Skip to content

สู่วิถีอสุรา 214

ตอนที่ 214 นักปราชญ์ผู้อาวุโส

เวลาราวกับหยุดนิ่งในชั่วพริบตา

เสียงอึกทึกจากการโคจรอาคมเคลื่อนย้ายข้างหูซูหมิงพลันหายไปเหมือนถูกหยุด เขาหันหน้ากลับมา ภาพที่เห็นทำให้เขาหรี่ตาลง เกิดความตื่นตัว สูดลมหายใจเข้าลึก

ทุกอย่างโดยรอบล้วนหยุดนิ่ง แสงจากอาคมเคลื่อนย้ายไม่เคลื่อนไหว ฟ้าดินโดยรอบก็เช่นกัน ทว่าที่น่าแปลกคือในสายตาของเขาเมืองเขาหานยังคงอยู่ แต่กลับไม่มีคน สามชนเผ่าก็เหมือนกัน

แม้แต่พวกฟางชางหลันกับหานเฟยจื่อข้างกายเขาเมื่อครู่ยังหายไป คล้ายทั้งฟ้าดินตอนนี้เหลือเพียงซูหมิงคนเดียว

วินาทีที่เสียงแก่ชราดังแว่วเข้ามา โลกพลันเปลี่ยนไป

โลกที่เขามองเห็นกลายเป็นความว่างเปล่า มิใช่ฟ้าดินแห่งชีวิต การเปลี่ยนแปลงเช่นนี้ทำให้เขาตื่นตะลึง

จินตนาการไม่ออกเลยว่าเป็นพลังระดับใดถึงทำได้ขนาดนี้ ในความคิดของเขามันค่อนข้างน่าเหลือเชื่อ

“นี่คือโลกมิติที่ข้าสร้างขึ้นเอง” เสียงเหมือนก่อนหน้านี้ดังแว่วเข้ามาอีกครั้งจากที่ไกลๆ ก่อนพบว่าบนยอดเขาบูรพาสงบที่ห่างออกไปมีชายชราเสื้อคลุมขาวนั่งอยู่

ชายชราถือเหยือกสุราในมือ ดื่มไปอึกหนึ่งก่อนมองซูหมิง

“มา พวกเรามาคุยกันสักหน่อย”

ซูหมิงหัวใจเต้นแรง เขาเพ่งมองชายชราครู่หนึ่ง จากนั้นมองไปรอบๆ บนยอดเขาเหยียนฉือไม่มีสิ่งมีชีวิต ฟ้าดินโดยรอบก็เช่นกัน นอกจากชายชรากับเขาแล้วไม่มีใครอีกแน่นอน

ซูหมิงลังเลครู่หนึ่ง ก่อนลองยกเท้าเดินออกจากอาคมเคลื่อนย้าย หลังจากเดินออกมา เขาพลันหันกลับไปมองอาคมเคลื่อนย้าย พบว่าแสงจากอาคมหยุดนิ่ง ดูเหมือนรูปปั้นแกะสลักจากภาพมายา

เขาพยามระงับความตะลึงในจิตใจ แล้วเดินอากาศไปด้านหน้าทีละก้าวจนกระทั่งถึงยอดเขาบูรพาสงบ มาหยุดห่างจากชายชราสิบกว่าจั้ง

“มา นั่งลงข้างข้า” ชายชราวางเหยือกสุรา กวาดสายตามองซูหมิง ภายในสีหน้ามีความชื่นชม

ซูหมิงเดินเข้าไปข้างชายชราอย่างเงียบๆ แล้วนั่งลงตามคำสั่ง

“ประหลาดใจรึ?” ชายชราพิจารณาซูหมิงอย่างละเอียด ใช้มือขวาชี้ไปตรงหน้าซูหมิง มวลอากาศพลันบิดเบี้ยวปรากฏขึ้นเป็นเหยือกสุรา

“อะไรคือโลกมิติ?” เมื่อเหยือกสุราปรากฏ ซูหมิงหัวใจเต้นแรงยามมองชายชรา

“โลกมิติเป็นของนักรบขั้นเซ่นไหว้กระดูก ช่วงที่กระดูกทั้งหมดในร่างกายเป็นกระดูกหมานมากกว่าครึ่งแล้ว ก็จะสามารถเชื่อมต่อฟ้าดินและสร้างโลกของตัวเอง

เพราะมันมิใช่ของจริงแต่เป็นภาพมายา ฉะนั้นจึงเรียกว่ามิติ เพราะมันกำหนดรูปแบบในร่างกาย มีผิวหนังและเนื้อขวางกั้น ไม่อาจแผ่ขยายได้ ฉะนั้นจึงเรียกว่าโลก”

