ตอนที่ 1295 วิชาแห่งเวลา
อวี่เซวียนมีสีหน้าเฉยชาเหมือนชินกับโชคชะตาแล้ว นั่งอยู่ตรงนั้นราวกับหุ่นไม้ มองความวุ่นวายตรงหน้า มองผู้ฝึกฌานเหล่านั้นหน้าเปลี่ยนสี นางไม่ได้รู้สึกอะไรกับเสียงคำรามของดวงจิตโลกแท้จริงจักรพรรดิยมโลก ราวกับว่า…นางไม่ใช่คนของโลกนี้
นางมองชายชราสวมชุดคลุมเทาบนฟ้าเป็นสายรุ้งยาวเข้ามา อาศัยโอกาสความวุ่นวายในตอนนี้เข้ามาใกล้ในพริบตา
ชายชราคนนั้นหน้าขาวซีด สีหน้าเศร้าเสียใจ และยังมีความแน่วแน่อยู่รางๆ เขาคือ…ท่านปู่โม่ซัง!
โม่ซังในตอนนี้ไม่ใช่ชายหนุ่มที่ซูหมิงเห็นในสำนักดาราสัจธรรมอีก แต่เป็น ชายชราเหมือนกับท่านปู่ในความทรงจำทุกประการ!
องค์ชายสามแห่งโลกนี้นั่งอยู่ตรงนั้นอย่างสงบนิ่ง มองโม่ซังเข้ามาใกล้ด้วยสีหน้าซับซ้อนที่คนนอกมองไม่เห็น ความซับซ้อนนี้อยู่ลึกมาก เหมือนยืดยาวเข้าไปถึงวิญญาณ
องค์ชายสามลอบถอนหายใจก่อนเบนสายตา ล้มเลิกความคิดจะยกมือขึ้น แต่หลับตาลง ทันทีที่หลับตา ท่านปู่โม่ซังเข้ามาใกล้อวี่เซวียนแล้ว
“ไป!” ท่านปู่โม่ซังคว้ามือซ้ายอวี่เซวียนเอาไว้ ความแน่วแน่ในแววตาส่งไปถึงดวงตาอวี่เซวียน ทำให้นางเงยหน้าขึ้นมองโม่ซัง ก่อนส่ายหน้าด้วยสีหน้าเฉยชา
ความเศร้าในแววตาท่านปู่โม่ซังเข้มขึ้นกว่าเดิม เขายกมือขวาตบตรงระหว่างคิ้วอวี่เซวียน แววตาเฉยชาของนางพลันสั่นไหวเหมือนเกิดการดิ้นรน ขณะเดียวกัน ท่านปู่ดึงอวี่เซวียนกลายเป็นสายรุ้งยาวพุ่งไปยังใบไม้ต้นไม้โบราณตรงหน้า
ตอนนี้บนใบไม้นั้นมีชายสวมชุดคลุมดำอยู่สามคน ในระหว่างเกิดความวุ่นวายรอบๆ พวกเขาต่างมีสีหน้าเคร่งขรึม ใต้เท้าพวกเขาเกิดแสงจากวงแหวนอาคมเคลื่อนย้ายสว่างวาบอย่างรวดเร็ว
องค์ชายสามลืมตาขึ้นมองโม่ซังพาอวี่เซวียนจากไปไกลอย่างรวดเร็วเงียบๆ มองพวกเขาสองคนอาศัยความวุ่นวายรอบๆ เข้าไปใกล้ใบไม้ที่วางวงแหวนอาคมเคลื่อนย้ายในพริบตา เมื่อแสงอาคมเคลื่อนย้ายสว่างวาบ ร่างเงาพวกเขาเลือนราง
องค์ชายสามถอนหายใจเบา เขาพึมพำในสิ่งที่มีเพียงเขาได้ยิน
“การเปลี่ยนแปลงของโลกแท้จริง เห็นได้ชัดว่าเขามาแล้ว…”
