ตอนที่ 1286 ตอนนี้ยุติธรรมแล้ว
เมื่อเสียงจักรพรรดิรุ่งอรุณเหยียนเผยดังก้อง แรงกดดันจากโลกแท้จริงดาราสัจธรรมถูกสลายไปไม่น้อย นี่คือจิตสัมผัสสะเทือนฟ้าที่ก่อขึ้นจากพลังขั้นไม่อาจกล่าวของจักรพรรดิรุ่งอรุณเหยียนเผย ภายใต้การแผ่ขยายไปในพริบตา ก็บรรลุถึงพลังที่มากพอจะทำให้ผู้ฝึกฌานทุกคนตกใจกลัว
ชั่วพริบตาที่ผู้ฝึกฌานเงามืดรุ่งอรุณผ่อนคลายลงทั้งตัวเล็กน้อย ต่างมีสีหน้า ฮึกเหิมขึ้นมาทันที พวกเขารู้ว่าจักรพรรดิของพวกเขาอยู่ใกล้ๆ กำลังมองพวกเขา พวกเขาจึงมีความมั่นใจว่าขอเพียงจักรพรรดิอยู่ เช่นนั้นในโลกนี้จะไม่มีใครรบกวนพวกเขาได้แม้แต่น้อย
ทุกสิ่งล้วนต้องอยู่ภายใต้แรงกดดันจากฝ่ายเงามืดรุ่งอรุณ หากไม่ตายก็ต้องหนี พวกเขามั่นใจว่าศัตรูทุกคนไม่มีทางมีทางเลือกที่สาม
ยามนี้ผู้ฝึกฌานจากสิ่งศักดิ์สิทธิ์หวนคืนก็รู้สึกผ่อนคลายร่างกายลงเช่นกัน ความตกใจค่อยๆ สงบลง แม้จะไม่ใช่ฝ่ายเดียวกับเงามืดรุ่งอรุณ แต่พวกเขาก็ยังเชื่อมั่นว่าในโลกนี้มีเพียงฝ่ายสิ่งศักดิ์สิทธิ์หวนคืนเท่านั้นที่ต่อกรกับเงามืดรุ่งอรุณได้
ส่วนคนไร้ใบหน้าเก้าคนนั้นผ่อนคลายลงเช่นกัน แล้วแทนที่ด้วยความเหี้ยมโหด สิ่งที่ปะทุมาจากตัวพวกเขามิใช่พลัง แต่เป็น…ดวงจิตบรรพชนวิญญาณ!
พวกเขาถูกขนานนามว่าผู้สูงศักดิ์ มีฐานะเป็นรองเพียงสามจักรพรรดิและสามผู้สูงส่ง พวกเขา…คือบรรพชนวิญญาณจากฝ่ายเงามืดรุ่งอรุณกับสิ่งศักดิ์สิทธิ์หวนคืน!
และยังมีคนชุดคลุมดำสิบคนข้างจักรพรรดิรุ่งอรุณเหยียนเผย ตอนนี้ก็ผ่อนคลายลงเช่นกัน แต่ไม่นานก็มีพลังมหาศาลปะทุขึ้น สิบคนนี้…ล้วนมีพลังใกล้เคียงขั้นไม่อาจกล่าวอย่างไม่มีที่สิ้นสุด!
จักรพรรดิรุ่งอรุณเหยียนเผยยิ้มเยาะมุมปาก เขามั่นใจว่าตนไร้คู่ต่อสู้ในโลกนี้ ต่อให้เจอกับบรรพชนวิญญาณของมหาโลกสามรกร้าง เขาก็ยังมั่นใจว่าจะกวาดล้างได้ เพราะว่าเขาบรรลุขั้นไม่อาจกล่าว เพราะเขาคือจักรพรรดิรุ่งอรุณเหยียนเผย!
