ตอนที่ 1418 สามคือลึกซึ้ง
หนึ่งเริ่มต้น สามลึกซึ้ง หกแข็งแกร่ง เก้าสูงสุด!
ซูหมิงในตอนนี้ ทันทีที่เปล่งเสียงวิญญาณเต๋าที่สามก็บรรลุถึงระดับลึกซึ้ง! เมื่อเสียงดังก้อง เสียงคำรามแฝงไว้ด้วยความบ้าคลั่ง ดังก้องฟ้าดินไปยังพื้นที่ สามร้อยล้านลี้ของเสียงวิญญาณเต๋าที่สอง เมื่อหลอมรวมกับเสียงสะท้อนสองเสียงแล้ว ทำให้เสียงวิญญาณเต๋าที่สามดังสนั่นไปรอบๆ!
ระยะห่างขยายออกไปเรื่อยๆ สามร้อยล้านลี้ สี่ร้อยล้านลี้ ห้าร้อยล้านลี้…จนกระทั่งสามเสียงวิญญาณเต๋าซ้อนรวมกันดังน่าสะพรึงไปถึงพันล้านลี้…ฟ้าดินแห่งนี้เกิดเสียงดังสนั่น เสียงยังคงดังออกไปเหมือนกลายเป็นราชาในพื้นที่แห่งนี้!
จุดที่สำนักเจ็ดจันทราอยู่คือทางตะวันตกของแคว้นกู่จั้ง ตอนนี้พื้นที่เสียงวิญญาณเต๋าไม่ได้ปกคลุมทั้งตะวันตก แต่ก็ขยายไปไกลไม่น้อย
ทางตะวันตกของแคว้นกู่จั้ง นอกจากสำนักเจ็ดจันทราแล้วยังมีอีกหนึ่งสำนักกับสองฝ่าย คือสำนักห้าธาตุกับฝ่ายโผบินรวมถึงฝ่ายแม่น้ำสวรรค์ สามแห่งนี้มีชื่อเสียงพอๆ กับสำนักเจ็ดจันทรา ศักยภาพก็พอๆ กัน ทันทีที่เสียงวิญญาณเต๋าของซูหมิง ปกคลุม ผู้ฝึกฌานในสามแห่งนี้พลันรู้สึกได้อย่างรุนแรง จึงพากันตื่นจากสมาธิ ลืมตาขึ้นจากการฝึกฝนยามเช้าตรู่
คนจากสามแห่งนี้หน้าเปลี่ยนสีอย่างรุนแรง ผู้ฝึกฌานระดับต่ำเหล่านั้นส่วนใหญ่สับสน ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น มีเพียงบางส่วนที่รู้มากกว่า หรือคนที่บรรลุถึงขั้นไม่อาจกล่าวกระทั่งจิตเต๋าถึงจะรู้ว่าเสียงคำรามสนั่นฟ้าดินนี้หมายถึงอะไร
โดยเฉพาะมองไปบนฟ้าเต็มไปด้วยระลอกคลื่น มีจิตสัมผัสของซูหมิง ระลอกคลื่นเหล่านั้นเห็นเป็นใบหน้าซูหมิงรางๆ ในการสั่นสะเทือนของแผ่นดินมีกลิ่นอายพลัง ซูหมิง ทุกอย่างนี้กลายเป็นเครื่องยืนยันเสียงวิญญาณเต๋า!
“นี่มัน…มีคนเคาะเสียงวิญญาณเต๋า ใช้เสียงหลอมรวมฟ้าเปลี่ยนกายเต๋าตัวเองให้เป็นวิญญาณเต๋า!”
“มองจากทิศทางแล้ว…น่าจะเป็นสำนักเจ็ดจันทรา! แต่เจ็ดสำนักสิบสองฝ่ายแคว้นกู่จั้งเรา เวลาผู้ฝึกฌานเคาะเสียงวิญญาณเต๋าจะทำกันในแดนต้องห้ามของ แต่ละสำนัก จะไม่ให้คนนอกรู้เช่นนี้ เพราะเสียงวิญญาณเต๋าสำคัญมาก ห้ามรบกวนแม้แต่น้อย!”
“สำนักเจ็ดจันทราอนุญาตให้ผู้ฝึกฌานคนนี้เคาะเสียงวิญญาณเต๋าเช่นนี้ได้จะต้องมีเป้าหมายอย่างแน่นอน!”