ชายชรายกเหยือกสุราแล้วดื่มไปอีกหนึ่งอึก ก่อนมองซูหมิง

“โลกมิติของข้ายังไม่สมบูรณ์ สร้างได้เพียงฟ้าดินที่เห็นนี้เท่านั้น ภายในไม่มีสิ่งมีชีวิต แค่พาเจ้ามาก็ไม่ง่ายแล้ว”

ซูหมิงเงียบ นี่เป็นครั้งแรกที่เขาได้ยินคำว่าโลกมิติ

“รวมโลหิต ชำระล้าง เซ่นไหว้กระดูก วิญญาณหมาน นี่คือขั้นพลังใหญ่ทั้งสี่ของเผ่าหมานข้า เจ้าต้องเข้าใจความหมายของทั้งสี่ขั้นพลังนี้ให้ชัดก่อน เข้าใจให้ได้ว่าพวกมันแบ่งกันอย่างไร จากนั้นถึงจะมีโอกาสเดินเข้าไปทีละก้าว” ชายชรายิ้มกล่าว

“ไม่ว่าเจ้าจะเป็นศิษย์ของข้าได้หรือไม่ ข้ากับเจ้าพบกันก็ถือเป็นโชคชะตา ข้าชี้แนะให้เจ้าได้ สิ่งที่เรียกว่าขั้นรวมโลหิต เหตุใดถึงมีคำว่าโลหิต?” ชายชรามองซูหมิง

“เพราะเผ่าหมานของเราได้รับสืบทอดเส้นเลือด ภายในโลหิตแฝงไว้ด้วยพลังของเผ่าหมาน ทว่ากลับน้อยนิด มีแต่ต้องรวมโลหิตอย่างต่อเนื่องเท่านั้นถึงจะปะทุออกมา” ซูหมิงลังเลครู่หนึ่ง แล้วจึงกล่าวเบาๆ

“ไม่ผิด พูดในความหมายกว้างๆ นี่เป็นสิ่งที่ถูกต้อง แต่เจ้ายังไม่เข้าใจความหมายของพวกมัน” ชายชราใช้มือขวาวาดอากาศ

ต่อมาพลันปรากฏเส้นเลือดเส้นหนึ่งที่ขับแสงสีแดงสว่างจ้าละลานตา

“ดูให้ดี ข้าจะแสดงให้เจ้าดูแค่ครั้งเดียว ดูจบแล้วให้คำตอบข้า นี่เป็นการทดสอบแรกของเจ้า หากผ่านข้าจะรับเจ้าเป็นศิษย์ หากไม่ผ่าน มาทางไหนก็ไปทางนั้น” ชายชรามองซูหมิงอย่างลึกซึ้งแวบหนึ่ง ก่อนสะบัดมือขวาอีกครั้ง

เส้นเลือดบนอากาศพลันสั่นสะท้าน แตกแขนงออกเป็นหลายส่วน ส่วนแตกแขนงเหล่านั้นแบ่งออกอีกครั้ง จนท้ายที่สุดกลายเป็นเส้นเลือดจำนวนมากตรงหน้าซูหมิง ทว่าหากสังเกตดีๆ จะเห็นว่ามันยังคงเป็นเส้นเดียว

จากเส้นเลือดหนึ่งเส้นแตกแขนงออกเป็นหลายต่อหลายส่วน แต่ละส่วนรวมตัวอยู่กลางอากาศ สร้างเป็นภาพสัญลักษณ์รูปร่างคน ขยับแสงสีแดงวูบวาบ ส่องสะท้อนแสงรอบแปดทิศ

มองถึงตรงนี้ ซูหมิงสูดลมหายใจเข้าลึก ราวกับมีสายฟ้าแล่นผ่านความคิด เส้นเลือดในร่างกายเขาที่เดิมทีหายไปกลายเป็นลายหมาน ยามนี้กลับปรากฏขึ้นอีกครั้ง ปกคลุมไปทั่วตัวเขา

ภาพเหตุการณ์น่าอัศจรรย์ทำให้เขาสั่นเทา

“หลังจากชำระล้าง เส้นเลือด…ควรจะหายไปแล้ว…” ขณะซูหมิงกล่าวพึมพำ เงาคนจากเส้นเลือดบนอากาศเปลี่ยนแปลงอีกครั้ง

เส้นเลือดเหล่านี้ค่อยๆ พันรอบตัวเขา ปรากฏเป็นภาพสายน้ำไหลลงจากภูเขาสูง ดวงตะวันจันทราและดารา ต้นไม้ใบหญ้าสัตว์ป่า ภาพเหล่านี้เปล่งแสงอย่างต่อเนื่อง ทุกครั้งที่ปรากฏอย่างหนึ่ง เส้นเลือดคนยักษ์จะเกิดการเปลี่ยนแปลงต่างกันออกไป พวกมันกำลังเคลื่อนไหวเหมือนสอดคล้องกับภาพมายาโดยรอบ

ภาพสุดท้ายที่ปรากฏคือภูเขาลูกหนึ่ง มันเป็นภูเขาคล้ายห้านิ้วมือ รูปร่างของมันเหมือนกับลายภูเขาของซูหมิง!