“ไม่รู้จักประมาณตน ไสหัวไปจากที่นี่ จากนี้ห้ามเผยกลิ่นอายพลังใดๆ ตรงที่ที่ข้าอยู่ มิเช่นนั้น ไม่ว่าเจ้าเป็นใคร ไม่ว่าเจ้าอยู่ใต้บัญชาใคร ข้าจะจับมาเป็นทาสวิญญาณ ข้างกายข้าอีกคน
ผู้ฝึกฌานเงามืดรุ่งอรุณสิ่งศักดิ์สิทธิ์หวนคืนจงทำลายยอดเขาลำดับเก้า ข้าต้องการให้สำนักนี้…ถูกทำลายจนสิ้นไป” จักรพรรดิรุ่งอรุณเหยียนเผยกล่าวเรียบๆ ชั่วขณะที่เสียงดังก้องไปทั้งโลกแท้จริงดาราสัจธรรม เขายกแก้วสุราในมือซ้ายขึ้นมาวางตรงริมฝีปาก ก่อนดื่มไปอึกหนึ่งด้วยความโอหังและตามอำเภอใจ
แต่ว่าตอนนี้สุราอึกเล็กไหลเข้าไปในปากจักรพรรดิรุ่งอรุณเหยียนเผย…
ซูหมิงมีสีหน้าเรียบนิ่ง เขาไม่มองจักรพรรดิรุ่งอรุณเหยียนเผยที่อยู่ไกลๆ แม้แต่หางตา ในมุมมองเขา จักรพรรดิรุ่งอรุณไม่มีค่าพอให้เอ่ยถึง เขาจึงยกมือขวากดลงไปอีกครั้ง
แรงกดดันก่อนหน้านี้ เป็นเพียงการกดเบาๆ ของซูหมิงเท่านั้น ยามนี้กดลงไปถึงจะเป็นหนึ่งเท่าที่ทำให้โลกแท้จริงดาราสัจธรรมหนักขึ้นอย่างแท้จริง!
แทบเป็นช่วงที่ซูหมิงกดมือขวาลงไป พลันเกิดระลอกคลื่นในโลกแท้จริงดาราสัจธรรม เมื่อระลอกคลื่นขยายออก ชั่ววูบเดียวก็ปกคลุมไปทั้งโลกแท้จริงดาราสัจธรรม ก่อนมีพลังของอีกโลกแท้จริงลงมาเยือนในฉับพลัน
นั่นคือโลกแท้จริงพรรคเซียน!
จริงๆ แล้วการกดก่อนหน้านี้เป็นการผนึกอย่างหนึ่ง ผนึกพลังของฝ่ายเงามืดรุ่งอรุณกับสิ่งศักดิ์สิทธิ์หวนคืนที่เหนือกว่ายอดเขาลำดับเก้า และหลักการของผนึกนี้คือให้โลกแท้จริงดาราสัจธรรมหนักขึ้น ซ้ำยังเป็นวิธีที่ง่ายที่สุดในการให้โลกดาราสัจธรรมหนักขึ้นด้วย เห็นได้ชัดว่า…การให้อีกโลกแท้จริงมาปรากฏอยู่ที่นี่ พอหลอมรวมกับดาราสัจธรรมแล้วย่อมหนักขึ้นโดยธรรมชาติ
เมื่อโลกแท้จริงพรรคเซียนมาถึง ก็เกิดเสียงระเบิดดังก้อง ระหว่างที่ระลอกคลื่นขยายออกเป็นวงกว้าง โลกแท้จริงดาราสัจธรรมหนักอึ้งทันที ความหนักยาก จะบรรยาย ทำให้ผู้ฝึกฌานเงามืดรุ่งอรุณสิ่งศักดิ์สิทธิ์หวนคืนตัวสั่นสะท้านอย่างรุนแรงโดยพลัน ทั่วร่างจมลง เกิดเสียงดังปุงปังไม่หยุดในร่างกาย พลังยังถูกควบคุมไว้สามส่วน!
นั่นคือสามส่วนของพลังทุกคน รวมถึงบรรพชนวิญญาณไร้ใบหน้าชุดคลุมขาว เก้าคนนั้นยังลดลง ทั่วร่างสั่นเทา ดวงจิตบรรพชนวิญญาณก็ถูกควบคุมไว้สามส่วนเช่นกัน!