แทบเป็นช่วงที่องค์ชายสามพึมพำ บนใบไม้ไกลออกไป ร่างเงาท่านปู่โม่ซังกับ อวี่เซวียนเลือนรางจนแทบจะโปร่งใส ช่วงที่จะถูกเคลื่อนย้ายออกไปนั้น มีเสียงหึ เย็นชาดังก้องจากฟ้าดินปานฟ้าผ่า
ทันทีที่เสียงหึเย็นชาดังแว่วมา ซูเซวียนอีเดินออกมาจากบนฟ้า ข้างหลังคือผู้ยิ่งใหญ่ของโลกนี้ ข้างกายคือ จักรพรรดิรุ่งอรุณเหยียนเผยผู้มีสีหน้ายิ่งยโสในชุดคลุมดำ
ทั้งโลกเงียบสงบลง ผู้ฝึกฌานเกือบล้านคนบนต้นไม้โบราณหน้าขาวซีด แต่ขั้นพลังไม่ปั่นป่วน จิตสำนึกไม่สลายไปอีก แต่คืนสติกลับมา ทั้งฟ้าดินเหมือนถูกพลังมหาศาลควบคุม
“เวลาหวนคืน!” เสียงราบเรียบดังมาจากปากซูเซวียนอี ในน้ำเสียงแฝงไว้ด้วยแรงกดดันสูงสุด เหมือนว่าเมื่อเอ่ยจะเป็นไปตามนั้น ระหว่างที่คำพูดดังก้องโดยที่ไม่มีใครสงสัยนั้น วงแหวนอาคมเคลื่อนย้ายที่ท่านปู่โม่ซังกับอวี่เซวียนอยู่พลันสั่นสะเทือน จากนั้นร่างเงาสองคนสมจริงขึ้นจากเลือนรางประหนึ่งเวลาหวนคืน เพียงพริบตาก็ปรากฏกายในวงแหวนอาคมเคลื่อนย้ายใหม่
กระทั่งเพิ่งปรากฏกายในวงแหวนอาคมเคลื่อนย้าย ร่างเงาท่านปู่โม่ซังกับ อวี่เซวียนก็ถอยกลับมาทันที เหมือนกาลเวลาย้อนกลับทั้งหมดในก่อนหน้านี้ ท่านปู่โม่ซังกับอวี่เซวียนถอยมาอยู่ข้างองค์ชายสาม จนกระทั่งอวี่เซวียนกลับมา นั่งที่เดิม จนกระทั่งท่านปู่ถอยไปอีกครั้ง ตอนที่ถอยมาถึงวงแหวนอาคมเคลื่อนย้าย ซูเซวียนอีที่ยืนอยู่กลางอากาศยกมือขวาชี้ไปทางท่านปู่โม่ซัง
ระหว่างกาลเวลาทั้งโลกนี้พลันย้อนกลับ มีเพียงท่าปู่โม่ซังที่หยุดนิ่ง เหมือนกลายเป็นหินแน่นิ่งกลางสายน้ำไหล
ทั้งยังปรากฏเส้นถี่ขึ้นบนตัวเขาหลายชั้น มัดตัวเขาเอาไว้ทั่วร่าง เส้นเหล่านั้นคือร่องรอยของเวลา
เวลายังคงย้อนกลับ ผู้ฝึกฌานรอบๆ ต่างหน้าเปลี่ยนสี กลับมามีสีหน้าเจ็บปวดภายใต้เสียงคำรามของดวงจิตโลกแท้จริงอีกครั้ง แต่ไม่นานนักทุกอย่างก็ถูกเปลี่ยน จนกลับมาถึงพิธีแต่งงานอันครึกครื้นตอนที่ดวงจิตโลกแท้จริงยังไม่คำราม
อภินิหารเช่นนี้เรียกได้ว่าน่าตะลึง แม้พื้นที่การย้อนเวลาจะไม่ใหญ่มาก แต่กลับรวมผู้ฝึกฌานเกือบล้านคนเอาไว้ ความหวาดกลัวจากเหตุการณ์นี้เผยมาทางสีหน้าของผู้ยิ่งใหญ่โลกนี้ข้างหลังซูเซวียนอี เขาลมหายใจกระชั้น สายตาที่มองซูเซวียนอีมีความฮึกเหิมและเคารพเด่นชัด
