Skip to content

สู่วิถีอสุรา 314

ตอนที่ 314 อีกหนึ่งชิ้น

“เจ้าต้องการกี่เม็ด” เทียนหลันเมิ่งกล่าวอย่างสงบนิ่ง น้ำเสียงไม่ช้าไม่เร็ว

“แม่นางน้อยน่าจะเป็นหนึ่งในผู้บวงสรวงหลันรุ่นนี้ที่บรรพบุรุษเทียนหลันเลือกมา เจ้าคือเทียนหลันเมิ่ง พี่สาวเจ้าคือเทียนหลันโยว” นัยน์ตาเด็กชายผู้นั้นขยับประกายพร้อมยิ้มกล่าว

“ผู้บวงสรวงหลันทุกรุ่นของสกุลเทียนหลัน จะต้องแบ่งมายังเหมันต์สวรรค์หนึ่งคนและทะเลตะวันออกอีกหนึ่งคน จากนั้นก็เลือกหนึ่งในสองคนนี้ไปต้อนรับบรรพบุรุษเทียนหลัน ข้าเคารพเทียนหลัน หากเจ้าอยากได้ของ ข้าขอไข่มุกสวรรค์สิบเม็ดก็พอ”

เสียงเด็กชายผู้นี้ดังกึกก้องในห้องลับ ผู้คนโดยรอบมิได้สนใจมอง ส่วนใหญ่เหมือนจะไม่ได้ยิน

“สิบเม็ด…” เทียนหลันเมิ่งลังเล นางมองของสี่ชนิดตรงหน้าเด็กชายคนนั้น แล้วจึงมองวานรขนแดงทึบ ขบคิดอยู่ชั่วครู่

“ข้าให้เจ้าได้เพียงสองเม็ด” เทียนหลันเมิ่งกล่าวเบาๆ

“ไม่ได้นะแม่นางน้อย ไข่มุกสวรรค์อย่างน้อยต้องห้าถึงจะรวมเข้าด้วยกันได้ สองเม็ดไม่พอจะแลกกับของชิ้นใดของข้า เว้นแต่เจ้าจะมีของหายากบางอย่าง ข้าจะสนใจของพวกนี้เป็นพิเศษ” เด็กชายผู้นั้นยิ้ม กวาดสายตามองซูหมิง เขาจำได้ว่าซูหมิงเคยกล่าวเมื่อครู่

“ของหายาก…” ซูหมิงหลับตา ผ่านไปครู่หนึ่งพลันลืมตาขึ้น

ตอนที่เทียนหลันเมิ่งจะกล่าว ซูหมิงใช้มือกดแขนนางเอาไว้ เขาจะไม่รู้ได้อย่างไรว่าที่นางเสนอราคาก็เพราะเห็นเขาเปลี่ยนไปยามเห็นวานรตัวนั้น เขาจำน้ำจิตน้ำใจครั้งนี้เอาไว้แล้ว

ขณะเดียวกัน เขาก็มองออกว่าไข่มุกสวรรค์นี้จะต้องเป็นของล้ำค่าอย่างยิ่งแน่นอน สำหรับเทียนหลันเมิ่งแล้วก็คงไม่ต่างกัน

เขายอมเลือกละทิ้งได้ กระทั่งไม่สนใจของชนิดอื่นของเด็กชายคนนี้ ทว่าวานรตัวนั้น ซูหมิงกลับไม่อาจบังคับให้ตนเลิกสนใจมันได้

แม้ว่ามันจะไม่ใช่เสี่ยวหงก็ตาม

“ข้ามีของหายากชิ้นหนึ่ง ทว่าจะมองประโยชน์มันออกหรือไม่ ก็ต้องดูที่สายตาของเจ้า” ซูหมิงเงยหน้ามองเด็กชายผู้นั้น ขั้นพลังของทั้งสองคนห่างกันยิ่งนัก ทว่ายามนี้ซูหมิงกลับไม่กลัว อย่างน้อยการแลกเปลี่ยนครั้งนี้ก็อยู่ในห้องลับ ทั้งสองฝ่ายผู้ทำการค้าอยู่ในตำแหน่งเดียวกัน