“ไม่เจียมตัว!” จักรพรรดิรุ่งอรุณเหยียนเผยหน้าเปลี่ยนสี แต่ทันทีที่เขาเอ่ยขึ้น แก้วสุราในมือแตกออกดังเพล้ง น้ำสุราสาดกระจาย ทะเลกระดูกขาวที่ลอยอยู่ตรงหน้าและรอบตัวเขาสั่นสะเทือน ก่อนเกิดเค้าลางจะหละหลวม คนชุดคลุมดำ สิบคนรอบตัวเขาคำรามเสียงต่ำพร้อมกัน ร่างกายสั่นไหว พากันโคจรพลังเพื่อต่อต้านทันที แต่กลับไร้ประโยชน์ ทุกคนถูกลดพลังลงไปสามส่วน
ขณะที่พวกเขากำลังตกใจกลัว นัยน์ตาจักรพรรดิรุ่งอรุณเหยียนเผยเผยจิตสังหาร พลังขั้นไม่อาจกล่าวแผ่ออกมาทั้งหมด ก่อรูปเป็นพายุน้ำวนยักษ์วงหนึ่ง ระหว่างที่น้ำวนส่งเสียงดังสนั่นหวั่นไหวรอบตัวเขามันก็แผ่ขยายออกไปโดยรอบ จุดที่ผ่าน แรงกดดันทั้งหมดจะหายไป มิหนำซ้ำตอนนี้จักรพรรดิรุ่งอรุณเหยียนเผยยังค่อยๆ ยืนขึ้นจากเก้าอี้ทะเลกระดูกแล้วโบกมือขวา ทันใดนั้นปรากฏหอกกระดูกเล่มหนึ่งขึ้นในมือ เมื่อคว้าเอาไว้แล้ว พลังก็ปะทุขึ้นอีกครั้ง
“ในเมื่อรนหาที่ตาย เช่นนั้นข้าจะสนับสนุนเจ้าเต็มที่ ไอ้คนต่ำต้อยที่รู้จักแต่ การซ่อนตัวออกมาเดี๋ยวนี้!” จักรพรรดิรุ่งอรุณเหยียนเผยเอ่ยขึ้นพร้อมเดินหน้า หนึ่งก้าว ยังไม่ทันก้าวลง หอกกระดูกในมือขวาพลันเปล่งแสงกระดูกสีขาวปกคลุมทั้งโลกแท้จริงดาราสัจธรรม แสงนี้ปกคลุมไปไม่มีสิ้นสุด ราวกับสร้างขึ้นเป็นหอกกระดูกนับไม่ถ้วนยากจะนับคำนวนอัดแน่นอยู่ทุกมุมของโลกแท้จริงดาราสัจธรรม ประหนึ่งว่าหากเขาจะทำลายล้างทุกสิ่งมีชีวิตในโลกแท้จริงนี้ก็ใช้เพียงแค่หนึ่งความคิดเท่านั้น
ทว่าตอนที่จักรพรรดิรุ่งอรุณเหยียนเผยกำลังจะเหยียบเท้าลง ซูหมิงที่เขามอง ไม่เห็นอยู่ไกลๆ ยกมือขวากดครั้งสุดท้ายด้วยสีหน้าเฉยเมยแล้ว ทั้งขั้นตอนนี้ ความจริงแล้วเป็นเพียงแค่ซูหมิงยกมือขวาขึ้นกดลงไปเท่านั้น ยามนี้พริบตาที่ทำเสร็จ โลกแท้จริงดาราโบราณก็มาเยือน!
พอโลกแท้จริงดาราโบราณมาถึง ระลอกคลื่นในโลกแท้จริงดาราสัจธรรมพุ่งขึ้นฟ้า ภายใต้การตัดสลับกันของระลอกคลื่นนับไม่ถ้วน จึงเหมือนรวมขึ้นเป็นตาข่ายใหญ่ที่รวมสามโลกแท้จริง กลายเป็นแรงกดดันเท่ากับสามโลกแท้จริงอยู่พร้อมกัน ความรู้สึกหนักที่เกิดขึ้นจึงเป็นเช่นนี้
แทบเป็นพริบตาเดียว ผู้ฝึกฌานจากฝ่ายสิ่งศักดิ์สิทธิ์หวนคืนกับเงามืดรุ่งอรุณกระอักเลือดกันเกือบทุกคน จากนั้นพวกเขารู้สึกเหมือนว่าร่างกายถูกหมื่นภูเขากดทับ วิญญาณยังถูกกดเช่นกัน ทำให้พลังอ่อนลงโดยตรงหกส่วนราวกับถูกผนึก อย่างมากสุดก็ใช้ได้เพียงสี่ส่วน!
