Skip to content

สู่วิถีอสุรา 1420

ตอนที่ 1420 เสียงแห่งรูปแบบชะตา

“นี่คือเสียงที่แปด!”

“ไม่อยากเชื่อว่าในสำนักเจ็ดจันทราจะมีคนเปล่งเสียงวิญญาณเต๋าที่แปด!”

“มิน่าสำนักเจ็ดจันทราถึงได้ให้เคาะเสียงวิญญาณเต๋าอย่างโอหังเช่นนี้ แปดเสียง… นี่คือขีดจำกัดแล้ว ลิขิตไว้แล้วว่าขอเพียงเขาไม่ตายก็จะบรรลุถึงขอบเขตเต๋าสูงศักดิ์!”

“แต่ว่าเรื่องนี้มันแปลกๆ…”

สำนักและฝ่ายทั้งแคว้นกู่จั้งในตอนนี้ต่างสัมผัสถึงกลิ่นอายพลังน่าตกใจจากในเสียงวิญญาณเต๋าของซูหมิงอย่างลึกซึ้ง ขณะเดียวกันพวกเขายังเห็นใบหน้าซูหมิง กลางระลอกคลื่นบนฟ้า สัมผัสถึงกลิ่นอายพลังซูหมิงจากแรงสั่นสะเทือนบนแผ่นดิน!

การหลอมรวมกันของใบหน้ากับกลิ่นอายพลังนี้ บางทีสำหรับผู้ฝึกฌานทั่วไปแล้วเพียงแค่ใจสั่นสะท้าน แต่สำหรับขั้นไม่อาจกล่าวเป็นความตกใจ สำหรับตัวประหลาดขั้นจิตเต๋า พวกเขาสัมผัสถึงสัญญาณบางอย่างจากใบหน้าและกลิ่นอายพลัง!

“หรือว่า…”

“หรือว่า…”

“หรือว่า…” คำพูดแบบนี้เดียวกันดังก้องในทุกสำนัก นั่นคือผลที่สำนักเจ็ดจันทราต้องการ ตอนที่พวกเขาพบซูหมิงล้วนก็สัมผัสถึงความแตกต่างของเขา เช่นนั้น ตัวประหลาดจากสำนักอื่นก็เช่นกัน!

โดยเฉพาะตอนนี้…ใบหน้ากับกลิ่นอายพลังซูหมิงกระจายไปตามเสียงวิญญาณเต๋าที่ ดังก้องไปมากกว่าครึ่งแคว้นกู่จั้งอย่างไม่มีกักไว้แม้แต่น้อย ไม่นานก็มีเสียงร้องด้วยความตกใจรุนแรงดังแว่วมาจากในสำนักเหล่านั้น!

“นี่มันกลิ่นอายพลังขององค์ชาย!”

“สำนักเจ็ดจันทรา สำนักเจ็ดจันทรากำลังบอกทุกสำนักว่าพวกเขา…จะเข้าร่วมการชิงบัลลังก์!”

“นี่เป็นองค์ชายท่านใด สำนักที่สามองค์ชายอยู่คนส่วนใหญ่ไม่รู้! สำนักเจ็ดจันทราเป็นสำนักแรกที่แบกเรื่องนี้อย่างโอหัง!”

“สำนักเจ็ดจันทราบ้าคลั่งเช่นนี้ ตอนนี้นอกสำนักเจ็ดจันทราจะต้องมี มหาสงครามอย่างแน่นอน และฝ่ายที่เข้าร่วมสงครามจะต้องเป็นสองสำนักที่ร่วมการชิงบัลลังก์แน่ หากอยากรู้…แค่ไปดูก็รู้แล้ว!”

คำพูดแบบนี้มีแทบในสี่สำนักสิบเอ็ดฝ่าย แสงจากวงแหวนอาคมสว่างวูบวาบ ร่างเงาหายไปทีละร่าง ฟ้าดินนอกสำนักเจ็ดจันทรา…พลันคึกคักขึ้นมา

ขณะเดียวกันบนฟ้าสำนักเจ็ดจันทรา จิตสำนึกซูหมิงเหมือนจะหายไป แต่ร่างเขายังคงลอยอยู่ตรงนั้น ขั้นพลังเขาเคาะเสียงวิญญาณเต๋าสี่เสียง สี่ดวงจิตใหญ่เคาะอีก สี่เสียงเช่นกัน จนถึงเสียงวิญญาณเต๋าแปดเสียง