หากตนหวาดกลัวก่อน และตื่นกลัวกับขั้นพลังของอีกฝ่าย เช่นนั้นก็ไม่ต้องเจรจาซื้อขายอะไรแล้ว

“อ้อ?” เด็กชายคนนั้นกวาดสายตามองซูหมิงอย่างเฉยเมย สีหน้าทีเล่นทีจริง เขาไม่ค่อยเชื่อว่าบุคคลตรงหน้านี้จะมีของที่ทำให้เขามองว่าหายากจริงๆ

เขาเป็นคนสำนักทะเลตะวันออก แม้ไม่เห็นใบรายชื่อผู้เข้าร่วมงานประมูลนี้ แต่นั่งอยู่กับเทียนหลันเมิ่ง ถ้าไม่เป็นผู้แข็งแกร่งของสกุลเทียนหลันก็เป็นสหายของนางเท่านั้น

เห็นได้ชัดจากการกระทำของทั้งสองคน บุคคลที่กล่าวนี้ไม่เหมือนคนสกุลเทียนหลัน เช่นนั้นมีเพียงคำอธิบายเดียวนั้นคือเขาเป็นสหายของเทียนหลันเมิ่ง โดยเฉพาะน้ำเสียงที่ไม่เหมือนพวกคนชรา ขั้นพลังต้องไม่สูงเป็นแน่ อย่างมากก็แค่เซ่นไหว้กระดูกเท่านั้น

“เจ้าเอาออกมาดูก่อน บางทีอาจเป็นของที่ข้าไม่รู้จักจริงๆ” เด็กชายคนนี้พูดแบบขอไปที นิสัยเขาเป็นเช่นนี้ มิได้ให้ความสำคัญกับซูหมิง

ซูหมิงไม่พูดมากความ ล้วงมือขวาเข้าไปในอกเสื้อ หยิบของหนึ่งชิ้นมาจากถุงเก็บวัตถุ เมื่อสิ่งนี้อยู่ในมือก็พลันเกิดความลังเลครู่หนึ่ง หลังจากกวาดสายตามองวานรกับของหลายชนิดตรงหน้าผู้ชราแล้ว เขาพลันหยิบมันออกมาแล้วโยนให้เด็กชายตรงหน้า

มันเป็นของลักษณะกลมหนึ่งชิ้น เด็กผู้นั้นรับแล้วก็ถือไว้ตรงหน้า มองแวบหนึ่ง

เมื่อดูเสร็จ เด็กชายผู้นี้พลันมีสีหน้าเคร่งขรึม ยกมือขวาขึ้นสะบัดไปตรงหน้า มวลอากาศด้านหน้าเขาขมุกขมัวทันที มวลอากาศขมุกขมัวนี้โอบล้อมตัวเขา ทำให้ทุกคนมองเห็นไม่ชัดว่าเขากำลังทำอะไร

ทว่างานประมูลครั้งนี้สำนักทะเลตะวันออกเป็นเจ้าภาพ อีกทั้งข้อกำหนดยังสูงยิ่งนัก เรื่องจำพวกฮุบของคนอื่นมีน้อยมาก อีกอย่างเด็กชายคนนี้มีขั้นพลังสูงส่ง ไม่ว่าจะเป็นฐานะหรือตำแหน่งล้วนโดดเด่นในสำนักทะเลตะวันออก แน่นอนว่าย่อมไม่มีทางลดฐานะตัวเองไปใช้กำลังชิงของรุ่นเยาว์ต่อหน้าทุกคนเป็นแน่