ช่วงที่ภูเขาห้านิ้วมือปรากฏ บนตัวภูเขามีพืชขึ้น มีต้นไม้ มีฟ้าดิน ทั้งภูเขาห้านิ้วมือราวกับมีชีวิต ค่อยๆ สมบูรณ์มากขึ้นเรื่อยๆ จนเหมือนกลายเป็นภูเขาจริงๆ มิใช่ภาพมายา

เมื่อภูเขากลายเป็นของจริงแล้ว ซูหมิงมองอีกครั้งก็พบว่าภูเขานี้กับเงาคนเส้นเลือดหลอมรวมเข้าด้วยกัน ภูเขาค่อยๆ กลายเป็นร่างกาย ร่างกายของมันคือภูเขา!

ภูเขาลูกนี้กระจายอยู่ทั่วร่างกายเส้นเลือด ราวกับการวาดภาพสัญลักษณ์ ก่อนกลายเป็นผิวหนังเลือดเนื้อของเงาร่างคนเส้นเลือดทีละน้อย!

เมื่อเห็นถึงตรงนี้ เส้นเลือดที่เพิ่งปะทุในร่างกายเขาพลันโคจร ตัวเขาสั่นไหวอย่างรุนแรงคล้ายไม่อาจควบคุม ใบหน้าพลันขาวซีด มีโลหิตไหลจากมุมปาก

ความรู้สึกหมดแรงเกาะกุมจิตใจเขา ความรู้สึกเช่นนี้มาจากภาพที่เขาเห็น จุดชนวนพลังโลหิตในร่างกาย

“จะต่อหรือไม่?” ชายชรานั่งตรงหน้าซูหมิง มองเขา กล่าวเรียบๆ

“ต่อไป!” ซูหมิงกัดฟัน

บนท้องฟ้า เงาคนที่หลอมรวมกับภูเขาจนกลายเป็นผิวหนัง หากบอกเขาเป็นคนก็คือคน หากบอกว่าเขาเป็นภูเขาก็คือภูเขา! พลังมหาศาลแผ่กระจายมาจากเงาคน กลายเป็นแรงกดดันแข็งแกร่งปกคลุมฟ้าดิน

จากนั้นในร่างกายของเงาคนปรากฏกระดูกสีทองชิ้นหนึ่ง กระดูกนี้ค่อยๆ เพิ่มมากขึ้นจนกลายเป็นเป็นกระดูกสันหลังสมบูรณ์ ทว่าทุกอย่างยังไม่สิ้นสุด ต่อจากนั้นตามการไหลเวียนของเวลา ภายในร่างกายของเงาคนปรากฏเป็นโครงกระดูกสมบูรณ์!

มีเค้าโครง มีโครงกระดูก มีเลือดเนื้อและผิวหนังเหมือนกับคนจริงๆ เพียงแต่มันไม่มีจิตวิญญาณ เขาหลับตาไม่อาจลืมได้ ในตัวเขาซูหมิงสัมผัสได้ถึงความว่างเปล่าดุจหลับใหลไม่มีวันตื่น

“เมื่อลืมตา นั่นคือวิญญาณหมาน” ชายชรากล่าวเรียบๆ ลดมือขวาลง เงาคนบนท้องฟ้าบิดเบี้ยวก่อนหายไปกับอากาศ

“ข้าจะรอบคำตอบของเจ้าตรงนี้” ชายชราหลับตาลง

ซูหมิงนั่งเหม่อมองเงาคนที่หายไปกับอากาศ ในความคิดปรากฏภาพทุกอย่างก่อนหน้านี้ ผ่านไปพักใหญ่เขาจึงหลับตาลง เวลาผ่านไปอย่างช้าๆ ในโลกมิติไม่มีการโคจรของดวงตะวัน จันทรา และดารา ราวกับกาลเวลาหยุดนิ่ง

ชายชรายังคงหลับตา เขามีความอดทนมากพอจะรอคำตอบของซูหมิง ทว่าไม่นานชายชราพลันลืมตา มองซูหมิงตรงหน้า

ซูหมิงแน่นิ่ง ทว่าเส้นเลือดที่ผุดขึ้นบนตัวเขาก่อนหน้านี้กลับขยับแสงวูบวาบเด่นชัด มีเส้นเลือดสองเส้นคล้ายหลอมรวมเข้าด้วยกัน นัยน์ตาชายชราเป็นประกายวาววับ มองเส้นเลือดสองเส้นที่กำลังรวมกันของซูหมิง

‘เรียนรู้ได้เร็วยิ่งนัก!’

