Skip to content

สู่วิถีอสุรา 186

ตอนที่ 186 การปะทุท่ามกลางความเงียบ

ท่ามกลางความเงียบของชาวเมืองเขาหานทุกคน บนยอดเขาเผ่าเหยียนฉือพลันมีเสียงแก่ชราดังแว่วมา เสียงนั้นอ่อนแรงเล็กน้อย ทว่ามันกลับทำลายความเงียบงันทันที!

ในช่วงที่ทุกคนพากันมองไปบนยอดเขาเหยียนฉือ คนส่วนใหญ่ค่อนข้างแปลกหูกับเสียงที่ดังกะทันหันนั้น ทราบเพียงว่ามันมาจากยอดเขาเหยียนฉือ ทว่ากลับไม่รู้ว่าเจ้าของเสียงนั้นคือใคร

แต่ก็ยังมีคนทราบ พวกเขาที่ฟังออกล้วนสีหน้าเปลี่ยน ดูตื่นตะลึง พลันมองไปทางยอดเขาเหยียนฉือ

หนานเทียนตัวสั่นเทา แน่นอนว่าเขาฟังออกว่าเสียงนั้นเป็นของใคร จึงพลันมองไป

ส่วนเหลิ่งอิ้นสูดลมหายใจเข้าลึก มองยังยอดเขาเหยียนฉือ

ยามนี้สภาพจิตใจเคอจิ่วซือย่อมเกิดคลื่นลูกใหญ่ที่สุดในหมู่คนนอกอย่างแน่นอน เขาทราบว่านั่นคือเสียงของใคร และเพราะเคยเป็นแขกพิเศษเผ่าเหยียนฉือมาก่อน จึงรู้ถึงความลับที่คนส่วนใหญ่ไม่ทราบ นั่นคือความน่ากลัวของจ้าวหมานเผ่าเหยียนฉือที่ถูกมองข้ามจากในข่าวลือที่ว่าจ้าวเผ่าเป็นใหญ่

“จ้าวหมาน…เหยียนฉือ!”

บนยอดเขาเหยียนฉือ เหยียนหลวนสีหน้าเปลี่ยนทันใด นางมองหญิงชราข้างกาย ไม่คิดเลยว่าอีกฝ่ายจะกล่าวเช่นนี้ ไม่ต้องสงสัยว่าเป็นการล่วงเกินพวกผู่เชียงแน่นอน กระทั่งความสัมพันธ์ที่เพิ่งฟื้นคืนก่อนหน้านี้ยังแตกหักโดยสิ้นเชิง

บางครั้งการสังหารคนเพื่อผลประโยชน์อาจเป็นเรื่องเล็กสำหรับสองชนเผ่า ทว่าการกล่าวเช่นนี้ต่อหน้าชาวเมืองเขาหานทุกคนเพียงพอจะสร้างบาดแผลที่แทบไม่อาจฟื้นฟูกลับมา!

นางเข้าใจแล้วว่าเหตุใดก่อนหน้านี้จ้าวหมานถึงกำและคลายมือขวาหลายครั้ง ข้อสงสัยที่นางไม่เข้าใจ ยามนี้ได้คำตอบแล้ว

‘หรือว่าจ้าวหมานจะรู้อยู่แล้วว่าต้องเป็นเช่นนี้ ดังนั้น…ก็เลยลังเลมาตลอด…’ เหยียนหลวนสูดลมหายใจเข้าลึก ก้มหน้าลง

คำพูดของจ้าวหมานเหยียนฉือดังกังวานรอบทิศ ทำให้ชาวเมืองเขาหานทุกคนเหมือนมีสัญญาณจะระเบิดท่ามกลางความเงียบงัน ทว่าก็ยังคงเงียบขรึม

บนยอดเขาผู่เชียง ชายรูปร่างเหมือนภูเขาเนื้อเปลี่ยนสีหน้า ชายชราข้างกายที่กล่าวก่อนหน้านี้ตะลึงงันไปชั่วครู่ พูดสิ่งใดไม่ออก