จิตสัมผัสส่งต่อๆ กันไป ขณะเดียวกับที่ผู้ฝึกฌานแต่ละสำนักในสามสำนักใหญ่เกิดความตื่นตกใจ บนฟ้าสำนักเจ็ดจันทรา ซูหมิงระเบิดพลังออกไปอย่างต่อเนื่องจนบรรลุถึงขีดสุด นี่คือพลังของเขาที่ใช้ผลักดันเสียงวิญญาณเต๋าสามเสียง ตอนนี้ซูหมิง ดวงตาวาววับ เขารู้สึกว่าด้วยพลังของตนในตอนนี้…เหมือนจะตะโกนเสียง วิญญาณเต๋าได้อีกเสียง
‘ตั้งแต่โบราณจนมาถึงตอนนี้ ขอบเขตวิญญาณเต๋าส่วนใหญ่จะเปล่งเสียงวิญญาณเต๋าที่ประมาณหนึ่งถึงสามครั้ง มีไม่มากที่เกินสามครั้ง และมีน้อยกว่าที่ ถึง หกครั้ง…พบเห็นได้ยากคือถึงเก้าครั้ง แต่ว่า…ทุกคนที่เคยถึงเก้าครั้งตอนนี้ยัง ไม่มีใครตาย ล้วนเป็นมหาเต๋าสูงศักดิ์กันทั้งหมด!’ ดวงตาซูหมิงขยับประกายวาว ในความคิดลอยขึ้นมาเป็นคำอธิบายเสียงวิญญาณเต๋าในแผ่นหยกที่สวี่จงฝานมอบให้
ยามนี้สูดลมหายใจเข้าลึก โคจรพลังในร่างกายให้ถึงจุดสูงสุดอยู่บนฟ้า ตอนที่ปะทุพลังต่อไป ดวงตาที่สามตรงระหว่างคิ้วเปิดออก ร่างเงาเต๋าสามร่างในนั้นดวงตาเปล่งประกาย เหมือนส่งเสริมถึงจุดสูงสุดเช่นกัน ตอนนี้เองซูหมิงอ้าปากเปล่งเสียงวิญญาณเต๋าที่สี่
อ๊าก!
เสียงวิญญาณเต๋าที่สี่พลันปกคลุมในระยะแปดร้อยล้านลี้ก่อนดังก้องไปไกลกว่าเดิม มันขยายไปไม่หยุด จุดที่ผ่านฟ้าดินจะเกิดเสียงดังสนั่น ระลอกคลื่นบนฟ้ากับแผ่นดินสั่นสะเทือนเหมือนสร้างเป็นใบหน้ามายาของซูหมิงกำลังคำรามถาโถมใส่ทุกอย่าง
เมื่อรวมกับเสียงวิญญาณเต๋าสามเสียงก่อนหน้านี้แล้ว เสียงวิญญาณเต๋าที่สี่นี้สะเทือนสามสำนักใหญ่ทางตะวันตกของแคว้นกู่จั้ง ทั้งยังขยายออกไปอย่างต่อเนื่อง ในที่สุดก็ปกคลุมพื้นที่ทางตะวันตกทั้งแคว้นกู่จั้ง ทำให้ทุกสิ่งมีชีวิตทางตะวันตกได้ยินเสียงคำรามอย่างชัดเจน!
แต่นี่…ยังห่างจากที่กู่ไท่บอกว่าให้สะเทือนทั้งแคว้นกู่จั้งอีกมาก ในผู้แข็งแกร่งวิญญาณเต๋าแห่งแคว้นกู่จั้งมีไม่น้อยที่เคยคำรามสี่เสียงวิญญาณเต๋ามาแล้ว เพียงแค่ สี่เสียง…ยังไม่สร้างความตกตะลึงอะไร อย่างมากสุดก็แค่ให้ผู้ฝึกฌานทางตะวันตก หูกระเทือน ยังห่างจากที่จะให้พวกเขาหวาดกลัวอีกไกลลิบ
ทว่า…ถึงตอนนี้ พลังซูหมิงเกือบจะถึงจุดสูงสุดแล้ว ลำพังอาศัยเพียงพลังอย่างเดียว คงเปล่งเสียงวิญญาณเต๋าที่ห้าไม่ได้ ถึงอย่างไรนี่ก็ไม่ใช่การคำรามธรรมดา นี่คือการนำพลังทั่วร่าง นำวิญญาณ นำชีวิตรวมถึงทุกอย่างหลอมรวมกันแล้วเปล่งเสียงที่เหมือนกับชีวิต
และมีเพียงเสียงแบบนี้ที่สะเทือนฟ้าดินได้ ถึงให้เสียงตนเป็นที่จดจำของฟ้าดินราวกับตราประทับได้ ในระหว่างที่ให้จดจำนี้ ระลอกคลื่นบนฟ้าจะชะล้างกายเต๋าเขา การสั่นสะเทือนแผ่นดินจะผลัดเปลี่ยนกายเต๋า จนกระทั่งถึงตอนสุดท้าย ตอนที่ ซูหมิงดึงทุกอย่างกลับมา…เขาจะก้าวสู่ขอบเขตวิญญาณเต๋าอย่างแท้จริง!