กระทั่งต่อให้เป็นจักรพรรดิรุ่งอรุณเหยียนเผยยังหรี่ตาลงเล็กน้อย แต่ไม่นานนักก็ยิ้มมุมปาก ยิ่งตัวหมากที่เขาเลือกแกร่งมากเท่าไรก็ยิ่งมีประโยชน์กับเขามากเท่านั้น
‘สมกับเป็นเผ่ายมโลก เผ่ายมโลกใหญ่ในตอนนั้นถูกเรียกว่าเป็นหนึ่งในสามเผ่าแข็งแกร่งแห่งสู่โบราณ เทียบเคียงกับเผ่าหมานใหญ่ มีเหตุผลของมันจริงๆ’
หลายลมหายใจต่อมา การย้อนเวลาทั้งหมดพลันหยุดลง ทุกอย่างกลับมาปกติ ซูเซวียนอีใช้อภินิหารย้อนเวลาเปลี่ยนทุกอย่างราวกับว่าใช้กลอุบายลวงหลอก
“ห้ามใครรบกวนพิธีแต่งงาน วันนี้บุตรสาวข้าออกเรือน ขอบคุณสหายทุกท่านที่มาอวยพร จะให้งานกร่อยมิได้” ซูเซวียนอียิ้มเล็กน้อย ก่อนหมุนตัวกลับมาประสานมือคารวะจักรพรรดิรุ่งอรุณเหยียนเผย
“จักรพรรดิรุ่งอรุณเชิญ”
“วันนี้บุตรสาวสหายซูออกเรือน ข้าเป็นเพียงแขกเท่านั้น จะไปนำหน้าก่อนได้อย่างไร สหายซูอย่ายึดติดกับประเพณีนักเลย” จักรพรรดิรุ่งอรุณเหยียนเผยหัวเราะเสียงดังแล้วพูดขึ้นยิ้มๆ
ซูเซวียนอียิ้ม เขาไม่ได้พูดอะไรมาก แต่เมื่อคารวะแล้วก็เดินไปพร้อมกับจักรพรรดิรุ่งอรุณเหยียนเผย เดินไปทางองค์ชายสามกับอวี่เซวียน จนมาอยู่ตรงหน้าอวี่เซวียนกับองค์ชายสาม
องค์ชายสามมีสีหน้าปกติ ตอนที่ยืนขึ้นอวี่เซวียนก็ยืนขึ้นตามปานหุ่นไม้ถูกเชิด จากนั้นสองคนก็คารวะซูเซวียนอีกับจักรพรรดิรุ่งอรุณเหยียนเผยข้างๆ
โดยรอบเงียบสงบ อันดับแรกผู้ฝึกฌานล้านคนที่นี่ตกตะลึงกับอภินิหารของ ซูเซวียนอี ต่อให้เป็นหมิงหวงก็เช่นกัน แม้องค์ชายสามจะเป็นโอรสของเขา แต่ตอนนี้เหมือนว่าเขาจะไม่มีสิทธิ์พูดหรือเข้าร่วมใดๆ ใจคิดจะเดินมาร่วมด้วย ทว่าพอ ผู้ยิ่งใหญ่ที่ตามอยู่ข้างหลังซูเซวียนอีมองมาเรียบๆ แวบหนึ่ง หมิงหวงพลันใจ สั่นสะท้าน เขารีบหยุดฝีเท้า ลอบถอนหายใจ ในมุมมองเขา นี่ไม่ใช่บุตรชายเขาตบแต่งกับภรรยา แต่เรียกว่าซูเซวียนอีใช้บุตรสาวบังคับบุตรชายเขาตบแต่งด้วยต่างหาก
