Skip to content

สู่วิถีอสุรา 1421

ตอนที่ 1421 สร้างความตกตะลึง

รอยยิ้มนั้นมีความเมตตา มีความสง่างาม มีการเฝ้ารอคอย…มองตามสายตาเขาจะเห็นท้องฟ้าว่า…ใบหน้าซูหมิงที่เดิมทีก่อนหน้านี้รวมออกมาไม่ได้ ทำได้เพียงเป็นมายายุ่งเหยิง ยามนี้…

ทั้งผืนฟ้าปรากฏใบหน้ายักษ์ ใบหน้านั้นคือ ซูหมิง!

ใบหน้านี้ชัดเจนอย่างยิ่ง ทำให้ทุกคนในแคว้นกู่จั้งเห็นหน้าตาซูหมิงอย่างชัดเจน…

ใบหน้านี้ไม่ใช่ของหวังเทา แต่เป็น…ซูหมิง!

ผ่านโลกมาเนิ่นนาน เศร้าโศก และยังมีความเหี้ยมโหดต่อชะตาชีวิตปรากฏบนใบหน้านี้อย่างชัดเจน

เหมือนกาลเวลาหยุดนิ่ง เสียงถอนหายใจดังกึกก้อง เมื่อปรากฏใบหน้าขึ้นและค่อยๆ กระจายกันออกไปนั้น เหมือนว่ามีส่วนหนึ่ง…ออกจากแคว้นกู่จั้ง เข้าไปในจักรวาลกว้างใหญ่ที่ไม่รู้ว่ามีหรือไม่ ออกนอกร่างชายชุดคลุมดำที่ถือขนนกสีดำในมือซึ่งนั่งอยู่บนเข็มทิศ

และก็ไม่มีใครรู้ว่าบางทีหลังจากเสียงถอนหายใจเสียงที่เก้าของซูหมิงดังในจักรวาลกว้างใหญ่แล้ว ชายหนุ่มชุดคลุมดำที่อัดแน่นไปด้วยกลิ่นอายมรณะราวกับ คนตาย เหมือนจะ…เปิดปากเล็กน้อย ถอนหายใจเบาเหมือนกับซูหมิง

กระทั่งใบหน้าเขาเปลี่ยนไปเล็กน้อย…คล้ายๆ กับซูหมิง

จนกระทั่งในเสียงถอนหายใจจากเสียงที่เก้าของซูหมิงค่อยๆ หายไปในแคว้นกู่จั้ง พลันเกิดเสียงแผ่นดินดังสนั่นขึ้น ในเสียงนี้เหมือนจะมีเสียงของซูหมิงอยู่ ตอนนี้เอง ผู้ฝึกฌานทุกสำนักต่างพากันได้สติกลับมา ทว่าต่อมานัยน์ตาพวกเขาก็ฉายแววหวาดกลัวและเหลือเชื่อหลังจากเข้าใจ

“เสียงถอนหายใจก่อนหน้านี้ นั่นคือ…เสียงที่เก้ารึ?”

“นี่คือ…เสียงที่เก้า…เสียงที่เก้าที่ตั้งแต่โบราณจนถึงตอนนี้มีไม่เกินห้าสิบครั้ง…”

“เสียงที่เก้า ขอเพียงไม่ตายจะต้องได้บรรลุมหาเต๋าสูงศักดิ์อย่างแน่นอน…”

ช่วงที่ความหวาดกลัวของทุกสำนักกระจายไปรอบๆ อย่างรุนแรง ในฝ่ายอสุรา แดนต้องห้ามของสำนัก ในโลกที่ถูกเรียกว่าเต๋าอสุรา มีชายสวมอาภรณ์ยาวสีขาว คนหนึ่งกำลังนั่งขัดสมาธิอยู่บนภูเขาสูงเงียบๆ เงยหน้ามองฟ้า

เขาดูเหมือนธรรมดามาก ไม่มีกลิ่นอายพลังของผู้แข็งแกร่งดั่งคนธรรมดา แต่ความจริงแล้ว…ทั้งแคว้นกู่จั้ง แม้จะมีน้อยคนนักที่พบเขาโดยตรง แต่ตำนานเกี่ยวกับเขามีอยู่มาตลอดเมื่อนานมากแล้ว!