เส้นเลือดบนตัวซูหมิง หลังจากสองเส้นเลือดหลอมรวมกัน ก็พลันเพิ่มความเร็วในการหลอมรวม แต่ละเส้นผสานเข้าด้วยกัน หลายชั่วยามต่อมา ภายใต้สีหน้าชื่นชมของชายชรา เส้นเลือดในตัวซูหมิงทั้งหมดก็รวมเป็นเส้นเดียวกัน

เส้นเลือดหนึ่งเส้นขยับแสงสีแดงวูบวาบ ค่อยๆ ผุดบนใบหน้าของซูหมิง หลังจากกลายเป็นลายภูเขาห้านิ้วมือแล้ว มันก็แผ่ขยายลงมาตามคอของซูหมิง ชายชราเห็นดังนั้นจึงเกิดความตะลึงงัน

‘ลายหมานของเขาคือภูเขา ตอนนี้รวมโลหิตเสร็จแล้ว เหตุใดยังแผ่ขยายอีก…’

เส้นเลือดซ่อนอยู่ใต้เสื้อผ้าของซูหมิงตามร่องรอยโลหิตที่เขาเคยวาด ท้ายที่สุดจึงหลอมรวมกับลายหมานทั้งหมด ชายชราตรงหน้าเบิกตากว้างดูตื่นตะลึง เขาสูดลมหายใจ ยามนี้ไม่สนแล้วว่าอยู่ในฐานะอะไร เขาสะบัดมือขวาไปทางซูหมิง ทำให้เสื้อผ้าท่อนบนของซูหมิงหายไป เผยให้เห็นลายหมานสมบูรณ์บนตัว!

เผ่าเขาทมิฬ!

ช่วงที่ชายชราเห็นลายหมานของซูหมิง เขาสูดลมหายใจเข้าลึก เหม่อลอยไปชั่วครู่ ชั่วชีวิตนี้เขาเคยเห็นลายหมานมานับไม่ถ้วน และเคยเห็นลายหมานซับซ้อนมาบ้าง แต่กลับไม่เคยเห็นลายหมานอย่างของซูหมิง ระดับความซับซ้อนเช่นนี้เขาไม่เคยเห็นมาก่อน

“นี่มัน…ลายหมานอย่างนั้นรึ…เจ้าหนุ่มนี่บ้าระห่ำกว่าข้าเสียอีก…” ชายชราพึมพำ สีหน้าตกตะลึง

‘เดิมทีข้าคิดว่าเขากระตุ้นเสียงแห่งการสร้างวิญญาณจากลายหมานทั้งหมด…ทว่าตอนนี้ เสียงแห่งการสร้างวิญญาณกลับเป็นแค่ส่วนหนึ่งของลายหมานเขาเท่านั้น! ลายหมานเช่นนี้ไม่อาจเติบโตได้อีก ไร้อนาคต หรือไม่ก็…หากเติบโตจะสั่นสะเทือนไปทั้งแดนหมาน!’

‘ในวันนั้นหลังจากข้ากลับไปแล้ว เกิดอะไรขึ้นกันแน่…’ ชายชราแทบไม่อยากจะเชื่อ เขารู้สึกเสียดายที่กลับไปก่อนเพราะผิดหวังในตอนนั้น

ขณะกำลังนึกเสียใจ เขาพลันสังเกตเห็นอะไรบางอย่าง สีหน้าเปลี่ยนทันใด จากนึกเสียใจกลายเป็นรอยยิ้มหยั่งลึกยากจะคาดเดา เขาสะบัดมือขวาไปทางซูหมิงอีกครั้ง ทำให้เสื้อผ้าของซูหมิงกลับมา ก่อนกระแอมไอ ทำท่าทางเหมือนนักปราชญ์ผู้อาวุโสพลางมองซูหมิง

ทันใดนั้นซูหมิงลืมตาขึ้นอย่างช้าๆ นัยน์ตาแฝงไว้ด้วยความเข้าใจ

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version