ถึงขั้นที่มีหลายคนที่ขั้นพลังลดระดับลง โดยเฉพาะชายชราไร้ใบหน้าชุดคลุมขาวเก้าคนนั้น พวกเขาตัวสั่น ใบหน้าว่างเปล่าปรากฏเครื่องหน้า เหมือนว่าพลังที่ปกปิดหน้าตาพวกเขาถูกบีบเอาออกไป อีกทั้งด้วยความที่พวกเขาเป็นบรรพชนวิญญาณ ดังนั้นจึงรู้สึกถึงแรงกดดันนี้เด่นชัดยิ่งกว่า ตอนนี้พากันกระอักเลือด ร่างซวนเซถอยไปและถูกลดพลังลงหกส่วนเช่นกัน
คนชุดคลุมดำสิบคนรอบตัวจักรพรรดิรุ่งอรุณเหยียนเผยพากันกระอักโลหิต ขั้นพลังลดลง ซ้ำยังแผ่กลิ่นอายพลังค่อนข้างอ่อนแอ พวกเขาก็ไม่ละเว้น ทุกคนล้วนถูกลดพลังลงไปหกส่วน
ตรงมุมปากจักรพรรดิรุ่งอรุณเหยียนเผยมีโลหิตไหลเล็กน้อย สีหน้าเขาดูโหดเหี้ยม หอกยาวในมือกำลังจะปาออกไป เท้าขวาที่ยกขึ้นกำลังจะวางลง กระทั่งเพิ่งจะเอ่ยด้วยน้ำเสียงดุร้าย
“เจ้า…”
จักรพรรดิรุ่งอรุณเหยียนเผยพูดมาได้เพียงคำเดียวก็หน้าเปลี่ยนสีในฉับพลัน ดวงตาเบิกโต ความเหี้ยมโหดทางสีหน้าหายไป แต่แทนที่ด้วยความตกใจเป็นครั้งแรก เขาไม่อาจวางเท้าขวาลง หอกยาวในมือยังปาออกไปไม่ได้ เพราะในตอนที่ดวงจิต สามโลกแท้จริงหลอมรวมพร้อมลงมาเยือน ร่างกายเขาเหมือนถูกกระแทก ทำให้มีโลหิตไหลจากมุมปาก
แต่สิ่งเหล่านี้ยังไม่ถือว่าเท่าไรสำหรับเขา สิ่งที่ทำให้เขาตกใจจริงๆ คือตอนนี้เขารู้สึกว่าไกลออกไปกลางมวลอากาศตรงหน้ามีสายตากำลังมองตนอยู่
สายตานั้นมาพร้อมกับความเย็นชาที่เขาไม่เคยพบมาก่อน ความเย็นชานี้แฝงไว้ด้วยความสูงส่งยากจะบรรยาย เหมือนว่าเป็นดวงจิตสูงสุดของทั้งโลก เพียงแค่มองแวบหนึ่งเรียบๆ ก็ทำให้เขาเกิดความรู้สึกหลอนว่าร่างตนจะระเบิดออก
ความรู้สึกนี้ เขาเคยสัมผัสมาแค่ตอนที่ไปเซ่นไหว้หลุมศพเทพทุกหนึ่งพันปีใน ฝ่ายเงามืดรุ่งอรุณที่แม้แต่สามจักรพรรดิรุ่งอรุณก็ยังต้องไป ตอนนั้นเขาสัมผัสความรู้สึกนี้ได้จากสามศพหลับใหลที่ไม่รู้ว่าอยู่มานานเท่าไรได้รุนแรงที่สุด
สามร่างหลับใหลนั้น ตามตำนานเงามืดรุ่งอรุณของพวกเขาบอกว่าเป็นตัวประหลาดอย่างแท้จริงที่อยู่มาไม่รู้กี่ยุค จนตอนนี้ก็ยังมีชีวิตอยู่!
