Skip to content

สู่วิถีอสุรา 297

ตอนที่ 297 หุ่นเชิดตรีศูลภูตผี

งานประมูลในครั้งนี้จัดขึ้นในอีกห้าวันให้หลัง ความยิ่งใหญ่ของมันไม่เพียงคนสำนักเหมันต์สวรรค์จะเข้าร่วม กระทั่งผู้สูงศักดิ์จำนวนหนึ่งของเผ่าใหญ่เหมันต์สวรรค์ก็ยังส่งคนมาด้วย

รวมกับเผ่าอื่นๆ ในละแวก กระทั่งคนจากแดนไกลบางส่วนก็รู้เรื่องงานประมูลครั้งใหญ่ในทุกหนึ่งร้อยปีนี้ จึงมักออกเดินทางล่วงหน้า กำลังอยู่ระหว่างเดินทางมา

ในผู้มาเยือนเหล่านี้ส่วนใหญ่เป็นผู้ซื้อ ทว่าก็มีไม่น้อยที่มาจากแปดทิศเพื่อนำของตัวเองมาให้ฝ่ายประมูลช่วยประมูลให้

ซูหมิงถือบัตรเชิญ กวาดมองหม้อสามขาด้านบน พยายามระงับความรู้สึกตะลึง หลับตาลงขบคิดชั่วครู่ ก่อนส่งบัตรเชิญให้จื่อเชอ

“สามวันจากนี้ พวกเราจะออกเดินทาง”

จื่อเชอรีบขานรับ รับบัตรเชิญมาอย่างนอบน้อม ก่อนนำใส่ไว้ในอกเสื้อ อาการบาดเจ็บของเขาหายดีแล้ว อีกทั้งเมื่อรู้เรื่องทุกอย่างที่ยอดเขาลำดับเก้าทำเพื่อเขาหลังบาดเจ็บจากปากหู่จื่อ เขาจึงซาบซึ้งใจ

โดยเฉพาะเมื่อถูกขับไล่ออกจากยอดเขาลำดับสอง การที่ยอดเขาลำดับเก้าทำแบบนี้ ทำให้จื่อเชอรู้สึกอบอุ่นในใจยิ่งนัก เขาไม่สนใจฐานะผู้ติดตามของตนอีก สำหรับเขาแล้วยอดเขาลำดับเก้าคือที่พักพิง

มิหนำซ้ำเมื่อหายดีแล้ว ผนึกในตัวเขาก็ถูกปลดออก ยามนี้เขาเป็นอิสระแล้ว เขาก็ยังยอมอยู่ยอดเขาลำดับเก้า อยู่ข้างซูหมิงต่อ

เขาชินกับวิถีชีวิตแบบนี้แล้ว จนไม่รู้สึกอึดอัดอีก

ความแข็งแกร่งของซูหมิง เขาเข้าใจดีเป็นอย่างยิ่ง ด้วยความที่ใกล้ชิดกันทีละนิด จึงทำให้จื่อเชอเคารพซูหมิงอย่างลึกซึ้ง เมื่อรับบัตรเชิญมาแล้ว จื่อเชอก็ลังเลครู่หนึ่ง

“อาจารย์อา ท่าน…ในตัวท่านมีกำไลน้ำแข็งสิบหกวงแล้ว เอ่อ….ข้าคิดว่ามันหนักเกินไป หากร่างกายรับไม่ไหว จะแย่เอา”

ซูหมิงมองจื่อเชอแวบหนึ่ง ใบหน้าเผยรอยยิ้มบางๆ

“ไม่เป็นไร”

จื่อเชอพยักหน้า เขาไม่สะดวกพูดตรงๆ ตอนนี้เห็นซูหมิงเข้าใจจึงโค้งตัวแล้วถอยกลับ

ซูหมิงนั่งขัดสมาธิอยู่บนแท่นราบนอกถ้ำ เขานั่งอยู่ตรงนี้นานมากแล้ว ยังไม่ยอมยืนขึ้น ตะวันขึ้นลงล้วนเป็นเช่นนี้ มิใช่ว่าเขาไม่คิด น้ำหนักรวมของกำไลน้ำแข็งสิบหกวงตรงเท้า ไม่ต่างจากซูหมิงรับน้ำหนักภูเขาลูกหนึ่งอยู่บนตัวเลย

ตอนแรกสุด เขารู้สึกเหมือนขาทั้งสองข้างจะขาดออกจากตัวครึ่งบน จนเมื่อสองสามวันมานี้ถึงค่อยๆ เริ่มปรับตัวได้ ทว่าหากคิดจะยืนขึ้นยังลำบากอยู่เล็กน้อย

