Skip to content

สู่วิถีอสุรา 1412

ตอนที่ 1412 เตรียมขอบเขตวิญญาณเต๋า

นี่คือร่างจริงซูหมิงที่นั่งฌานอยู่ลืมตาเป็นครั้งแรกในรอบสี่สิบกว่าปีมานี้ และเป็นครั้งแรกหลังจากบุกสิบแปดวงแหวนอาคมในตอนนั้น!

ต่อให้ไปงานประชุมผู้อาวุโส เขาก็ให้ร่างเงาไป ต่อให้ชายหนุ่มคิ้วกระบี่พูดจาดูถูกมากมายก่อนหน้านี้ เขาก็ยังไม่ลืมตาแม้แต่น้อย กระทั่งร่างเงาทั้งหมดถูกทำลายไป ทีละร่าง เขาก็ยังไม่ลืมตา!

มีเพียงตอนนี้ที่ลืมตาเป็นครั้งแรกในรอบหลายปี เผยแสงหม่นในดวงตา แทบเป็นช่วงที่เขาลืมตาขึ้นก็สบตาเข้ากับชายหนุ่มคิ้วกระบี่ ชายหนุ่มคิ้วกระบี่หน้าเปลี่ยนสี ในใจตอนนี้เหมือนมีสายฟ้าเป็นพันเป็นหมื่นสายระเบิดพร้อมกัน กลายเป็นเสียง ดังสนั่น ทำให้ใจเต้นระรัวโดยไม่รู้สาเหตุ ภยันตรายเป็นตายร้ายแรงยากจะบรรยายพลันปกคลุมในใจ

ภยันตรายนี้มาอย่างกะทันหันยิ่ง ชั่วขณะที่ชายหนุ่มคิ้วกระบี่ตั้งตัวไม่ทัน ซูหมิงยืนขึ้นแล้ว ตอนนี้เองกระบี่ใหญ่นั้นฟันลงที่หัวเขา แต่ตอนที่ห่างเจ็ดชุ่น เหมือนว่าถูกพลังไร้รูปขวางเอาไว้ ยากจะกดลงได้อีก

“ระเบิด!”ชายหนุ่มคิ้วกระบี่เป็นผู้แข็งแกร่งจิตเต๋าขั้นสอง มีประสบการณ์ในการรบมาโชกโชน ตอนนี้ตะโกนออกไปอย่างไม่ลังเล ซ้ำยังเดินหน้าเข้าไปหาซูหมิง

เกิดเสียงดังสนั่นหวั่นไหว กระบี่ใหญ่ระเบิดออกกลายเป็นเศษเหลือคณานับจมร่างซูหมิงในทันใด ในเวลาเดียวกัน ร่างเงาชายหนุ่มคิ้วกระบี่ยังพุ่งตามเข้าไปใน มวลอากาศ แต่ช่วงที่พุ่งเข้าไปและเกิดเสียงร้องด้วยความตกใจนั้น ร่างชายหนุ่มกระเด็นถอยไปร้อยจั้ง กระอักเลือด มีสีหน้าเหลือเชื่อ

ยามที่มองไป เศษกระบี่ใหญ่บิดเบี้ยว อีกทั้งยังเหมือนหยุดนิ่ง ลอยอยู่ กลางอากาศทั้งหมด ซูหมิงในนั้นมีสีหน้าสงบนิ่ง เมื่อเดินออกมาทีละก้าวแล้วก็มายืนอยู่ตรงนั้น ใต้ร่างไม่มีเงา

กลิ่นอายพลังที่ทำให้ชายหนุ่มคิ้วกระบี่ตกใจกำลังรวมอยู่ที่ตัวซูหมิงอย่างบ้าคลั่ง

“ต้องขอบใจเจ้า เป็นเพราะเจ้ามาเลยช่วยข้าให้หลอมรวมเจ็ดเงาได้ รวมเป็น…เงาเต๋าของข้า! ความรู้สึกหลอมรวมเงาเต๋าก็ไม่เลว” ซูหมิงมองร่างกายตัวเองแล้วยิ้มเล็กน้อย ทันใดนั้นเดินหน้าไปหนึ่งก้าว วูบเดียวก็มาปรากฏอยู่ตรงหน้าชายหนุ่ม คิ้วกระบี่ ยกมือขวาโบกไปสบายๆ ส่วนชายหนุ่มคิ้วกระบี่หน้าเปลี่ยนสี ยกสองมือขึ้นประสานมุทรา ปรากฏแสงกระบี่นับไม่ถ้วนขยับวิบวับอยู่ข้างหลัง ก่อนกลายเป็นจำนวนมากกว่าล้านเล่มพุ่งไปหาซูหมิง

