Skip to content

สู่วิถีอสุรา 368

ตอนที่ 368 ทะเลใบไม้ร่วง

ขณะซูหมิงกล่าว มือซ้ายปรากฏผลึกแห่งเชมัน เมื่อเขาออกแรงบีบ ผลึกนั้นพลันเปล่งแสงเด่นชัด ขยับวิบวับเหนือศีรษะซูหมิงแล้วกลายเป็นกิ้งก่ายักษ์ตัวหนึ่ง!

ลักษณะของกิ้งก่าตัวนี้ก็คือสัตว์ศักดิ์สิทธิ์ของเผ่าเชมันกิ้งก่า!

ประโยชน์ของผลึกเชมันนี้มีมากมายนัก ซูหมิงรู้วิธีการใช้หลายแบบจากอูตัว มีอยู่สิ่งหนึ่งคือใช้แสดงสัตว์ศักดิ์สิทธิ์ของเผ่าตนเพื่อเป็นมารยาทเมื่อพบเผ่าเชมันอื่นๆ ในสถานที่แปลกตา

ตอนรู้จักกับอูตัว ซูหมิงไม่ได้สืบประวัติอีกฝ่าย แต่กลับถามเรื่องธรรมเนียมและเอกลักษณ์เกี่ยวกับเผ่าเชมันแทน…

เรื่องนี้อูตัวรู้ทั้งหมด เขาพอจะคาดเดาความคิดซูหมิงออก ทว่าก็มิได้เปิดโปง แต่มองว่าเป็นสหายร่วมเดินทางต่างชนเผ่า

ระหว่างพวกเขาอาจไม่ได้สนิทสนมกันมากนัก แต่หลังจากร่วมสู้กันมาหลายครั้งก็ค่อยๆ รู้กัน จนเกิดเป็นมิตรภาพต่างชนเผ่า

บางทีอาจเปราะบางยิ่งนัก และบางทีอาจจะไม่เปราะบาง

อย่างน้อย ยามนี้ก็ใช้วิธีที่อูตัวบอก กระตุ้นพลังในผลึกเชมัน และร่างภาพสัตว์ศักดิ์สิทธิ์ที่เขาเคยเห็นในตอนนั้นออกมา ทันใดนั้น ภายในชนเผ่าเชมันด้านหลังมีฝุ่นตลบอบอวล มีสัตว์ร้ายยักษ์ที่สร้างขึ้นจากพลังแห่งผลึกเชมันปรากฏกลางอากาศเช่นกัน

มันเป็นปลาชิวตัวใหญ่ยักษ์ที่ซูหมิงเคยเห็นมาก่อน!

เงามายาปลาชิวปรากฏบนท้องฟ้า เทียบกันแล้วกิ้งก่าเล็กจ้อยจนไม่มีค่าพอให้สนใจ…

ทว่าชนเผ่านี้แสดงเงาสัตว์ศักดิ์สิทธิ์ของพวกเขา นั่นหมายความว่าพวกเขายอมรับคำพูดของซูหมิง ยอมรับธรรมเนียมของเผ่าเชมัน ฉะนั้นจึงตอบกลับตามมารยาท

ภาพเหตุการณ์นี้ทำให้ชายชราเผ่าหมานที่กำลังหนีเตลิดเบิกตากว้าง สีหน้าเหลือเชื่อ เขาไม่รู้ประเพณีของเผ่าเชมันนี้ ความจริงแล้วบนแผ่นดินเผ่าหมาน คนที่รู้มารยาทแบบนี้มีไม่เยอะนัก เพราะไม่มีค่าพอให้สนใจจริงๆ ต่อให้แสดงสัตว์ศักดิ์สิทธิ์ แต่หากมิใช่ชาวเผ่าเชมัน เพียงมองแวบเดียวก็รู้แล้ว

จุดที่ชัดเจนที่สุดก็คือความเข้มแข็งในด้านจิตใจ!