แต่เพียงแค่นี้ซูหมิงก็ยังไม่ยอม เขาต้องเคาะเก้าเสียง ต้องให้ทุกพื้นที่ในแคว้นกู่จั้งมีเสียงวิญญาณเต๋าของตน เขาอยากทำมันให้ถึงที่สุด เพราะว่า…เป้าหมายของเขาไม่ใช่เต๋าสูงศักดิ์ เป้าหมายในภายภาคหน้าคือเทพเต๋าขั้นเก้า คือเต๋าไร้ที่สิ้นสุด!

โดยเฉพาะส่วนลึกในใจเขามีความกระหายอย่างหนึ่ง เขาจะให้เสียงนี้ดังออกจากตัวเสวียนจั้ง ใช้มัน…เป็นการโต้กลับในการปะทะกันที่วุ่นวายช่วงที่ยึดร่างเสวียนจั้ง!

ตอนนี้พลังชีวิตซูหมิงหายไปเกือบหมดแล้ว สิ่งที่ค้ำยันเขาคือดวงจิต ขณะเงียบอยู่นี้เขาค่อยๆ เงยหน้าขึ้น ดวงตาไร้ประกายวาวมองฟ้า ไม่สนใจเสียงครึกโครมรอบๆ ไม่มองการต่อสู้ระหว่างสำนักเจ็ดจันทรากับฝ่ายอสุรา เพราะเขาในตอนนี้ ในใจมีเพียงความคิดเดียว

เคาะเสียงวิญญาณเต๋าที่เก้า!

การลอยของเขา การเงียบ ตอนนี้เป็นที่จับตามองของผู้ฝึกฌานนับไม่ถ้วนรอบๆ ในผู้ฝึกฌานเหล่านี้มีสำนักเจ็ดจันทรา มีฝ่ายอสุรา และยังมีผู้ฝึกฌานจากสำนักอื่นๆ ที่จะมาเห็นกับตากำลังเดินทางมาอยู่ไกลๆ

ขณะเดียวกับที่พวกเขาเห็นซูหมิง ก็สังเกตเห็นถึงความผิดปกติในตอนนี้ของเขาทันที เพราะหากเป็นคนอื่น หากไม่มีความคิดจะเคาะเสียงวิญญาณเต๋าที่เก้า ตอนนี้จะต้องดึงจิตสัมผัสทั้งหมดกลับมา ต้องทำการเปลี่ยนกายเต๋าให้เป็นวิญญาณเต๋าใน ช่วงสุดท้ายแล้ว!

ก่อนเติมเต็มการใช้งานร่างกายและพลังชีวิตเกินกำลังทั้งหมดก่อนหน้า แต่ซูหมิงไม่ทำเช่นนั้น แต่ลอยอยู่กลางฟ้า การทำแบบนี้ ท่าทีแบบนี้ ทำให้ทุกคนเกิดการคาดเดาอย่างหนึ่งในความคิด

“หรือว่า…เขาจะเคาะเสียงวิญญาณเต๋าที่เก้า!”

“แม้เขาจะเป็นองค์ชาย แต่ก็ไม่มีทางเคาะเสียงวิญญาณเต๋าที่เก้าได้ สายเลือดจักรพรรดิมีไว้เพื่อสืบทอดมากกว่า สืบทอดฟ้าดิน มอบคุณสมบัติเทพเต๋าขั้นเก้าแก่สายเลือดจักรพรรดิ!

นี่คือผลของการสืบทอด ไม่เคยมีองค์ชายใดใช้พลังตัวเองบรรลุถึงมหาเต๋าสูงศักดิ์มาก่อน อย่างมากก็แต่เต๋าสูงศักดิ์เท่านั้น!”

“หรือว่าเขาจะเคาะเสียงวิญญาณเต๋าที่เก้าจริงๆ!”

“หากเขาทำได้ เขาจะต้องมีชื่อเสียงโด่งดังอย่างแน่นอน ต้องเป็นที่รู้จักไปทั่วแคว้นกู่จั้ง เพราะหากเก้าเสียง ขอเพียงเขาไม่ตาย ภายภาคหน้าจะต้องบรรลุมหาเต๋าสูงศักดิ์อย่างแน่นอน!”