“ฝีมือต่ำต้อย ไม่รู้จักประมาณตน นี่คือภัยของเจ้า เจ้า…ผ่านไปไม่ได้หรอก” ซูหมิงพูดขึ้นเรียบๆ นี่คือคำพูดของชายหนุ่มคิ้วกระบี่ก่อนหน้านี้

เมื่อเผชิญหน้ากับแสงกระบี่ล้านเล่ม ซูหมิงเพียงแค่สะบัดมือขวา ฟ้าดินเกิดเสียงดังกึกก้อง แสงกระบี่เหล่านั้นพลันหยุดค้างอยู่กลางอากาศราวกับถูกหยุด แต่มือขวา ซูหมิงกดที่หน้าอกชายหนุ่มที่กำลังถอยไปด้วยสีหน้าหวาดกลัว

ระหว่างที่ฝ่ามือซูหมิงเข้ามาใกล้ นอกตัวชายหนุ่มปรากฏม่านแสงซ้อนทับกันมากกว่าพันชั้น แต่ตอนที่ฝ่ามือซูหมิงพุ่งเข้ามาปะทะ มันกลับแตกออกเป็นชั้นๆ เพียงพริบตาเดียวก็พังลงทั้งหมด ฝ่ามือซูหมิงจึงกดที่หน้าอกชายหนุ่ม

เกิดเสียงโครมดังขึ้นพร้อมกับเสียงร้องโหยหวนจากชายหนุ่ม ร่างเขากระเด็นถอยไปราวกับว่าวเชือกขาด จนกระทั่งถอยไปหลายร้อยจั้งแล้ว ตรงหน้าอกขยับแสง วูบวาบ รวมเป็นหินผลึกแตกก้อนหนึ่ง จนหินผลึกแหลกเป็นผุยผง เหมือนว่ามันรับการโจมตีแทนเขา ตอนนี้ชายหนุ่มคิ้วกระบี่มีสีหน้าเหลือเชื่อ ยากจะยอมรับได้ว่า องค์ชายสามที่ตนดูถูกเตรียมจะสังหารโหด ตอนนี้กลับแข็งแกร่งจนน่าเหลือเชื่อ เหตุกาณ์เปลี่ยนไปเร็วเกินไป พลิกกลับมาร้ายรุนแรงยิ่งนัก จนเขาเหม่อลอยเล็กน้อยราวกับฝันไป

แต่หินผลึกปกป้องชีวิตที่แตกไปนั้นกลับเตือนเขาอยู่ตลอด ทำให้เขาสูดลมหายใจเข้าด้วยความตกใจ ไม่อาจซ่อนความหวาดกลัวในแววตาได้เลย

“จะ…เจ้ามีพลังระดับใด!”

“พลังของข้า…” ซูหมิงมีสีหน้าเรียบนิ่ง หลับตาลงเล็กน้อยก่อนลืมตาในฉับพลัน เส้นผมยาวขยับไหวเองแม้ไร้ลม อาภรณ์สะบัดอย่างรุนแรง กลิ่นอายพลังปะทุขึ้นด้วยความเร็วน่าตกใจ จนชายหนุ่มคิ้วกระบี่ตกตะลึงจนเหมือนลมหายใจค้าง

นั่นไม่ใช่จิตเต๋าขั้นหนึ่ง และก็ไม่ใช่จิตเต๋าขั้นสอง แต่เป็น…ขอบเขตวิญญาณเต๋าของจิตเต๋าขั้นสาม!

ทั้งฟ้าเหนือฟ้าชั้นห้าสั่นสะเทือน ท้องฟ้าหมุนม้วน แผ่นดินเกิดเสียงดังครึกโครม สิบสามยอดเขาสั่นไหวพร้อมกัน ราวกับว่าตอนนี้ร่างเงาซูหมิงคือดวงตะวันที่สว่างจ้าที่สุดในฟ้าเหนือฟ้าชั้นห้า

พริบตาที่กลิ่นอายพลังรวมถึงพลังแผ่กระจายออกมา ก็เหมือนว่าจะหยุดการโคจรของกฏฟ้าเหนือฟ้าชั้นห้าทั้งหมด กระทั่ง…ในกฏนั้น…มีพลังย้อนเวลาเสี้ยวหนึ่ง!