ความจริงแล้ว แม้ตอนนี้ซูหมิงจะเก็บจิตสำนึกและกลิ่นอายพลังหลังตะโกนสี่เสียงแล้ว เขาก็จะก้าวสู่ขอบเขตวิญญาณเต๋าอยู่ดี แต่วิญญาณเต๋าแบบนี้มีขีดจำกัดในอนาคต นี่ไม่ใช่เส้นทางที่เขาต้องการ เพื่อให้ตนแกร่งขึ้น เพื่อให้ลืมตาในตอนสุดท้ายในการ ยึดร่างเสวียนจั้ง เขาเข้าใจว่าต้องตนแกร่งขึ้น!
เป้าหมายของเขาคือ เทพเต๋าขั้นเก้า เป้าหมายของเขา…คือเต๋าไร้ที่สิ้นสุด!
เสียงวิญญาณเต๋าที่สี่ดังกึกก้อง นัยน์ตาซูหมิงฉายแววยึดมั่น เขาแทบจะใช้พลังเกินตัวแล้ว ในปากยังมีรสชาติของโลหิต ร่างกายสั่นไหวกลางระลอกคลื่นและแผ่นดินสะเทือนทั้งทางตะวันตก เพราะว่าเสียงวิญญาณเต๋า นอกจากความยากตอน คำรามแล้ว เพราะต้องรวมเสียงแห่งชีวิตทั้งหมด ดังนั้นตอนที่คำรามจะเท่ากับว่าใช้ร่างกายเกินขีดจำกัด มีตอนที่ยืนหยัดจนยืนหยัดไม่ไหวแล้วเท่านั้น เมื่อดึงทุกอย่างกลับมาถึงจะฟื้นตัวในพริบตา
แต่ว่าตอนที่ยังไม่ดึงกลับมา หากยังเปล่งเสียงวิญญาณเต๋าอยู่เรื่อยๆ การใช้งานเกินขีดจำกัดจะสาหัสขึ้น อีกทั้งยังมีการเปลี่ยนแปลงของระลอกคลื่นฟ้าดินกับแผ่นดินสะเทือนที่ทำให้เกิดการใช้งานเกินขีดจำกัดมากกว่าเดิม ซึ่งจริงๆ แล้วนี่ก็เป็นหนึ่งในสาเหตุที่การเคาะเสียงวิญญาณเต๋ามีน้อยคนที่จะเกินหกเสียง
‘คุณสมบัติข้าธรรมดา เรื่องนี้ข้ารู้ตั้งแต่อยู่ภูเขาทมิฬแล้ว ถึงอย่างไรแม้จะเป็น คนเผ่ายมโลก นอกจากพรสวรรค์แล้วก็ยังมีความตื้นลึกของคุณสมบัติ… ที่แท้คุณสมบัติข้าจำกัดอยู่ที่สี่เสียง’ ซูหมิงยิ้มเยาะมุมปาก ในรอยยิ้มไม่มีความขมขื่น เพราะเมื่อโลกซางเซียงถูกทำลาย เขาไม่มีความขมขื่นแล้ว เมื่อสังหารฝ่าย เงามืดรุ่งอรุณกับสิ่งศักดิ์สิทธิ์หวนคืนในช่วงสุดท้าย เขาเข้าสู่ความคลุ้มคลั่ง
ตอนนี้ความเข้าใจต่อคุณสมบัติกลับทำให้ในใจเขาเกิดความไม่ยอมอย่างรุนแรง
‘คุณสมบัติเช่นนี้ ข้าก็ต้องคำรามเสียงวิญญาณเต๋าให้ได้มากกว่านี้! เพราะว่านอกจากพลังแล้ว ข้ายังมี…ดวงจิต!’ ซูหมิงสะบัดแขนเสื้อ ดวงจิตดาราสัจธรรมปะทุออกมาจากในร่างกาย ตอนนี้เองพลังไร้รูปที่ต่างจากในแคว้นกู่จั้งอย่างชัดเจน พลันวนเวียนรอบตัว ช่วงที่เส้นผมปลิวไสว เขาเงยหน้าขึ้นใช้ดวงจิตคำรามเสียงวิญญาณเต๋าที่ห้า!