ขณะนั่งขัดสมาธิ ซูหมิงยกมือขวาสะบัด ตรงฝ่ามือเขาปรากฏตรีศูลสีดำขนาดสามชุ่นหนึ่งเล่ม ตรีศูลนี้มีลักษณะเหมือนสามง่าม เป็นสีดำทึบทุกส่วน ตรงปลายแหลมดูน่าสะพรึง หากเพ่งมองนานๆ ข้างหูจะได้ยินเสียงร้องโหยหวนของภูตผีรางๆ

“ตรีศูลภูตผี…” ซูหมิงจ้องมันพลางพึมพำกับตัวเอง

สิ่งนี้เป็นหนึ่งในของที่ศิษย์พี่รองเตือนว่าซูหมิง ‘ทำหาย’ ตอนอยู่ในเผ่าแดนภูต ตอนนี้ได้ ‘กลับคืน’ มาแล้ว เดิมทีหากซูหมิงจะศึกษามันด้วยตัวเองต้องใช้เวลาสักเล็กน้อย

ทว่าภายใต้การช่วยเหลือของศิษย์พี่รอง สิ่งนี้เหมือนรวมเป็นหนึ่งเดียวกับซูหมิง เชื่อมเข้าด้วยกัน ทำให้เขาควบคุมได้ตามใจนึก บวกกับว่าซูหมิงใช้จิตสัมผัสเป็นตราประทับ สลักลงไปอีกหนึ่งชั้น เขาถึงใช้ตรีศูลภูตผีนี้ไม่เป็นรองชาวเผ่าแดนภูต

“ตี ตา ล่า!” นัยน์ตาซูหมิงขยับประกาย ปากพ่นเสียงพิลึกสามคำ ช่วงที่เสียงทั้งสามคำดังขึ้น ตรีศูลภูตผีในมือพลันปล่อยหมอกดำ หมอกดำนี้พลันเข้มข้น อบอวลอยู่ตรงกลางมือซูหมิง มันใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ จนสุดท้ายแผ่ขยายถึงสิบกว่าจั้ง ลอยอยู่กลางอากาศ หมอกดำหมุนตลบ ค่อยๆ รวมขึ้นเป็นเงาคนยักษ์

เงาคนนี้เหมือนมีพลังไร้ขีดจำกัด บริเวณหน้าเลือนรางไม่เห็นใบหน้า ทั้งตัวก่อขึ้นจากหมอกดำ ดูเหมือนภูตผีชั่วร้าย ทว่าความจริงแล้วสิ่งนี้กลับมิใช่ภูตผี กระทั่งชีวิตยังไม่มี มันเป็นหุ่นเชิด

หุ่นเชิดภูตผีแบบนี้สร้างโดยชาวเผ่าแดนภูตด้วยวิธีประหลาด! มันสามารถเปลี่ยนเป็นรูปใดๆ ก็ได้ อีกทั้งยังเลียนแบบได้อย่างแนบเนียน กระทั่งยังเปลี่ยนกลิ่นอายพลังได้

ยามนี้ตัวหุ่นเชิดภูตผีพลันเหยียบบนแท่น ยกแขนกำยำสองข้างขึ้นจับตัวซูหมิง แขนมันตึงแน่น ยกซูหมิงที่ไม่อาจขยับตัวขึ้นจากพื้นแล้วค่อยๆ วางบนบ่า

จนถึงตอนนี้ซูหมิงยังไม่เอ่ยสักคำ เจ้าสิ่งนี้เขาเป็นคนควบคุมโดยการรวมจิตสัมผัสให้ตัวมันขยับเหมือนกับร่างกายตัวเอง

หุ่นเชิดยักษ์แบกซูหมิง สาวเท้ายาวเดินหน้า ทุกก้าวล้วนทำให้ชั้นน้ำแข็งบนแท่นราบเกิดเสียงดังสนั่น เห็นได้ชัดว่าน้ำหนักของซูหมิงมิใช่ธรรมดา

หุ่นเชิดยักษ์แบกซูหมิงมาจนถึงภายในถ้ำทีละน้อย มันเปลี่ยนขนาดเล็กใหญ่ได้ ขณะเดินหน้าตัวมันหดเล็กลงไม่น้อย ทำให้ผ่านประตูถ้ำโดยการแบกซูหมิงไปได้

หุ่นเชิดแบกซูหมิงมาจนถึงห้องที่สร้างขึ้นเพื่อเหอเฟิงโดยเฉพาะ ตรงนั้น นัยน์ตาซูหมิงเป็นประกายสั่นไหว การหลอมรวมเหอเฟิงกับค้างคาวจันทรามาถึงช่วงสุดท้ายแล้ว หากผ่านครั้งนี้ไปและสำเร็จ เหอเฟิงคนใหม่จะช่วยซูหมิงด้านการเดินทางในเผ่าเชมันได้อย่างมาก