ทว่าซูหมิงในยามนี้แผ่ขยายจิตสัมผัสปกคลุมรอบตัว ใช้คู่กับความพิสดารของเม็ดโอสถชิงวิญญาณในมือที่ผู้อื่นมองไม่เห็น ทำให้แม้จะสวมงอบ มองจากภายนอกก็ยังให้ความรู้สึกว่าเป็นผู้ดูดวิญญาณอยู่ดี

แม้ชายชราเผ่าหมานไม่รู้ธรรมเนียมนี้ เขาก็รู้ว่าซูหมิงไม่ใช่เผ่าเชมัน ตอนนี้ยามกลุ่มเผ่าเชมันปรากฏด้านหลัง เขาตื่นตระหนก แต่กลับกล่าวขึ้นอย่างดุร้าย

“น่าสนใจ เทพแท้จริงหมานวายุแห่งเผ่าหมาน ผู้สืบทอดแห่งเทพหมานรุ่นหนึ่ง เจ้าเป็นเผ่าเชมันตั้งแต่เมื่อไรกัน ข้าไม่ยักรู้”

แทบจะเป็นตอนที่ชายชรากล่าว ซูหมิงแค่นเสียงหึ ไม่กล่าวอธิบายอะไร แต่คลายมือขวาให้โอสถชิงวิญญาณในฝ่ามือลอยอยู่เหนือศีรษะ เปล่งแสงอ่อนเด่นชัด ราวกับดูดกลืนได้ทุกสรรพสิ่ง

ซูหมิงจำได้แม่นว่า ก่อนเขาสังหารเด็กชายผู้ดูดวิญญาณบนแผ่นดินเผ่าหมาน พออีกฝ่ายเห็นไข่มุกนี้แล้วก็เคยบอกว่านี่คือไข่มุกดูดวิญญาณที่มีเพียงเชมันระดับสูงสุดเท่านั้นถึงจะหลอมขึ้นได้!

ไข่มุกนี้เหมือนจะมีชื่อเสียงอยู่บ้างในเผ่าเชมัน…

อีกทั้งซูหมิงยังจำได้ว่า ในเผ่าเชมันกิ้งก่า ตอนที่เขาใช้เม็ดโอสถชิงวิญญาณ จ้าวเชมันกิ้งก่าเคยบอกว่ามันเป็นของเผ่าเชมัน และประหลาดใจว่าเหตุใดซูหมิงถึงใช้มันได้

“ไข่มุกดูดวิญญาณ!” เป็นอย่างที่ซูหมิงคิด เมื่อเผยไข่มุกนี้ ในชนเผ่าเชมันอพยพด้านหลังพลันมีเสียงประหลาดใจดังแว่วเข้ามา

ชายชราเผ่าหมานตะลึงงัน ยามนี้บนท้องฟ้าด้านหลังซูหมิง มีหญิงชราผู้หนึ่งเดินออกมาจากฝูงปลาชิวหลายพันตัว หญิงชราผู้นี้มีผมสีดอกเลา ผิวหนังเต็มไปด้วยรอยย่น บนใบหน้ามีรอยสักปลาชิว ในมือถือไม้เท้ากระดูกปลา นางเดินหนึ่งก้าวมาปรากฏตัวอยู่ตรงหน้าซูหมิง ห่างจากด้านหลังชายชราหลายพันจั้ง

นี่คือเชมันระดับปลาย!

ซูหมิงหรี่ม่านตา เขาสวมงอบ ช่วงที่หญิงชราเดินผ่าน เขารู้สึกถึงพลังคล้ายกับจิตสัมผัสจากตัวนางวูบผ่านตัวเขา

ขณะเดียวกับที่หญิงชราปรากฏตัว บนแผ่นดิน เหนือศีรษะของเต่าตัวหนึ่งตรงกลางเต่าพิลึกเก้าตัว มีชายผู้หนึ่งนั่งขัดสมาธิอยู่ เส้นผมเขาพาดไว้บนไหล่ยาวประมาณหนึ่งจั้งกว่า

ชายคนนี้อายุราวสี่สิบปี ทว่าบนผิวหนังกลับเต็มไปด้วยจุดด่างของคนชรา เดิมทีเขาหลับตาอยู่ แต่ยามนี้ค่อยๆ ลืมตาขึ้น นัยน์ตาฉายแววตื่นตะลึง

เพียงสายตาก็ทำให้ซูหมิงสั่นไปทั้งตัว และทำให้ชายชราที่กำลังห้อเหยียดอยู่ด้านหน้าหยุดชะงักเหมือนวิญญาณออกจากร่าง ประดุจถูกมัดเอาไว้!