จ้าวหมานผู่เชียงขมวดคิ้ว นัยน์ตาฉายโทสะ เขายืนขึ้นอย่างช้าๆ มองไปทางยอดเขาเหยียนฉือ

“จ้าวหมานเหยียนฉือย่อมมีสิทธิ์นั้น” ผ่านไปนาน เขาถึงกล่าวอย่างเนิบนาบ

กล่าวจบ ชาวเมืองเขาหานที่ไม่รู้ถึงฐานะของนางพลันเกิดความตื่นกลัว แต่กลับไม่มีใครสนทนากันอย่างน่าประหลาด ความตื่นตะลึงนี้กลายเป็นพลังที่ใกล้จะปะทุท่ามกลางความเงียบ

“ยายแก่อย่างข้าไม่เห็นด้วยกับเรื่องนี้!” จ้าวหมานเผ่าเหยียนฉือ หญิงชรามีสีหน้าอ่อนแรงลงเรื่อยๆ พร้อมกล่าวเรียบๆ

“เหยียนหลวนจ้าวเผ่าเหยียนฉือก็ไม่เห็นด้วยกับเรื่องนี้!” เหยียนหลวนกัดฟันขาว กล่าวออกไป

การออกปากของจ้าวหมานและจ้าวเผ่าเป็นการตัดสินใจอย่างเด็ดขาดที่สุดในชนเผ่าหนึ่ง คำพูดของพวกนางเป็นตัวแทนท่าทีของเผ่าเหยียนฉือ ความยิ่งใหญ่ของความหมายเพียงพอจะทำให้ภูเขาหานสั่นสะเทือน!

“ดี ดี ดี!” ทั้งเผ่าผู่เชียงล้วนตกตะลึง ผู้คนจำนวนมากเปลี่ยนสีหน้า ทั้งยังแฝงไว้ด้วยความขุ่นเคือง บนยอดเขา จ้าวหมานผู่เชียงหัวเราะด้วยความเกรี้ยวกราด เสียงหัวเราะของเขาเย็นชายิ่งนัก

ชายชราข้างกายเขาที่กล่าวก่อนหน้านี้จิตใจสั่นไหว เขารู้สึกรางๆ ว่าทุกอย่างคล้ายเกิดขึ้นเพราะคำพูดของเขา โดยเฉพาะหลังจากชายรูปร่างเหมือนภูเขาเนื้อมองเขาอย่างเย็นชาแวบหนึ่ง ความรู้สึกนี้ยิ่งเด่นชัดมากขึ้น

เวลานี้ชายรูปร่างอ้วนเหมือนภูเขาเนื้อสูดลมหายใจเข้าลึก ยันกายขึ้นยืนข้างจ้าวหมานผู่เชียง จ้องยอดเขาเหยียนฉือด้วยความชั่วร้าย ขณะกำลังจะกล่าว

ทว่าทันใดนั้น!

บนยอดเขาบูรพาสงบ มีเสียงหัวเราะแก่ชราดังแว่วเข้ามา

“ข้าเองก็ไม่เห็นด้วยกับเรื่องนี้!”

“ฟางเซินจ้าวเผ่าบูรพาสงบก็ไม่เห็นด้วยเช่นกัน!” หลังจากเสียงของจ้าวหมาน ฟางเซินก็กล่าวตามด้วยน้ำเสียงทรงอานุภาพ

“ศิษย์สำนักเหมันต์สวรรค์ ชาวเผ่าบูรพาสงบ ข้าหานชางจื่อก็ไม่เห็นด้วย!” เสียงของนางอ่อนนุ่มมาโดยตลอด ทว่ายามนี้กลับแฝงไว้ด้วยความแน่วแน่

บนยอดเขาผู่เชียง ชายรูปร่างเหมือนภูเขาเนื้อโซเซ สีหน้าเปลี่ยนอย่างรวดเร็ว ชาวเผ่าผู่เชียงในเวลานี้ไม่มีสีหน้าโกรธแค้นอีก แต่เป็นกระวนกระวายยิ่งนัก พวกเขารู้สึกว่าเหมือนจะมีเรื่องใหญ่เกิดขึ้น!

