เหมือนกับร่างกายซูหมิงหลอมรวมไปข้างใน โลกตอนสว่างคล้ายว่าทำให้พลังชีวิตเขาหย่อนยาน ส่วนตอนมืดยังเหมือนกลายเป็นเคียวสีดำเฉือนร่างเขาอย่างไร้รูป ตัดพลังชีวิตเขาไปล้านปี!
ซูหมิงพลันหน้าขาวซีด แต่ชั่วพริบตาเดียวก็กลับมาเป็นปกติ พลังชีวิตมหาศาลของร่างแยกโลกแท้จริงไม่แยแสอายุขัยที่หายไปเลย แสนปีคือขนหนึ่งเส้นของ วัวเก้าตัว ล้านปีก็….อย่างมากสุดก็ขนหนึ่งเส้นของวัวหนึ่งตัวเท่านั้น!
ซูหมิงยิ้มเยาะมุมปาก เขาปล่อยให้ภัยพิบัติหกกระพริบมาเยือนเหมือนว่ามันเป็นเพียงสายฝน ปล่อยให้ฝนตกหนักกว่าเดิม แต่ก็ยังทำอะไรเขาไม่ได้ ระหว่างสะบัดแขนเสื้อยังหัวเราะเสียงลากยาว เขาสัมผัสถึงการทะลวงพลังในร่างกายที่เด่นชัดขึ้นเรื่อยๆ ขณะหัวเราะเสียงดังยังกล่าวคำพูดอวดดีและบ้าอำนาจ
“ภัยพิบัติหกกระพริบก็ไม่เท่าไร เจ้ากล้ามาอีกหรือไม่?” ซูหมิงเงยหน้าขึ้น ดวงตาขยับประกายวาววับ พลังวนเวียนรอบตัวเขาก็กลายเป็นพายุหมุนส่งเสียงครึกโครม ภาพนี้ทำให้ชายชราวิญญาณสวรรค์เพ่งตามองซูหมิงอยู่นาน
เขาไม่รู้ว่าเพราะเหตุใดตอนที่มองซูหมิงยามนี้ ในความคิดลอยขึ้นมาเป็นประโยคหนึ่ง
‘เด็กคนนี้มีอนาคต!’
เสียงครึกโครมดังสนั่นฟ้า ภัยพิบัติหกกระพริบท่ามกลางความมืดและสว่างตัดสลับกันพลันเปล่งแสงสว่างจ้า ขณะขยับแสงการกระพริบครั้งที่สามก็มาถึง อีกทั้งไม่ใช่แค่กระพริบครั้งที่สาม แต่ครั้งที่สี่ยังตามมาด้วย
นี่คือการกระพริบครั้งที่สามและสี่มาต่อเนื่องกัน พลังการสูบเวลาของมันทำให้อายุหายไปสิบล้านปี สั่นคลอนอายุขัยร้อยล้านปีได้ ยามนี้พวกมันลงมาเยือนพร้อมกันเป็นดั่งดาบไร้รูปลากผ่านตัวซูหมิง
ซูหมิงหน้าซีดขาวอีกครั้ง ตอนที่ถอยไปสองก้าวก็หน้าซีดขาวกว่าเดิมเล็กน้อย ทว่าก็กลับมาเป็นปกติในทันใด อายุขัยล้านปีเทียบกับขนสิบเส้นของวัวหนึ่งตัว ต่อให้เป็นอายุขัยสิบล้านปีก็แค่ขนร้อยเส้นของวัวหนึ่งตัวเท่านั้น
แม้ว่าการสูบอายุขัยระดับนี้จะไม่ได้ไม่มีปัญหาจริงๆ แต่สำหรับโลกแท้จริงที่มีอายุขัยมหาศาลแล้วก็ยังรับไหว!
อีกทั้งขณะเดียวกับที่การกระพริบครั้งที่สามและสี่ผ่านไป ซูหมิงหัวเราะด้วยความตื่นเต้น เขาไม่สนใจอายุที่หายไป ร่างแยกโลกแท้จริงมีอายุขัยเท่าไรเขาเองก็ยังรู้ไม่แน่ชัด แต่สิ่งที่เขาสนใจคือ การทะลวงพลัง ชั่วพริบตาเมื่อครู่นี้ เขารู้สึกชัดว่า เกิดเสียงดังสนั่นในความคิดมากขึ้นหลายเท่า เมื่อเกิดพลังขึ้น ดวงจิตและระดับชีวิตเขาทะลวงไปถึงระดับที่ยกระดับวิญญาณสามครั้งได้แล้ว
นี่คือผลประโยชน์ที่เขาได้รับมากที่สุดจากภัยพิบัติยกระดับวิญญาณ
‘ข้าในตอนนี้ ขอแค่ออกจากน้ำวนมรณะหยินกลับไปวิหารเหล่าเทพ ก็จะยกระดับวิญญาณต่อเนื่องกันได้สองครั้ง แล้วกลายเป็น…ผู้แข็งแกร่งเทียบเท่า ขั้นไม่อาจกล่าว!
