Skip to content

สู่วิถีอสุรา 1272

ตอนที่ 1272 การต่อสู้แห่งโชคชะตา

ภายในโลกแท้จริงดาราโบราณ เมื่อซูหมิงกับตัวเขาอีกคนสบตากันและต่างเห็นถึงความแน่วแน่ในแววตากันแล้ว ก็เริ่มการต่อสู้แห่งโชคชะตาที่ลิขิตไว้ว่าไม่อาจเปลี่ยนแปลง

ไม่ต้องมีการสนทนาใดๆ ไม่ต้องลงมือหยั่งเชิง พวกเขาแค่สบตากันผ่าน ฟ้ากระจ่างดาวเงียบๆ

ทุกอย่างอยู่ในแววตาทั้งหมด

เพื่อให้ตนแกร่งขึ้น เพื่อปกป้องคนที่พวกเขาอยากปกป้อง เพื่อรอดชีวิตในมหันตภัย เพื่อให้ภาพในความลับสวรรค์ไม่มีทางเกิดขึ้น ซูหมิงจะต้องแกร่งขึ้น เขาไม่มีทางเลือกอื่นอีก การเป็นผู้แข็งแกร่งที่สุดในฟ้าดินคือเส้นทางที่เขาต้องเดินไปอย่างแน่วแน่

การหลอมรวมกับตัวเองอีกคนในโลกนี้ก็เหมือนกับรวมสองคนทั้งในและ นอกกระจกเป็นคนเดียว ดังนั้นถึงรวมพลังของสองโลกทำให้ตัวเองสมบูรณ์แบบได้ จากนั้นก็จะได้รับพลังในการควบคุมโชคชะตา นี่คือการเลือกของซูหมิง

ขณะเดียวกันเพื่อให้คนรักตื่นขึ้น เพื่อให้ดวงจิตซางเซียงทำตามความปรารถนาของตน กระทั่งเพื่อให้ตนแกร่งขึ้นแบบเดียวกัน มันจะลดผลย้อนกลับลงได้ ถึงขนาดที่ไม่เกิดผลย้อนกลับอีก เอาชนะการลงทัณฑ์แห่งสวรรค์ หมุนทวนขึ้นข้างบน นี่คือการเลือกของซูหมิงอีกคน

เขาไม่มีทางอื่นอีก มีแค่ทางนี้เท่านั้น แต่ความจริงแล้วดวงจิตซางเซียงมอบเส้นทางให้เขาสองเส้น แต่เขาไม่เลือกเส้นทางแรก ในฟ้าดินนี้ ภายใต้จักรวาล ต่อให้เป็นมหาโลกซางเซียงกับสามรกร้างก็ต้องมีแค่ซูหมิงคนเดียว

นี่คือความเข้าใจของเขา!

‘ที่นี่คือมหาโลกซางเซียง ที่นี่มีสิบยอดผู้ไว้อาลัยของข้า ที่นี่ยังมีดวงจิตซางเซียง หากข้ายังหลอมรวมเขาที่นี่ไม่ได้อีก เช่นนั้น…ถูกเขาหลอมรวมแล้วอย่างไร! ข้าก็คือเขา เขาก็คือข้า โลกนี้ข้ามีอวี่เซวียนเป็นภรรยา ในโลกของเขาจะต้องมี อวี่เซวียนเช่นกัน เขาจะไม่ให้อวี่เซวียนต้องตาย

นี่คือการต่อสู้แห่งโชคชะตา โชคชะตาของข้ากับเขา หรืออาจพูดได้ว่า…นี่คือโชคชะตาของพวกเรา!’ ซูหมิงอีกคนในโลกนี้หรือหนึ่งในสามบุตรแห่งซางสบตากับ ซูหมิงพร้อมจุดประกายความมุ่งมั่นในการต่อสู้

“สิบผู้ไว้อาลัย!” เมื่อเสียงเขาดังก้อง วิญญาณผู้ไว้อาลัยที่แกร่งที่สุดสิบดวงรอบตัวเขาพลันกระจายออก ขณะก้าวเดินก็กระจายไปรอบๆ ในพริบตา มาปรากฏอยู่รอบตัวซูหมิงกับตัวเขาอีกคน

นี่คือการสร้างเป็นผนึกหนึ่งชั้น คุมขังฟ้าแห่งนี้

แทบเป็นทันทีที่สิบผู้ไว้อาลัยล้อมรอบ พวกเขาสิบคนนั่งขัดสมาธิลงพร้อมกัน สองมือประสานมุทรากดตรงหน้าอกตัวเอง ทันใดนั้นหัวสิบคนนี้ลอยขึ้น ขณะดวงตาหรี่ลงยังมีแสงหม่นขยับแสงวาววับ