จ้าวหมานเผ่าผู่เชียงหน้าซีด ความโกรธในแววตาเด่นชัดมากขึ้น ขณะกำลังจะกล่าว พลันมีเสียงดังมาจากเมืองเขาหานอีกครั้ง

“เหยียนเฟยแห่งเหยียนฉือ ก็ไม่เห็นด้วยกับการตัดสินของผู่เชียง”

“หนานเทียนนักรบขั้นชำระล้างแห่งเมืองเขาหาน ไม่เห็นด้วย!”

“เคอจิ่วซือนักรบขั้นชำระล้างแห่งเมืองเขาหาน ไม่เห็นด้วยกับเรื่องนี้!”

“เหลิ่งอิ้นนักรบขั้นชำระล้างแห่งเมืองเขาหาน ไม่เห็นด้วยกับการตัดสินใจของเผ่าผู่เชียง!”

หลังจากเผ่าเหยียนฉือและบูรพาสงบ มีสี่เสียงดังแว่วมาจากเมืองเขาหาน จนในที่สุดจึงส่งออกมาเป็นพลังครั้งสุดท้ายในความเงียบครั้งนี้ ถ้าไม่นับหานเฟยจื่อ พวกเขาสามคนเป็นผู้แข็งแกร่งขั้นชำระล้าง หากคนเดียวกล่าวคงไม่เท่าไร แต่พวกเขาทั้งสามคนออกปากก็กลายเป็นความน่าเกรงขาม แม้กล่าวว่าเทียบไม่เท่ากับชนเผ่า ทว่าก็ไม่อาจดูถูกได้!

โดยเฉพาะเมื่อพวกเขาเป็นคนนอกเหมือนกัน!

นี่ก็เพียงพอแล้ว!

“อวี๋เทาคนนอกภูเขาหาน ไม่เห็นด้วยกับเรื่องนี้!”

“ตาแก่อย่างข้าก็เป็นคนนอกเหมือนกัน ต่อให้ไม่มีสิทธิ์ ก็อยากบอกพวกเจ้าเผ่าผู่เชียงว่าข้าไม่เห็นด้วย!”

“ซ่งอวิ๋นคนนอก ไม่เห็นด้วยกับเรื่องนี้!”

น้ำเสียงตะโกนพลันปะทุขึ้นจากกลุ่มคนที่เงียบงันในเมืองเขาหาน จากเสียงของคนไม่กี่คน กลายเป็นเสียงตะโกนที่ปะทุท่ามกลางความเงียบ ส่งไปถึงยอดเขาผู่เชียง!

“โจวหลัวไห่คนนอกภูเขาหาน ไม่เห็นด้วย”

“เยียนลั่วคนนอกภูเขาหาน ไม่เห็นด้วย!”

“เฉินเฟิงคนนอกภูเขาหาน ไม่เห็นด้วย!”

“ข้าเฉียวต๋าก็ไม่เห็นด้วยกับเรื่องนี้!”

“และยังมีข้าเฉียวหงก็ไม่เห็นด้วยเหมือนกัน…”

คำพูดสะเทือนฟ้าดินค่อยๆ มีดังมาจากทุกคน ชาวเมืองเขาหานจำนวนนับไม่ถ้วนเปล่งเสียงตะโกนออกมาพร้อมกัน น้ำเสียงรวมเข้าด้วยกันเพียงพอจะกลบเสียงฟ้าร้องได้ แม้กล่าวว่าสนั่นฟ้าคงจะเกินจริงไปหน่อย ทว่าทำให้เผ่าผู่เชียงตื่นตกใจก็ถือว่าพอได้