“หนึ่งถึงแปดเสียงสร้างความตกตะลึง แต่ไม่หวาดกลัว มีเพียง…เสียงที่เก้า!” ตอนนี้ผู้ฝึกฌานฝ่ายนอกสำนักเจ็ดจันทราข้างนอกสำนักทั้งหมดต่างส่งเสียงดัง เกรียวกราว กระทั่งผู้ฝึกฌานฝ่ายอสุราที่กำลังรบกับสำนักเจ็ดจันทรายังถอยไปด้วยความตกใจ เหมือนว่าสงครามระหว่างพวกเขาเป็นรองการกระทำของซูหมิงในตอนนี้!

พวกเขาอยากเห็นกับตาว่าองค์ชาย…จะเคาะเสียงวิญญาณเต๋าได้เก้าเสียงจริงๆ หรือไม่ จะให้เสียงเข้าถึงเมืองหลวงจักรพรรดิ ให้ใบหน้าทั้งผืนฟ้าชัดเจนขึ้นใน ความยุ่งเหยิงหรือไม่ ให้เสียงดังสนั่นบนแผ่นดินกลายเป็นเสียงของเขาหรือไม่!

นี่…เป็นเรื่องใหญ่ที่สั่นสะเทือนทั้งแคว้นกู่จั้ง!

โดยเฉพาะผู้ฝึกฌานสำนักเจ็ดจันทรา ตอนนี้ใจสั่นสะท้านกว่าเดิม ต่างเงยหน้าขึ้นมองซูหมิง กู่ไท่มีสีหน้าตื่นเต้น แต่ในใจรู้ว่าแทบเป็นไปไม่ได้ แต่ตอนนี้นัยน์ตาก็ยังฉายแววเฝ้ารอคอยเด่นชัด

ตอนนี้เองแผ่นดินเงียบสงัด ผู้แข็งแกร่งจากฝ่ายอสุรานอกวงแหวนอาคมบนฟ้ารอบตัวซูหมิงต่างเลิกบุก แต่ถอยไปพร้อมกัน ยามที่มองซูหมิง แววตาพวกเขา… มีความเคารพ!

พวกเขาเห็นสภาพย่ำแย่ของซูหมิง เห็นพลังชีวิตที่ใกล้จะเหือดแห้ง และยังเห็นความยึดมั่นในดวงตาไร้ประกายวาว!

ถึงจะเป็นศัตรูกัน แต่ผู้แข็งแกร่งเหล่านี้ก็ยังเคารพซูหมิง! เคารพคนที่เสียสละ ทุกอย่างเพื่อการฝึกฝน! เคารพเสียงวิญญาณเต๋า และก็เคารพทัศนคติต่อการฝึกฝน เพราะพวกเขา ไม่ว่าจะเป็นในอดีตที่เคยเคาะเสียงวิญญาณเต๋าหรือคนที่ไม่มีคุณสมบัติเคาะ ส่วนลึกในใจทุกคนบ้างมีความเสียดาย มีการเฝ้ารอว่าสักวันหนึ่ง… ตนจะเคาะได้เก้าเสียง!

ความเคารพนี้ทำให้พวกเขาหยุดลงมือ ช่วงที่พากันถอยไป ยังมอบความสงบที่ไม่มีการรบกวนใดๆ แก่ซูหมิง

ให้เขาเคาะเสียงวิญญาณเต๋าที่เก้าอย่างสงบ!

“นั่นคือ..เสียงแห่งรูปแบบชะตาของข้า!” ซูหมิงพึมพำท่ามกลางความเงียบ ตอนนี้เสียงดังแว่วไปตามระลอกคลื่นบนฟ้าและเสียงครึกโครมบนแผ่นดิน ดังก้องอยู่ทุกพื้นทั้งแคว้นกู่จั้งนอกจากเมืองหลวงจักรพรรดิ!

เสียงนี้ยังเข้าถึงหูผู้ฝึกฌานแทบทุกคนของแคว้นกู่จั้ง ทำให้ตอนนี้ทุกสำนักในแคว้นกู่จั้งเงียบลง!