“สิ่งที่เป็นมวลอากาศทั้งหมด เพราะมันเป็นอากาศธาตุ ดังนั้นจึงไม่มีอยู่”

“ทุกอย่างที่ไม่มีอยู่ เพราะมันกล่าวโทษ ดังนั้นจึงกลายเป็นมวลอากาศ…”

“สิ่งที่เป็นมวลอากาศทั้งหมด ทุกอย่างที่ไม่มีอยู่ เพราะมันมีอยู่ เพราะมันไม่ใช่มวลอากาศ ดังนั้นจึงเซ่นไหว้ได้สิบแปดครั้ง กลายเป็น…สิบแปดคุมขังวิญญาณ!”

ชั่วพริบตาที่เสียงพึมพำแฝงไว้ด้วยการผ่านโลกมานานดังก้องฟ้า ทันใดนั้น สิบผู้ไว้อาลัยเปล่งแสงหม่นสว่างจ้าแสบตา แสงหม่นนี้ลอยขึ้นฟ้าอย่างรวดเร็วราวกับเส้นสิบแปดสายตัดสลับกัน เพียงพริบตาก็ก่อขึ้นเป็นฐานหอคอย จากนั้นตัดสลับกันอีกครั้ง ซ้อนขึ้นไปเป็นชั้นๆ รวมเป็นเวลาทั้งหมดไม่กี่ลมหายใจ ทันใดนั้นก็กลายเป็นหอคอยสูงตระหง่านที่รวมขึ้นจากเส้นแสงหม่นจากสิบสายอยู่กลางฟ้า

หอคอยนี้มีสิบแปดชั้น เปล่งแสงหม่นล้อมรอบซูหมิงกับตัวเขาอีกคน ชั่ววูบเดียวก็รวมเป็นของจริง กลายเป็นหอคอยโบราณที่อัดแน่นไปด้วยกลิ่นอายมรณะน่าสะพรึง!

“ซู วันนี้การต่อสู้ของเราคือโชคชะตา เจ้ากล้าต่อสู้กับข้าในสิบแปดคุกขุมขังวิญญาณหรือไม่!” ซูหมิงอีกคนในโลกนี้หรือชายหนุ่มหนึ่งในสามบุตรแห่งซางสะบัดแขนเสื้อแล้วพูดกับซูหมิงอย่างเย็นชา

ขณะกล่าวเขายังขยับไหวไปข้างหน้า ชั่ววูบเดียวก็พุ่งตรงมาหาซูหมิง จุดที่ผ่าน ใต้เท้าจะเหมือนเกิดทะเลเพลิง ในระหว่างที่ทะเลเพลิงถาโถมไปรอบๆ พลันเกิด ทะเลเพลิงร้อนแรงม้วนขึ้นข้างหลัง รวมขึ้นเป็นผีเสื้อเปลวเพลิงยักษ์ตัวหนึ่งพุ่งตรงไปหาซูหมิงในชั้นแรกของคุกขุมขังวิญญาณ

ซูหมิงเงยหน้าขึ้น นัยน์ตาเปี่ยมล้นไปด้วยความมุ่งมั่นในการต่อสู้ เขาไม่ตอบ แต่ใช้การกระทำแสดงออกถึงความเคารพต่อตัวเองอีกคนในโลกนี้ นั่นคือ…ต่อสู้ อย่างสุดกำลัง

เขาขยับวูบไหวพุ่งไปหาตัวเองอีกคน สองคนเข้ามาใกล้กันในทันใด ต่างฝ่าย ต่างชกหมัดออกไป เกิดเสียงระเบิดดังสนั่นขึ้น ผีเสื้อเปลวเพลิงที่ก่อขึ้นจากทะเลเพลิงข้างหลังบุตรแห่งซางกระโจนเข้าใส่ซูหมิง หลังเข้ามาใกล้แล้วก็ระเบิดพลังเทียบเท่ากับอวี้ตี้ออกมา

ท่ามกลางเสียงดังครึกโครม ซูหมิงแผ่ขยายดวงจิตเข้าต้าน หอคอยสูงสั่นสะเทือน ชั้นที่สิบแปดถล่มลงโดยพลัน ซูหมิงอีกคนกระอักเลือด ตอนที่ถอยไปยังขยับไหวเข้าไปในชั้นสิบเจ็ด ก่อนยกมือขวาหมุนมือ ทันใดนั้นเกิดพายุคลั่งถาโถม พายุเหลือคณานับกลายเป็นดาบคมกริบม้วนพาผีเสื้อพายุเพลิงที่ก่อขึ้นจากทะเลเพลิงตรงไปหาซูหมิง