ฉะนั้นอากาศขมุกขมัวสำหรับคนนอกจึงเป็นเช่นนี้ แต่สำหรับซูหมิงกับเทียนหลันเมิ่งกลับไม่มีผลอะไร เพราะเด็กชายคนนี้ตั้งใจให้เป็นอย่างนั้น

ซูหมิงเห็นว่าเด็กชายคนนี้หยิบวัตถุลักษณะกลมวางไว้ตรงจมูก เมื่อดมแล้วสีหน้าก็แปรเปลี่ยนอีก เขาจ้องสิ่งนี้อย่างลังเลใจ สีหน้าเปลี่ยนไปอีกหลายครั้ง

ซูหมิงเห็นวัตถุดังกล่าวอยู่ในมืออีกฝ่าย ในใจรู้สึกเจ็บปวด เพราะสิ่งนี้คือ….โอสถชิงวิญญาณ!

มันเป็นเพียงสิ่งเดียวที่นับว่าหายากของเขา

“นี่คือ…อะไร?” เด็กชายคนนั้นลังเลครู่หนึ่ง ก่อนเงยหน้าขึ้นมองซูหมิง

“แลกกับของของเจ้าได้หรือไม่?” ซูหมิงกล่าวด้วยเสียงหนักแน่น

“ได้ ทว่าจุดสำคัญอยู่ที่ประโยชน์ของมัน” เด็กชายมองซูหมิงพลางกล่าวอย่างจริงจัง

“สิ่งนี้คืออะไรข้าไม่รู้ ทว่าประโยชน์มันก็ง่ายมาก ดูดกายมายาได้ทุกสิ่ง อย่างเช่นดูดลายหมาน กระทั่งข้างในยังมีภาพสัญลักษณ์ของเผ่าเชมัน” ซูหมิงแอบถอนหายใจ เอ่ยอย่างช้าๆ

“ที่แท้ก็เป็นเช่นนี้ ก็ว่าอยู่เหตุใดตอนข้าพิจารณาถึงรู้สึกว่าข้างในมีกลิ่นอายพลังของเผ่าเชมันอยู่…แม้สิ่งนี้ไม่มีประโยชน์มากนัก แถมด้านบนยังมีรอยร้าว ดูแล้วคงดูดเก็บได้จำกัด หากมากเกินก็จะแตก ทว่ามันนับเป็นของหายากจริงๆ!

แต่ถึงอย่างนั้น เจ้าจะแลกของไปทั้งหมดไม่ได้ เอาแบบนี้แล้วกัน ไม่รวมไขสันหลังทะเล ในบรรดาวานรเพลิงกับอีกสามอย่าง เจ้าเลือกได้หนึ่งอย่าง!” เด็กชายพยักหน้าด้วยสีหน้าจริงจัง

“มิใช่ว่าข้ารังแกเจ้าหรอก แต่สิ่งนี้มีแต่ความแปลกและหายาก ทว่ามันมีรอยร้าวจึงถือเป็นของชำรุดแล้ว คงดูดกายมายาได้อีกไม่มาก สำหรับข้ามันมีประโยชน์แค่ใช้ศึกษาเท่านั้น” เด็กชายมองซูหมิงแวบหนึ่งแล้วอธิบายต่อ

“ทว่าหากเจ้ายังมีสิ่งนี้อีก พวกเราก็คุยกันใหม่ได้”

เด็กชายกล่าวจบค่อยยิ้มให้ซูหมิงอย่างมีความหมายลึกซึ้ง

“สิ่งนี้ข้ามีเพียงชิ้นเดียว” ซูหมิงกวาดสายตามองสิ่งของเหล่านั้นของเด็กชาย จนไปถึงวานรเพลิงถึงละสายตากลับ

“อาจารย์ให้ข้ามา” ซูหมิงกล่าวต่อ ละสายตากลับแล้วมองเด็กชาย

“อ้อ อาจารย์เจ้าเป็นใคร?” เด็กชายยิ้มบางๆ พลางเล่นโอสถชิงวิญญาณในมือ กล่าวอย่างไม่ใส่ใจนัก