สำนักเอกะเต๋าก็เงียบเช่นกัน เสียงโครมครามในภูเขาไฟเหมือนหายไป องค์ชายใหญ่เงยหน้าขึ้น จ้องฟ้าตาเขม็ง ไม่กล่าวอะไร

ณ ฝ่ายอสุรา องค์ชายรองบนรูปปั้นในโลกอสุราตอนนี้มีสีหน้าเหี้ยมโหด มองฟ้าเงียบๆ เช่นกัน

ผู้ฝึกฌานทุกคน ไม่ว่าทำอะไรอยู่ ตอนนี้ต่างมองฟ้าเงียบๆ ข้างหูกึกก้องเป็นเสียงพึมพำของซูหมิงกลางฟ้าดิน พวกเขากำลังรอ รอเค่อต่อไปว่า…อาจจะล้มเหลว หรืออาจจะ…เกิดเสียงที่เก้าที่สะเทือนทั้งแคว้นกู่จั้ง!

“รูปแบบชะตาข้าคือเดินจากฤดูหนาวไปสู่ใบไม้ผลิ เดินจากความตายสู่ชีวิต…” ขณะซูหมิงพึมพำ ในดวงตาไร้ประกายวาวจุดไฟแห่งความยึดมั่นขึ้น จุดความคลุ้มคลั่ง ในตอนนี้เองมวลอากาศเหนือตัวเขาปรากฏภาพมายา นั่นคือวงแหวนอาคมสี่เหลี่ยมขนมเปียกปูนยักษ์ มันรวมขึ้นจากอักขระนับไม่ถ้วน คนอื่นไม่เข้าใจอักขระเหล่านี้ ภายในไม่มีอภินิหารอะไร มีเพียงซูหมิงที่รู้ว่าอักขระทุกตัวหมายถึงความทรงจำ ทุกช่วงเวลาของเขา!

นี่คือความทรงจำทั้งหมดของโลกซางเซียง และรูปแบบชะตาเขาก็รวมขึ้น กลางความทรงจำนี้ ตอนนี้เองปรากฏหิมะขึ้นในรูปแบบชะตา ปรากฏใบไม้ร่วง ปรากฏดวงตะวันแดงฉาน ปรากฏพลังชีวิต!

จนกระทั่งรูปแบบชะตากลายเป็นสีดำ จนกระทั่งยามเช้าตรู่นี้ เดิมทีฟ้าสำนัก เจ็ดจันทราเป็นช่วงกลางวัน แต่กลับกลายเป็นคืนมืดในฉับพลัน จนกระทั่งคืนมืด ยืดยาวออกไปรอบๆ อย่างรวดเร็ว จนกระทั่ง…ท้องฟ้าทั้งแคว้นกู่จั้ง…กลายเป็นคืน มืดมิด!

คืนมืดปกคลุมแผ่นดิน เงาราตรีมาแทนที่แสงสว่างทั้งหมด ซูหมิง…เปล่งเสียงแห่งรูปแบบชะตาในคืนมืด เปล่งเสียงวิญญาณเต๋าที่เก้า!

เสียงนี้ไม่ใช่เสียงคำรามอีก แต่เป็นการถอนหายใจเบา ในเสียงถอนหายใจมี ความทรงจำ มีความยึดมั่น และยังแฝงไว้ด้วยความปรารถนาในความแข็งแกร่ง ทุกอย่างของชีวิตกลายเป็นเสียงถอนหายใจดังก้องทั้งแคว้นกู่จั้ง…

เมื่อเสียงถอนหายใจดังแว่วไปทำให้ผู้ฝึกฌานทุกคนที่ได้ยินต่างอึ้ง แต่ละคนมี สีหน้าซับซ้อน เสียงดังก้องยังทำให้เมืองหลวงจักรพรรดิกลางแผ่นดินที่แม้แต่ เสียงวิญญาณเต๋าที่แปดยังเข้าไปไม่ได้…ดังกังวานไปด้วยเสียงถอนหายใจ เต็มไปด้วยเสียงที่เก้าของซูหมิง!

เสียงนี้ยังคงดังกึกก้องไม่หยุดในแคว้นกู่จั้ง ทุกสำนักเงียบ เหมือนยังไม่ตื่น จากเสียงถอนหายใจ ยามนี้ในเมืองหลวงจักรพรรดิ ข้างกำแพงเมือง ชายชราสวม ชุดคลุมยาวสีเทา สวมงอบ ถือคฑาวิเศษคนหนึ่งเงยหน้าขึ้นช้าๆ มองฟ้า ใบหน้า แก่ชราเผยรอยยิ้ม

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version