เสียงดังสนั่นสะเทือนแปดทิศ ราวกับกลบเผ่าผู่เชียงเอาไว้ตรงกลาง ทำให้ชาวผู่เชียงทั้งหมดล้วนใบหน้าขาวซีด ดูตื่นกลัวและเหลือเชื่อ

บนยอดเขา ชายรูปร่างเหมือนภูเขาเนื้อพูดไม่ออกอยู่นาน เขาไม่เคยคิดเลยว่าเรื่องราวจะกลายเป็นเช่นนี้ นี่ไม่ใช่แค่เรื่องคนบุกโซ่เขาหานแล้ว แต่เป็นการโจมตีจากชาวเมืองเขาหานทุกคน รวมถึงเหยียนฉือและบูรพาสงบ!

เรื่องใหญ่ในครั้งนี้เพียงพอจะล้มเผ่าผู่เชียง นี่เป็นการแสดงเจตนาร้ายอย่างเปิดเผย หากจัดการไม่ดี อาจก่อให้เกิดภัยพิบัติทำลายล้าง!

เขาตื่นตระหนกแล้ว กระทั่งอาจเรียกได้ว่ากลายเป็นความหวาดกลัว

“นี่มันแผนการชั่วร้าย! นี่จะต้องเป็นแผนการที่เตรียมมาอย่างดีแน่นอน!”

ชายร่างอ้วนเหมือนภูเขาเนื้อมองจ้าวหมาน

จ้าวหมานผู่เชียงหน้าซีดเผือด เรื่องนี้เกินความคาดหมายของเขา เขาคล้ายกับชายร่างเหมือนภูเขาเนื้อ ไม่ว่าอย่างไรเขาก็ไม่คิดเลยว่าเหตุการณ์จะกลายเป็นเช่นนี้

“จ้าวหมาน รีบตัดสินใจเถอะ!” สีหน้าชายเหมือนภูเขาเนื้อดูร้อนรน เขาเห็นคนอื่นรอบตัวเต็มไปด้วยความตื่นกลัว ชาวเผ่าในภูเขาล้วนร้องออกมาด้วยความหวาดหวั่น

กระทั่งเสียงคัดค้านที่ดังแว่วมาจากด้านนอกเหล่านั้นเด่นชัดมากขึ้นประดุจเสียงฟ้าร้อง ต่อให้เป็นนักรบขั้นชำระล้าง ถึงแม้เป็นเสียงจากนักรบขั้นรวมโลหิตส่วนใหญ่ก็ตาม แต่ถึงกระนั้นหลังจากได้ยินก็ยังอดตื่นกลัวมิได้

“จ้าวหมาน!” ชายรูปร่างเหมือนภูเขาเนื้อเห็นจ้าวหมานผู่เชียงยืนนิ่ง จึงพลันมองไปทางชายชราโง่งมที่เป็นต้นเหตุของเรื่องนี้ด้วยความร้อนรน

ชายชราตัวสั่นเทา เมื่อครู่เขาสัมผัสได้ถึงความผิดปกติแล้ว

ยามนี้เห็นจ้าวเผ่ามองมาทางตนอีกครั้ง ชายชราก้าวถอยโดยไม่รู้ตัว ภัยร้ายแรงตรงเข้ามาในฉับพลัน ชายร่างเหมือนภูเขาเนื้อตรงเข้ามาหาชายชราในชั่วพริบตา ชายชราล่าถอยพร้อมกับแผดเสียงตะโกนแหลม

“ข้าคือผู้นำกองรักษาการณ์ของเผ่า ต่อให้เจ้าเป็นจ้าวเผ่า ก็ไม่มีสิทธิ์มาแตะต้องตัวข้าเพียงเพราะคำพูดเดียว!” ขณะชายชราห้อเหยียด ชายร่างเหมือนภูเขาเนื้อพลันเข้าประชิดตัว