ซูเซวียนอีมองอวี่เซวียนก่อน จากนั้นมององค์ชายสามด้วยสีหน้าภูมิใจ เขามององค์ชายสามตรงหน้าด้วยรอยยิ้มมีเมตตาอย่างพบเห็นได้ยาก เพียงแต่ว่าทันทีที่เผยความเมตตา เขาก็มองอวี่เซวียนอีกครั้ง ทำให้คนนอกยากจะมองออกว่าความเมตตานี้เป็นของใคร
“วันนี้ถือเป็นโอกาสดีในพิธีแต่งงาน ข้าขอมอบสิ่งนี้อวยพรแก่คู่ชีวิตสองท่านนี้ ขอให้อยู่ด้วยกันตลอดไปจนแก่เฒ่า” จักรพรรดิรุ่งอรุณเหยียนเผยยิ้มเล็กน้อย ตอนที่ยกมือขวาขึ้น มีกระดิ่งสองใบเพิ่มมาในมือ ก่อนวางลงบนมืออวี่เซวียน
“ขอบคุณผู้อาวุโสมาก” อวี่เซวียนโค้งตัวพูดเสียงเบาด้วยสีหน้าเฉยชา องค์ชายสามข้างๆ คารวะอย่างมั่นคงแล้วพูดขอบคุณด้วยเสียงต่ำ
ด้วยพลังของจักรพรรดิรุ่งอรุณเหยียนเผย เขามองอวี่เซวียนแวบเดียวก็รู้แล้วว่าในตัวนางถูกคนวางผนึกไว้จำนวนมาก กระทั่งความคิด จิตวิญญาณยังถูกผนึก จากนั้นเขามององค์ชายสามอีกครั้ง กลิ่นอายพลังอีกฝ่ายค่อนข้างประหลาด แต่จักรพรรดิ รุ่งอรุณเหยียนเผยก็ไม่ได้อยากรู้อยากเห็นจะสนใจมากมัก ตอนนี้หลังมองอวี่เซวียน อย่างมีความหมายลึกซึ้งแล้วก็นั่งลงยังตำแหน่งพิเศษของวิหารใหญ่ ยิ้มมองผู้ฝึกฌานล้านคนข้างล่าง ซ่อนการเหยียดหยามและดูถูกทางสีหน้าเอาไว้
เขายกมือขวาโบกไป ทันใดนั้นท่านปู่โม่ซังที่ถูกเส้นถี่เวลามัดเอาไว้อยู่ไกลๆ ก็ถูกดึงเข้ามา ท่านปู่มีสีหน้าเรียบนิ่ง เพียงแต่นัยน์ตาฉายแววเศร้าโศก และจะเด่นชัดยามที่มองอวี่เซวียน
“เจ้าอยากดูพิธีแต่งงานจบก่อนค่อยตายหรือจะเป็นตอนนี้?” จักรพรรดิรุ่งอรุณเหยียนเผยถามขึ้นเรียบๆ น้ำเสียงแฝงไว้ด้วยอารมณ์ตัดสินความเป็นตายได้
ในเวลาเดียวกัน ซูเซวียนอีนั่งลงตรงส่วนที่จัดไว้สำหรับแขกพิเศษเช่นกัน เป็นข้างๆ จักรพรรดิรุ่งอรุณเหยียนเผย เขาไม่มองโม่ซังแม้แต่หางตา แต่มองแผ่นหลังอวี่เซวียนกับองค์ชายสามตรงหน้า ก่อนเบนสายตาไปมองผู้ฝึกฌานล้านคนด้วยรอยยิ้ม
“เริ่มพิธีแต่งงานได้” สิ้นเสียง ผู้ยิ่งใหญ่โลกนี้เดินออกมายืนอยู่ทางซ้าย พิธีแต่งงานอันยิ่งใหญ่นี้มีเขาเป็นพิธีกร