“อาจารย์ข้าคือเทียนเสียจื่อ เขาเป็นพวกถือหางพรรคพวกตัวเองเสียด้วย”

ซูหมิงไม่ปิดบังฐานะ อีกอย่างเรื่องนี้ก็ยากจะปิดบังด้วย หากสำนักทะเลตะวันออกอยากรู้คงรู้ไม่ยากนัก เพราะคนจัดงานประมูลในห้องลับนี้ก็เป็นพวกเขา

สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ ซูหมิงรู้สึกว่าฐานะของเทียนเสียจื่อมีเงื่อนงำอะไรบางอย่าง จุดนี้ซูหมิงรู้สึกได้ตอนเห็นเทียนเสียจื่อในชุดม่วง บวกกับเรื่องเดินทางไปเผ่าเชมันอีก นี่ยิ่งทำให้เขามั่นใจ

นอกจากนี้ ในการประมูลครั้งใหญ่ที่จัดขึ้นยามกลางวัน ซูหมิงยังพบข้อสงสัยจากร่องรอยบางอย่าง อันดับแรกคือการกระทำของผู้อาวุโสสำนักทะเลตะวันออก ต่อมาก็เป็นท่านชายรองแห่งเผ่าใหญ่เหมันต์สวรรค์ที่ญาติดีกับเขา

ทุกอย่างนี้ซูหมิงไม่คิดว่าจะเป็นเพราะตน

พอเด็กชายได้ยินซูหมิงบอกว่าเทียนเสียจื่อ รอยยิ้มบางบนใบหน้าพลันแข็งข้าง สีหน้าไม่ใส่ใจกลายเป็นตะลึงงัน ตามด้วยการก้มหน้ามองโอสถชิงวิญญาณในมือ ก่อนมองซูหมิงอีกครั้ง ใบหน้าเผยรอยยิ้มฝืนๆ

“เจ้าคือซูหมิงแห่งยอดเขาลำดับเก้า….เอ่อ ฝากทักทายผู้อาวุโสเทียนเสียจื่อให้ข้าด้วย…..ช่างเถอะ ในของพวกนี้เจ้าเลือกไปได้อีกอย่าง” เด็กชายส่ายศีรษะ

ซูหมิงหัวใจเต้นแรง ขณะกำลังจะกล่าว เทียนหลันเมิ่งทำเสียงกระแอมทีหนึ่ง

“ข้าต้องการวานรและไขสันหลังทะเลห้าหยด!”

“วานรเพลิงให้ได้ ทว่าไขสันหลังทะเลคงให้มากขนาดนั้นไม่ได้…สามหยด นี่เห็นแก่หน้าผู้อาวุโสเทียนเสียจื่อแล้ว” เด็กชายลังเลครู่หนึ่ง แล้วจึงส่ายศีรษะ

“ได้ สามก็สาม” เทียนหลันเมิ่งขยิบตาให้ซูหมิงก่อนรีบกล่าว

เด็กชายไม่พูดให้มากความอีก ยกมือขวาขึ้นจับขวดหยก เปิดออกแล้วสะบัด มีของเหลวสีฟ้าสามหยดลอยไปทางซูหมิง

เทียนหลันเมิ่งรีบยกมืองามขึ้น ในมือนางมีขวดน้ำแข็งหนึ่งขวด เมื่อบรรจุของเหลวสามหยดลงไปแล้ว ขวดน้ำแข็งก็พลันกลายเป็นสีฟ้าเข้ม

จากนั้น เด็กชายสะบัดแขนเสื้อ มีโซ่เส้นหนึ่งบินไปทางซูหมิง ก่อนถูกเขาคว้าเอาไว้

ทันทีที่จับโซ่เส้นนี้ จิตใจเขาสั่นสะท้าน มีความรู้สึกว่าสามารถควบคุมความเป็นตายของวานรเพลิงตัวนี้ ประหนึ่งเพียงความคิดเขาเคลื่อนไหว วานรเพลิงจะตายทันที