“ผู้ดูดวิญญาณ…เชมัน…เชมันระดับสูงสุด!” ชายชราเผ่าหมานมีสีหน้าย่ำแย่ยิ่งนัก เขาเคลื่อนไหวไม่ได้ มีความรู้สึกเหมือนถูกดูดวิญญาณ ไม่เพียงเท่านี้ ร่างกายเขายังเสียการควบคุม ค่อยๆ หมุนตัวกลับแล้วตรงมายังหญิงชราปานหุ่นเชิด

นัยน์ตาเขาฉายแววตื่นกลัว

“ถอดงอบของเจ้าออก” ช่วงที่ชายชราเผ่าหมานไม่มีแรงต่อต้านและถูกควบคุมตัว ชายที่นั่งอยู่บนศีรษะเต่าพิลึกบนพื้นดินมองซูหมิง แววตาเขาลึกล้ำ กล่าวเสียงเป็นจังหวะพิลึก

ซูหมิงพลันรู้สึกว่ามีจิตใจอันแกร่งกล้าส่งมาจากสายตาชายคนนั้น พริบตาเดียวก็ปะทะกับจิตสัมผัสเขาจนกลายเป็นแรงกระแทก ทำให้ซูหมิงโซเซ ทว่าชายผู้นั้นกลับดึงจิตใจอันแกร่งกล้ากลับไป ไม่ทำร้ายซูหมิง

ในใจซูหมิงหวั่นไหว ค่อยๆ ถอดงอบออก เผยให้เห็นใบหน้าสวมหน้ากากสีดำใต้งอบ!

หน้ากากนี้เป็นของบรรพบุรุษเขาหาน!

แม้สวมหน้ากากไว้ ทว่าดวงตาซูหมิงกลับลุ่มลึกเช่นกัน บวกกับเอกลักษณ์เฉพาะหลังจากเซ่นไหว้กระดูก ถึงไม่เผยใบหน้าจริง ทว่ามันก็ยังอยู่ในตัวเขาอย่างชัดเจน

ดวงตาหยั่งลึก โอสถชิงวิญญาณลอยอยู่ จิตสัมผัสโคจรรอบตัวเขา ทำให้ซูหมิงในยามนี้ ดูเหมือนผู้ดูดวิญญาณเชมันระดับกลางจริงๆ!

มองแวบแรก เขามีเอกลักษณ์เฉพาะคล้ายกับชายบนศีรษะเต่าหลายส่วน

นี่คือความคล้ายของผู้ดูดวิญญาณ!

ต่อให้ยามนี้ชายชราเผ่าหมานถูกควบคุมร่างกาย แต่หลังจากเห็นซูหมิงในตอนนี้แล้ว แม้ในใจยังถูกความกลัวครอบงำ ก็ยังรู้สึกว่าคล้ายเช่นกัน…

‘หรือว่า…เขาจะเป็นผู้ดูดวิญญาณเผ่าเชมันจริงๆ…’

“น่าสนใจ ในตัวเจ้าข้ารู้สึกถึงหมาน เชมัน และเซียน…” ชายผมยาวหนึ่งจั้งกว่า มีใบหน้าหล่อเหลายิ่งนัก แม้มีจุดด่างดำของผู้ชราก็มิได้ทำลายความหล่อเหลานั้นเลย แต่กลับดูมีเสน่ห์ไปอีกแบบ

“เจ้าเป็นคนแรกที่ข้ามองแวบแรกไม่ออกว่ามีสายเลือดเผ่าใด เหมือนผู้ดูดวิญญาณมาก กระทั่งหากเป็นเชมันคนอื่นคงคิดว่าเจ้าเป็นผู้ดูดวิญญาณ…ทว่าเจ้า…ไม่ใช่ผู้ดูดวิญญาณ! ถอดหน้ากากออก” ชายคนนั้นส่ายศีรษะกล่าวเรียบๆ

ซูหมิงใจเต้นโครมคราม ขณะเดียวกับที่ได้ยินอีกฝ่ายกล่าว นัยน์ตาเขาขยับประกาย เขาทำเรื่องหาญกล้าอย่างยิ่ง ในตัวเขามีระฆังเขาหานอยู่ ในระฆังเขาหานก็มีหนอนงูพิลึกตัวนั้น

หนอนงูตัวนี้ ซูหมิงเคยปล่อยมันในสนามรบก่อนหน้า ทั้งยังทะลวงฝ่ามือของชายชราเผ่าหมาน หนอนงูตัวนี้ ซูหมิงจำได้แม่นว่าหลังจากมันกินสองลูกตาของเด็กชายผู้ดูดวิญญาณแล้วก็กลายเป็นจู๋จิ่วอินมายา! ตอนมันกินลงไป ซูหมิงรู้สึกได้อย่างชัดเจนถึงความตื่นเต้นและเฝ้ารอคอยของหนอนงู