ไม่อาจกล่าว ไม่อาจกล่าว!’ เขากำลังตื่นเต้น ในดวงตาเผยประกายเด่นชัด เขากระหายในความแข็งแกร่ง เพราะมีแต่แข็งแกร่งเท่านั้นถึงจะควบคุมชะตาชีวิตตัวเองได้ ถึงจะปกป้องคนที่อยากปกป้องได้
“กระพริบครั้งที่ห้ากล้าเข้ามาหรือไม่!” ระหว่างซูหมิงหัวเราะลากยาว พลังของเขาหมุนวนรุนแรงขึ้น พายุหมุนที่ก่อขึ้นม้วนตลบไปรอบๆ กลายเป็นความสูงร้อยจั้งประหนึ่งสายรุ้ง
ความมืดและสว่างของโลกนี้เหมือนเกิดความลังเล แต่ลังเลเพียงไม่กี่ลมหายใจ การกระพริบครั้งที่ห้าที่ไม่เคยปรากฏมาก่อนในยุคสมัยนี้พลันลงมาเยือน
เมื่อการกระพริบครั้งที่ห้ามาถึง มหาโลกสามรกร้างก็ดี น้ำวนมรณะหยินก็ดี ทั้งโลกเกิดเสียงคำรามท่ามกลางความมืดและสว่าง การกระพริบครั้งที่ห้านี้ จะกินอายุขัยพันล้านปี ไม่ว่ากับใครก็น่ากลัวอย่างยิ่ง ต่อให้เป็นชายชราวิญญาณสวรรค์ยังไม่กล้าลอง แต่ซูหมิง… กลับหัวเราะเสียงดัง ปล่อยให้การกระพริบครั้งที่ห้ามาถึงตน ปล่อยให้อายุขัยถูกลบไป แต่เขาก็แค่หน้าขาวซีด สำหรับร่างแยกโลกแท้จริงแล้ว นี่คือ ขนพันเส้นของวัวหนึ่งตัวเท่านั้น ก็ไม่เห็นจะเท่าไร!
การกระพริบครั้งที่หกหรือก็คือการกระพริบครั้งสุดท้ายของภัยพิบัติหกกระพริบ ภัยพิบัตินี้ ต่อให้ไม่ใช่ยุคสมัยนี้ แต่เป็นทุกสมัยของมหาโลกสามรกร้างก็ยังปรากฏน้อยยิ่ง ยามนี้…มันลงมาเยือน!
อายุขัยหมื่นล้านปี ความรู้สึกผ่านโลกมาเนิ่นนาน ประโยคหนึ่งคงยากจะบรรยาย ในฟ้าดินนี้อาจจะมีแค่คนที่ยึดครองโลกแท้จริงอย่างซูหมิงเท่านั้นถึงจะยังหัวเราะ เสียงดังภายใต้การกระพริบครั้งที่หกได้
วัวหนึ่งตัวมีขนกี่เส้น…แน่นอนว่าย่อมไม่น้อย แน่นอนว่าต้องมากกว่าหมื่นเส้น แต่ความจริงแล้วอย่างมากสุดก็แสนเส้นเท่านั้น ยากจะมากกว่านี้ได้ ดังนั้น การกระพริบครั้งที่หกที่ซูหมิงเผชิญหน้าจึงลบอายุขัยของโลกแท้จริงหายไปหนึ่งส่วน
การลบแบบนี้ทำให้ซูหมิงหน้าซีดขาวและมีโลหิตไหลจากมุมปาก แต่ก็แค่โลหิตไหลเท่านั้น ดวงตาเขามีเส้นเลือดฝอย แต่เสียงหัวเราะกลับไม่ดังออกไปแม้แต่น้อย เขายืนอยู่กลางน้ำวนมรณะหยิน เสียงหัวเราะวนเวียนรอบตัว เขาผ่านภัยพิบัติที่สามแล้ว ถึงขั้นพูดได้ว่า…ผ่านได้อย่างสมบูรณ์แบบ!