“โซ่นี้ให้เจ้ายืมชั่วคราวเท่านั้น แต่ไม่อาจให้เวลานานมากนัก เจ้าต้องรีบหาวิธีควบคุมมันให้เร็วที่สุด เมื่อหาพบแล้วก็ให้โยนโซ่ขึ้นฟ้า มันจะกลับมาหาข้าเอง วานรตัวนี้มีนิสัยเหี้ยมโหด เจ้าต้องระวังเอาไว้” เด็กชายกล่าวจบ อากาศขมุกขมัวตรงหน้าหายไป ทำให้ผู้อื่นเห็นหน้าตาและได้ยินเสียงของเขา

ส่วนการสนทนากับสีหน้าของทั้งสามคนก่อนหน้านี้ ผู้อื่นไม่อาจสังเกตเห็นและมองไม่เห็น นี่คือการจัดเตรียมแบบพิเศษสำหรับงานประมูลเล็กในครั้งนี้ เพื่อคุ้มกันการแลกเปลี่ยนตัวต่อตัว

คนอื่นๆ ทั้งสองแถบส่วนใหญ่ไม่สนใจมากนัก มีเพียงไม่กี่คนที่มองเทียนหลันเมิ่งกับซูหมิงหลายครั้ง จากในแววตาของพวกเขา ซูหมิงแทบจะอ่านไม่ออกเลยว่ารู้สึกอย่างไร

ถึงอย่างไรหากเทียบกับคนเหล่านี้ ซูหมิงก็ยังอ่อนหัดอยู่เล็กน้อย

การประมูลต่อมา ซูหมิงไม่ได้เข้าร่วม แต่สังเกตของหายากเหล่านั้นของทุกคน มีหลายชิ้นที่ทำให้เขาหวั่นไหว ทว่าเขาไม่มีของจะแลกแล้ว ในที่นี้ก็มีหลายคนเสนอจะใช้เหรียญหินแลก ทว่าส่วนใหญ่จะเป็นของแลกของมากกว่า

“ข้ามีของมาเสนอไม่เยอะ มีเพียงชิ้นเดียว!” ทุกคนล้วนมีโอกาสหยิบของที่ตนอยากประมูล และกำหนดได้ก่อนเลยว่าต้องการแลกกับอะไร ยามนี้คนกล่าวเป็นคนซึ่งนั่งอีกข้างหนึ่งของซูหมิง

บุคคลนี้รูปร่างขมุกขมัว มองเห็นรายละเอียดไม่ชัด น้ำเสียงไม่แก่ชรา แต่กลับมีความรู้สึกล่องลอยเล็กน้อย คล้ายแฝงไว้ด้วยท่วงทำนองเสียงพอสมควร

ขณะกล่าวเขายกมือขวาขึ้นชี้ไปด้านหน้า ตรงจุดที่เขาชี้มวลอากาศบิดเบี้ยว มีขวดเล็กลอยออกมาจากด้านใน

ขวดเล็กนี้ค่อยๆ โปร่งใส ปากขวดเปิดออกเอง จากนั้นมีกลิ่นหอมสมุนไพรอบอวลอยู่ในห้องลับ เมื่อขวดโปร่งใสขึ้นเรื่อยๆ ทุกสายตาล้วนเพ่งมองและเห็นทุกอย่างชัดเจน พบว่าในขวดมีวัตถุลักษณะกลมขนาดเท่าเล็บมือสี่เม็ด

‘เม็ดโอสถ!’ ซูหมิงไม่คิดเลยว่า ในงานประมูลครั้งนี้จะมีสิ่งที่ทำให้เขาตื่นตะลึงถึงสองอย่าง!

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version