“จ้าวหมาน! ข้าเคยสร้างความดีความชอบให้กับชนเผ่า ข้าเป็นหนึ่งในผู้นำของเผ่า!” ยามนี้ชายชราตื่นกลัว ขณะถอยร่นโดยรอบไม่มีใครช่วยเขา ทุกคนต่างเงียบนิ่ง มองชายเหมือนภูเขาเนื้อเข้าประชิดตัว จากนั้นใช้มือขวาคว้าตัวชายชราเอาไว้

“เป็นเจ้าที่บังคับข้า!” ชายชราทราบว่าอย่างไรก็หนีไม่พ้น สีหน้าพลันชั่วร้าย เขายังไม่อยากตาย ขณะกำลังจะลงมือโดยไม่สนสิ่งใด ทันใดนั้นจ้าวหมานที่เงียบมาโดยตลอดหมุนตัวกลับมา

“หยุดมือ!” เสียงของเขาไม่ดังมากนัก ทว่ากลับเต็มไปด้วยความน่าเกรงขาม ชายเหมือนภูเขาเนื้อพลันหยุดชะงัก หลังจากเท้าเหยียบพื้นก็มองจ้าวหมานด้วยความร้อนใจ

ชายชราคนนั้นถอนหายใจโล่งอก มองจ้าวหมานเช่นกัน ในใจแอบสงสัย

“ผู้นำกองรักษาการณ์ยังมีความดีความชอบอยู่…” จ้าวหมานผู่เชียงมีสีหน้าสงบนิ่ง มองไม่ออกว่าโกรธหรือยินดี ขณะกล่าวเขาเดินไปด้านหน้า

“แต่ว่าจ้าวหมาน…” ชายเหมือนภูเขาเนื้อกำลังจะกล่าว จ้าวหมานก็ขัดคำพูดของเขาเสียก่อน

“เขาสร้างคุณูปการต่อชนเผ่า อีกทั้งยังซื่อสัตย์ต่อชนเผ่า เพียงเพราะคำพูดเดียวจะไปตัดสินโทษประหารเขาได้อย่างไร เรื่องนี้ข้าทำไม่ได้!” จ้าวหมานกล่าวเรียบๆ ก่อนเดินหน้าต่อไป

ชายชราค่อยผ่อนคลายลง มีเม็ดเหงื่อผุดตรงหน้าผาก เขามองจ้าวหมานด้วยความซาบซึ้งใจ พร้อมประสานมือคารวะ

“เขาซื่อสัตย์ต่อชนเผ่า ต่อให้ชนเผ่าตกอยู่ในวิกฤติอันตราย เขาก็จะไม่หนีเอาตัวรอดไปเพียงลำพัง แต่จะขอเป็นตายพร้อมกับชนเผ่า ใช่หรือไม่ผู้นำกองรักษาการณ์” จ้าวหมานกล่าว เดินเข้ามาห่างจากชายชราสามจั้ง

“ชนเผ่าอยู่ ข้าก็จะอยู่! หากชนเผ่าตกอยู่ในอันตราย ข้าก็จะไม่หนีไปคนเดียว!” ชายชรารีบกล่าว

“ในเมื่อเป็นเช่นนั้น ข้าจะสนับสนุนความตั้งใจของเจ้าอย่างเต็มที่ ขอบคุณสำหรับเรื่องที่เจ้าทำเพื่อชนเผ่า” จ้าวหมานเดินเข้ามาอยู่ห่างหนึ่งจั้งพลางกล่าวเรียบๆ ว่าจบสีหน้าชายชราพลันตื่นกลัว ในช่วงที่กำลังจะถอย กลับพบว่าจ้าวหมานสะบัดมือขวา ชายชราร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด ตัวเขาถูกกลุ่มหมอกดำหนาโอบล้อม ตัวสั่นเทาถูกหมอกดำม้วนขึ้นลอยออกจากยอดเขาผู่เชียง พริบตาเดียวก็มาลอยอยู่เหนือเมืองเขาหานที่เต็มไปด้วยเสียงดังอื้ออึง

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version