ซูหมิงไม่ได้ถอดหน้ากาก แต่เพ่งสมาธิทั้งหมดไปในเศษหินสีดำตรงคอ นั่นคืออุบายสุดท้ายของเขา เข้าไปในมิติลับเพื่อหลบหนี

เพียงแต่เรื่องนี้มีผลเสียเช่นกัน มันเป็นความลับสุดยอดของซูหมิง หากไม่จำเป็นจริงๆ เขาจะไม่ใช้เด็ดขาด

ขณะเดียวกัน ช่วงที่เตรียมจะเปิดมิติในเศษหินนั้น ซูหมิงเปิดระฆังเขาหานในตัวขึ้นเล็กน้อย ปลดปล่อยกลิ่นอายพลังของหนอนงูพิลึกออกมา!

กลิ่นอายพลังนี้อบอวลอยู่รอบตัวซูหมิงในชั่วพริบตา เพียงแต่ว่าเบาบางยิ่งนัก คนที่สัมผัสถึงจึงมีไม่มาก มีเพียงสัญชาตญาณของสัตว์ร้ายและผู้มีสัมผัสพิเศษเท่านั้นถึงจะรู้สึก

แทบจะทันทีที่กลิ่นอายพลังแผ่มาจากตัวซูหมิง ปลาชิวทั้งหมดบนท้องฟ้าร้องเสียงแหลม พากันถอยไปด้วยสีหน้าตื่นกลัว ราวกับกำลังหวาดกลัวอะไรบางอย่าง

มิใช่เพียงแค่พวกมัน สัตว์ร้ายบนพื้นดินก็เช่นเดียวกัน กระทั่งเต่ายักษ์ขนาดหมื่นจั้งทั้งเก้ายังตัวสั่น แปดตัวในนั้นร้องคำราม พวกมันมิได้คุมเชิง แต่เหมือนตื่นกลัว

ส่วนเต่าตัวที่ชายผมยาวนั่งอยู่กลับเงียบ ทว่าตัวสั่นไม่หยุด ชายผมยาวตะลึงงันอยู่ชั่วครู่ พลันเบิกตากว้าง นัยน์ตาขยับแสงอ่อนจ้องซูหมิงเขม็ง สีหน้าเริ่มเปลี่ยนไป

“จู๋จิ่วอิน!”

“ข้าคือผู้ดูดวิญญาณเชมันระดับกลาง มาจากเผ่าเชมันกิ้งก่า ตอนเกิดข้ามีกลิ่นอายพลังของจู๋จิ่วอิน ผู้อาวุโสเป็นผู้ดูดวิญญาณ เช่นนั้นก็ลองพิจารณาดูว่าเป็นจริงหรือเท็จ!

เหตุที่ข้าไม่ถอดหน้ากาก เพราะข้ามีเหตุผลส่วนตัว ผู้อาวุโสอย่าทำให้ข้าลำบากใจเลย” ซูหมิงกล่าวเรียบๆ ใช้กลิ่นอายพลังของหนอนงูกับคำพูดของเขาถ่วงเวลาเปิดมิติในเศษหินจนสำเร็จ ตอนนี้เขาเข้าไปได้ตลอดเวลาแล้ว

เสียงเกรียวกราวดังขึ้นระงม หลังจากเสียงคำรามของสัตว์ร้าย ชาวเผ่าเชมันบนตัวพวกมันล้วนมองซูหมิงด้วยแววตาที่ต่างออกไป ซูหมิงในสายตาพวกเขา นอกจากหน้ากากแล้ว ทั้งตัวรวมถึงดวงตาเหมือนกับเชมันดูดวิญญาณผู้น่าสะพรึงอย่างที่พวกเขาเคยเห็นทุกประการ

กระทั่งในกลุ่มคนด้านล่างยังมีผู้ฝึกฝนดูดวิญญาณบางส่วน พวกเขาก็รู้สึกเช่นกัน

“มาจากเผ่าเชมันกิ้งก่า ตอนนี้อยู่ในช่วงสงคราม เจ้าไม่ต้องไปที่ใดแล้ว เข้าร่วมกับเผ่าทะเลใบไม้ร่วงของเรา มาเป็นผู้ดูดวิญญาณของเผ่าเราเสีย” ชายผมยาวมองซูหมิงอยู่สักครู่ ก่อนกล่าวเนิบช้า

ซูหมิงขมวดคิ้ว

“ได้ ทว่าคนผู้นี้ต้องยกให้ข้า ข้าอยากหลอมเขาเป็นหุ่นเชิด มอบร่างอมตะให้แก่เขา”

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version