“ท่าน…” จักรพรรดิรุ่งอรุณเหยียนเผยใจสั่นไหว ต่อให้เขามีความมั่นคงก็ยังยากจะปกปิดสีหน้าตกใจกลัว ขณะกำลังจะกล่าวนั้น มีเสียงราบเรียบดังแว่วมาจากข้างหลัง
“ก่อนหน้านี้เจ้าบอกว่าข้ารนหาที่ตายรึ?”
เสียงนี้ดังขึ้นอย่างกะทันหันยิ่ง จักรพรรดิรุ่งอรุณเหยียนเผยจึงตัวสั่น ตอนที่จะอธิบายโดยจิตใต้สำนึกนั้น เสียงนั้นดังขึ้นอีกครั้ง
“นั่งลง ดูการฝึกฝนเป็นตายนี้เป็นเพื่อนข้า คนพวกนี้ของเจ้าก็ไม่เลว แบบนี้ยังไม่ค่อยยุติธรรมสักเท่าไร”
“ขอรับ!” จักรพรรดิรุ่งอรุณเหยียนเผยไม่มีคุณสมบัติและความกล้าในการปฏิเสธแม้แต่น้อย คำพูดมากมายท้ายที่สุดกลายเป็นการขานรับด้วยความเคารพเช่นนี้ กระทั่งไม่กล้าหันไปมอง ได้แต่ดึงหอกกระดูกในมือขวากลับมา ก่อนนั่งลงช้าๆ ด้วยความตึงเครียดในใจ
คนชุดคลุมสิบคนข้างทะเลกระดูกรอบๆ ต่างตกใจกลัว พวกเขาเก็บพลังกลับไป และรักษาความเคารพให้สูงสุดเท่าที่จะเป็นไปได้ ไม่กล้ามองไปทางซูหมิงแม่แต่น้อย
พลังคือทุกอย่าง!
“แต่ว่าตอนนี้ยุติธรรมแล้ว เริ่มสงครามได้” ซูหมิงพูดขึ้นเรียบๆ เขานั่งลงบนเก้าอี้กระดูกที่เดิมทีเป็นของจักรพรรดิรุ่งอรุณเหยียนเผย นั่งพิงอยู่ตรงนั้น มือขวายันหน้าผากพลางมองยอดเขาลำดับเก้า
ต่ำกว่าเขา จักรพรรดิรุ่งอรุณเหยียนเผยนั่งตัวตรง สีหน้าดูขมขื่น เขามองผู้ฝึกฌาน เงามืดรุ่งอรุณกับสิ่งศักดิ์สิทธิ์หวนคืนพลางนึกถึงคำพูดซูหมิงก่อนหน้า เขาเข้าใจแล้ว อีกฝ่ายต้องการใช้คนของตนฝึกฝนยอดเขาลำดับเก้า
“หืม?” ซูหมิงมองจักรพรรดิรุ่งอรุณเหยียนเผย
เหยียนเผยใจสั่น เขารู้สึกถึงความไม่พอใจจากคนข้างหลัง ตอนนี้จึงกัดฟันออกคำสั่งของจักรพรรดิรุ่งอรุณกับผู้ฝึกฌานเงามืดรุ่งอรุณกับสิ่งศักดิ์สิทธิ์หวนคืนไกลๆ
“บุกยอดเขาลำดับเก้า เริ่มสงคราม!”
เสียงคำรามดังก้องในเวลานี้ ไม่ว่าผู้ฝึกฌานเงามืดรุ่งอรุณกับสิ่งศักดิ์สิทธิ์หวนคืนจะเต็มใจหรือไม่ แต่ตอนนี้ แม้พวกเขาจะถูกลดพลังลงหกส่วน แต่จักรพรรดิรุ่งอรุณ เหยียนเผยออกคำสั่งแล้ว พวกเขา…จึงต้องทำสงคราม!