เขา คือหนึ่งในสามเทพเต๋าขั้นเก้าแคว้นกู่จั้ง นามของเขาคือ…ซิวหลัว!

ขณะที่เขามองฟ้าด้วยสีหน้าเรียบนิ่ง ทางตะวันตกเฉียงเหนือของแคว้นกู่จั้ง ตรงนั้นมีหมู่บ้านโลกมนุษย์แห่งหนึ่ง ในหมู่บ้านนี้คนธรรมดาทุกคนกำลังหลับใหล พวกเขาไม่ได้ยินเสียงวิญญาณเต๋าของซูหมิง ขณะที่ทั้งหมู่บ้านกำลังหลับใหล มีชายชราคนหนึ่งกำลังนั่งอยู่ในลานบ้านตัวเองพลางตัดฟืน เสียงตึกๆ ดังกังวานในหมู่บ้านเงียบสงบ…

เขาเงยหน้ามองความผิดปกติบนฟ้าแค่แวบเดียวแล้วก็ไม่สนใจอีก แต่ยังคงตัดฟืนเหมือนเตรียมไว้ใช้สร้างความอบอุ่นในฤดูหนาว

นอกจากซิวหลัว ชายชรารวมถึงคนสวมงอบในเมืองหลวงจักรพรรดิแล้ว ในแคว้นกู่จั้งตอนนี้ยังมีอีกคนหนึ่งที่ไม่ได้สับสนในเสียงถอนหายใจ แต่ยังคงได้สติ เขายืนอยู่บนหอเด็ดดาราของพระราชวังกู่จั้ง สายลมพัดอาภรณ์ เอามือไพล่หลัง มองฟ้าเงียบๆ เห็นเพียงเงาแผ่นหลังไม่เห็นใบหน้า

เมื่อเวลาผ่านไป เมื่อเสียงครึกโครมดังก้อง ศิษย์ทุกสำนักในแคว้นกู่จั้งต่างได้สติกลับมา ช่วงที่พวกเขาส่งเสียงร้องด้วยความตกใจ นอกสำนักเจ็ดจันทรา ตอนนี้ทุกคนที่ล้อมอยู่ที่นี่ต่างมองซูหมิงบนฟ้าด้วยความตื่นตะลึง

กู่ไท่มองซูหมิงด้วยสีหน้าตื่นเต้นเหมือนเห็นอนาคตของสำนักเจ็ดจันทรา เห็นความหวังของพวกเขาทุกคน แต่ตอนนี้ไม่ว่าแผ่นดินหรือบนฟ้า ศิษย์ฝ่ายอสุราเหล่านั้นต่างมองซูหมิงด้วยความซับซ้อนเงียบๆ

โดยเฉพาะบนฟ้า ผู้แข็งแกร่งฝ่ายอสุราที่เลิกลงมือเพราะความเคารพก่อนหน้านี้ต่างมองซูหมิงด้วยสีหน้าเคารพยิ่งกว่าเดิม พวกเขาเคารพทัศนคติต่อการฝึกฝนของ อีกฝ่าย เคารพร่างเงาซูหมิงที่หากไม่ตายก็จะบรรลุมหาเต๋าสูงศักดิ์ในภายภาคหน้า

ตอนนี้สงครามไม่มีความหมายแล้ว ขณะเงียบอยู่นี้ ผู้แข็งแกร่งจากฝ่ายอสุราเหล่านั้นต่างพากันถอยไปทันที เมื่อพวกเขาถอย ศิษย์ฝ่ายอสุราบนพื้นดินก็ถอยเช่นกัน จนตอนที่เป็นสายรุ้งยาวจากไป ซูหมิงอยู่กลางอากาศ ร่างแห้งเหี่ยวพลัน เงยหน้าขึ้น ใช้ดวงตาที่ใกล้จะมอดดับมองใบหน้าตัวเองที่มีอยู่เต็มฟ้า ก่อนอ้าปากสูบเข้ามา!