เหตุการณ์นี้ไม่เพียงทำให้ชายหนุ่มคิ้วกระบี่หน้าเปลี่ยนสีอย่างรุนแรง แม้แต่ ทุกคนบนฟ้าเหนือฟ้าชั้นเจ็ดยังหรี่ตาลง ช่วงที่เสียงหัวเราะดังมาจากสวี่จงฝาน กู่ไท่ผู้อาวุโสใหญ่แห่งสายเลือดที่หนึ่งยิ้มมุมปาก

เด็กชายเซินมู่ตรงข้ามพวกเขา ตอนนี้ยังคงนั่งขัดสมาธิ แต่มีสีหน้าปั้นยากเล็กน้อย โดยเฉพาะนัยน์ตามีความตกใจเสี้ยวหนึ่ง

เขาตกใจว่าพลังซูหมิงคือวิญญาณเต๋าขั้นสาม อีกทั้งยังน่าจะเพิ่งทะลวงพลัง ไม่นานมานี้ เลยยังไม่เสถียร หรือพูดได้ว่า…นี่ไม่ใช่การทะลวง แต่ใช้การรวมเงาเต๋า ฝืนผลักดันเตรียมขอบเขตวิญญาณเต๋า!

เขายังต้องผ่านเสียงแห่งวิญญาณเต๋าส่งฟ้าครั้งหนึ่งถึงจะบรรลุขอบเขตวิญญาณเต๋าที่รวมกับวิญญาณแห่งฟ้าดินเป็นหนึ่งอย่างแท้จริง! แต่ไม่ว่าอย่างไรก็ตามพลังที่ซูหมิงปล่อยออกมาก็แกร่งจนเถียนเหอไม่อาจต้านไหว

ขณะเดียวกันที่ทำให้เซินมู่หรี่ตาลงคือในฟ้าเหนือฟ้าชั้นห้าตอนนี้ ช่วงที่ ซูหมิงแผ่กลิ่นอายพลัง กาลเวลาเกิดการหยุดนิ่งและมีเค้าลางย้อนกลับเสี้ยวหนึ่ง ในนั้น เซินมู่ไม่สนใจกาลเวลาหยุดนิ่ง แต่เขาสนใจ…พลังการย้อนเวลาเสี้ยวนั้น

เซินมู่ยังเป็นเช่นนี้ จึงยิ่งไม่ต้องพูดถึงชายหนุ่มคิ้วกระบี่ที่เผชิญหน้ากับซูหมิงโดยตรง ทันทีที่ซูหมิงเผยพลังออกมาทั้งหมด ทั้งตัวเขาถูกความหวาดกลัวและ ตื่นตกใจเข้ามาแทนที่จิตใจ

เขาจะไปคาดคิดได้อย่างไรว่าการสังหารที่ดูเหมือนง่ายในมุมมองเขาจะเกิดการกลับตาลปัตรที่รับไม่ได้เช่นนี้ เดิมทีเขาควรเป็นผู้แข็งแกร่ง ควรสังหารองค์ชายสามอย่างตื่นเต้น สำเร็จโชคชะตาตัวเอง มันควรจะเป็นแบบนี้ แต่ว่า…กลับกลายเป็นอย่างตอนนี้เสียได้!

คนที่เขามาสังหารกลายแข็งแกร่งเหนือกว่าตน จากเขาที่เป็นผู้แข็งแกร่งกลับกลายเป็นผู้อ่อนแอ เหตุการณ์ต่างๆ ทำให้ชายหนุ่มคิ้วกระบี่รู้สึกว่าทุกคำพูดของตนก่อนหน้านี้ ความตื่นเต้น ความอวดดีทั้งหมด กลายเป็นเรื่องตลกที่ไร้สาระจนยากจะบรรยาย!

ไม่อยากเชื่อว่าเขาคิดจริงๆ ว่าตนแกร่งจนสังหารคนตรงหน้าได้ ซ้ำยังใช้อำนาจบาตรใหญ่ต่อหน้าผู้แข็งแกร่งขอบเขตวิญญาณเต๋า!

ทุกอย่างนี้กลายเป็นความเย็นเยียบ ชายหนุ่มคิ้วกระบี่มีสีหน้าคลุ้มคลั่ง ร้องคำรามพลางห้อเหยียดถอยไป ก่อนยกสองมือขึ้นตบระหว่างคิ้ว เส้นเลือดปูดนูนขึ้นบนตัว ตามตัวยังปรากฏรอยร้าวขึ้นมากมาย

“กระบี่เต๋าชะตาจริง!” ช่วงที่ชายหนุ่มคิ้วกระบี่ตะโกนเสียงแหบแห้ง เกิดเสียงโครมดังมาจากตัวเขา กระบี่สีโลหิตหลายต่อหลายเล่มพุ่งออกมาจากในรอยร้าวตามตัว รวมกันตรงหน้าเขากลายเป็นกระบี่ใหญ่สีโลหิตเล่มหนึ่ง ก่อเป็นทะเลโลหิต สูงขึ้นฟ้า พุ่งตรงไปหาซูหมิง

ชายหนุ่มคิ้วกระบี่สู้สุดชีวิตแล้ว!