เหอเฟิงในตอนนี้ถูกหมอกโลหิตคลุมทั้งตัว มองเห็นร่างไม่ชัด หมอกโลหิตไหลตลบเป็นบางครั้ง ดูพิลึกยิ่งนัก

เมื่อสังเกตครู่หนึ่งแล้ว หุ่นเชิดใต้ตัวเขาจึงถอยหลังหลายก้าวมาจนถึงอีกหนึ่งห้องหินภายในถ้ำ ตอนที่เพิ่งเข้ามา มีกลิ่นหอมสมุนไพรโชยกระทบใบหน้า ห้องหินนี้กว้างใหญ่ยิ่งนัก บนพื้นไม่ใช่น้ำแข็งแต่เป็นดินโคลน

ดินโคลนนี้จื่อเชอนำมาให้จากแดนไกลตามคำสั่งของซูหมิง เมื่อจัดวางตรงนี้แล้ว ซูหมิงก็ปลูกสมุนไพรจำนวนมากที่ ‘ทำหาย’ ในเผ่าแดนภูต

เดิมทีสมุนไพรตรงนี้ไม่สามารถเจริญเติบโต ทว่ามีศิษย์พี่รองช่วย ใช้วิธีพิลึกบางอย่างทำให้สมุนไพรเหล่านี้เติบโตบนดินโคลนโดยไม่มีราก

ทว่าเงื่อนไขคือ ใต้ดินโคลนจะต้องวางเหรียญหินสีทองที่เต็มไปด้วยพลังวิญญาณจำนวนไม่น้อย

“การเดินทางในเผ่าเชมัน จะต้องเตรียมตัวให้ดี ถึงอย่างไรการเดินทางครั้งนี้ก็ยาวนาน…” แววตาซูหมิงดูขบคิด เขาเคยไปแผ่นดินเชมันมาก่อน แม้เป็นเพียงไม่กี่วัน แต่ความลำบากในไม่กี่วันนั้นกลับยากจะลืมเลือน

หากไปเผ่าเชมันในครั้งนี้ต้องตกอยู่ในสภาพแบบนั้นอีก การเตรียมตัวในตอนนี้ก็จะกลายเป็นเหตุผลของการเอาชีวิตรอดในตอนนั้นได้

ขณะตกอยู่ในห้วงความคิด หุ่นเชิดสาวเท้ายาวเกิดเสียงดังก้อง มุ่งหน้าไปอีกหนึ่งห้องหิน ภายในห้องนี้ บนพื้นวางกระดูกสัตว์ต่างกันเจ็ดชนิด กระดูกแต่ละชนิดล้วนแผ่แรงกดดันแกร่งกล้า กระดูกสัตว์เหล่านี้ ตอนมีชีวิตเป็นสัตว์ร้ายเทียบเท่ากับขั้นชำระล้าง

ยามนี้บนกระดูกเต็มไปด้วยพืชสีเขียว ซูหมิงปลูกเอาไว้สักระยะแล้ว

ข้างกระดูกเหล่านั้นยังมีร่างคนเจ็ดคน ไม่มีเค้าลางเน่าเปื่อยแต่อย่างใด แม้ดูเหมือนคนตาย ทว่าหากสังเกตดีๆ จะพบว่าในตัวพวกเขายังมีพลังชีวิตอ่อนแรงอยู่

ทั้งเจ็ดคนนี้ไม่มีลายหมาน!

ใบหน้าพวกเขาสักภาพสัญลักษณ์จำนวนมาก ดูซับซ้อนเล็กน้อย หากไม่เคยเห็นชาวเผ่าเชมันมาก่อน เมื่อเห็นเจ็ดคนนี้แล้วอาจคิดว่าเป็นชาวเผ่าพิเศษบางแห่ง

ทว่าตอนแรก ช่วงที่เผ่าแดนภูตส่งเจ็ดคนนี้มา ซูหมิงมองแวบเดียวก็รู้แล้วว่าพวกเขาเป็นชาวเผ่าเชมัน ไม่รู้ว่าถูกเผ่าแดนภูตจับมาได้อย่างไร

‘บ่มเพาะอีกหนึ่งเดือนก็จะหลอมโอสถชิงวิญญาณได้…ครั้งนี้หากหลอมได้สามเม็ดก็จะเปิดประตูบานใหญ่ในมิติพิลึกได้อีกบาน และได้เรียนรู้วิธีการหลอมเม็ดโอสถชนิดใหม่ น่าเสียดายที่เม็ดโอสถมอบจิตยังขาดวัตถุดิบอยู่ ตามที่ข้าเข้าใจเกี่ยวกับมิติพิลึก ยิ่งมันต้องการเม็ดโอสถเป็นของเซ่นมากเท่าไร คุณภาพเม็ดโอสถจะยิ่งต่ำ แต่ในทางตรงกันข้าม ตัวมันจะยิ่งสูงขึ้น ในวิธีการหลอมที่ต่างกันของเม็ดโอสถเหล่านี้ มีเพียงโอสถมอบจิตแค่ชนิดเดียวที่ไม่ต้องการของเซ่นใดๆ’