นัยน์ตาซูหมิงฉายแววรวดเร็วและดุดัน เขาขยับไหวตัว ยามนี้ดวงจิตที่รวมจากสองโลกกลายเป็นมือใหญ่ตรงหน้าตบเข้าไปที่ผีเสื้อพายุเพลิงที่กำลังเข้ามา

เกิดเสียงครึกโครมดังสนั่น คุกคุมขังวิญญาณชิ้นที่สิบเจ็ด ชั้นที่สิบหก…จนถึงชั้น ที่เจ็ดพังลงในบัดดล ถูกมือใหญ่จากดวงจิตซูหมิงบดทำลาย บุตรแห่งซางของโลกนี้ถอยไปอย่างต่อเนื่อง ดวงตาแดงก่ำ ขณะกระอักเลือดยังเงยหน้าคำรามขึ้นฟ้า ตอนนี้เองข้างหลังเขาปรากฏผีเสื้อที่รวมจากพลังของคุกคุมขังวิญญาณสิบเอ็ดชั้น พอผีเสื้อปรากฏกายก็แผ่ขยายกลิ่นอายพลังน่าสะพรึงเทียบเท่ายกระดับวิญญาณสามครั้งหรือเหมือนกับขั้นไม่อาจกล่าว

ผีเสื้อนั้นกระพือปีกพร้อมเข้ามาใกล้ซูหมิงในทันใด ชั่วพริบตาที่ปะทะกันยังเกิดเสียงระเบิดดังสนั่นฟ้าดิน ผีเสื้อระเบิดเป็นเสี่ยงๆ ซูหมิงภายในนั้นกลายเป็นผีเสื้อตัวหนึ่งเหมือนเกิดใหม่ท่ามกลางการทำลายล้าง ตอนที่พุ่งออกมา เขาอ้าปากพร้อมกับ มีแสงสีเขียวบินออกมาอย่างรวดเร็ว มันวนเวียนอยู่รอบๆ พร้อมเสียงดังกึกก้อง คุกคุมขังวิญญาณชั้นที่เจ็ด ชั้นที่หก…จนถึงชั้นที่สองพังลง เหลือเพียงชั้นหนึ่งที่มีเสียงคำรามต่ำดังแว่วมา

บุตรแห่งซางของโลกนี้ถอยไปจนถึงที่นั่น เขากางสองแขนเงยหน้าคำรามขึ้นฟ้า ร่างกายพลันเผาไหม้ เส้นแสงหม่นที่ก่อขึ้นเป็นสิบแปดเขตวิญญาณหมุนม้วนตรงมาที่ตัวเขา

เพียงแวบเดียวก็วนเวียนรอบตัวซูหมิงอีกคน ทำให้หอคอยสูงหายไป สิบแปด คุกคุมขังวิญญาณหายไป แต่แทนที่ด้วยบุตรแห่งซางที่กลายร่างเป็นผีเสื้อ!

เขาพลันก้มหน้าลงแล้วพุ่งทะยานเข้าไปหาซูหมิง ปากยังพึมพำด้วยน้ำเสียงพิลึก

“ผู้ไว้อาลัยเป็นเผ่าพันธุ์!”

เมื่อสิ้นเสียง สิบผู้ไว้อาลัยที่ล้อมรอบซูหมิงต่างร่างสั่นสะท้าน ตอนที่ก้มหน้าลงเกิดเสียงพึมพำดังก้อง

“ทุกอย่างคงอยู่ เพราะเดิมทีมันคงอยู่ ดังนั้นจึงหายไปได้ สิ่งนี้คือความตาย…”

“ผู้สิ้นชีพทุกคน เพราะผู้มีชีวิตคิดถึง ดังนั้นจึงมีอารมณ์ความคิดในความไม่มี สิ่งนี้คือไว้อาลัย…”

“เผ่าไว้อาลัยได้รับอารมณ์ความคิดของผู้มีชีวิต ได้รับการคงอยู่ของผู้สิ้นชีพ ได้รับการฝากฝังในการแสวงหาจิต ได้รับพลังแห่งโลกในภพนี้ รวมเป็นเพลิงธูป ด้วยสิ่งนี้…จงเปลี่ยนการไว้อาลัยเป็นความตาย ให้สิ่งที่คงอยู่จงอยู่ต่อไป ให้ผู้ลาลับ…หวนคืน สู่อากาศธาตุ!”

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version