การสูบครั้งนี้ ฟ้าดินพลันเกิดเสียงครึกโครมเหลือคณานับ ขณะที่ดังไปทั่วแคว้นกู่จั้ง ใบหน้าซูหมิงบนฟ้าพุ่งลงมายังเขาในทันใด ชั่ววูบเดียวก็หลอมรวมเข้าไปในร่างกาย ทำให้พลังชีวิตเปี่ยมล้นในฉับพลัน ช่วงเวลาเดียวกัน แผ่นดินสะเทือนสงบลง จากนั้นเสียงสั่นสะเทือนก่อนหน้านี้เหมือนถูกม้วนกลับมา กลายเป็นสายพุ่งตรงไปหาซูหมิง

เมื่อถูกซูหมิงสูบไปในพริบตาแล้ว ดวงจิตเขากลับมา พลังฟื้นกลับมา พลังชีวิตเปี่ยมล้นกว่าก่อนหน้านี้ ร่างเต๋าสามร่างในดวงตาที่สามตรงระหว่างคิ้วซ้อนทับกัน เปล่งแสงเงินสว่างไสวไม่มีสิ้นสุด!

แสงนี้มีเพียงคนที่เคาะเสียงวิญญาณเต๋าเก้าเสียงเท่านั้นถึงจะมีวิญญาณเต๋าสีนี้ ขอบเขตวิญญาณเต๋าอื่นๆ ไม่มี สีนี้คือสัญลักษณ์ที่เด่นชัด แสดงว่าซูหมิงมีวิญญาณเต๋าที่ต่างกับคนอื่นอย่างสิ้นเชิง!

แสงเงินปกคลุมสำนักเจ็ดจันทรา สะท้อนทั้งแคว้นกู่จั้ง ทุกสำนักสัมผัสได้อย่างชัดเจน ส่งผลให้คืนมืดกลายเป็นสีสันพิลึกในแสงเงิน!

ทันทีที่สามเงาเต๋าหลอมรวมกันอย่างสมบูรณ์ เมื่อเกิดแสงเงินขึ้น พลังซูหมิงเพิ่มขึ้นในฉับพลัน จากเตรียมวิญญาณเต๋าก้าวสู่วิญญาณเต๋าอย่างสมบูรณ์แบบ กระทั่งตอนนี้ในวิญญาณเต๋าของเขายังปรากฏเงามายาเลือนรางซ้อนทับกันสี่ร่าง นั่นคือ…วิญญาณเต๋าขั้นสี่ เพียงแต่ตอนนี้เพิ่งรวมขึ้น ยังไม่สมบูรณ์!

ทว่าซูหมิงในตอนนี้มีกำลังรบเหนือกว่าก่อนหน้านี้มาก!

อีกทั้งร่างเงาเขายังเป็นที่รู้ไปทั่วแคว้นกู่จั้ง ทำให้การคงอยู่ของเขาเป็นที่น่า ตื่นตกใจในแคว้น! เรื่องนี้ ไม่ว่าจะเป็นองค์ชายใหญ่หรือองค์ชายรองล้วนปรารถนาอย่างยิ่ง แต่กลับทำไม่ได้

ซูหมิงยืนอยู่กลางอากาศ สูดลมหายใจเข้าลึก ในดวงตาเผยความยึดมั่นเด่นชัดกว่าเดิม เพียงแต่ส่วนลึกในความยึดมั่นซ่อนความเศร้าไว้ นั่นเพราะ…เขาคิดถึงอาจารย์และศิษย์พี่ยอดเขาลำดับเก้า คิดถึงท่านปู่ กระเรียนขนร่วง ชางหลัน อวี่เซวียนและสวี่ฮุ่ย

“ในคืนมืด เสียงถอนหายใจแห่งรูปแบบชะตาคือข้า…กำลังคิดถึงพวกเจ้า” ซูหมิงพูดกับตัวเองเบาๆ

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version