ซูหมิงนึกถึงตอนอยู่ภูเขาทมิฬ เข้าไปในมิติพิลึก และเห็นวิธีการหลอมโอสถมอบจิต

‘ขาที่เก้าของแมงมุม เกล็ดหางงูเหลือมประหลาด คนเล็กสีดำ…ตอนนี้ข้าได้มาชนิดเดียว’ ซูหมิงขมวดคิ้ว หุ่นเชิดด้านล่างก้าวเดินออกจากถ้ำจนมาถึงแท่นราบ เมื่อวางซูหมิงลงแล้ว ซูหมิงก็ยังนั่งขัดสมาธิเหมือนเดิม

นัยน์ตาเขาวูบไหว ช่วงที่ยกมือขวาขึ้น ตรงกลางฝ่ามือปรากฏหนอนเล็กสีม่วงหนึ่งตัว หนอนตัวนี้มีชื่อว่าม่วงละลาย เป็นของที่ฝ่ายภูตผีแห่งแดนภูตมอบให้

‘ไม่รู้ว่าถ้าให้หนอนงูกินแล้วจะเป็นอย่างไร…’ ซูหมิงลังเลครู่หนึ่ง มิได้ทดลองในทันที เขาจำได้ว่าฝ่ายภูตผีเคยบอกว่าหากล้มเหลว สัตว์ร้ายที่กินม่วงละลายตัวนี้จะระเบิดตาย

เรื่องความเสี่ยงแบบนี้ หากไม่จำเป็นจริงๆ และไม่มีความมั่นใจมากพอ ซูหมิงจะไม่ลองมันเด็ดขาด

เวลาสามวันผ่านไปอย่างรวดเร็ว ซูหมิงไปตรวจเหอเฟิงกับวัตถุดิบเตรียมหลอมโอสถชิงวิญญาณทุกวัน เรื่องเกี่ยวกับงานประมูลครั้งนี้เป็นที่สนใจอย่างยิ่งในเก้ายอดเขาแห่งแผ่นดินสำนักเหมันต์สวรรค์ มีหลายคนเดินทางไปงานประมูลเป็นกลุ่ม บ้างก็ไปเพียงลำพัง

ยอดเขาลำดับเก้า หู่จื่อเมานอนแล้วเข้าฝัน ไม่ได้สนใจเรื่องนี้เลย ส่วนศิษย์พี่รองก็ยังคงปลูกพืชดอก ในยามกลางวัน บ้างก็ไปพัวพันอยู่รอบๆ จื่อเยียน

ศิษย์พี่ใหญ่ยังคงปิดด่านฝึกพลัง ส่วนชายร่างกำยำสีดำ ซูหมิงได้รู้ทีหลังว่าเป็นทาสของศิษย์พี่ใหญ่ ด้วยเหตุนี้ เขาจึงเริ่มคาดเดาฐานะของศิษย์พี่ใหญ่แล้ว

ส่วนเทียนเสียจื่อ เขาออกมาให้เห็นน้อยมาก ส่วนใหญ่จะเห็นเขาสวมเสื้อสีต่างกัน เมื่อร้องตะโกนในยามเช้าตรู่แล้วก็จะบินไปยังทิศทางที่ต่างออกไป

ยามเช้าตรู่วันที่สี่ หุ่นเชิดจากตรีศูลภูตผีกลายร่างเป็นสัตว์ยักษ์ตัวดำทึบ ซูหมิงนั่งอยู่บนหลังมัน ข้างกายเป็นจื่อเชอติดตามมาอย่างนอบน้อม เตรียมจะออกจากยอดเขาลำดับเก้า

เพียงแต่ว่าเพราะการมาของไป๋ซู่ การเดินทางในครั้งนี้จึงมีคนเพิ่มมาอีกหนึ่ง

ทั้งสามคนอยู่บนตัวหุ่นเชิดภูตผี กลายเป็นสายรุ้งสีดำทึบออกจากยอดเขาลำดับเก้า มุ่งหน้าสู่งานประมูลกลางอากาศ

ระหว่างทางเจอกับศิษย์สำนักเหมันต์สวรรค์ที่จะไปงานประมูลเหมือนกันอีกเล็กน้อย คนเหล่านี้ล้วนอึ้งมองสัตว์สีดำขนาดสามสิบกว่าจั้งใต้ซูหมิง โดยเฉพาะเมื่อเห็นซูหมิงกับจื่อเชอนั่งอยู่ด้านบน จึงต่างพากันหลบโดยเร็ว

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version