“วิชาไม่เลว น่าเสียดาย…อ่อนแอเกินไป” นัยน์ตาซูหมิงฉายแววเย้ยเยาะ พูดแบบเดียวกับชายหนุ่มคิ้วกระบี่ก่อนหน้านี้ ระหว่างนั้นเองเขายกมือขวาชี้ขึ้นฟ้า

“ฤดูหนาว เงาแห่งฟ้า!” ซูหมิงเคยให้ร่างเงาใช้วิชานี้มาก่อน ตอนนั้นชายหนุ่ม คิ้วกระบี่กล่าวดูถูก แต่ยามนี้ที่ซูหมิงใช้ เขากลับหน้าซีดขาว

ทั้งผืนฟ้าในเวลานี้กลายเป็นสีดำ ฟ้าสีดำเหมือนแตกออกหลุดร่วงลงมา หิมะนับไม่ถ้วนโปรยปราย หิมะเหล่านั้นไม่ใช่สีขาว แต่เป็น…สีดำ!

ขณะที่หิมะสีดำโปรยลงมาบนฟ้าเหนือฟ้าชั้นห้า ซูหมิงกดมือขวาลง ชี้ไปยัง ชายหนุ่มคิ้วกระบี่

“ข้าจะมอบภัยแห่งฟ้าฤดูหนาวแก่เจ้า” เมื่อสิ้นเสียงราบเรียบจากซูหมิง หิมะสีดำที่ปกคลุมฟ้าเหนือฟ้าชั้นห้าทั้งหมดหยุดชะงักครู่หนึ่งแล้วพุ่งตรงไปยัง ชายหนุ่มคิ้วกระบี่ด้วยความคมกริบ

มองไปภาพนี้เหมือนกับเงาแห่งฟ้ามาเยือน หมายจะละลายชายหนุ่มคิ้วกระบี่ให้เป็นส่วนหนึ่งของเงายามราตรี!

“บรรพบุรุษช่วยข้าด้วย!” ชายหนุ่มคิ้วกระบี่กรีดร้องเสียงแหลม กระบี่โลหิตตรงหน้ารุนแรงขึ้น เปล่งแสงโลหิตขึ้นฟ้า พาทะเลโลหิตข้างหลังส่งเสียงดัง มิหนำซ้ำเขายังทำสัญลักษณ์มือซ้ายตบที่หน้าอก ตอนกระอักเลือด ยอดเขาสิบสามลูกรอบๆ เกิดเสียงดังครึกโครม ปรากฏกระบี่ขึ้นสิบสามเล่มโดยพลันก่อนเข้าต้านหิมะสีดำที่หมุนม้วนเข้ามารอบๆ ส่วนชายหนุ่มคิ้วกระบี่คว้ากระบี่โลหิตเล่มหนึ่งชี้กระบี่พุ่งไปทางซูหมิง

ระหว่างที่เขาพุ่งเข้ามา กระบี่โลหิตสิบสามเล่มรอบๆ หลอมรวมเข้าไปในกระบี่ในมือเขาทีละเล่ม พลังจิตเต๋าขั้นสองเหมือนปะทุถึงจุดสูงสุดในตัวเขา ทำให้ความเร็วเขาเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

แต่ว่าทะเลโลหิตข้างหลังพลันถูกหิมะสีดำปกคลุม ถูกแช่แข็งไว้ อีกทั้งระหว่างที่เขาพุ่งเข้ามายังถูกพายุหิมะสีดำโอบล้อม แม้แต่เสียงร้องแหลมยังค่อยๆ หายไปในเสียงพายุหิมะ

ซูหมิงมีสีหน้าปกติ แน่นิ่ง มองชายหนุ่มคิ้วกระบี่เข้ามาใกล้อย่างเย็นชา จนกระทั่งปลายกระบี่ห่างจากระหว่างคิ้วตนสิบชุ่น ร่างชายหนุ่มคิ้วกระบี่แข็งค้าง เบิกตากว้าง มองซูหมิงด้วยดวงตาไร้ประกายวาว ร่างเขาเกิดเสียงดังกึกๆ ถูกหิมะสีดำคลุมทั่วร่าง จนเมื่อดวงตาไร้ประกายวาวที่เหลืออยู่เป็นอย่างสุดท้ายถูกหิมะสีดำ ปกคลุม ร่างกายเขา…ราวกับละลายอยู่ในเงามืด

ซูหมิงยืนอยู่กลางอากาศด้วยสีหน้าราบเรียบ เงยหน้าขึ้นประหนึ่งมองผ่าน ฟ้าเหนือฟ้าชั้นห้าไปยังชั้นเจ็ด ก่อนประสานมือคารวะ

“ไม่ทำลายก็ไม่เกิด ขอบคุณท่านเจ้าสำนักที่ชี้แนะ”

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version