นอกดาวจักรพรรดิยมโลก ดวงจิตโลกแท้จริงจักรพรรดิยมโลกำลังคำราม เสียงดังก้องไปทั้งโลกแท้จริงจักรพรรดิยมโลก แต่กลับส่งไปไม่ถึงต้นไม้โบราณ บนทะเลกว้างใหญ่ที่ถูกซูเซวียนอีบิดมิติเอาไว้ ซูเซวียนอีก็มองไม่เห็นซูหมิงเส้นผมยาว สวมชุดคลุมขาวกลางฟ้าแห่งนี้ที่กำลังเดินมาทีละก้าวเช่นกัน จุดที่เขาผ่าน เสียงคำรามของโลกแท้จริงจักรพรรดิยมโลกจะแหลมเล็กขึ้นเรื่อยๆ แต่มันกลับหมดกำลังแล้ว ดวงจิตของซูหมิงกำลังค่อยๆ กำเนิดขึ้นในช่วงที่โลกแท้จริงจักรพรรดิยมโลกกำลังหมดแรง ค่อยๆ ยึดครองบทบาทหลัก
หลังจากซูหมิงที่มีโลกแท้จริงดาราโบราณในมหาโลกซางเซียงมายังโลกแท้จริงจักรพรรดิยมโลก ดวงจิตของโลกนี้ก็ไม่อาจต่อต้านกับความตายที่ถูกลิขิตเอาไว้ได้แล้ว
ในเวลาเดียวกัน ซูเซวียนอียังไม่เห็นอีกว่าในโลกแท้จริงจักรพรรดิยมโลกตอนนี้ ร่างเงากระเรียนขนร่วงกับมังกรยมโลกกำลังออกจากดาวแท้จริงดวงหนึ่งด้วยท่าทีลึกลับ พวกมันเอาหินผลึกทั้งหมดจากในดาวดวงนั้น กระทั่งเหมืองหินผลึกที่ซ่อนอยู่ใต้ดินยังยากจะหนีรอดจากกงเล็บของกระเรียนขนร่วง
ภายใต้การนำทางของมังกรยมโลก กระเรียนขนร่วงกำลังมุ่งหน้าไปยังอีกดาวหนึ่งอย่างลำพองใจและตื่นเต้นอย่างรวดเร็ว
กลางฟ้า ซูหมิงมีสีหน้าราบเรียบ ทุกก้าวที่เดินไปจะไม่มีที่สิ้นสุด ข้างหลังเขา รวมออกมาเป็นดวงจิตของเขาแล้ว โลกแท้จริงจักรพรรดิยมโลกยากจะต่อต้านกับ แรงกดดันมหึมาของดวงจิตนี้ได้ ทำได้เพียงร้องคำรามไร้เสียงอย่างดิ้นรนก่อนตาย
พลังและดวงจิตของตัวเอง การเป็นผู้แข็งแกร่งที่สุดในยุคนี้ ซูหมิงมีคุณสมบัติชำเลืองตามองทุกสรรพสัตว์ ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายเงามืดรุ่งอรุณหรือสิ่งศักดิ์สิทธิ์หวนคืน และยังมีสามรกร้าง พูดได้ว่าไม่มีเส้นทางใดที่ซูหมิงเดินไม่ได้ และมีน้อยคนนักที่จะหยุดเขาได้
ซูหมิงหยุดฝีเท้าลงเงียบๆ ยืนอยู่นอกดาวจักรพรรดิยมโลก มองดาวแท้จริงยักษ์ ที่รวมจากดาวพันดวงตรงหน้า เขาเห็นทะเลในนั้น เห็นต้นไม้โบราณ และก็เห็น คนเหล่านั้นบนต้นไม้โบราณ
“ข้ามาแล้ว…” ซูหมิงพูดเบาๆ
แทบเป็นช่วงที่ซูหมิงมองไป ต้นไม้โบราณยักษ์นั้นสั่นสะเทือนเป็นครั้งแรกในรอบไม่รู้กี่ปีในยุคนี้!