อ๊าก!
ทันทีที่เสียงดังออกไป ทางตะวันออกของแคว้นกู่จั้งพลันสั่นสะเทือน โดยเฉพาะ ผู้ฝึกฌานในสำนักเจ็ดจันทราต่างมีสีหน้าตื่นเต้น พวกเขามองซูหมิงเหมือนนึกถึง ซูหมิงบุกวงแหวนอาคมจิตเต๋าสยบเงาเมื่อสี่สิบปีก่อน!
ขณะเดียวกัน กู่ไท่นัยน์ตาฉายแววตื่นเต้นอย่างพบเห็นได้ยาก เขามองซูหมิง มั่นใจอย่างยิ่งว่าตนมองไม่ผิด กลิ่นอายพลังนี้…คือกลิ่นอายพลังที่เป็นของเทพเต๋า ขั้นเก้าเท่านั้น!
เมื่อเสียงวิญญาณเต๋าที่ห้าดังอึกทึกก็ปกคลุมทั้งทางตะวันตกของแคว้นกู่จั้งในทันที ปกคลุมทุกสำนักในพื้นที่ตะวันตก ขณะที่สำนักเหล่านี้สั่นสะเทือนก็ยังขยายไปไกลกว่าเดิม การขยายครั้งนี้ทำให้เสียงวิญญาณเต๋าส่งไปถึงพื้นที่ใจกลางแคว้นกู่จั้ง ไปถึงทางเหนือ ขยายไปทางใต้!
หากมีคนยืนอยู่ตรงจุดที่มองเห็นทั้งแคว้นกู่จั้งล่ะก็ ตอนนี้จะต้องเห็นคลื่นเสียงรุนแรงขยายจากทางตะวันตกเป็นลักษณะโค้งอย่างแน่นอน
ในเส้นโค้งนั้นปรากฏใบหน้าซูหมิงแทบจะไร้รูป!
พื้นที่ทางเหนือ กลางทะเลทราย ฝ่ายอสุราที่ตั้งรกรากบนพื้นก็ยังได้รับผลจากเสียงเสียงวิญญาณเต๋าของซูหมิง ขณะเดียวกันโลกในฝ่ายอสุรา ชายหนุ่มที่นั่งขัดสมาธิอยู่บนรูปปั้นดุร้ายยักษ์ลืมตาขึ้นจากสมาธิ
ดวงตาเขาวาววับ พลันเงยหน้าขึ้น ได้ยินเสียงวิญญาณเต๋าของซูหมิงข้างหูเบาๆ เสียงนี้ทำให้ชายหนุ่มหน้าเปลี่ยนสี ร่างเงาตี้เทียนในดวงตาขวาเดิมทีถูกกลบเอาไว้ ทว่าเมื่อชายหนุ่มหน้าเปลี่ยนสี ร่างเงาตี้เทียนก็รวมขึ้นมาทันที
“ซูหมิง นี่มันซูหมิง!” ตี้เทียนหัวเราะเสียงดังด้วยความฮึกเหิมและตื่นเต้น เพราะการปรากฏตัวของซูหมิงทำให้เขาเชื่อมั่นในความคิดตนมากกว่าเดิมว่าทุกอย่างที่นี่…เป็นของปลอม!
“หุบปาก!” องค์ชายรองหน้ามืดทะมึน ก่อนยกมือขวากดดวงตาขวา ตี้เทียนในลูกตาหายไปท่ามกลางเสียงหัวเราะลากยาว แต่ใบหน้าองค์ชายรองกลับทะมึนทึบยิ่งกว่าเดิม
ตอนนี้ไม่ใช่เพียงองค์ชายรองที่หน้าเปลี่ยนสี ทั้งสำนักอสุราล้วนได้ยินเสียงวิญญาณเต๋าของซูหมิง เสียงนี้กึกก้อง ระลอกคลื่นบนฟ้า แผ่นดินสะเทือน ส่งผลให้ ผู้ฝึกฌานแทบทุกคนในฝ่ายอสุราหน้าเปลี่ยนสี!